หน้า 1 จากทั้งหมด 2

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 10, 2010 6:59 pm
โดย อะไรดีละ
กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

มันเป็นไปได้อย่างไรกันกับเรื่องของ ยิ่งออมยิ่งจน  พวกเราจะรู้จักเรื่องราวแบบ ยิ่งออมยิ่งรวย  กันเป็นส่วนใหญ่  แต่ถ้าอ่านสิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้  ท่านอาจต้องน้ำตาซึมเหมือนผม  ซึ่งเป็นความเห็นใจต่อชะตากรรมของผู้ประกันตนที่ต้องติดกับดักของประกันสังคม ยิ่งออมยิ่งจน   ผมขอเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายรีบเร่งแก้ไขเรื่องนี้โดยด่วนก่อนที่จะคนทำงานในระบบจะล้มละลายกันครึ่งประเทศ
ประกันสังคม จะคุ้มครองผู้ประกันตน 7 กรณี  แต่หลักๆ แล้ว พวกเราจะรู้จักกันในกรณีของการประกันสุขภาพ และ อุบัติเหตุ  อย่างไรก็ดี  สำหรับบทความตอนนี้  ผมมุ่งประเด็นไปยัง กรณีชราภาพ ซึ่งมีเงินกองทุนสะสมถึงราว 5 แสนล้านบาทเพื่อให้ผู้ประกันตนได้ใช้เงินยามเกษียณ
ยกตัวอย่าง   นายพอเพียง  ทำงานเป็น รปภ.อายุ 40 ปี  เริ่มเข้าระบบประกันสังคม  อัตราเงินเดือนที่ 7 พันบาท  โดยได้รับเงินเดือนเพิ่มเดือนละ 500 บาทเป็นประจำทุกปีเมื่อผ่านไป 15 ปีเงินเดือนอยู่ที่ 1.4 หมื่นบาท   เขาได้โบนัส 2 เดือนทุกปีเช่นกัน  นำไปออมในประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (ผลตอบแทนเฉลี่ย 3% ต่อปีตลอดอายุกรมธรรม์)   เขาตั้งใจจะใช้เงินแบบหมดทุกเดือน  และนำโบนัสมาเก็บออมเพื่อใช้ยามเกษียณ ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่อยู่ในกรอบพอเพียงตามอัตภาพ  
อย่างไรก็ดี  เมื่อมีระบบประกันสังคมเข้ามา   เขาต้องถูกบังคับออมเงิน 3%  และ นายจ้างอีก 3% รวมเป็น 6% เข้าสะสมเป็นเงินออมชราภาพ  หมายถึง  เดือนละ 420 บาท  ที่เขาควรจะดึงเงินออมของตนเองออกมาใช้ได้นั้นก็กลับนำมาใช้ไม่ได้  ต้องถูกบังคับออมกับกองทุนประกันสังคมเอาไว้  เขาจึงไปกู้ยืมจากสถาบันการเงินแบบสินเชื่อเงินบุคคลเงินด่วน  อัตราดอกเบี้ย 28% แทน  ด้วยเงินก้อนเดียวกัน  
เชื่อหรือไม่ว่า  เวลาผ่านไป 15 ปี  ยามเขาเกษียณนั้น  หากกองทุนประกันสังคมให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 5% ตามคาด  นายพอเพียง คนนี้จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพสูงถึง 1.6 แสนบาท  นับว่าไม่น้อยเลย  แถมยังมีเงินออมในกรมธรรม์ประกันชีวิต 3.8 แสนบาท  รวมแล้ว 5.4 แสนบาท  เขาน่าจะสบายๆ ใช่ไหม  แต่เปล่าเลย  เพราะว่าเขากลับติดหนี้สินกับสถาบันการเงินทั้งแบงก์ และ นันแบงก์ ถึง 8.8 แสนบาท  ด้วยกลไกของดอกเบี้ยทบต้นที่ทำให้ยอดหนี้วิ่งเร็วมาก   ดังนั้น เขาจึงเกษียณจากงาน  ชำระหนี้สินด้วยเงินทั้งหมดที่รับมา   พร้อมๆ กับหนี้สินสุทธิที่เหลืออยู่ถึง 3.4 แสนบาท โดยที่อาจไม่มีรายได้เลยในแต่ละเดือน  เขาจะอยู่อย่างไร ??
