Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เห็นในเวปไม่ค่อยมีคนพูดถึง กลุ่มธนาคาร เลยครับ

1.หรือเป็นเพราะว่าธนาคาร ROA น้อยครับ(หนี้มาก)

2.ธนาคารเป็นหุ้นอนุรักษ์นิยมได้ไหมครับ

3.เป็นหุ้นวัฏจักรใช้ไหมครับ

ko_hisashi เขียน:เห็นในเวปไม่ค่อยมีคนพูดถึง กลุ่มธนาคาร เลยครับ

1.หรือเป็นเพราะว่าธนาคาร ROA น้อยครับ(หนี้มาก)

2.ธนาคารเป็นหุ้นอนุรักษ์นิยมได้ไหมครับ

3.เป็นหุ้นวัฏจักรใช้ไหมครับ

ไม่เป็นที่นิยมน่าจะเพราะ
1.ไม่มีเจ้าใหนที่ได้เปรียบคู่แข่งอย่างชัดเจน กับ
2.การปล่อยสินเชื่อ นักลงทุนตรวจสอบความโปร่งใสยาก
มั้งครับ

รอผู้รู้มาให้ความกระจ่างเพิ่มอีกทีน๊ะครับ

เพราะธนาคาร รับความเสี่ยงของทุกกลุ่มธุรกิจไว้ในสินเชื่อ
แต่หุ้นตัวอื่น มีแค่ความเสี่ยงของธุรกิจตัวเอง
(vi เลือกได้ว่างั้น)

สำหรับผมเป็นเพราะ ผมคิดว่ามันไม่น่าจะ Growth อ่ะครับ จึงคิดว่าเหมาะสำหรับจะเล่นรอบดักทาง Fund flow มากกว่า

1 . น่าจะไม่ถูกครับ
2 . น่าจะโตช้าครับ
3 . น่าจะปันผลไม่โดนใจครับ

เช่น bbl เมื่อหลายปีก่อน อยู่ที่ราว 100 หน่อยๆ  วิ่งขึ้นวิ่งลง ผ่านมา 3 - 4 ปี ตอนนี้ 120 บาท  
กำไรราวๆ 10 กว่าๆ - 20 % ภายใน 3-4 ปี มันไม่ค่อยน่าจูงใจ ครับ

แต่ว่าหุ้นธนาคารไม่ใหญ่ที่แปรผันไปเน้นสินเชื่อ ก็น่าจะดูดี นะคับ แล้วแต่มุมมอง มั๊งครับ

ผมมองว่าส่วนมากราคาจะFairหมดแล้วครับ Upsideไม่เยอะครับอิอิ

Too Hard

วิเคราะห์ยากครับ รางานประจำปีขนาดธนาคารเล็กๆ นี่หนามากครับ
อ่านไม่ไหวจริงๆ

yoyo เขียน:Too Hard

สุดยอด สั้น ๆ ได้ใจความ

yoyo เขียน:Too Hard

เห็นด้วยอีกคน ผมวิเคราะห์ธุรกิจแบงค์ไม่ออก

Bank ดู ROA ไม่ได้ครับ เพราะเป็น other's money business

และส่วนของผู้ถือหุ้นน้อย leverage  สูง เอาแค่มี NPL เกิดขึ้น 10% ก็กินทุนหมดแล้วครับ ธุรกิจมี economic value add น้อย

วิเคราะห์แบบคนไม่ค่อยรู้นะครับ  :oops:

เห็นด้วยครับ วิเคราห์พื้นฐานยากมากๆๆ

Banking Industry เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ละเอียดอ่อนต่อภาวะเศรษฐกิจ มีต้นทุนทางกฏระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามเยอะ และที่สำคัญการโตเร็วเกินไป ความเสี่ยงที่แบงค์ไม่สามารถยอมรับได้ครับ

แต่อุตสาหกรรมแบงค์ ที่ดูไม่น่าสนใจ ก็มีโอกาสอยู่ครับ จะดูว่าแบงค์ไหนดี มั่นคง ดูได้เบื้องต้นดังนี้ครับ

1. ฐานเงินฝากที่มีต้นทุนต่ำ - คือมีสัดส่วนบัญชีกระแสรายวัน และสะสมทรัพย์เยอะ (Cost รวมต่ำ)
2. สัดส่วนสินเชื่อ ที่มีดอกเบี้ยค่อนข้างสูง (Yield รวมสูง ทำให้ NIM สูง)
3. คุณภาพสินทรัพย์ - %NPLs และ จำนวน NPLs (Absolute NPL) ที่เหมาะสมกับสินทรัพย์ที่มี

ซึ่งหากเรารู้โครงสร้างเงินฝาก โครงสร้างสินเชื่อ โครงสร้าง NPLs ของแต่ละแบงค์ ก็จะทราบครับว่า ในภาวะเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะขาขึ้น หรือขาลง แบงค์ไหน ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนครับ

