Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมเป็นมือใหม่ VI ครับ

คือไปดูงบของ CNS มาน่ะครับ
พบว่านี้มี (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด + เงินลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (สุทธิ)+ ลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สุทธิ) - รวมหนี้สิน) / จำนวนหุ้นทั้งหมด = (1,376,843,400 + 1,035,946,469 + 2,145,404,936 - 1,275,110,755) / 71,682,300
= 3,283,084,050 / 71,682,300     = 45.80  บาท/หุ้น

โดยที่ผมไม่ได้นับสินทรัพย์อื่นที่มีความเสี่ยงว่าจะขายไม่ได้ เช่น Fixed Asset ก็ยังพบว่าสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องหักหนี้สินทั้งหมดก็ยังแพงกว่าราคาขายในปัจจุบันค่อนข้างมาก ปัจจุบันขายที่ราคา 22.8 บาทต่อหุ้น (discount 50%)

นอกจากนี้บริษัทก็มีกำไรติดต่อกันมามากกว่า 8 ปี (กำไรทุกปี เฉลี่ยแล้วประมาณ 2 บาท และไม่มีปีไหนที่กำไรตำกว่าบาทเลย) ดังนั้นไม่น่าที่จะเป็นบริษัทที่ทำลาย value ของตัวเอง

ผมดูแล้วน่าจะเป็นหุ้น net-net ได้เลย แต่กลับไม่ค่อยมีคนสนใจ เพราะมีข่าวร้ายเกี่ยวกับการเปิดเสริค่าคอม

อยากให้เพื่อนๆมา share ว่าผมยังมองอะไรพลาดเกี่ยวกับตันนี้อยู่บ้าง
คือเป็นมือใหม่น่ะครับ เริ่มซื้อไปบ้างแล้ว แต่ไม่กล้าลงทุนเพิ่ม ทั้งๆที่ในใจก็คิดว่าราคายังถูกอยู่ น่าจะมี upside อีกมาก

ตอนนี้ลงแค่ 10% ของ port พี่ๆคิดว่าผมควรทำอย่างไรดีครับ
เคยเล่น SCAN ที่เป็น net-net ตามพี่ลูกอีสาน แล้วติดใจ
พี่โจถ้าว่าก็ช่วยมา comment ด้วยนะครับ

ผมก้อไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่งะนะครับ
ในความรู้สึกผม
เห็นว่ามันเจ๋งอยู่ตั้งกะตอนกลางปีแล้วครับ
แต่ที่ผมไม่สนใจพวกบล.ต่างๆนี่งะ
คือถ้าตลาดซบเซา...
ผมว่ามันจะมีผลกระทบต่อกลุ่มนี้ค่อนข้างมหาศาล
ดูอย่างปีที่แล้วกระไร
กลุ่มอื่น ราคาหุ้นตก แต่ผลประกอบการไม่เปลี่ยน
หรือเปลี่ยนก็แค่เพียงเล็กน้อย กลายเป็นของชอบของเราชาวVI
แต่กลุ่มบล.
จบข่าวววว
 :8)

ส่วนตัวไม่เคยตามกลุ่มนี้เลยครับ ขอตัวไปดูเพิ่มก่อน

ยินดีต้อนรับสู่เว็บ ThaiVI ครับ

ที่ผ่าน ๆ มา เจอ "ฮัมบูร์ก" ของคุณหรือยังครับ ฮ่าๆ

ปล.ชอบอ่านเหมือนกันครับ  :welcome:

ติดอยู่บนดอย อะ 30 บาท ดูเหมือนว่า อนาคตของการซื้อขายหลักทรัพย์จะไม่ดีเนื่องจากการเปิดเสร๊ broker ครับ อนาคตเดายาก VI ไม่ชอบ

CNS อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์
กลุ่มนี้มาตอนที่ตลาดมียอดการซื้อขายมากๆๆ
หรือ จากที่ซื้อขายต่ำๆหลักพันล้านแล้ว ขยายตัวเป็นหมื่นล้าน
แบบนี้คือฟื้นตัว
แต่หากเป็นหลัก หมื่นล้านแล้วลดลงเหลือพันล้านแบบนี้ไม่ดี

