หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เรื่องราวของนักเดินทาง .....ฝากเนื้อฝากตัวครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 26, 2009 6:56 am
โดย Guyguy55
สวัสดีครับ  พี ๆ น้อง ๆ ทุกคนในไทยวีไอ  ผมคงจะเป็นน้องใหม่ล่าสุดในเว็บอร์ดแห่งนี้  ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ  ผมพยายามนั่งศึกษาแนวทางการลงทุน  จากเว็บบอร์ดแห่งความรู้แห่งนี้อยู่ตลอดกว่า 5 เดือน  การศึกษาของผมเต็มไปด้วยความสับสนครับ ! เหมือนกับที่คุณนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอะไรสักอย่าง  แล้วคุณเกิดความสงสัยแต่หาคำตอบไม่ได้  หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นใครที่พอจะเป็นแสงเทียนนำทางความรู้ส่องให้สมองคุณกระจ่างได้   แม้แต่กระทั่ง  เรื่องของค่า p/e ผมยังสับสนเลยครับ  แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสนใจศึกษา  มาก ๆ ก็คือ ค่า ROE ครับ  ขออธิบายนิดหนึ่งน่ะครับ  พอดีโดยส่วนตัวผม  ทำงานเป็นพ่อครัว อยู่ที่รีสอร์ทเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง  ในเมือง Queensland ประเทศออสเตรเลียครับ  แต่เมืองที่ผมอาศัยอยู่นี่  จะห่างจากตัวเมือง Brisbane ที่เป็นเมืองหลวงประมาณ  สามพันกว่ากิโลครับ  เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ไกลปืนเที่ยงครับ  แต่ในทางกลับกัน  ด้วยความไกลและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและสินในดินนี่แหละครับทำให้ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับนักธุรกิจหลาย ๆ คน  เพราะเมืองที่ผมอยู่แห่งนี้นอกจากจะเป็นท่องเที่ยวแล้ว  มันยังเป็นเหมืองแร่ขนาดมหึมาของบริษัท  RIO TINTO อีกด้วยครับ  ย้อนหลังกลับไปประมาณสักห้าเดือนที่แล้วผมนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์   บังเอิญมีผู้ชายคนหนึ่งเขาเห็นผมนั่งอ่านอย่างเคร่งเครียดก็เลยเข้ามาคุยกับผม  ซึ่งหลังจากได้คุยกันเป็นเวลานานแล้ว  ผมถึงได้ทราบว่า เขาเป็นนักบินส่วนตัวของมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่แทบจะเรียกว่าอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย  ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ และอีกหลาย ๆ บริษัทยักษ์  หรือแม้แต่ CASINO ขนาดใหญ่ที่เพิ่งเปิดตัวไป  ที่มาเก๊าต์หรือ ฮ่องกง นี่แหละครับ  แต่ขออภัยจริง ๆ ด้วยที่จำชื่อไม่ได้
ที่พูดมาทั้งหมดนี่ไม่ใช่จะมาเล่าเรื่องส่วนตัวมากมายนะครับ  แค่อยากมาแนะนำตัวเอง  กับสิ่งที่ชายพูดนั้นบอกให้ผมทำความเข้าใจในเรื่องหุ้นให้ง่าย ๆ อย่างไม่ต้องซีเรียส  โดยที่เขาเริ่มบอกผมว่าก่อนที่คุณจะลงลึกไปเจาะดูข้อมูลหุ้นเป็นรายตัวนั่น   คุณเคยคิดที่จะมองหรือเรียนรู้เรื่องราวของตลาดบ้างหรือเปล่าว่าตลาดนั้นเขามีชีวิตอย่างไรบ้าง  ตลาดก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนหรอก  มันมีทั้งร่าเริง  มีป่วยไข้  มีสดใส  มีเบิกบาน  แต่ทำอย่างไรล่ะ  เราจะรู้ว่าช่วงไหนตลาดป่วยไข้จนต้องนอนเปล  ชายคนนั้นบอกผมว่า  ให้คุณลองศึกษาประวัติศาตร์ของตลาดหุ้นทั่วโลกดูซิ  หรือจะเอาแค่ที่ออสเตรเลีย  หรือตลาดหุ้นไทยบ้านคุณก็ได้  มองดูว่าปีไหนที่มันแย่ที่สุดนั่นแหละคือปีที่ตลาดล้มหมอนนอนเสื่อ  แล้วมันจะค่อย ๆ สร่างไข้  กลับมาเดิน วิ่ง ดื่มได้ อีกครั้ง เพราะมันจะมีวัคซีนดี ๆ มาฉีดคุ้มกันให้  หลักจากนั้นนับไปอีกประมาณ  6 – 8 ปี หลังจากการล้มหมอนนอนเสื่อ  วัคซีนนั้นก็อ่อนกำลังลงทำให้ตลาดเจ็บไข้ได้ป่วยอีกครั้ง  และมันก็จะเป็นเช่นนี้ เป็นเช่น นี้  ต่อไป อย่างไม่จบสิ้น
เขาบอกผมว่า ถ้าคุณอย่างจะมีความมั่งคั่งก็ให้คุณเรียนรู้จักชีวิตของคุณตลาด  และก็พร้อมที่จะเป็นคนฉีดวัคซีนนั้นให้กับตลาดเองวัคซีนตัวนั้น ๆ แหละที่จะมาคอยคุ้มครองคุณ เพราะคุณเป็นคนเริ่มฉีด  คุณก็ย่อมที่จะรู้ว่าวัคซีนตัวนี้นั้นจะหมดอายุลงเมื่อไหร่  เขาย้ำกับผมว่าในช่วงเวลาที่ตลาดยังไม่เจ็บไข้  คุณก็มีเวลาที่จะทดลองวัคซีนของคุณ ไปเรื่อย จนกว่าเวลาแห่งการเจ็บไข้ของคุณตลาดมาถึง   วันนั้นหากปริมาณยาของคุณมากเพียงพอ ( เงินสดในมือ )     ตัวยาอันนั้นแหละที่จะทำให้พร์อตของคุณเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแรง  แต่จงอย่าลืมว่าตัวยานั้นมันมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไหร่  ก่อนที่จะฉีดวัคซีนซ้ำอีกครั้ง    พร้อม ๆ กับบอกผมว่า  ให้ผมเริ่มศึกษาคุณตลาดไทยก่อน   เพราะว่าผมจะรู้จักเขาดีกว่าคุณตลาด คนอื่น ๆ ครับ  เพราะผมเป็นคนไทยสายเลือดเดียวกันกับเขา  เพราะหากผมเรียนรู้คุณตลาดไทยได้  คุณตลาดต่าง ๆ ในโลกก็เป็นคนในแบบคล้าย ๆ กันนั่นแหละครับ  แต่ผมก็ยังถามเขาต่อว่า  แล้วเรื่อง P/E ล่ะ  เขาบอกว่า  เมื่อวันที่ตลาดป่วย ค่า P/E แทบจะไม่มีความหมาย  แต่ความแข็งแกร่งในร่างกายของบริษัทต่างหากล่ะที่จะทำให้บริษัทลุกขึ้นเดินต่อไปได้   ทั้งหมดทั้งปวงนี้แหละครับเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมารู้จักกับทุก ๆ คนที่นี่  ดูอบอุ่นจริงใจดีครับ   คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะเขียนเรื่องนี้มาดีไหม  แต่คิดว่าอ่านของทุกคนมาก็มากแล้วก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ  สิ้นปี้นี้คิดว่าจะกลับไปเที่ยวเมืองไทย  คิดว่าคงจะมีโอกาสได้ไปพบปะพี่ ๆ น้อง ๆ นะครับ  อ้อ  ผมเป็นคนอุดรน่ะครับ  อายุ ก็ สามสิบกับหนึ่งปีครับ  หากได้กลับคงจะไปขอคาราวะ พี่นริส และ พี่ลูกอิสานด้วยนะครับ  อยากคาราวะในความคิดของพี่ ๆ ครับ ( ผมชอบไปเที่ยวเมืองเลยมาก ) รวมทั้งพี่ ครรชิต  และอีกหลาย ๆ คนที่ไม่ได้เอ่ยนาม   ที่เป็นครูพักลำจำความรู้ให้กับผม  ขอบคุณมาก  อย่างจริงใจครับ
ชายผู้นี้คุยกับผมนานมากครับ  เขายังบอกอะไรผมอีกมากมาย  ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ สนใจผมจะมาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวเล่าสู่กันฟังอีกครับ  รวมถึงทฤษฎี  ปลูกพืช ของเขา  ถ้ายาวไปขออภัยด้วยน่ะครับ ....หมาน้อย
:)

