Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หุ้น ASSET รูดติดฟลอร์ เพราะผู้ถือหุ้นหมดสิทธิ์นำมาแลกเป็นหุ้น AST แล้ว และกลายเป็นหุ้นที่แทบไม่มีค่าเพราะ ASSET จะต้องถูกเพิกถอนออกจากตลาดและ ขายใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ออกไป สิทธิการ

ถือหุ้นใน ASSET ก็คงต้องตามไปด้วยถือเป็นบทเรียนของนักลงทุนหรือผู้ถือหุ้น ที่ไม่ศึกษาข้อมูลและติดตามข่าวสารของหุ้นที่ตัวเองถืออยู่ ซึ่ง ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ผู้บริหารและอดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ ASSET ระบุว่า นอกจากตัวผู้ลงทุนเองแล้ว มาร์เกตติ้งที่ส่งคำสั่งซื้อก็น่าจะบอกหรือเตือนนักลงทุนที่เข้ามาซื้อในช่วง 1-2 วันนี้ด้วย

แต่จากการตรวจสอบพบว่าหุ้น ASSET ประมาณ 1% กว่าๆที่ตกค้าง และซื้อขายกันในกระดานนั้นส่วนใหญ่เป็นการเทรดผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งน่าจะเป็นพวกเก็งกำไร ที่ทะเล่อทะล่าเข้าไปแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ หุ้นที่ถืออยู่จึงแทบเป็นเศษกระดาษ!!

คราวหน้าคราวหลังจะเล่นหุ้นก็ควรติดตามศึกษาข้อมูลตัวหุ้นที่จะเข้าไปซื้อขายให้ดี แต่ก็น่าเห็นใจถ้าเป็นไปได้น่าจะ ต่อเวลา เปิดโอกาสให้พวกตกค้างมาสวอปหุ้นได้อีกซักรอบ เพราะแค่ 1% กว่าๆนี้สำหรับรายย่อยแล้วมูลค่ามันก็หนักหนาเอาการอยู่!!

ผมคิดว่า ตลาดน่าจะทบทวนขึ้น sp กับหุ้นทุกตัว ที่ มีการ ทำ tender เพื่อออกจากตลาด นะครับ ยิ่งกรณีนี้ ยิ่งเป็น กรณีศึกษาที่แพงมาก สำหรับ นักลงทุนที่ รู้ หรือไม่รู้ หรือ รู้ แต่อยากเสี่ยง หวัง การ tender รอบสอง หรือ ลุ้นการ rebound ในวัน

ผมคิดว่า น่าจะ มี การ ใช้วิธี เดียวกับ วอร์ ทั้งหลาย ที่ จะโดน sp ก่อนหมดอายุจริง

และแต่ละโบรก รวมทั้งมาร์เอง ก็น่า จะ มี จดหมายและโทรศัพท์ ถึงนักลงทุนเพื่อเตือนให้ดำเนินการ โดยด่วนด้วย ก็จะเป็นการ ป้องกัน ความเสียหาย หรือ ความหลงลืม ความไม่ได้ติดตามหุ้นในพอร์ท เพราะ มองว่าจะลงทุนยาว หรือว่างานยุ่งจนไม่ได้ติดตาม นะครับ เพราะ มันเป็นความ เสียหายที่ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดได้หาก ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือ กัน ควบคุม

พูดง่ายๆ มันก็คือการเอาเปรียบ ของเจ้าของ ในขณะที่ กลต. ก็เออออตาม ล่ะครับ

ยังจะมาว่าผู้ที่ซื้อในวันนี้อีก ว่าควรติดตามข่าวสาร

การกำหนดกฎแบบนี้มา ใครได้เปรียบ ใครเสียเปรียบ น่าจะรู้อยู่ เพราะการประกาศข่าวสาร ก็ไม่แฟร์แล้ว

อยากให้ผู้รู้มาช่วยตอบจัง ว่าทำไมเขาไม่โอนให้มันอัตโนมัติไปเลย (ถ้าเขาไม่ได้คิดเอาเปรียบผู้ที่ไม่รู้ข่าวสาร)

แล้วหุ้นที่ตกค้าง กลายเป็นเศษกระดาษ ตัวเงินนมันไปตกอยู่ที่ไหนล่ะครับ

ผมได้รับ email จาก broker เตือนเกี่ยวกับ หุ้น asset ว่าให้ไปเปลี่ยนหุ้น ก่อนวันหมดอายุ ประมาณ 1 อาทิตย์ด้วยครับ

e-mail ก็ถือว่ายังไม่โอเคครับ ถ้าไม่ได้เล่นเน็ตล่ะ

มีการส่งทางไปรษณีย์แบบลงเบียนหรือเปล่า หรือโทรตามเลยอ่ะมีหรือเปล่า

Phaisarn wrote:---ผมได้รับ email จาก broker เตือนเกี่ยวกับ หุ้น asset ว่าให้ไปเปลี่ยนหุ้น ก่อนวันหมดอายุ ประมาณ 1 อาทิตย์ด้วยครับ