ในทางตรงกันข้าม  หากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ปล่อยให้เขานำเงินออมตนเองออกมาใช้ได้ทุกเดือน  เขาคนนี้ก็จะไม่ต้องติดหนี้สินดอกเบี้ยโหด  แต่ละเดือนหมดไปพอดี  และ มีเงินออมสุทธิสูงถึง 3.8แสนบาทจากกรมธรรม์ประกันชีวิตยามเกษียณ  ซึ่งก็นับว่าดีกว่าระบบปัจจุบันมาก ดังนั้น   จะเห็นได้ว่าระบบประกันสังคมในปัจจุบันนั้นมีแนวโน้มจะทำให้ผู้ประกันตนส่วนใหญ่จนลง แทนที่ร่ำรวยขึ้น  ตามการสร้างภาพที่สวยหรู  เพราะราว 75% ของผู้ประกันตนติดหนี้สินอยู่แล้ว
นั่นหมายถึงว่า  ทุกบาทของการถูกบังคับออมกับประกันสังคมนั้น  ผู้ประกันตนกลุ่มที่ติดหนี้อยู่นี้ ได้รับผลตอบแทนที่ติดลบ 23%  (5%-28%)  คือ ถูกบังคับออมได้รับผลตอบแทนที่ 5% ต่อปีในเวลาเดียวกันก็ต้องไปกู้ยืมเงินก้อนเดียวกันที่ใช้ไม่พอในแต่ละเดือนต้องเสียดอกเบี้ย 28% ต่อปี   สปส. และ กบข. จึงดูเหมือนว่าได้ร่วมมือทางอ้อมกับสถาบันการเงิน  เพื่อดูดเอาผลประโยชน์หรือดอกเบี้ยส่วนต่างนี้ไปจากมือผู้ประกันตนและข้าราชการ  ซึ่งลองประเมินดูแล้วตัวเลขสูงนับแสนล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว  
ในทางตรงกันข้าม  หากคนระดับเศรษฐีออมเงินผ่าน RMF, LTF นั้น  ลงเงินตัวเองแค่ 63% ได้รับเงินจากรัฐบาลจากเงินลดหย่อนภาษี 37% และคาดหวังผลตอบแทนจากตลาดหุ้นราวเฉลี่ยปีละ 10% ดังนั้นรวมแล้วได้ 47% จากเงินต้นแค่ 63%  นั่นคือได้รับผลตอบแทนการออม ที่ 75% ต่อปี  สูงเหลือเชื่อเลยไหม
นี่จึงเป็นความอยุติธรรมอย่างยิ่งยวดในสังคมไทย  ไม่เพียงแต่ปล่อยให้รายได้แตกต่างกันเป็นร้อยเท่าตัว  แรงงานระดับรากหญ้าได้เงินเดือนแค่เดือนละไม่กี่พันบาท  ขณะที่ระดับบริหารชั้นเศรษฐีนั้นได้รับกันหลายแสนหรือเป็นล้านต่อเดือน    ไม่เพียงเท่านั้น  ด้วยนโยบายประกันสังคม และ LTF ในปัจจุบันยังตอกย้ำสร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมยิ่งขึ้นไปอีกต่อผลตอบแทนการออม การลงทุนของประชาชน  โดยผู้ประกันตนระดับรากหญ้าซึ่งติดหนี้สินนั้น  ได้รับผลตอบแทนการบังคับออมที่ -23% (ถูกบังคับออมขณะเดียวกันก็ต้องกู้ยืมหนี้สินดอกเบี้ยโหด  ดังนั้นยิ่งเวลาผ่านไป   ยิ่งออมก็ยิ่งจน)   ขณะที่ชนชั้นเศรษฐีรายได้ 4 ล้านบาทต่อปีขึ้นไปนั้น  ผลตอบแทนการลงทุนคาดหวังได้ที่ +75% ต่อปี  และทำให้คนกลุ่มนี้ออมเงินมากขึ้นและรวยขึ้นเพราะได้ผลตอบแทนสูงมาก  แต่ใช้จ่าย ณ ปัจจุบันน้อยลง   เศรษฐกิจจึงฟื้นตัวช้า  ขณะที่ผู้ประกันตนรากหญ้าก็ออมเช่นกันแต่เป็นแบบบังคับออม  เศรษฐกิจไม่ดีนัก  รายได้ของพวกเขาก็ไม่เพิ่มจึงจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสิน  ทำให้ผลตอบแทนการถูกบังคับออมสุทธิแล้วติดลบ