สำหรับหลักในการวิเคราะห์แบงค์จริงๆ ต้องดูตามนี้ครับ
CAMEL :
Capital Adequacy - ความเพียงพอของเงินกองทุน - CAR Ratio
Asset Quality - คุณภาพสินทรัพย์ - NPLs , Provision/NPLs
Management - การบริหารจัดการ - cost to income
Earning - ความสามารถในการทำกำไร - NIM SPREAD ROA ROE
Liquidity - สภาพคล่อง - สัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝาก

เมื่อเห็น Ratio ทั้งหมด ก็จะทราบสุขภาพในแต่ละแบงค์ครับ ว่ามีไขมันเยอะหรือไม่ หรือเข้มแข็งเพียงใด

หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ

1) อาจจะไม่ยากเกินความสามารถครับแต่มีตัวเลือกอื่นที่ง่ายกว่า  :lol:

2) เป็นธุรกิจที่สถาบันและต่างชาติมีข้อมูลและนักวิเคราะห์โดยเฉพาะ ทำให้โอกาสที่จะเจอหุ้นธนาคารราคาที่ต่ำมีน้อย

สรุปก็คือ

ใช้ทรัพยากรสูง โอกาสชนะน้อย
ไม่คุ้มในการทำศึก

ยังเพลี้ยงพล้ำไม่พอ เลยไม่ค่อยมีส่วนต่างทางพื้นฐานจนน่าสนใจ  :twisted:

สำหรับผมที่ไม่ลงทุน เพราะ เคยทำงานแบงค์มา 4 ปี แล้วก็รู้ว่า ชีวิตนี้คงไม่มีทางอ่านงบแบงค์รู้เรื่อง มีอะไรๆ อยู่นอก balance sheet เต็มไปหมด วันดี คืนดี ก็ระเบิดมาให้งงเล่น

ถ้าประเทศไทยใช้ IAS39 งบคงจะอ่านง่ายขึ้น นิดนึง แต่ก็ไม่มีทางเข้าใจได้อยู่ดี

สรุป... ยากเกินความสามารถครับ...

ไม่มีเจ้าของเป็นทางการ
หลายๆธนาคารผู้ถือเป็นสถาบัน
คงโตแบบก้าวกระโดดยากครับ

เท่าที่เคยอ่านความเห็นมา
ส่วนใหญ่พี่ๆผู้ชำนาญหลายท่านจะบอกว่า
ยากเกินไป ครับ รายงานประจำปีหนามาก อ่านไม่ไหว
มีตัวอื่นที่ง่ายกว่าให้เลือกอีกเยอะ

Diablo เขียน:เท่าที่เคยอ่านความเห็นมา
ส่วนใหญ่พี่ๆผู้ชำนาญหลายท่านจะบอกว่า
ยากเกินไป ครับ รายงานประจำปีหนามาก อ่านไม่ไหว
มีตัวอื่นที่ง่ายกว่าให้เลือกอีกเยอะ

เหมาะสำหรับชั่งกิโลขาย อิอิ

ผมว่าธนาคารเล็กเล็ก ที่ยังโตเปนเท่าตัวได้ก็ยังมีอยู่อีกหลายแบงค์นะครับ

ถ้าย้อนกลับไปในอดีต จะเห็นว่า ไม่มีเจ้าสัวคนไหนยังเป็นเจ้าของแบงค์แล้วครับ เนื่องจากต้องมีการเพิ่มฐานทุนตลอด สุดท้ายก็ต้องกระจายหุ้นออกไปให้ผู้อื่นมาช่วยเพิ่มทุน คิดในแนว VI เหมือนกับเราเป็นเจ้าของเหมือนเจ้าสัว ก็ไม่น่าจะถือยาวได้ครับ

แล้วแต่ช่วงเวลาที่ เห็นโอกาสครับ

ดู บัฟเฟต ช่วงแฮมเบอเกอร์  ไครซีส   ยังซื้อแบงค์ในเมกาเลย

แล้วแต่แนวทาง VI ของแต่ละคนครับ VI หลายๆคนก็เลือกลงทุนในธนาคารครับ หนึ่งในหุ้นที่บัฟเฟตชอบมากที่สุดก็เป็นธนาคาร Wells Fargo ครับ ขนาดช่วยเทรนลูกของเจ้าของด้วยครับ ส่วน ปีเตอร์ ลินซ์ ก็ชอบธนาคารขนาดจัดเป็นพอร์ตหุ้นธนาคารแยกเป็นหมวดหมู่ Savings and Loan ต่างหากในการลงทุน

ผมก็ลงทุนในกลุ่มแบงค์ครับ