Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

แบบที่ว่า ไม่ไปเลย หรือ ว่าต้องไปทุกงาน เพราะโดยส่วนตัวผมให้ความสำคัญกับงานประชุมมาก ยิ่งถือหุ้นตัวไหนเยอะ ยิ่งต้องไปก่อนเวลา เพราะบางครั้งผมก็ได้กำไรมาก และ ขาดทุนน้อย กับการประชุมนี้แหละ เลยอยากทราบว่า น้องๆรุ่นใหม่ที่เพิ่งลงทุน หรือพี่ๆมือเก่า ไปประชุมกันประจำหรือเปล่าครับ  :lol:

ยังไม่มีโอกาสไปร่วมเลย อยู่ต่างจังหวัดไกลมาก อยากไปแต่คงแห้วอีก สักวันจะไปให้ได้

อยากไปเช่นกันครับ แต่อยู่ถึง หาดใหญ่ เลยปลีกตัวไปไม่ได้เลยครับ

สำหรับผม...คิดว่าสำคัญครับ ถ้ามีโอกาสควรไปทุกครั้งครับ...
 :8)

การไปประชุมผู้ถือหุ้นถือว่าสำคัญมากนะครับ  เพื่อนๆนักลงทุนหลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อเข้าร่วมประชุมด้วยนะครับ

ในการประชุมผู้ถือหุ้นหลายบริษัทมีนักลงทุนเข้าร่วมประชุมมากขึ้นเรื่อยๆครับ

ก็น่าเห็นใจสำหรับเพื่อนๆนักลงทุนส่วนใหญ่ทำงานประจำ  ไม่สามารถลางานไปร่วมประชุมผู้ถือหุ้นได้

แต่จะให้บริษัทจัดประชุมในวันหยุดก็คงไม่ไหว  เพราะมีช่วงระยะเวลาในการจัดประชุมประมาณเดือนเดียว  บริษัททั้งหมดก็หลายร้อยบริษัท  อีกทั้งพนักงานของบริษัทก็ต้องมาทำงานวันหยุดอีก

อยากไปแต่อยู่ตจว.เลยลำบาก

คุณสุยศักดิ์ ครับ
ประชุมของ TCCC ไปมามั้ยครับ
มีอะไรน่าสนใจมั้ย เล่าให้ฟังบ้างสิ
และที่อยากรู้อีก คือ เรื่อง
1 อาหาร
2 ของแจก
จริงๆผมก็อยากไป แต่ไม่เคยไป
ตั้งแต่เกิดเลย

อยากถามด้วยเลย

คือผมอายุแค่ 14 เนี่ยอะครับ  ในการประชุมผู้ถือหุ้นนั้น

แม่ผม(เป็นเจ้าของบัญชี) สามารถมอบฉันทะให้ผมไปได้ไหมครับ   อยากรู้เพราะอยากลองไปดู

1.ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบขับขี่ หรือบัตรข้าราชการ
ซึ่งน้อง อายุ14ไม่น่าจะมี
2. ในกรณีมอบฉันทะ สำเนาบัตรประจำตัวของผู้มอบฉันทะ
น้องคงต้องตามแม่เข้าไป เค้าคงให้เข้า
แต่ไปเองไม่ได้