หากปล่อยให้ระบบนี้ดำเนินต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น....ผู้ประกันตนกว่าครึ่งจาก 9 ล้านคนเศษ ก็จะประสบกับปัญหาการล้มละลายทางการเงินไงครับ   เพราะ  มือข้างหนึ่งถูกบังคับออมเงินกับ สปส.ได้ 5% ขณะเดียวกันเงินไม่พอก็มืออีกข้างต้องไปกู้ยืมเงินดอกเบี้ย 28% ยิ่งออมกับ สปส.ก็ยิ่งจน    ติดลบเรื่อยๆ  สุดท้ายก็ล้มละลายทางการเงิน เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาผ่อนหนี้กับสถาบันการเงิน  โดยสาเหตุหลักก็เพราะถูกบังคับออมโดยระบบประกันสังคมโดยไม่สามารถดึงเงินตนเองออกมาได้นั่นเอง
ทางแก้ไขนั้นก็มีอยู่แล้วใน เศรษฐศาสตร์ไทเก๊ก  โดยเปิดสิทธิให้ สปส.ค้ำประกันเงินกู้ของผู้ประกันตนไม่เกิน 9 ส่วนของเงินออมแต่ละบุคคล อัตราดอกเบี้ย 9% ต่อปี  ผมใช้ชื่อว่า สินเชื่อ99  จะช่วยทำให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินออมของตนเองไปเพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ดอกเบี้ยโหดได้  ทำให้ลดค่าใช้จ่ายการผ่อนเงินต้นและดอกเบี้ยต่อเดือนไปได้กว่าครึ่ง  
ผมขอเรียกร้องรัฐบาลและ บอร์ด สปส. รีบดำเนินการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเรื่องนี้พวกท่านต้องรีบคืนผลประโยชน์นับแสนล้านบาทต่อปีให้แก่ผู้ประกันตน และ ข้าราชการรายได้น้อย  ไม่ใช่ให้สถาบันการเงินมาตักตวงผลประโยชน์ตรงนี้ไปได้อย่างสบายๆ   ไม่เพียงแต่ความยุติธรรมที่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น   เงินในมือของประชาชนก็จะเพิ่มขึ้นและช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างดีด้วย  พวกท่านสมควรจะต้องรีบพิจารณาเรื่องนี้โดยเร่งด่วน  เพราะหากปล่อยไว้อีกไม่นาน  แรงงานไทยในระบบ หรือผู้ประกันตนอาจต้องประสบกับปัญหาล้มละลายทางการเงินกว่าครึ่งประเทศก็เป็นได้ครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 11, 2010 8:04 am
โดย MO101
ลงเงินตัวเองแค่ 63% ได้รับเงินจากรัฐบาลจากเงินลดหย่อนภาษี 37% และคาดหวังผลตอบแทนจากตลาดหุ้นราวเฉลี่ยปีละ 10% ดังนั้นรวมแล้วได้ 47% จากเงินต้นแค่ 63%  นั่นคือได้รับผลตอบแทนการออม ที่ 75% ต่อปี  
ลงเงินตัวเองแค่ 63% ได้รับเงินจากรัฐบาลจากเงินลดหย่อนภาษี 37% มันต่อ 5 ปีนี่ครับ หรือถ้าซื้อเดือน ธค ขายเดือน มค นับเป็น 3 ปี อัตราผลตอบแทนมันจะลดลง เหลือราวๆ 11%