สิ่งที่กดดันกลุ่มนี้คือ การเปิดเสรีเรื่องของค่าคอม
ไม่รู้ว่า CNS เลือกลูกค้ากลุ่มใด
คือ สถาบัน รายย่อย internet เงินสด
ตอนนี้คือ การเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญของกลุ่มหลลักทรัพย์
ที่ต้องเลือกแล้วว่า คุณสนใจลูกค้ากลุ่มไหน

ต่อมาด้วย เมื่อทุกอย่างพร้อมอาจจะเห็นการตัดแบบ T+2 เพราะปีนี้
มีระบบ เช็คออนไลน์ให้ใช้งานกัน แบบว่า ขึ้นเช็ค แล้วตัดกันเห็นๆเลย ไม่้ต้องรอแล้ว
อันนี้ธปท ทดสอบระบบ อยู่ร่วมกับธนาคารทุกแห่งอยู่

SoLid_frOg Posted: Sat Jan 02, 2010 1:03 pm    Post subject:  

--------------------------------------------------------------------------------

ส่วนตัวไม่เคยตามกลุ่มนี้เลยครับ ขอตัวไปดูเพิ่มก่อน

ยินดีต้อนรับสู่เว็บ ThaiVI ครับ

ที่ผ่าน ๆ มา เจอ "ฮัมบูร์ก" ของคุณหรือยังครับ ฮ่าๆ

ปล.ชอบอ่านเหมือนกันครับ  



555 แสดงว่าคุณ SoLid_frOg อ่านจบแล้วเหมือนกัน

เป็นหนังสือที่ดีมากครับ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงถึงจะมีความรู้และประสบการณ์เรื่องหุ้นให้ได้ 10,000 ชม.

ถ้าวันละ 3 ชมใ กว่าจะครบก็เกือบ 10 ปี เฮ้อ....นานจัง

สงสัยว่าเซียนหลายๆคนนี่จะครบ 10,000 ชม. กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว

ส่วนเรื่องเปิดเสรีก็คิดไว้ว่าน่าจะเป็นจุดลบของหุ้นตัวนี้

แต่ตัวนี้ผมแค่รอเวลาที่คนจะเห็นคุณค่าของมันจาก Asset ที่มีอยู่
และเชื่อในบริษัทญี่ปุ่นว่าต้องผ่านเวลาที่เลวร้ายไปได้

ประกอบกับรอวันที่ตลาดดีและมีคนหันมาเอาหุ้นเข้าตลาดเยอะๆ เวลานั้นแหละที่หุ้นตัวนี้จะเปล่งประกาย แต่แค่ผมไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อไหร่นี่น่ะสิ

หรือน่าจะมีการซื้อหุ้นคืนนะ มีเงินออกจะเยอะแยะ ถ้าผมมีเงินเยอะๆ ผมคงซื้อหุ้นแล้ว delist ออกจากตลาดไปแล้ว แต่คงเป็นไปได้ยากเพราะมีญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

แต่บอกตรงๆว่าถือตัวนี้แล้วค่อนข้างสบายใจจากเงินสดที่เยอะเนี่ยแหละ
ถึงผลประกอบการจะแย่ก็น่าจะมี Asset และปันผลมายันราคาหุ้นไว้

ไม่ได้เชียร์หุ้นนะครับ เพราะขนาดตัวเองยังไม่กล้าลงทุนเยอะเลย

โดยส่วนตัว ผมจัดหุ้นพวกสถาบันการเงิน ไว้ในตะกร้า" Too Hard" ครับ เพราะแกะงบการเงินไม่ค่อยออก พอจะเห็นได้แต่เชิงเปรียบเทียบ