ผมไปมาครับ แต่อยู่ไม่จบ แจกผ้าเช็ดหน้าเนื้อผ้าดีปัก ลายI LOVE TCCC แจกขนม ufm ตอนหลังประชุมนานจนถึงกลางวันแจกข้าวผัดหมูอีกกล่อง เห็นหลายคนเปิดกล่องกินในห้องประชุมเลยครับ
 ถามผมค่อนข้างเป็นการประชุมที่ใช้เวลานาน เนื่องจากผู้บริหารเป็นชาวญี่ปุ่น(โชคดีที่แกพูดภาษาอังกฤษได้เลยต้องมีการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ตลอดเวลา เลยทำให้การประชุมค่อนข้างเคลื่อนตัวไปช้ามาก) หลายปัญหามีการเจาะลึกในงบการเงินจนผู้บริหารเองต้องใช้เวลาในการหาคำตอบ(เรื่องเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์พนักงาน,เกี่ยวกับผลตอบแทนของผู้บริหาร) จริงผมอยากทราบเรื่อง เป้าหมายและทิศทางของผู้บริหารฯที่ต้องการนำบริษัทฯไปในปี2553 ทั้งในเรื่องการผลิต การตลาด และทิศทางที่บริษัทฯจะทำในอนาคต แต่ก็มีปัญหาเช่นมีคนถามเรื่องคาดการณ์ยอดขายในปี 2553 ผู้บริหารก็บอกว่าไม่สามารถตอบได้เนื่องจากเป็นบริษัทฯในตลาด ตัวเลขเหล่านั้นไม่สามารถตอบได้ ซึ่งผมก็แปลกใจ ครั้นจะถามเรื่องที่อยากถามก็กลัวว่าจะไม่ตรงกับวาระต้องรอไปถามวาระสุดท้าย แต่รอจาก 10.00 น.ถึง13.30นยังไม่จบวาระเรื่องกรรมการ เลยขอออกก่อนเลยครับ
 สำหรับผมไม่ค่อยได้อะไรมากนัก แต่ดูเหมือนผู้บริหารก็มั่นใจว่าปีนี้น่าจะรักษากำไรได้ดีพอสมควร เมื่อมีการถามถึงผลตอบแทนผู้บริหารที่เพิ่มขึ้นในปีนี้
 อีกเรื่องครับที่ดูจะเป็นข้อมูลเชิงลึก ปีที่แล้ว มาร์เก็ตแชร์ของ บริษัทฯตกเป็นอันดับ 2 แล้วครับรองจาก เจียไต๋ แต่ผู้บริหารก็มีเหตุผลที่ยอมรับได้ครับเนื่องจากปุ๋ยยูเรีย ช่วงต้นปีมีราคาตกลงมาก ทำให้มีการเปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยยูเรียมากขึ้นมาก บริษัทฯไม่สามารถจัดหาปุ๋ยยูเรีย ได้มากนัก(ข้อจำกัด supplier ที่บริษัทฯจัดซื้อ) จึงทำให้ บ.เจียไต๋ ซึ่งนำเข้าปุ๋ยยูเรีย สามารถแย่งมาร์เก็ตแชร์ไปได้ แต่ในช่วงหลังโครงสร้างตลาดก็เริ่มปรับสมดุลเข้าที่ มีการใช้ปุ๋ยเคมีของยริษัทฯมากขึ้นเนื่องจากการใช้ปุ๋ยยูเรียทำให้ผลผลิตดีสู้ปุ๋ยเคมีแบบอื่นไม่ได้
 อีกเรื่องครับ ต้นทุนสต็อกเก่าที่ซื้อแพงถูกขายหมดไปช่วงเดือนมิถุนายน ปี2552 ครับ
 ที่เหลือฝากคนอื่นเข้ามาเล่าบ้างครับ

[quote="Suysak"]แบบที่ว่า ไม่ไปเลย หรือ ว่าต้องไปทุกงาน เพราะโดยส่วนตัวผมให้ความสำคัญกับงานประชุมมาก ยิ่งถือหุ้นตัวไหนเยอะ ยิ่งต้องไปก่อนเวลา เพราะบางครั้งผมก็ได้กำไรมาก และ ขาดทุนน้อย กับการประชุมนี้แหละ เลยอยากทราบว่า น้องๆรุ่นใหม่ที่เพิ่งลงทุน หรือพี่ๆมือเก่า ไปประชุมกันประจำหรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ คุณ tanatat
ปีหน้าผมจะไป ถ้ายังถือตัวนี้อยู่
คนที่เข้าซื้อหุ้นตัวนี้ ถ้ามองในแง่ การซื้อขายหุ้นแล้วเสี่ยงมาก
ซื้อยากขายยาก
ถ้าธุรกิจ ไม่ดี ใครละจะมาตั้งบิดให้เราขาย
แต่ถ้าธุรกิจดีก็แล้วไป
สภาพทั่วไป และตัวธุรกิจ น่าจะดี
เป็นความหวัง

ให้ความสำคัญกับการประชุมผู้ถือหุ้นมากเลยค่ะ

   ถึงจะอยู่ตจว. แต่ก็จะเข้าไปประชุมทุกครั้ง 3 ปีแล้ว

   โชคดีที่ลงทุนอย่างเดียว จึงมีเวลาให้เต็มที่

    การตัดสินใจลงทุนตัวใหน ก็มีผลมาจากการไปประชุม

    อย่างน้อย ก็ไปดูโหง้วเฮ้งผู้บริหาร   :lol:  :B

อยากไปครับ แต่ส่วนใหญ่ติดงาน เลยอดไป เสียดายมากก

จิงๆ เรื่องนี้เมื่อก่อนผมก็ไม่ค่อยสนใจ เท่าไหร่แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำให้ผมคิดว่า เรื่องนี้สำคัญมาก ขอแชร์ให้ฟังก็แล้วกันนะครับ

   เมื่อสักสองสามปีมาแล้ว ผมถือหุ้นตัวหนึ่ง เนื่องด้วยหวังว่า โรงงานใหม่ที่เปิดจะช่วยผลักดันกำไรให้สูงขึ้นได้ และจะส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นด้วย หลังจากซื้อแล้วผมก็เพียรเฝ้าอดทนด้วยความใจเย็น และพยายามตามข่าวเกี่ยวกับโรงงานใหม่ตลอด ซึ่งบริษัทก็แจ้งข่าวผ่าน ตลท ว่ายังอยู่ระหว่างการดำเนินงาน และต้องเลื่อนการเปิดใช้ไปเรื่่อย จนถึงตอนทำเทสต์รัน ซึ่งถึงขั้นตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเปิดชัวๆ รอรับทรัพย์ได้เลย
     