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 11, 2010 10:13 am
โดย อะไรดีละ
ไปดูดีๆ เถอะครับ  ผลตอบแทนปีแรกมันอยู่ที่ 75% ครับ
ปีถัดๆ ไปก็แล้วแต่ตลาดหุ้น....

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 11:12 am
โดย นักดูดาว
ผมเห็นด้วยเรื่องความด้อยประสิทธิภาพของระบบประกันสังคม

แต่ผมไม่ค่อยเชื่อในระบบค้ำประกันสินเชื่อโดย สปส.ครับ เพราะหากผู้กู้ขาดความยำเกรงผู้ค้ำโดยสิ้นเชิง จะมีแนวโน้มสร้างปัญหาได้ง่าย

ผมยังตีโจทย์ไม่แตกว่า 8.8 แสนบาทนั้นมาจากไหนบ้าง นั่นน่าจะเป็นประเด็นมากกว่าการใส่เงินเข้าไปครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 5:58 pm
โดย อะไรดีละ
นักดูดาว เขียน:ผมเห็นด้วยเรื่องความด้อยประสิทธิภาพของระบบประกันสังคม

แต่ผมไม่ค่อยเชื่อในระบบค้ำประกันสินเชื่อโดย สปส.ครับ เพราะหากผู้กู้ขาดความยำเกรงผู้ค้ำโดยสิ้นเชิง จะมีแนวโน้มสร้างปัญหาได้ง่าย

ผมยังตีโจทย์ไม่แตกว่า 8.8 แสนบาทนั้นมาจากไหนบ้าง นั่นน่าจะเป็นประเด็นมากกว่าการใส่เงินเข้าไปครับ
ใน web ของท่านนายกฯ  มีผู้ประกันตนบางคนติดหนี้สินมาก จนเกือบคิดฆ่าตัวตาย  และ ต้องการให้รัฐบาลออกนโยบายให้ สปส.ค้ำประกันเงินกู้  ในลักษณะแบบนี้เลยครับ

ผู้กู้  ไม่เกรงกลัว  ผู้ค้ำ หรือครับ.... ใครเบี้ยวเรายึดเงินออมขึ้นมาหมด  ซึ่งรวมเงินค่าปรับแล้ว 10%  ไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อการถูกเบี้ยวหนี้ครับ

รัฐบาล และ สปส. ได้เงินค่าค้ำประกันคนละครึ่งหรือ 1.5% แต่ละฝ่าย  ขณะที่แบงก์รัฐ (ออมสิน ธกส. กรุงไทย) ได้ ดบ.6% ครับ  

เงินกู้กับสถาบันการเงิน 8.8 แสนบาท ตามตัวอย่างครับ  ถ้ากู้ไปเรื่อยๆ แค่ เดือนละไม่กี่ร้อยบาท  แต่ดบ.ทบต้นทบดอก  มันก็จะวิ่งเร็วเหมือนจรวด  
ทุกบาทของการออมกับ สปส.ของผู้ประกันตนส่วนใหญ่  ให้ผลตอบแทนที่ติดลบ 23% ขึ้นไป  มันไม่ได้ทำให้รวยขึ้น  แต่มันกลับทำให้จนลงต่างหาก

ผู้ประกันตนส่วนใหญ่รู้ว่ามันทำให้พวกเขาจนลงครับ  และ พยายามเรียกร้องเรื่องแบบนี้มาโดยตลอด  แต่ผมมาช่วยคำนวณให้เห็นๆ เลยว่า  สุดท้ายแล้ว ผู้ประกันตนส่วนใหญ่จะเกษียณพร้อมหนี้สินก้อนโต  สิ่งที่ สปส.ทำอยู่ตอนนี้ไม่ได้ช่วยผู้ประกันตน แต่กลับเอื้อผลประโยชน์ให้นายทุนเงินกู้ต่างหากครับ
:wink:

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 6:48 pm
โดย นักดูดาว
[quote="อะไรดีละ"]
ผู้กู้

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 7:00 pm
โดย อะไรดีละ
ผมหมายถึง ค้ำในวงเงิน 90% ของยอดเงินออมแต่ละบุคคลครับ
ผู้ประกันตนต้องไปกู้จาก สถาบันการเงินของรัฐ  
ดังนั้น หากใครเบี้ยว สปส. ก็ยึดเงินออมนั้นขึ้นมา  จ่ายหนี้คืนแบงก์รัฐ  พร้อมค่าปรับ 10% เข้ากองทุนประกันสังคมได้เลย  

มันจึงไม่มีความเสี่ยงไงครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 7:02 pm
โดย อะไรดีละ
ประกันสังคม ... ต้องบังคับทำถูกต้องแล้วครับ  เพื่อให้ ปชช.ได้วางแผนการออม และ เพื่อให้นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบ  

แต่สิ่งที่ควรทำต่อจากนั้น คือ ต้องยืดหยุ่นให้ สปส. สามารถค้ำประกันเงินกู้ของผู้ประกันตนได้  ในวงเงินออมของแต่ละคนครับ  
เพื่อให้ผู้ประกันตนที่ติดหนี้สินดบโหดอยู่  จะสามารถนำเงินนี้ไปแก้ไขปัญหาหนี้สินได้  แทนที่จะถูกบังคับออมและจนลงเรื่อยๆ ครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 9:38 pm
โดย นักดูดาว
ผมเคยเปรียบเปรยว่าเมืองไทยเหมือนกับหนังเรื่อง The Matrix