เรื่องราวของนักเดินทาง .....ฝากเนื้อฝากตัวครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 26, 2009 8:25 am
โดย jiras
มุมมองน่าสนใจดี อยากให้เขียนมาอีกเรื่อยๆเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง การมองตลาดเป็นรอบใหญ่ๆมองยากกว่าการโฟกัสไปที่กิจการของหุ้นแต่ละตัวนะ เป็นมุมมองส่วนตัวของผม แต่ปีที่แล้วช่วงซัพไพรม์เป็นเหตุการณ์พิเศษที่ผมต้องถือเงินสดมากกว่าหุ้นเป็นบางช่วง ซึ่งก็ช่วยทำให้ผลตอบแทนปีที่แล้วเป็นบวกได้

เรื่องราวของนักเดินทาง .....ฝากเนื้อฝากตัวครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 26, 2009 8:32 am
โดย picklife
ดีครับดี...ไม่ยาวไปหรอกครับเล่าๆมาเหอะครับ แชร์ประสบการณ์กันครับ อิอิ

เรื่องราวของนักเดินทาง .....ฝากเนื้อฝากตัวครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 26, 2009 9:46 am
โดย SunShine@Night
jiras เขียน:มุมมองน่าสนใจดี อยากให้เขียนมาอีกเรื่อยๆเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง การมองตลาดเป็นรอบใหญ่ๆมองยากกว่าการโฟกัสไปที่กิจการของหุ้นแต่ละตัวนะ เป็นมุมมองส่วนตัวของผม แต่ปีที่แล้วช่วงซัพไพรม์เป็นเหตุการณ์พิเศษที่ผมต้องถือเงินสดมากกว่าหุ้นเป็นบางช่วง ซึ่งก็ช่วยทำให้ผลตอบแทนปีที่แล้วเป็นบวกได้
น่าสนใจจังเลยครับ แชร์หน่อยซิครับ :)

เรื่องราวของนักเดินทาง .....ฝากเนื้อฝากตัวครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 26, 2009 10:27 am
โดย bnakorn
อยากฟัง ทฤษฎีปลูกพืชครับ  รบกวนช่วยแชร์ด้วยนะครับ

Re: เรื่องราวของนักเดินทาง .....ฝากเนื้อฝากตัวครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 26, 2009 11:27 am
โดย moonchild
[quote="Guyguy55"]แต่ความแข็งแกร่งในร่างกายของบริษัทต่างหากล่ะที่จะทำให้บริษัทลุกขึ้นเดินต่อไปได้

คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะเขียนเรื่องนี้มาดีไหม

ทฤษฎี

เรื่องราวของนักเดินทาง .....ฝากเนื้อฝากตัวครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 26, 2009 8:34 pm
โดย Undertaker
เข้ามารอฟัง ทฤษฎีปลูกพืช ด้วยคนครับ