ลองซื้อเข้าไป 2-3 ครั้ง ผลออกมาไม่ตรงกับที่คิด ก้อเลยเข็ด

หุ้นตัวนี้เหมือน "ลูกเศรษฐีเจ้าสำอางค์" ครับ
มีเงินเก็บเยอะก็จริงแต่ไม่ชอบทำงาน
ลอยไปลอยมา ป้อไปป้อมา เช้าชามเย็นชาม
เงินที่มีก็ฝังตุ่มอย่างเดียว
ถ้าผมมีลูกสาว  ผมไม่ให้แต่งกับลูกชายเศรษฐีคนนี้แน่

roa roe ต่ำติดดิน
ดูย้อนหลังไปห้าปี
ไม่เคยมีปีไหนได้เกิน 5%เลย

ทราบมาว่าผู้บริหารชาวญี่ปุ่นอนุรักษณ์สุดๆ
ผู้บริหารที่เป็นคนไทยเป็นเหมือนไม้ประดับ  ไม่กล้าหือกล้าอือ

ผมว่าทำงานแบบนี้  เกิดผลเสียกับผู้ถือหุ้นนะ
แต่ไม่เกิดกับผู้บริหาร  
เพราะทำงานสบาย  เงินสดเยอะแยะ
เงินเดือนขึ้นทุกปี

กฏระเบียบหยุมหยิม  
อย่าว่าแต่ลูกค้าเลยที่ปวดหัว
มาร์เก็ตติ้งก็สวด(ลับหลัง)กันยับกับนโยบายแบบนี้
ตอนนี้มาร์เก็ตติ้งกว่าสี่สิบชีวิต
สละเรือไปอยู่ค่ายอื่นแล้ว

ที่ผมรู้เรื่องนี้
เพราะผมก็เคยเป็นหนึ่งในลูกค้านั่นแหละ  :lol:
เจ็บจริงๆ  :twisted:

อย่างไรก็ตามถ้าเอาอคติออกไป
หุ้นตัวนี้แม้จะต้องเผชิญหน้ากับการเปิดเสรีในอนาคต  
ก็จะน่าสนใจ(ที่ราคานี้นะ) ถ้า....

1. มีบริษัทอื่นมาเทคโอเวอร์  แต่โนมูระที่ญี่ปุ่นไม่ธรรมดานะครับ  เบอร์หนึ่งของที่นั่นเลย  การเทคจึงไม่ใช่เรื่องหมูๆ

หรือปรับเปลี่ยนผู้บริหารบางคนเสียใหม่  คนที่เก่งและดีก็มีอยู่แม้จะย้ายออกไปเยอะ

ดูแลลูกค้าและมาร์เก็ตติ้งให้ดีขึ้นเท่าๆกับเจ้าอื่นๆ

เพราะในแง่การเป็นโบรคเกอร์  การย้ายออกของมาร์เก็ตติ้งที่จำนวนสูงๆ  มีผลกระทบรุนแรงนะครับ เพราะดึงเอาลูกค้าไม่ใช่น้อยๆไปด้วย

2. ควบรวมกิจการ กับบริษัทอื่น

แค่ข้อใดข้อหนึ่ง  ผมก็พร้อมจะส่งลูกชายไปตกถังข้าวสาร  เอ้ย....แต่งกับลูกสาวเศรษฐีคนนี้อยู่ครับ  :lol:

ผมเห็นด้วยกับพี่สามัญชนหลายข้อเลยครับ
โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการบริการและบริหาร

แต่ที่ ROE และ ROA ต่ำก็เพราะว่ามีเงินสดเยอะเนี่ยแหละ ไม่ยอมปันผลออกมาใช้บ้างเลย

แต่ที่ดูๆก็เพราะ asset ที่เยอะมาก ประกอบกับมี assumption 2 ข้อคือถ้าเปิดเสรีการเงินน่าจะส่งผลกระทบโดยรวมกับธุรกิจหลักทรัพย์ คือต้องมีการควบรวมกันมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่หวังว่าจะเกิดคือ