ผมเดาว่าพี่เฟยหงเป็น Neo ที่หลุดออกจาก matrix แล้ว กำลังถล่ม matrix อยู่

ต่อไปก็ต้องสู้กับ Agent Smith อีกเยอะล่ะครับ

:)

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 9:40 pm
โดย นักดูดาว
ประกันสังคม ... ต้องบังคับทำถูกต้องแล้วครับ  เพื่อให้ ปชช.ได้วางแผนการออม และ เพื่อให้นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบ
ที่ว่ามานี่คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพครับ กองทุนที่ผมมีส่วนได้เสียอยู่ก็ค้ำประกันเงินกู้ให้สมาชิกด้วย ผมจึงมองไปในทางกองทุนมากกว่าไปหวังกับ สปส.

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 12:47 pm
โดย อะไรดีละ
นักดูดาว เขียน:ผมเคยเปรียบเปรยว่าเมืองไทยเหมือนกับหนังเรื่อง The Matrix

ผมเดาว่าพี่เฟยหงเป็น Neo ที่หลุดออกจาก matrix แล้ว กำลังถล่ม matrix อยู่

ต่อไปก็ต้องสู้กับ Agent Smith อีกเยอะล่ะครับ

:)
คงไม่ขนาดนั้นมั้งครับ....ก็แค่ พรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็น ปชป. หรือ เพื่อไทย
ที่นำนโยบายแบบนี้มาหาเสียง  เลือกตั้งคราวหน้าก็ชนะถล่มทลาย...  ใช้แค่นโยบายได้เสียงเพิ่มอีก 10 ล้านเสียง  เตรียมยุบสภา  รอเลือกตั้งกันใหม่ดีกว่าครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 12:47 pm
โดย อะไรดีละ
[quote="นักดูดาว"][quote]
ประกันสังคม ... ต้องบังคับทำถูกต้องแล้วครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 10:22 pm
โดย นักดูดาว
ผมเข้าใจว่านักเศรษฐศาสตร์ต้องมองกว้างๆ เห็นด้วยทางทฤษฎีครับ แต่ทางปฏิบัติ หากไม่ลงมืออะไรเลยคนหลายร้อยก็ไม่รอด สู้เซฟคนจำนวนร้อยแต่ทำได้ทันที ดีกว่ารอเซฟคนเป็นล้านๆแต่ยังไม่เห็นอะไรครับ

ยิ่งเจอรัฐบาลขุนคลัง of the year ท่านนี้ ยิ่งมั่นใจครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 16, 2010 9:20 am
โดย Meme
ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าเงินที่โดนหักประกันสังคมและเบี้ยประกันชีวิตนั้น ขอคืนตอนภาษีได้ไม่ใช่เหรอครับ -----> ขอโทษนะครับถ้าผิดพลาด รบกวนผู็รู้ชี้แจงให้ด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 16, 2010 10:09 am
โดย อะไรดีละ
Meme เขียน:ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าเงินที่โดนหักประกันสังคมและเบี้ยประกันชีวิตนั้น ขอคืนตอนภาษีได้ไม่ใช่เหรอครับ -----> ขอโทษนะครับถ้าผิดพลาด รบกวนผู็รู้ชี้แจงให้ด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ
ไม่ใช่ครับ...แค่หักลดหย่อนภาษีได้ครับ

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 3:58 am
โดย Meme
ขอบคุณครับ ที่ให้ความกระจ้าง

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 19, 2010 10:38 am
โดย icomkung
ตอนที่ออมจะสามารถหักลดหย่อนได้ แต่ตอนเลิกทำงานสรรพากรทำไมหักเต็ม ของผมโดนหักเพิ่มไปหมื่นกว่าตอนลาออกจากงาน เป็นเรื่องจริง สรรพากรอ้างหักตามมาตราอะไรสักอย่างและบอกว่าถือเป็นเงินได้เหมือนกัน งงเลย โดนมาแล้ว

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 20, 2010 10:01 pm
โดย Warantact
ไอ้ที่ว่ายิ่งออมยิ่งจนเนี่ยนะผมว่าคนจนยากจะรู้ คนรู้ก็ไม่รู้จะไปบอกคนจนยังไง
เราก็รู้ๆกันอยู่ว่า เงินเฟ้อระยะยาวมันมากกว่าดอกแบงค์

