ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 10, 2010 3:57 pm
เมื่อ 4 เดือนก่อน ดิฉันเคยมาปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และหุ้น
ได้รับคำแนะนำดีๆจากพี่ๆในห้องนี้มากมาย ขอขอบคุณสำหรับครั้งนั้นด้วยคะ
กระทู้เดิมค่ะ (มีการปรับตัวเลขให้ถูกต้องในกระทู้นี้ค่ะ)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0
ตอนนั้นปรึกษาเรื่องจะขายคอนโดทิ้งเพราะรายได้ของครอบครัวไม่พอกับรายจ่ายเนื่องจากซื้ออสังหาริมทรัพย์มากเกินไป
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้วิธีขายทิ้ง แต่เอาคอนโดไปค้ำกับธนาคารและเอาเงินออกมาหมุนแทนค่ะ เพราะต้องการใช้เงินสดด่วน
แต่ตอนนี้ดิฉันหางานทำได้แล้ว ซึ่งๆจริงๆแล้วก็สามารถช่วยแม่ผ่อนได้ แต่จะไม่มีเงินเย็นและเงินเก็บจะเหลือน้อยมากคะ
และในความคิดของดิฉันคิดว่า การลงเงินทั้งหมดในอสังหาริมทรัพย์มันก็มีความเสี่ยงเรื่องฟองสบู่และสภาพคล่องอยู่มากคะ
ดิฉันเลยจะเอาเงินมากระจายลงทุนในหุ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและหาสภาพคล่องค่ะ ประกอบกับคุณแม่ก็เริ่มไว้ใจ
ในการให้เงินไปลงทุนมากขึ้น เพราะดิฉันมีรายได้เป็นของตัวเอง และมีวุฒิภาวะมากขึ้นค่ะ
ข้อมูลอาจจะยาวมากๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ สิ่งที่จะถามในวันนี้คือ คอนโด 3 ที่นี้ ถ้าเป็นพี่ๆ จะเลือกขายที่ไหนดีค่ะ (วิธีคำนวณ ข้างล่าง ขอให้ Credit คุณ picklife ค่ะ )
1. AP life@ Ratchada
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11 (จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน)= 165,000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินดาวน์ +Furniture+ Built in 400,000 บาท
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 5% ต่อ ปี = 100,000 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 5% ต่อ ปี = 100,000 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,700,000 = 5.5% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/400,000 = 37% ต่อ ปี
ที่นี่คิดว่าจะเก็บไว้ค่ะ เพราะชอบตัวตึก ห้องใหญ่ อยู่ชั้นสูง วิวจากห้องสวยมาก ทำเลดีมากๆค่ะ
2. LPN Grand park view Asoke@ Sukhumvit 21
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11(จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน) = 165000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินดาวน์ +Furniture+ Built in = 500,000
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 4.5% ต่อ ปี = 83,250 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 4.5% ต่อ ปี = 83,250 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,800,000 = 5.3% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/500,000 = 29.7% ต่อ ปี
ข้อดี - เป็นแหล่งย่านธุรกิจ คนต่างชาติเยอะ
- ห่างจาก บีทีเอส ประมาณ 800 เมตร /เอ็มอาร์ที 600 เมตร
- จะมีห้าง Terminal 21 มาเปิดใหม่ในอนาคต
- ใกล้ สถานีใหญ่ มักกะสัน เดินทางไปสุวรรณภูมิได้สะดวก
- นโยบายโครงการจะมีการทาสีตึกใหม่ทุก 3 ปี
ข้อเสีย - รถติดมากทั้งช่วงเช้าและเย็น
- แม้จะติดทั้ง บีทีเอสและเอ็มอาร์ที แต่เดินเท้าค่อนข้างไกล ต้องพึ่งพี่วินในการเข้าออก
- คนพลุกพล่าน
3. Condo one @ Sukhumvit 52
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11(จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน) = 165000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินที่จ่ายไปแล้ว = 1,800,000 (เนื่องจากมีเหตุให้ต้องใช้เงินกระทันหันปีก่อน เลยเอาคอนโดไปกู้ออกมา 1,000,000)
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 5 % ต่อ ปี = 50,000 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 5 % ต่อ ปี = 50,000 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,800,000 = 5.3% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/1,800,000 = 8.25% ต่อ ปี