ผมอยากทราบชื่อโบรกดีดีเช่นนี้ ด้วยครับ ขอบคุณครับ

ผมใช้ บริการ ของ seamico อยู่ครับ เห็นเล่นทางซื้อขาย ผ่านเนต กลัวไม่เจอ มาร์ เลยส่งเมล์มาเตือนมั้งครับ

อ่านข่าวassetมาหลายกระทู้ ว่ามีหุ้นตกค้างอยู่ประมาณ 1% จะกลายเป็นเศษกระดาษ พอดีจำได้ว่าตอนบ่ายดูข่าว ดร.ก้องเกียรติ บอกจะขายใบอนุญาติทิ้ง
ไอ้ค่าใบอนุญาตินี่ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่ แล้วเงินที่ขายได้นี่มันก็น่าจะเป็นของผู้ถือหุ้นที่เหลือไม่ใช่เหรอ ยิ่งเหลือหุ้นส่วนน้อยๆก็น่าจะแบ่งกันได้เยอะ(หรือเปล่า?)
พอดีไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้ และไม่มีหุ้นasset เลยไม่ได้ค้นคว้าละเอียด
ใครพอรู้ช่วยเล่าให้ฟังกันหน่อย เห็นมีแต่ข่าวว่าคนซื้อโง่บ้าง มาร์ไม่ทำหน้าที่บ้าง
ไม่มีใครพูดถึงแง่นี้กันเลย(ค่าใบอนุญาตินี่มันแพงเอาเรื่องไม่ไช่หรือ)

ผมคิดว่าใบอนุญาติ ขายได้เท่าไหร่ ก็ เข้างบของ ast นะครับ ไม่ใช่คนที่ยังถือหุ้น asset นะครับ

เพราะ asset ขายทุกสิ่งทุกอย่างให้ ast นะครับ

รอฟังความเห็นท่านอื่นนะครับ

เห็นด้วยกับคุณ Man ครับ

พวกเรารายย่อย ก็ต้องคอยดูกันต่อไป เพราะไม่รู้จริงๆครับ ว่าจะเป็นไงต่อไป

22 เมษายน 2547

เรื่องการตั้งคำสั่งซื้อหุ้น ASSET ที่เหลือ
เรียนกรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่บริษัทหลักทรัพย์ เอบีเอ็น แอมโร เอเซีย จำกัด (บริษัทฯ) ได้ทำคำเสนอซื้อหุ้นของบริษัท
หลักทรัพย์ แอสเซท พลัส จำกัด (มหาชน) (แอสเซท พลัส) ในช่วงวันที่ 10 มีนาคม - 19 เมษายน
2547 โดยขณะนี้ได้พ้นกำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อดังกล่าวไปแล้ว ความทราบอยู่แล้วนั้น

ปรากฏว่ายังมีหุ้นแอสเซท พลัส ที่มิได้ขายผ่านการทำคำเสนอซื้อดังกล่าว อยู่จำนวน 231,033 หุ้น
คิดเป็นร้อยละ 0.39 ของจำนวนหุ้นของแอสเซท พลัสทั้งหมด โดยที่ แอสเซท พลัส จะถูกเพิกถอน
หลักทรัพย์ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจะมีการโอนย้ายธุรกิจและทรัพย์สินมายัง
บริษัทฯ ส่งผลให้แอสเซท พลัส กลายเป็นบริษัทที่ไม่มีการทำธุรกรรมใดๆ (dormant company)
และไม่มีรายได้ประจำอื่นใดภายหลังจากการควบรวมกิจการแล้ว

บริษัทฯ จึงได้ปรึกษากับสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และได้ข้อสรุปเพื่อเสนอทางออกให้แก่
ผู้ถือหุ้นของแอสเซท พลัส ที่เหลืออยู่ โดยบริษัทฯ จะทำการตั้งคำสั่งซื้อหุ้นของแอสเซท พลัส
ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ราคา 25 บาท ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงกับราคาปิดของวันที่
21 เมษายน 2547 ทั้งนี้ บริษัทฯจะทำการตั้งคำสั่งซื้อดังกล่าวไปจนถึงวันที่ แอสเซท พลัส
ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ จนกว่าจะซื้อหุ้นได้ครบ 231,033
หุ้น แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน

จึงเรียนมาเพื่อทราบ


ขอแสดงความนับถือ




(นายประทีป ยงวณิชย์)
กรรมการผู้อำนวยการ

ปย/พส/ชต

thank you krab.