Invester Day 16/1/53
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 12:37 am
พอดีไปฟังมาเมื่อเย็นนี้ครับ
สรุปจากอาจารย์ดร.นิเวศ มาแบ่งปันกัน
ข้อแรก อาจารย์เค้ากำลังจะซื้อ bb (blackberry)มาใช้ อิอิ
ข้อแรก ปีที่แล้ว(52)ลงทุนง่ายภาพทุกอย่างชัดเจนหมด เพราะว่าปีที่แล้วแย่หมดมันเลยชัดเจน แต่...ปีนี้53 ไม่ชัดเจนบางอย่างก็ดีบางอย่างก็ไม่ดี ปีที่แล้วมีอย่างเดียวคือมีแต่ทางขึ้นอย่างเดียวเพราะว่าแย่หมดอาจารย์เลยกู้มาซื้อหุ้นเลย แต่ปีนี้มีบางอย่างที่ดีขึ้นมาแล้วต้องระวังเพราะอาจจะเจ็บตัวเพราะอาจจะแย่ลงได้ ช่วงนี้อาจารย์เลยมีเงินสดไว้ซื้อ bb ได้ อิอิ
อาจารย์บอกว่าปีที่แล้วหุ้นราคาตำมากกกกกคิดดูจาก 30ปีที่เปิดตลาดมา จาก 100 มา 300กว่า 400เนี่ย โอกาสลงต่อน้อยมาก เลยมองว่ามีแต่ทางขึ้นอย่างเดียว แล้วอาจารย์บอกว่าถ้ามันลงถึง 200 เนี่ยยิ่งสบายเลย อิอิ
ข้อสอง เรื่องของความถูกความแพงของหุ้น pe ไม่ถึง 10 เท่า ปีที่แล้วนะครับ
ตอนนั้นกำไของบริษัทยังไม่ลดลงมามีแค่ไตรมาสเดียวทีลดลงคือไตรมาส 4 ของ 51 หุ้นราคาถูกมาก แล้วก็พูดถึงการบินไทยราคาตอนนั้นเท่ากับเครื่องบิน 2 ลำ เพราะมีเกือบ 100 ลำ เพราะคิดว่ารัฐบาลต้องอุ้มไว้ เพราะไม่งั้นเดียวขึ้นเครื่องบินแล้วขนของเยอะไมได้ อิอิ
พอมาถึงวันนี้ไม่ถูกแล้ว pe ประมาณ 12 เท่า เท่ากับ 8 % ถ้ากลับเศษส่วนถือว่าไม่ถูกแล้ว อาจารย์ว่าหุ้นไทย 10 เท่ากำลังดี แต่ปีที่แล้วถูกมากกกกก
ข้อสาม ภาพใหญ่ของโลกและของไทย ปีที่แล้วทุกอย่างก็แย่หมด เรื่องการเมืองมีการยิงกันในปีที่แล้ว เมืองนอกเองก็ไม่รู้ว่าจะรอดหรือจะตาย แต่ปีนี้มันขึ้นมาแล้วมีโอกาสจะลง กลายเป้นตัว w เศรษฐกิจที่ฟื้นขึ้นมาอาจจะไม่แน่ มีขึ้นมีลง สรุปไม่แน่นอน ถ้าปีที่แล้วมีแต่ไม่ดี ก็เท่ากับมีแต่ดีขึ้น แต่ปีนี้มีทั้งดีและไม่ดีเลยเท่ากับไม่แน่นอนดีกับไม่ดีได้
อาจารย์บอกว่าของที่ commom sense เกินไปคนเราจะไม่มอง search in search for the obvious คือค้นหาสิ่งที่มันชัดเจนหรือแน่นอนไม่ว่ามันจะเลวร้าย
ข้อสี่ กำไรในบริษัทจดทะเบียน ขึ้นอยู่กับ stock gain stock loss เช่นบริษัทน้ำมัน ถ้าราคาน้ำมันขึ้นก็จะได้กำรไจกการ stock ของ แต่ถ้าราคาน้ำมันลดกำไรก็ลดตาม สรุปกำไรของบริษัทไม่ได้อยู่ที่ฝีมือของบริษัทอะไรมากมาย และ ตอนนี้ราคาก็ขึ้นมาเยอะทุกอย่าง น้ำมัน ปิโต เคมี ราคาของที่ stock อยู่ กำไรก็จะดี แต่ต้นปีที่แล้ว 52 มีแต่ต่ำสุดๆ ทั้งน้ำมันอยู่ที่ 40 เหรียญ ปิโตเคมีก็..สุดๆ แสดงว่ามีแต่ขึ้น ปลายปี52เลยขึ้นอย่างเดียว
แต่ปีนี้ มันมีโอกาสขึ้นลง ทำให้กำไรบริษัทไม่แน่มีขึ้นลง ราคาหุ้นก็ไปยากถ้ามันลงกำไรบริษัทก็แย่ ในอนาคตไม่มีใครรุ้ อาจจะขึ้นต่อก็ได้ สรุปไม่แน่
ทำให้ปีนี้หนักใจมีเงินก็ไม่กล้าซื้อหุ้น ปีนี้อาจารย์เลยปลี่ยนโหมดลงทุน ไม่มองโลกในแง่ดี
อิอิ พอแค่นี้ก่อนนะแล้วจะมาโพสต่ออีกส่วนสุดท้ายว่าอาจารย์เค้าใช้โหมดอะไรเล่นหุ้น
ปล.พอดีได้อ่านในหลายๆกระทุ้แล้วมีประโยชน์ หวังว่าอันนี้ก็น่าจะพอให้ท่านทั้งหลายได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
