CASE บริจาคของ BAY
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 25, 2009 11:57 pm
การบริจาคหุ้นสามัญ บริษัท ศรีเทพไทยพลาสเคม จำกัด ("ศรีเทพไทย") ของบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงศรีอยุธยา
จำกัด ("AAMC") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคาร ซึ่งธนาคารถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมี
รายละเอียด ดังนี้
-2-
วันที่ทำรายการ : จะเข้าทำรายการภายในเดือนธันวาคม 2552
คู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง : ผู้โอน: บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด
ผู้รับโอน: กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
(มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
สินทรัพย์ที่ทำรายการ : หุ้นสามัญ บริษัท ศรีเทพไทยพลาสเคม จำกัด
ประเภทกิจการ : ธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก
ทุนจดทะเบียนและเรียกชำระ : 83,332 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 83,332 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
ลักษณะการทำรายการ : AAMC โอนบริจาคหุ้นสามัญของบริษัท ศรีเทพไทยพลาสเคม จำกัด
จำนวน 16,592 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 19.91 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้
แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ให้กับกองทุนสํารองเลี้ยงชีพพนักงาน
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
วัตถุประสงค์ : ลดสัดส่วนการลงทุนตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย
สัดส่วนการถือหุ้นก่อนทำรายการ : 19.91%
สัดส่วนการถือหุ้นหลังทำรายการ : 0.00%
ข้อมูลทางการเงินโดยสรุป : (หน่วย : ล้านบาท)
ของบริษัทฯ
ณ 31 ธ.ค. 2551
สินทรัพย์รวม 139.46
หนี้สินรวม 1,947.53
ส่วนของผู้ถือหุ้น (1,808.07)
มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (บาท) (21,697.17)
ม.ค. - ธ.ค. 2551
รายได้รวม 0.43
ค่าใช้จ่ายรวม 345.13
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (344.70)
กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น (บาท) (3,970.34)
ขนาดของรายการ : ไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกันและขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่จะ
ต้องรายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มาและจําหน่ายไป
ซึ่งสินทรัพย์
--------------------------------------------------------------------------------
ที่แปลกคือ AAMC บริจาคให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
CASE นี้แน่แปลกใจคือ บริษัทติดลบมหาศาล เอาออกจาก SVP
โดยบริษัทนี้ถ้าอยู่ในตลาดหลักทรัพย์คือต้องฟื้นฟูกิจการ
คำถามคือ กองทุนตัวนี้ถือนาน รอจนบริษัท
1. จดเลิกกิจการ
2. ฟื้นคืนชีวาจากหลุม (ไม่รู้กี่ปี)
3. เป็นแบบนี้ไปเรื่อย
แบบนี้พนักงานของธนาคาร BAY น่าไปกองทุนสำรองเลี้ยงชีวิตว่า รับโอนมาคุ้มค่าหรือไม่ ที่ต้องนั่งปวดหัวกับสิ่งที่โอนมา แม้มันมีต้องทุนเป็น 0 ก็ตาม
นานเจอ CASE แปลกๆๆ
จำกัด ("AAMC") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคาร ซึ่งธนาคารถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมี
รายละเอียด ดังนี้
-2-
วันที่ทำรายการ : จะเข้าทำรายการภายในเดือนธันวาคม 2552
คู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง : ผู้โอน: บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด
ผู้รับโอน: กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
(มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
สินทรัพย์ที่ทำรายการ : หุ้นสามัญ บริษัท ศรีเทพไทยพลาสเคม จำกัด
ประเภทกิจการ : ธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก
ทุนจดทะเบียนและเรียกชำระ : 83,332 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 83,332 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
ลักษณะการทำรายการ : AAMC โอนบริจาคหุ้นสามัญของบริษัท ศรีเทพไทยพลาสเคม จำกัด
จำนวน 16,592 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 19.91 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้
แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ให้กับกองทุนสํารองเลี้ยงชีพพนักงาน
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
วัตถุประสงค์ : ลดสัดส่วนการลงทุนตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย
สัดส่วนการถือหุ้นก่อนทำรายการ : 19.91%
สัดส่วนการถือหุ้นหลังทำรายการ : 0.00%
ข้อมูลทางการเงินโดยสรุป : (หน่วย : ล้านบาท)
ของบริษัทฯ
ณ 31 ธ.ค. 2551
สินทรัพย์รวม 139.46
หนี้สินรวม 1,947.53
ส่วนของผู้ถือหุ้น (1,808.07)
มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (บาท) (21,697.17)
ม.ค. - ธ.ค. 2551
รายได้รวม 0.43
ค่าใช้จ่ายรวม 345.13
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (344.70)
กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น (บาท) (3,970.34)
ขนาดของรายการ : ไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกันและขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่จะ
ต้องรายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มาและจําหน่ายไป
ซึ่งสินทรัพย์
--------------------------------------------------------------------------------
ที่แปลกคือ AAMC บริจาคให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
CASE นี้แน่แปลกใจคือ บริษัทติดลบมหาศาล เอาออกจาก SVP
โดยบริษัทนี้ถ้าอยู่ในตลาดหลักทรัพย์คือต้องฟื้นฟูกิจการ
คำถามคือ กองทุนตัวนี้ถือนาน รอจนบริษัท
1. จดเลิกกิจการ
2. ฟื้นคืนชีวาจากหลุม (ไม่รู้กี่ปี)
3. เป็นแบบนี้ไปเรื่อย
แบบนี้พนักงานของธนาคาร BAY น่าไปกองทุนสำรองเลี้ยงชีวิตว่า รับโอนมาคุ้มค่าหรือไม่ ที่ต้องนั่งปวดหัวกับสิ่งที่โอนมา แม้มันมีต้องทุนเป็น 0 ก็ตาม
นานเจอ CASE แปลกๆๆ