หน้า 1 จากทั้งหมด 1

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 9:21 am
โดย คนอุดร
1.การวิเคราะห์พื้นฐาน  (FUNDAMENTAL ANALYSIS)
    กลุ่มนักวิเคราะห์หลักทรัพย์กลุ่มนี้มีแนวความคิดในการประเมินค่าหลักทรัพย์ว่า  ค่าของหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่งทางทฤษฎีจะมีค่าเท่ากับมูลค่าปัจจุบันของกระแสรายได้ที่จะได้รับในอนาคต  ดังนั้นค่าของหุ้นสามัญของบริษัทใดบริษัทหนึ่งจะมีค่าเท่ากับมูลค่าปัจจุบันของกระแสรายได้ที่จะได้รับในอนาคต  สำหรับกระแสของรายได้ของหุ้นสามัญนั้นอาจอยู่ในรูปของกำไร (earning) ของบริษัทหรืออาจอยู่ในรูปของเงินปันผล (dividend) ก็ได้  แล้วแต่หลักการประเมินค่าที่นักวิเคราะห์มีความเชื่อถืออยู่
    มูลค่าปัจจุบันของกระแลรายได้ที่จะได้รับในอนาคตจะมากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่กับองค์ประกอบสองส่วนคือ  จำนวนกระแสรายได้ที่จะได้รับในอนาคตที่คาดคะเนขึ้น  และอัตราส่วนลด (discount rate or capitalization rate) ที่จะใช้ในอนาคต  ดังนั้นค่าทางทฤษฎีของหลักทรัพย์ที่ประเมินขึ้นจะเปลี่ยนแปลงไป  ถ้าการคาดคะเนเกี่ยวกับองค์ประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งสองส่วนเปลี่ยนแปลงไป  มูลค่าของหลักทรัพย์ทางทฤษฎีนี้มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน เช่น  มูลค่าทางทฤฏี  (Theoretical value)  มูลค่าที่แท้จริง  (Intrinsic value)  มูลค่าพื้นฐาน  (Fundamental value)  มูลค่าทางเศรษฐศาสตร์  (Economic value)  เป็นต้น  เมื่อการคาดคะเนเกี่ยวกับกระแสรายได้และอัตราส่วนลดเปลี่ยนแปลงไป  ย่อมหมายความว่าข่าวสารหรือข้อสนเทศของบริษัทนั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป  มูลค่าทางทฤฎีของหลักทรัพย์ย่อมเปลี่ยนไปด้วย  แต่เนื่องจากความบกพร่องของการสื่อสารหรือความไม่สมบูรณ์ของการได้รับข่าวสารของผู้ลงทุนในตลาด   หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าตลาดหลักทรัพย์ยังมีการแข่งขันไม่สมบูรณ์  ราคาตลาดของหลักทรัพย์ที่ปรากฏอยู่ในตลาด  (market price)  จึงยังไม่ได้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในข่าวสารนั้น  จึงมีผลทำให้ราคาตลาดกับมูลค่าที่แท้จริงแตกต่างกัน  นักวิเคราะห์พื้นฐานจึงพยายามหามูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์  แล้วเปรียบเทียบมูลค่าที่แท้จริงกับราคาตลาดของหลักทรัพย์  ถ้าราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงจะทำการซื้อหลักทรัพย์นั้นไว้และจะขายหลักทรัพย์นั้นถ้าราคาตลาดสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง
    การคาดคะเนเกี่ยวกับกระแสรายได้และอัตราส่วนลดในอนาคตของหุ้นสามัญบริษัทใดบริษัทหนึ่งว่าจะมากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งได้แก่  กำไร  เงินปันผล  จำนวนสินทรัพย์  และผู้บริหาร เป็นต้น  ดังนั้นจึงเรียกการวิเคราะห์ของกลุ่มนี้ว่า  การวิเคราะห์พื้นฐาน :oops:

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 9:23 am
โดย คนอุดร
2.การวิเคราะห์เทคนิค  (TECHNICAL ANALYSIS)
    กลุ่มนักวิเคราะห์เทคนิคกลุ่มนี้มีแนวความคิดในการประเมินค่าหลักทรัพย์ว่าค่าของหลักทรัพย์ย่อมขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของหลักทรัพย์นั้น  อุปสงค์และอุปทานจะเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอิทธิพลต่าง ๆ  ทั้งที่มีเหตุผลและไม่มีเหตุผล  เช่น  ข้อสนเทศเกี่ยวกับบริษัท  อารมณ์  ความคิดเห็น  การเดา  เป็นต้น  ผลที่ติดตามมาคือราคาของหลักทรัพย์จะเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงในลักษณะที่มีแนวโน้ม  (trend)  สำหรับช่วงระยะเวลาหนึ่ง  ดังนั้นนักวิเคราะห์เทคนิคจะทำการประเมินค่าหลักทรัพย์โดยการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณที่ซื้อขายของหลักทรัพย์รายตัวหรือของหลักทรัพย์ทั้งตลาดในอดีต เพื่อกำหนดแนวโน้มของราคา  แล้วนำแนวโน้มนั้นมาพยากรณ์ราคาหลักทรัพย์  หรือภาวะตลาดหลักทรัพย์  ดังนั้นการวิเคราะห์เทคนิคจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าการวิเคราะห์แนวโน้ม  (Trend Analysis)  เท่ากับว่าการวิเคราะห์แบบเทคนิคมีความเชื่อว่าประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยจึงได้นำการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตมาศึกษา  เพื่อกำหนดราคาหุ้นในอนาคต
    สิ่งที่นักวิเคราะห์เทคนิคให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ  จุดเปลี่ยนแนวโน้มโดยจะพยายามตรวจสอบการเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณว่ากำลังมีทิศทางไปทางไหน  และเมื่อใดที่ราคาจะเปลี่ยนแนวโน้มไปในทิศทางตรงกันข้าม  เช่นดูว่าแนวโน้มของราคาหุ้นในขณะนี้กำลังสูงขึ้นใช่หรือไม่  ถ้าใช่ก็จะคาดคะเนว่า  เมื่อไรราคาหุ้นจะเปลี่ยนแนวโน้มไปในทิศทางตรงกันข้าม  คือ  เมื่อใดราคาจะตก  หรือตรวจว่าแนวโน้มของราคาหุ้นในขณะนี้กำลังต่ำลงใช่หรือไม่  ถ้าใช่ก็จะพยายามคาดคะเนว่า  เมื่อใดราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นคือเปลี่ยนทิศทางแนวโน้ม
    นักวิเคราะห์เทคนิคยอมรับความคิดของนักวิเคราะห์พื้นฐานที่ว่าราคาหุ้นเป็นผลพวงสุดท้ายอันเนื่องมาจากปัจจัยพื้นฐานหลาย ๆ ตัว  เช่น  กำไร  เงินปันผลและอัตราส่วนลดในอนาคตแต่นักวิเคราะห์เทคนิคอ้างว่าการศึกษาโดยตรงจากราคาซึ่งเป็นผลขั้นสุดท้ายย่อมให้ผลลัพธ์ถูกต้องดีกว่าการศึกษาจากมูลเหตุพื้นฐาน  ซึ่งมีหลายปัจจัยและมีผลเกี่ยวโยงกันซึ่งสลับซับซ้อนมาก  ดังนั้นถ้าการคาดคะเนปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ตัวใดตัวหนึ่งผิดพลาด  ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมจะผิดพลาดด้วย :oops:

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 9:25 am
โดย คนอุดร
3.การวิเคราะห์ตามแนวทฤษฎีการสุ่ม (RANDOM WALK THEORY)
    กลุ่มนักวิเคราะห์ตามแนวทางทฤษฏีการสุ่มนี้เป็นแนวความคิดที่วิวัฒนาการขึ้นในระยะหลังสุด โดยกลุ่มนี้มีแนวความคิดโต้แย้งตรงกันข้ามกับแนวความคิดของทั้งสองกลุ่มแรกที่กล่าวมาแล้ว โดยมีความคิดว่าตลาดหลักทรัพย์มีการแข่งขันที่สมบูรณ์ (perpect capital market) หรืออย่างน้อยก็เกือบจะสมบูรณ์มีประสิทธิภาพ (efficient capital market) ดังนั้น ราคาตลาดของหลักทรัพย์จึงเท่ากับมูลค่าทางทฤษฏีเสมอ ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวคิดของนักวิเคราะห์พื้นฐาน นอกจากนั้นนักวิเคราะห์ตามแนวทฤษฏีการสุ่มยังได้เสนอความคิดว่า ราคาตลาดของหลักทรัพย์ย่อมเป็นอิสระจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในอดีต นั่นคือการศึกษาการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในอดีตจะไม่สามารถนำมาช่วยกำหนดราคาหุ้นในอนาคตได้ เพราะเป็นอิสระจากกัน กล่าวคือ ราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะสุ่ม (random walk) ราคาหุ้นในอนาคตจะเท่ากับเท่าใดย่อมขึ้นอยู่กับข่าวสารข้อสนเทศต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อราคาหุ้นในอนาคต ไม่ใช่ข่าวสารหรือข้อสนเทศในอดีต ซึ่งข้อสนเทศต่างๆ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เป็นระบบคือเป็นการสุ่ม (random) ราคาหุ้นในอนาคตจึงเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เป็นระบบหรือเป็นการสุ่มด้วย แนวความคิดที่ว่าเราไม่สามารถพยากรณ์ราคาหุ้นในอนาคตโดยอาศัยราคาในอดีตมาพยากรณ์จึงเป็นแนวคิดตรงกันข้ามกับกลุ่มนักวิเคราะห์เทคนิค :oops:

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 9:27 am
โดย คนอุดร
กล่าวโดยสรุป นักวิเคราะห์พื้นฐานคิดว่า ค่าของหลักทรัพย์เท่ากับค่าปัจจุบันของกระแสเงินที่จะได้รับในอนาคตจากหลักทรัพย์นั้น ส่วนนักวิเคราะห์เทคนิคอ้างว่าเราสามารถนำแนวโน้มของราคาหุ้นในอดีตมาพยากรณ์ราคาหุ้นในอนาคตได้ ไม่จำเป็นต้องไปศึกษาถึงพื้นฐานต่างๆ ที่จะมีผลต่อราคาหุ้นให้เสียเวลา ส่วนนักวิเคราะห์ตามทฤษฏีการสุ่มคิดว่าค่าของหลักทรัพย์ย่อมเท่ากับราคาซื้อขายหลักทรัพย์เสมอ โดยสมมุติว่าตลาดหลักทรัพย์นั้นมีการแข่งขันที่สมบูรณ์แล้ว เนื่องจากสภาพของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยยังอยู่ในขั้นที่กำลังพัฒนาสภาพตลาดจัดว่ายังมีการแข่งขันไม่สมบูรณ์ จึงไม่สามารถนำแนวความคิดของทฤษฏีการสุ่มมาใช้ได้เต็มที่  :roll:

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 9:29 am
โดย คนอุดร
หวังว่าคงได้ความรู้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ  :D

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 10:02 am
โดย Lu Xun
ขอบคุณครับ  :P

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 10:08 am
โดย คนอุดร
วิธีที่ฮิตที่สุดของมือใหม่คือ ลอกการบ้านคนเก่งๆ...555  :lol:

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 11:52 am
โดย miracle
[quote="คนอุดร"]วิธีที่ฮิตที่สุดของมือใหม่คือ ลอกการบ้านคนเก่งๆ...555

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 12:38 pm
โดย Lu Xun
[quote="miracle"][quote="คนอุดร"]วิธีที่ฮิตที่สุดของมือใหม่คือ ลอกการบ้านคนเก่งๆ...555

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 13, 2010 6:31 pm
โดย miracle
[quote="Lu Xun"][quote="miracle"][quote="คนอุดร"]วิธีที่ฮิตที่สุดของมือใหม่คือ ลอกการบ้านคนเก่งๆ...555

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 14, 2010 8:03 pm
โดย คนอุดร
[quote="miracle"][quote="Lu Xun"][quote="miracle"][quote="คนอุดร"]วิธีที่ฮิตที่สุดของมือใหม่คือ ลอกการบ้านคนเก่งๆ...555

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 14, 2010 8:26 pm
โดย คนอุดร
จริงๆแล้วผมว่าเราศึกษาการวิเคราะห์หลายแบบก็ดีนะครับ การวิเคราะห์แบบพื้นฐานทำให้ทราบมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ไม่ช้าก็เร็วราคาก็ต้องสะท้อนมูลค่าของมันเสมอ การวิเคราะห์ทางเทคนิคทำให้เรารู้จักจับจังหวะการซื้อขาย ส่วนการวิเคราะห์ตามแนวทฤษฏีการสุ่มก็สอนให้รู้ว่าบางทีเราก็ไม่ควรสนใจราคาในอดีตมักเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่(รวมผมด้วย)ชอบให้ความสำคัญกับราคาในอดีตมากเลยทำให้เสียโอกาส แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเลือกตามความถนัด...ขอให้มีความสุขกับการลงทุนนะครับ :roll:

มือใหม่ต้องรู้...ประเภทการวิเคราะห์หลักทรัพย์

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 28, 2010 7:50 pm
โดย chirasuke
แล้วเวลาวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่ใช้โปรแกรมอะไรครับ บางคนบอกว่าใช้โปรแกรม Meta Stock หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ และที่ผมเคยดูในรายการ Money Channel เขาใช้โปรแกรมอะไรครับ ดูน่าสนุกจัง