สรุปจากอาจารย์ดร.นิเวศ มาแบ่งปันกัน
ข้อแรก อาจารย์เค้ากำลังจะซื้อ bb (blackberry)มาใช้ อิอิ
ข้อแรก ปีที่แล้ว(52)ลงทุนง่ายภาพทุกอย่างชัดเจนหมด เพราะว่าปีที่แล้วแย่หมดมันเลยชัดเจน แต่...ปีนี้53 ไม่ชัดเจนบางอย่างก็ดีบางอย่างก็ไม่ดี ปีที่แล้วมีอย่างเดียวคือมีแต่ทางขึ้นอย่างเดียวเพราะว่าแย่หมดอาจารย์เลยกู้มาซื้อหุ้นเลย แต่ปีนี้มีบางอย่างที่ดีขึ้นมาแล้วต้องระวังเพราะอาจจะเจ็บตัวเพราะอาจจะแย่ลงได้ ช่วงนี้อาจารย์เลยมีเงินสดไว้ซื้อ bb ได้ อิอิ
อาจารย์บอกว่าปีที่แล้วหุ้นราคาตำมากกกกกคิดดูจาก 30ปีที่เปิดตลาดมา จาก 100 มา 300กว่า 400เนี่ย โอกาสลงต่อน้อยมาก เลยมองว่ามีแต่ทางขึ้นอย่างเดียว แล้วอาจารย์บอกว่าถ้ามันลงถึง 200 เนี่ยยิ่งสบายเลย อิอิ
ข้อสอง เรื่องของความถูกความแพงของหุ้น pe ไม่ถึง 10 เท่า ปีที่แล้วนะครับ
ตอนนั้นกำไของบริษัทยังไม่ลดลงมามีแค่ไตรมาสเดียวทีลดลงคือไตรมาส 4 ของ 51 หุ้นราคาถูกมาก แล้วก็พูดถึงการบินไทยราคาตอนนั้นเท่ากับเครื่องบิน 2 ลำ เพราะมีเกือบ 100 ลำ เพราะคิดว่ารัฐบาลต้องอุ้มไว้ เพราะไม่งั้นเดียวขึ้นเครื่องบินแล้วขนของเยอะไมได้ อิอิ
พอมาถึงวันนี้ไม่ถูกแล้ว pe ประมาณ 12 เท่า เท่ากับ 8 % ถ้ากลับเศษส่วนถือว่าไม่ถูกแล้ว อาจารย์ว่าหุ้นไทย 10 เท่ากำลังดี แต่ปีที่แล้วถูกมากกกกก
ข้อสาม ภาพใหญ่ของโลกและของไทย ปีที่แล้วทุกอย่างก็แย่หมด เรื่องการเมืองมีการยิงกันในปีที่แล้ว เมืองนอกเองก็ไม่รู้ว่าจะรอดหรือจะตาย แต่ปีนี้มันขึ้นมาแล้วมีโอกาสจะลง กลายเป้นตัว w เศรษฐกิจที่ฟื้นขึ้นมาอาจจะไม่แน่ มีขึ้นมีลง สรุปไม่แน่นอน ถ้าปีที่แล้วมีแต่ไม่ดี ก็เท่ากับมีแต่ดีขึ้น แต่ปีนี้มีทั้งดีและไม่ดีเลยเท่ากับไม่แน่นอนดีกับไม่ดีได้
อาจารย์บอกว่าของที่ commom sense เกินไปคนเราจะไม่มอง search in search for the obvious คือค้นหาสิ่งที่มันชัดเจนหรือแน่นอนไม่ว่ามันจะเลวร้าย
ข้อสี่ กำไรในบริษัทจดทะเบียน ขึ้นอยู่กับ stock gain stock loss เช่นบริษัทน้ำมัน ถ้าราคาน้ำมันขึ้นก็จะได้กำรไจกการ stock ของ แต่ถ้าราคาน้ำมันลดกำไรก็ลดตาม สรุปกำไรของบริษัทไม่ได้อยู่ที่ฝีมือของบริษัทอะไรมากมาย และ ตอนนี้ราคาก็ขึ้นมาเยอะทุกอย่าง น้ำมัน ปิโต เคมี ราคาของที่ stock อยู่ กำไรก็จะดี แต่ต้นปีที่แล้ว 52 มีแต่ต่ำสุดๆ ทั้งน้ำมันอยู่ที่ 40 เหรียญ ปิโตเคมีก็..สุดๆ แสดงว่ามีแต่ขึ้น ปลายปี52เลยขึ้นอย่างเดียว
แต่ปีนี้ มันมีโอกาสขึ้นลง ทำให้กำไรบริษัทไม่แน่มีขึ้นลง ราคาหุ้นก็ไปยากถ้ามันลงกำไรบริษัทก็แย่ ในอนาคตไม่มีใครรุ้ อาจจะขึ้นต่อก็ได้ สรุปไม่แน่
ทำให้ปีนี้หนักใจมีเงินก็ไม่กล้าซื้อหุ้น ปีนี้อาจารย์เลยปลี่ยนโหมดลงทุน ไม่มองโลกในแง่ดี
อิอิ พอแค่นี้ก่อนนะแล้วจะมาโพสต่ออีกส่วนสุดท้ายว่าอาจารย์เค้าใช้โหมดอะไรเล่นหุ้น
ปล.พอดีได้อ่านในหลายๆกระทุ้แล้วมีประโยชน์ หวังว่าอันนี้ก็น่าจะพอให้ท่านทั้งหลายได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