1 CNS โดนคนอื่นยื่นข้อเสนอ take over ที่ book value ซึ่งคาดว่าน่าจะยากมาก เพราะที่ญี่ปุ่นไม่น่ายอม

2 คือ CNS เอาเงินสดที่มีอยู่มากไป take finance บริษัทเล็กๆ อันนี้น่าจะเกิดขึ้นได้มากกว่า เพราะมีเงินตั้งเยอะควรนำไปขยายงานกับโอกาสที่เปิดกว้าง ซึ่งถ้าเป็นจริง ก็เป็นเหมือนการนำ asset ไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นนั่นเอง ไม่ใช่เอาไปฝังตุ่มอย่างเดียว

แต่สิ่งที่กลัวก็คือการที่ไม่ทำอะไรเลย แล้วยอมเป็นโบรกเล็กๆอยู่เหมือนเดิม
หรือที่น่ากลัวที่สุดคือนำเงินสดที่มีอยู่ไปเล่นหุ้นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกลัวที่สุดเพราะเราจะคาดเดาผลประกอบการไม่ได้เลย ยอมให้เอาไปปล่อย margin ให้ลูกค้าน่าจะดีกว่า เพราะบริษัทค่อนข้างจะ conservative ไม่น่าจะเกิดหนี้สูญเยอะได้

ผมว่า เคสนี้ต่างจาก SCAN ตรงที่ Catalyst ของ SCAN มันชัด...

ทั้งตอนที่มีการจ่ายปันผลพิเศษจากการ buy-back ABS และตอนที่มีการทำ Tender Offer ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้หุ้นมันปรับตัวขึ้นมา

แต่ CNS นี่... ผมยังมองไม่ออกเหมือนกับว่าเปิดเสรีแล้วมันจะมี Catalyst มากเพียงพอที่จะทำลายกำแพงวัฒนธรรมองค์กรของ CNS ได้

แต่อาจจะมองในแง่การเปิดเสรีน่าจะทำให้การแข่งขันทางด้านราคาสูงขึ้น และทำให้กำไรของอุตสาหกรรมโดยรวมลดลง จนทำให้โบรกเกอร์บางรายขาดทุน จนต้องเลิกกิจการและมีการ Liquidate เงินคืนผู้ถือหุ้นก็พอจะเป็นไปได้มั้งครับ

ผมได้ยินถึงคนถามเกี่ยวกับ cns นี่มา ไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้งในช่วง 4-5 เดือนนี้

คงเพราะตลาดคนรู้สึกแพง เลยพยายามหาหุ้นถูกๆ แต่ผมก็ยังเชื่อว่ามันก็ยังจะถูกอย่างนี้ต่อไป เหตุผลก็คล้ายๆพี่หมออ่ะครับ

พวกคนญี่ปุ่นนี่ conser มากๆครับ ชอบเก็บเงินสดไม่ยอมทำอะไร ดูอย่าง KYE ซิครับ เรื่องอยู่ดีๆจะให้มีปันผลพิเศษนั้นผมว่ายากมากๆ

leksmile เขียน:ผมได้ยินถึงคนถามเกี่ยวกับ cns นี่มา ไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้งในช่วง 4-5 เดือนนี้

คงเพราะตลาดคนรู้สึกแพง เลยพยายามหาหุ้นถูกๆ แต่ผมก็ยังเชื่อว่ามันก็ยังจะถูกอย่างนี้ต่อไป เหตุผลก็คล้ายๆพี่หมออ่ะครับ

พวกคนญี่ปุ่นนี่ conser มากๆครับ ชอบเก็บเงินสดไม่ยอมทำอะไร ดูอย่าง KYE ซิครับ เรื่องอยู่ดีๆจะให้มีปันผลพิเศษนั้นผมว่ายากมากๆ

พี่เล็กมองไปที่กันยงคล้ายผมเลยครับ คงต้องรออะไรมาปลดล็อกอย่างที่พี่หมอสามัญชนว่า...  :?

งี้กลุ่มบล.ทั้งหลายทั้งปวงก็น่าจะเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเสรีสินะครับ
โบรกเล็กๆเตรียมตัวหนีคลื่นยักษ์ได้เลย