Business Model
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 09, 2010 11:47 am
สวัสดีครับ พอดีผมเห็นว่าเรื่อง business model เป็นเรื่องที่มีความสำคัญกับการลงทุนเป็นอย่างมากแล้วผมคิดว่าการที่คนๆนึงจะเข้าใจ business model ของหลายๆธุรกิจด้วยตัวคนเดียวนั้นเป้นเรื่องยาก ผมเลยขอใช้กระทู้นี่เป็นกระทู้ที่ท่านผู้รู้ มาอธิบาย business model ในธุรกิจที่ท่านชำนาญนะครับ
ผมขอเริ่มก่อนเลยละกันนะครับ ผมขอพูดถึงธุรกิจประกันละกันครับเนื่องจากตอนนี้ผมศึกษาอยู่ แต่ต้องออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่เซียน
ธุรกิจประกันนั้นมีโมเดลง่ายๆคือ ส่วนที่หนึ่งบริษัทประกันทำการคำนวนความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วนำความเสี่ยงนั้นมาคิดเป็นค่าเบี้ยประกันที่ลูกค้าต้องจ่าย จากนั้นก็ออกสินค้าตามกลุ่มเป้าหมาย เช่นประกันผู้สูงอายุ ประกัน 4 โรคร้ายแรง โดยข้อมูลที่นำมาใช้ในการคำนวนจะเป็นข้อมูลในอดีต (ดังนั้นถ้าปีไหนอุตสาหกรรมขาดทุน ปีถัดไปค่าเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก) ส่วนที่สอง เนื่องจากบริษัทจะเก็บเบี้ยประกันล่วงหน้าแล้วจึงจ่ายค่าเสียหายเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น ดังนั้นช่วงเวลาระหว่างนั้นบริษัทสามารถนำเงินดังกล่าวไปลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนได้ โดยรูปแบบรายได้ของบริษัทประกันเป็นดังนี้
กำไร = เบี้ยประกัน + รายได้จากการลงทุน - รายจ่ายที่เกิดจากการเคลมประกัน - รายจ่ายดำเนินการ
ดังนั้นจะเห็นว่า กำไรของบริษัทจะสูงนั้นมาจาก
1) เบี้ยประกัน - รายจ่ายที่เกิดจากการเคลมประกัน สูง หรือ บริษัทมีความสามารถที่จะประเมินความเสี่ยงได้ดี หรืออาจจะหมายถึงบริษัทเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ดี
2 ) รายได้จากการลงทุน สูง คือบริษัทสามารถที่จะนำเบี้ยประกันที่ได้ไปลงทุน แล้วได้ผลตอบแทนที่สูง (ยกตัวอย่างบริษัท berkshire ของ warren)
3) รายจ่ายดำเนินการต่ำ หมายถึงความสามารถในการบริหารค่าใช้จ่ายของบริษัท
ดังนั้น competitive advantage ของบริษัทประกันก็จะเกิดขึ้นจากบริษัทนั้นๆสามารถทำ อย่างน้อย 1 ใน 3 ข้อข้างต้นได้ดีกว่าคู่แข่งเป้นเวลานานนั่นเอง
ผมขอเริ่มก่อนเลยละกันนะครับ ผมขอพูดถึงธุรกิจประกันละกันครับเนื่องจากตอนนี้ผมศึกษาอยู่ แต่ต้องออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่เซียน
ธุรกิจประกันนั้นมีโมเดลง่ายๆคือ ส่วนที่หนึ่งบริษัทประกันทำการคำนวนความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วนำความเสี่ยงนั้นมาคิดเป็นค่าเบี้ยประกันที่ลูกค้าต้องจ่าย จากนั้นก็ออกสินค้าตามกลุ่มเป้าหมาย เช่นประกันผู้สูงอายุ ประกัน 4 โรคร้ายแรง โดยข้อมูลที่นำมาใช้ในการคำนวนจะเป็นข้อมูลในอดีต (ดังนั้นถ้าปีไหนอุตสาหกรรมขาดทุน ปีถัดไปค่าเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก) ส่วนที่สอง เนื่องจากบริษัทจะเก็บเบี้ยประกันล่วงหน้าแล้วจึงจ่ายค่าเสียหายเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น ดังนั้นช่วงเวลาระหว่างนั้นบริษัทสามารถนำเงินดังกล่าวไปลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนได้ โดยรูปแบบรายได้ของบริษัทประกันเป็นดังนี้
กำไร = เบี้ยประกัน + รายได้จากการลงทุน - รายจ่ายที่เกิดจากการเคลมประกัน - รายจ่ายดำเนินการ
ดังนั้นจะเห็นว่า กำไรของบริษัทจะสูงนั้นมาจาก
1) เบี้ยประกัน - รายจ่ายที่เกิดจากการเคลมประกัน สูง หรือ บริษัทมีความสามารถที่จะประเมินความเสี่ยงได้ดี หรืออาจจะหมายถึงบริษัทเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ดี
2 ) รายได้จากการลงทุน สูง คือบริษัทสามารถที่จะนำเบี้ยประกันที่ได้ไปลงทุน แล้วได้ผลตอบแทนที่สูง (ยกตัวอย่างบริษัท berkshire ของ warren)
3) รายจ่ายดำเนินการต่ำ หมายถึงความสามารถในการบริหารค่าใช้จ่ายของบริษัท
ดังนั้น competitive advantage ของบริษัทประกันก็จะเกิดขึ้นจากบริษัทนั้นๆสามารถทำ อย่างน้อย 1 ใน 3 ข้อข้างต้นได้ดีกว่าคู่แข่งเป้นเวลานานนั่นเอง