ผมเองก็รู้สึกแปลกๆกับระบบประกันสังคมแต่ฟันธงไม่ได้ว่า มีดี หรือ ไม่มีดี
เพราะว่า ข้อเสียมันก็
1 ประกันสังคมผลตอบแทนห่วยมาก
2 รักษาในโรงบาลรัฐหรือรับบริการห่วยๆ
3 ผลประโยชน์ทางภาษีห่วยมาก
ดูแล้วน่ายกเลิก เพราะถ้ารู้สักนิด เจียดเงินมาซื้อประกันให้ตัวเองก็กำไรกว่ากันเยอะแล้ว ประกันชีวิตถูกออกแบบมาสำหรับคนจน แต่คนจนไม่ค่อยชอบซื้อ คนมีแนวโน้มรวยถึงซื้อ

แล้วคนจนหรือคนชั้นกลางค่อนไปทางล่างส่วนมากใช้เงินเกินรายได้ จึงต้องกู้ แล้วความรู้ทางการเงินก็ไม่ค่อยมี ถึงได้ฐานะคงเดิมหรือลดลง ถ้าไม่มีประกันสังคมช่วย สิ่งที่รอเขาอยู่ตอนแก่คือกระสุนเท่านั้น

ที่เขาบังคับให้ทำผมก็ว่ามีเหตุผล แต่ผมคิดว่าน่าจะมีทางออกที่ดีกว่าคือ คนที่ไม่ต้องการสามารถทำเรื่องได้ เช่น ผมมีประกันชีวิตซื้อให้ตัวเองแล้วผมไม่เอานะ อย่างนี้ก็น่าจะให้ คือเอาประกันจากเอกชนมาตบประกันสังคมได้ แบบนี้จะดีกับประชาชนที่สุด

คือ ช่วยได้สองกลุ่ม คือ คนจนกับคนชั้นกลางที่พอมีความรู้ แล้วก็คนจนกับชนชั้นกลางที่ไม่ค่อยมีความรู้

ส่วนกลุ่มที่ไม่ว่าทำไงก็ไม่สามารถช่วยได้คือ คนใช้เงินเกินตัว ไม่รู้จักใช้ไม่รู้จักหา

แต่ต่อให้รัฐทำได้รัฐก็ไม่ทำ เรื่องอะไรจะยอมลดประกันสังคม เก็บไว้ถลุงเองดีกว่า เอวัง 5555

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 21, 2010 12:37 am
โดย gradius173
ประกันสังคม มันเป็นพื้นฐานมาจากระบอบสังคมนิยม
คือเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข
มันเลยต้องบังคับทุกคนทำ หากไม่บังคับ
คนที่ไม่มีปัญญาบริหารเงินตัวเองจะเสียเปรียบ
เพราะคนที่มีปัญญาบริหารก็จะไปหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
เหลือแต่กากๆไปอยู่กับคนที่ด้อยความสามารถ
ทำให้ไม่เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม

ผมไม่เห็นด้วยกับการมีประกันสังคมเท่าไหร่
เพราะผมชอบแบบทุนนิยมมากกว่า
ใครมีศักยภาพเท่าไหร่ก็ทำไป หากไม่พัฒนาคุณก็เน่า
ทำให้คนทุกคนต้องพัฒนาตัวเองไม่ไปเป็นคนหางแถว

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 29, 2010 11:31 pm
โดย virbo555
หลักประกันสังคม เป็นหลักประกันขั้นพื้นฐานของประชาชนผู้มีรายได้
ประโยชน์จากหลักประกันล้วนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล ประกันการว่างงาน เป็นต้น  ล้วนแต่เป็นประโยชน์นะคะ หากถ้าจะบอกว่า "ยิ่งออมยิ่งจน"  ตามที่ได้มีการตั้งกระทู้แล้ว  
และตามที่ท่านได้ยกตัวอย่างมานั้น สำหรับดิฉัน ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะเงินออม 5% ของรายได้ทั้งหมดไม่เยอะเลย  เงินออมเป็นเงินประกันอนาคต  ซึ่งอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ในทางกลับกัน หากกรณีไม่มีเงินออม อนาคตหากเกิดความจำเป็น เช่น เรื่องการรักษาพยาบาล  หรือตกงาน เงินส่วนนี้ช่วยคุณได้  และถ้าหากไม่มีเงินออมนี้แล้วเกิดเจ็บป่วย เข้าใจว่าก็ต้องกู้อยู่ดี   และอีก 95% ของเงินเดือน น่าจะมาจัดโครงสร้างการใช้เงินใหม่ น่าจะดีกว่า เพราะตามความคิดของดิฉัน "การใช้เงินและจัดสรรโครงสร้างเงินให้เหมาะสมดีที่สุดค่ะ และหากจัดสรรไม่เป็นก็เป็นสิ่งอันตรายเหมือนกัน"  และยังไง ก็ยังเชื่อว่า การออมมันก็เป็นผลดีมากกว่าผลเสียค่ะ
(อันนี้อีกหนึ่งความคิดเห็นคะ)