     และแล้วก็ถึงวันประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งผมก็ไปด้วยเนื่องจากว่างพอดี มีผู้ถือหุ้นท่านนึงถามถึงโรงงานใหม่ ว่าจะเปิดใช้เมื่อไหร่ อยากทราบวันเวลาที่แน่นอน และปัญหากับผู้ร่วมทุนซึ่งไม่มีเงินจ่ายค่าหุ้นจบรือยัง ผมสังเกตุได้ชัดถึงหน้าตาผู้บริหารที่แสดงความไม่มั่นใจ ออกอาการเลิกลั่ก และเหมือนปิดบังอะไรอยู่ ซึ่งผมรู้ด้วยเซนส์เลยว่า ผิดพลาด

    กลับมาผมจึงขายหุ้นทิ้งทันทีชนิดล้างพอร์ทไม่สนใจว่าขาดทุนเท่าไหร่ ซึ่งก็แน่นอนละครับว่าบริษัทประสบปัญหาฟ้องร้องกับผู้ร่วมทุนทำให้เปิดดำเนินการไม่ได้
และต้องแบกภาระขาดทุนจากโรงงานใหม่ ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
แต่โชคดีที่ขายไปแล้ว เลยรอดตัวไปหวุดหวิด

อันนี้เป็นตัวอย่างนึง ตัวอย่างที่ดีก็มี นะครับ ประเภทรับทรัพย์ เอาไว้เขียนต่อ

:lol:

 :8)  :8)

[quote="Suysak"]จิงๆ เรื่องนี้เมื่อก่อนผมก็ไม่ค่อยสนใจ เท่าไหร่แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำให้ผมคิดว่า เรื่องนี้สำคัญมาก ขอแชร์ให้ฟังก็แล้วกันนะครับ

เห็นมีคนอยากรู้ ก็ใบ้กันหน่อยแล้วกันว่า เป็นหุ้นที่ทำวัตถุดิบเพื่อทำถนนครับ แต่พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าหุ้นนั้นดีหรือเลวนะครับ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ เพียงแต่อยากสื่อว่า การประชุมผู้ถือหุ้นสำคัญครับ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ไปร่วมประชุมกันเยอะๆครับ  :lol:

เอาละมาเล่าเรื่องตัวที่กำไรกันบ้างนะครับ

       หลังจากที่ผมเจอขาดทุนไปดอกหนึ่ง หลังจากนั้นผมก็เริ่มเห็นความสำคัญของการประชุมผู้ถือหุ้น เรียกว่าประชุมเล็กประชุมน้อยก็ไป

      เร็วๆมานี้ผมสนใจหุ้นอสังหาตัวหนึ่ง ซึ่งผมพบว่า ผู้บริหารซื้อหุ้นอย่างชนิดที่ว่า มีเท่าไหร่แกคงเก็บหมด ด้วยความที่ผมเป็นคนเล่นหุ้นที่ความรู้น้อย เห็นช้างขี้ก็ขี้ตามช้างไป ผมก็ซื้อไปเรื่อยๆ ตามๆกัน และแล้ว บริษัทก็ประกาศ เพิ่มทุนพร้อมทั้งแจกวอร์แลนต์ ซึ่งผมก็ซื้อเพิ่มเข้าไปอีก แต่การณ์กลับเป็นว่า ราคาหุ้นไม่วิ่งสักที แถมทำท่าจะลงมาที่ทุนผมด้วย ผมก็ถือไปด้วยความใจเต้นตะลึ่กตึก เนื่องจาก หุ้นตัวนี้ทำยอดขายได้เยอะจริงแต่ npm ต่ำ และจะเจอ dilution อย่างเยอะ เนื่องจากเพิ่มทุนกับแจกวอ ครึ่งๆ เลยทีเดียว

    และแล้ววันประชุมอนุมัติการเพิ่มทุนก็มาถึง ผมก็ไปด้วยเพราะจัดโรงแรมหรูดี ไปกินกาแฟสักแก้วก็ดีวะ ก็มี ผู้ถือหุ้นสอบถามมากมาย จนมาถึงวาระการอนุมัติแจกวอร์ ก็มีคนคัดค้านอยู่เป็นล้านหุ้น จนทำให้ผู้บริหารท่านนึง พูดขึ้นว่า "ผมแปลกใจจิงๆ ไม่เอาวอร์กันหรือไง " ผมฟังปุ้บก็หูผึ่งเนื่องจากน้ำเสียงท่านฟังดูแปลกใจกับเสียงคัดค้าน และดูมั่นใจเอามากๆว่า เป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นทุกคน ผมจากการที่สองจิตสองใจ ว่าจะถือต่อดีไหม ก็เลยถือต่อ

   สรุปหลังจากแจกวอร์แล้ว ทั้งแม่ทั้งลูก ก็วิ่งหน้าตั้งก็ยังรักเธอ ผมก็สบายแฮไป (ขายหมู)  :B