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2010 11:14 am
โดย him_aeng
ผมขออนุญาติแสดงความเห็นดังนี้นะครับ

ข้อที่หนึ่ง สมมติฐานที่่ว่า security (หรือยาม) พระเอกของเจ้าของกระทู้นั้น จะเก็บแค่เงินโบนัสสองเดือน นอกนั้นนำไปใช้หมด ดังข้อความข้างล่างนี้

เขาตั้งใจจะใช้เงินแบบหมดทุกเดือน และนำโบนัสมาเก็บออมเพื่อใช้ยามเกษียณ ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่อยู่ในกรอบพอเพียงตามอัตภาพ
แค่ข้อเงื่อนไขตรงนี้ก็บอกถึงแนวโน้มของความล้มเหลวทางการเงินกลายๆ แล้วครับ นั่นเพราะเขาไม่มีเงินออมเลย ซึ่งก็ตามสถิติครับ ผมที่ออมได้ 20% ต่อรายได้ จะมีแนวโน้มที่จะมีชีวิตสุขสบายในบั้นปลาย ออมได้ 10% จะมีชีวิตอยู่ในระดับพออยู่พอกิน เลี้ยงตัวเองได้ตามอัตภาพ แต่ถ้าเป็น 0% นี่คงไม่ต้องพูดแล้วครับ

ส่วนสมมติฐานที่สองคือ
...อย่างไรก็ดี  เมื่อมีระบบประกันสังคมเข้ามา   เขาต้องถูกบังคับออมเงิน 3%  และ นายจ้างอีก 3% รวมเป็น 6% เข้าสะสมเป็นเงินออมชราภาพ  หมายถึง  เดือนละ 420 บาท  ที่เขาควรจะดึงเงินออมของตนเองออกมาใช้ได้นั้นก็กลับนำมาใช้ไม่ได้  ต้องถูกบังคับออมกับกองทุนประกันสังคมเอาไว้  เขาจึงไปกู้ยืมจากสถาบันการเงินแบบสินเชื่อเงินบุคคลเงินด่วน  อัตราดอกเบี้ย 28% แทน  ด้วยเงินก้อนเดียวกัน...
นั่นแปลว่า คุณลุงอยากจะลงทุน (หรือออมเงิน) ในประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ แต่ปัญหาคือ ทำไมต้องกู้มาออมครับ เพราะการออมนั้น มันมาจากสมการ

เงินออม = รายรับ - รายจ่าย

หรือ

รายจ่าย = รายรับ - เงินออม

ในสมการข้างบนนั้น ไม่มีตัวไหนที่แสดงถึง "เงินกู้" เลยครับ ดังนั้น สมมติฐานข้อนี้จึงไม่น่าจะถูกต้องซักเท่าไหร่

------------------------------------------

โรเบิร์ต คิโยซากิ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ Increasing Your Financial IQ ไว้ว่า ความฉลาดทางการเงินมีองค์ประกอบ 5 ข้อด้วยกัน โดยข้อสองนั้นคือ "ปกป้องเงินของคุณไว้"

โดยในโลกทุนนิยมของเรานี้ มันเป็นเรื่องปรกติครับที่รัฐบาล สถาบันการเงิน สถานบันเทิง ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ จ้องที่จะเอาเงินออกไปจากกระเป๋าของเรา เป็นหน้าที่ของเราทุกคนครับ (รวมทั้งพระเอกของเรื่องนี้ด้วย) ที่จะต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องเงินในกระเป๋าของเขาเอง

ดังนั้น วิธีแก้เรื่องนี้คือ ให้ลุงบริหารค่าใช้จ่ายโดยลดบางส่วนลงมา จนมีเงินเพียงพอที่จะนำไปออมกับประกันแบบสะสมทรัพย์ในทุกๆ เดือนครับ

ความมั่นคงทางการเงินของทุกๆ คน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากรัฐบาลครับ[/quote]

ไม่ค่อยเห็นด้วย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 19, 2010 1:07 am
โดย navapon
เงินออมย่อมดีแน่นอน เพียงแต่คุณทำไม่ได้เองและไม่พอใจที่มีคนมาบังคับให้ออม

Re: กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 14, 2010 11:32 pm
โดย send
[quote="อะไรดีละ"]กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

        1.เขาตั้งใจจะใช้เงินแบบหมดทุกเดือน

Re: กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 02, 2010 11:35 am
โดย Sonic_V3
[quote="send"][quote="อะไรดีละ"]กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 02, 2010 1:29 pm
โดย send
ตอบคุณ Sonic_V3 นะครับ

ในความเห็นผมคุณอยากให้ สปส. หรือ องกรค์อื่นๆ อะไรก็ได้มาช่วย
(ขอโทษทีผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่ององกรค์ต่างๆเท่าไหร่)
ยิ่งช่วยมากเท่าไหร่ยิ่งดี

แต่ยังไงก็ตามผมอยากให้เราพยายามช่วยตนเองมากกว่า
ถ้าเงินเดือนน้อยก็ดูว่าจะเพิ่มอย่างไร ประหยัดค่าใช้จ่าย
อะไรได้บ้าง จากนั้นเอาเงินเก็บมาลงทุน ทำไปเรื่อยๆ
ถ้าไปได้ดีเราก็จะดูแลตนเองได้ ไม่ต้องพึ่งคนอื่น
หรืออาจจะมีเลินเหลือมากพอที่จะไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย

อย่าไปคาดหวังจากคนอื่นเลยครับ พึ่งตัวเองดีกว่า :)

กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 08, 2010 11:33 pm
โดย yaajaar
ตนเป็นที่พื่งแห่งตนครับ
อย่าไปหวังพื่งคนอื่น
โดยเฉพาะกับองค์กรของรัฐ

Re: กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 23, 2010 9:56 am
โดย icegrefis
ผมนึกว่า ประกันสังคม เบิก ค่ารักษาพยาบาลได้ฟรี ซะอีก แค่ ค่ารักษาพยาบาล ก็ช่วยทดแทน ข้อแตกต่างที่ผ่านมาหมดสิ้นได้ไหม (แม้ว่าจะให้เลือกได้แค่ 3 รพ.ก็ตาม)

Re: กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 13, 2011 4:10 am
โดย nuttium
I agree with you.In my opinion government have many way to help people save money but don't order people to do the thing think is good.Low interest from invest,bad service frm hospital from this program.This program also have cost to manage ,cost to corruption,....
If government want to help they can do many way for example redue tax it's the way direct to give money to people.Saving have many way to do for example saving account in bank, stock,education.How government know which one is matching for who.Don't think people stupid they should be have choice.

Re: กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2011 12:06 pm
โดย Croyoty
เป็นความอัปยศที่ ออกกฏหมายมาบังคับ ประชากรเกินสิบล้านคนที่โดนแบบนี้

เสมือนปล้นเงินคนทั่วไทย แท้จริงเหมือนออม แต่จริงๆคือการเอาเงินคนมหาศาลเม็ดเงินมหาศาลไปหมุน

Re: กับดักประกันสังคม : ยิ่งออมยิ่งจน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 04, 2011 7:12 pm
โดย rekokung
icegrefis เขียน:ผมนึกว่า ประกันสังคม เบิก ค่ารักษาพยาบาลได้ฟรี ซะอีก แค่ ค่ารักษาพยาบาล ก็ช่วยทดแทน ข้อแตกต่างที่ผ่านมาหมดสิ้นได้ไหม (แม้ว่าจะให้เลือกได้แค่ 3 รพ.ก็ตาม)
ไม่ฟรีหรอกครับ ในบรรดาสิทธ์การรักษา(ข้าราชการ หรือ 30 บาท) ประกันสังคมแย่ที่สุด ไม่สามรถใช้ยาแพงๆรวม
ถึงการตรวจแพงๆได้(อยู่นอกเหนือสิทธ์) ทั้งหมดนี้แย่กว่า 30 บาทด้วยซ้ำ
"ของฟรีไม่มีในโลก" ครับ :|