ข้อดี - ใกล้ โลตัส อ่อนนุช และตลาด
- ทำเลและบรรยากาศเงียบสงบ คนในตึกไม่พลุกพล่าน
ข้อเสีย - ทำเลเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะหากอนาคตอันใกล้
บีทีเอส อ่อนนุช ไม่ใช่สถานีปลายทาง ผู้คนอาจจะไม่ลงสถานีนี้เยอะ
และในทางที่แย่ที่สุดคือตลาดอาจจะอยู่ไม่ได้ค่ะ
4. ในกรณีเลือกขาย คอนโดวันทิ้งจะเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 1,800,000 บาท แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน
- ลงทุนในหุ้น 1,000,000 บาท คิดผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี = 100,000-150,000 บาท ต่อ ปี (เน้นหุ้นปันผลค่ะ)
- หมุนธุรกิจร้าน 300,000 บาท
- เงินเย็น 500,000 บาท
รายจ่ายต่อปี (ไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางในแต่ละเดือน)
AP life@ Ratchada 16000(ผ่อนต่อเดือน)-15000 = 1000x11 = 11000+16000= 28000 บาท
LPN Grand park view Asoke 19000(ผ่อนต่อเดือน)*12 = 228,000 บาท
ประกันชีวิต 100000
ค่าส่วนกลางคอนโด 2 แห่ง 35,000
รวมรายจ่ายต่อปี(ไม่รวมค่ากิน) 28000+228000+100000+35000 = 391,000 บาท
5. ในกรณีเลือกขาย คอนโดวันทิ้งจะเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 800,000 บาท
ลงทุนในหุ้น 500,000 บาท คิดผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี = 50,000-75,000 บาท ต่อ ปี
หมุนธุรกิจร้าน 300,000 บาท
เงินเย็น (ออมเป็นรูปของเงินเก็บจากรายได้ในแต่ละเดือน)
รายจ่ายต่อปี (ไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางในแต่ละเดือน)
- AP life@ Ratchada 16000-15000 = 1000x11 = 11000+16000= 28000 บาท ต่อปี
- Condo one (กู้เงินออกมาปีที่แล้ว 1,000,000) ผ่อนเดือนละ 10,000*12 = 120,000 บาทต่อปี
- ประกันชีวิต 100000
- ค่าส่วนกลาง คอนโด 2 แห่ง 35,000
รวมรายจ่ายต่อปี(ไม่รวมค่ากิน) 28,000+120,000+100,000+35,000 = 283,000 บาท
รายได้ของดิฉัน ประมาณ 460,000 บาทต่อปี (รายได้ค่อนข้างมั่นคง เพราะทำงานบริษัทค่ะ)
รายได้ของคุณแม่ ประมาณ 300,000-1,000,000 บาท ต่อปี (ธุรกิจค้าขาย รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจอย่างมากค่ะ)
ถ้าพิจารณาจาก
1. ทำเล ของคอนโดทั้ง 2 แห่ง
2. ความเหมาะสมของเงินสดที่เหลือจากการขายคอนโดแห่งใดแห่งหนึ่งและแบ่งไปลงทุนในหุ้น
3. จำนวนหนี้สินต่อปี และ รายได้ของดิฉันกับคุณแม่
4. หลังจากขายทิ้ง คอนโดที่เหลืออยู่ 2 ที่ ก็จะอยู่เองที่หนึ่ง และปล่อยเช่าอีก 1 ค่ะ
ถ้าพี่ๆอยู่ในสถาณการณ์แบบเดียวกันนี้จะเลือกเก็บคอนโดแห่งไหนไว้คะ ขอทราบเหตุผลด้วยค่ะ
ถ้าข้อมูลคำนวณผิดพลาดหรือต้องการองค์ประกอบอื่นๆในการพิจารณา สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ และที่สำคัญมีข้อคิดและคำแนะนำใดๆ เชิญได้เลยค่ะ
ได้รับคำแนะนำดีๆจากพี่ๆในห้องนี้มากมาย ขอขอบคุณสำหรับครั้งนั้นด้วยคะ
กระทู้เดิมค่ะ (มีการปรับตัวเลขให้ถูกต้องในกระทู้นี้ค่ะ)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0
ตอนนั้นปรึกษาเรื่องจะขายคอนโดทิ้งเพราะรายได้ของครอบครัวไม่พอกับรายจ่ายเนื่องจากซื้ออสังหาริมทรัพย์มากเกินไป
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้วิธีขายทิ้ง แต่เอาคอนโดไปค้ำกับธนาคารและเอาเงินออกมาหมุนแทนค่ะ เพราะต้องการใช้เงินสดด่วน
แต่ตอนนี้ดิฉันหางานทำได้แล้ว ซึ่งๆจริงๆแล้วก็สามารถช่วยแม่ผ่อนได้ แต่จะไม่มีเงินเย็นและเงินเก็บจะเหลือน้อยมากคะ
และในความคิดของดิฉันคิดว่า การลงเงินทั้งหมดในอสังหาริมทรัพย์มันก็มีความเสี่ยงเรื่องฟองสบู่และสภาพคล่องอยู่มากคะ
ดิฉันเลยจะเอาเงินมากระจายลงทุนในหุ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและหาสภาพคล่องค่ะ ประกอบกับคุณแม่ก็เริ่มไว้ใจ
ในการให้เงินไปลงทุนมากขึ้น เพราะดิฉันมีรายได้เป็นของตัวเอง และมีวุฒิภาวะมากขึ้นค่ะ
ข้อมูลอาจจะยาวมากๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ สิ่งที่จะถามในวันนี้คือ คอนโด 3 ที่นี้ ถ้าเป็นพี่ๆ จะเลือกขายที่ไหนดีค่ะ (วิธีคำนวณ ข้างล่าง ขอให้ Credit คุณ picklife ค่ะ )
1. AP life@ Ratchada
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11 (จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน)= 165,000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินดาวน์ +Furniture+ Built in 400,000 บาท
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 5% ต่อ ปี = 100,000 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 5% ต่อ ปี = 100,000 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,700,000 = 5.5% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/400,000 = 37% ต่อ ปี
ที่นี่คิดว่าจะเก็บไว้ค่ะ เพราะชอบตัวตึก ห้องใหญ่ อยู่ชั้นสูง วิวจากห้องสวยมาก ทำเลดีมากๆค่ะ
2. LPN Grand park view Asoke@ Sukhumvit 21
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11(จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน) = 165000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินดาวน์ +Furniture+ Built in = 500,000
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 4.5% ต่อ ปี = 83,250 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 4.5% ต่อ ปี = 83,250 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,800,000 = 5.3% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/500,000 = 29.7% ต่อ ปี
ข้อดี - เป็นแหล่งย่านธุรกิจ คนต่างชาติเยอะ
- ห่างจาก บีทีเอส ประมาณ 800 เมตร /เอ็มอาร์ที 600 เมตร
- จะมีห้าง Terminal 21 มาเปิดใหม่ในอนาคต
- ใกล้ สถานีใหญ่ มักกะสัน เดินทางไปสุวรรณภูมิได้สะดวก
- นโยบายโครงการจะมีการทาสีตึกใหม่ทุก 3 ปี
ข้อเสีย - รถติดมากทั้งช่วงเช้าและเย็น
- แม้จะติดทั้ง บีทีเอสและเอ็มอาร์ที แต่เดินเท้าค่อนข้างไกล ต้องพึ่งพี่วินในการเข้าออก
- คนพลุกพล่าน
3. Condo one @ Sukhumvit 52
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11(จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน) = 165000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินที่จ่ายไปแล้ว = 1,800,000 (เนื่องจากมีเหตุให้ต้องใช้เงินกระทันหันปีก่อน เลยเอาคอนโดไปกู้ออกมา 1,000,000)
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 5 % ต่อ ปี = 50,000 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 5 % ต่อ ปี = 50,000 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,800,000 = 5.3% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/1,800,000 = 8.25% ต่อ ปี
ข้อดี - ใกล้ โลตัส อ่อนนุช และตลาด
- ทำเลและบรรยากาศเงียบสงบ คนในตึกไม่พลุกพล่าน
ข้อเสีย - ทำเลเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะหากอนาคตอันใกล้
บีทีเอส อ่อนนุช ไม่ใช่สถานีปลายทาง ผู้คนอาจจะไม่ลงสถานีนี้เยอะ
และในทางที่แย่ที่สุดคือตลาดอาจจะอยู่ไม่ได้ค่ะ
4. ในกรณีเลือกขาย คอนโดวันทิ้งจะเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 1,800,000 บาท แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน
- ลงทุนในหุ้น 1,000,000 บาท คิดผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี = 100,000-150,000 บาท ต่อ ปี (เน้นหุ้นปันผลค่ะ)
- หมุนธุรกิจร้าน 300,000 บาท
- เงินเย็น 500,000 บาท
รายจ่ายต่อปี (ไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางในแต่ละเดือน)
AP life@ Ratchada 16000(ผ่อนต่อเดือน)-15000 = 1000x11 = 11000+16000= 28000 บาท
LPN Grand park view Asoke 19000(ผ่อนต่อเดือน)*12 = 228,000 บาท
ประกันชีวิต 100000
ค่าส่วนกลางคอนโด 2 แห่ง 35,000
รวมรายจ่ายต่อปี(ไม่รวมค่ากิน) 28000+228000+100000+35000 = 391,000 บาท
5. ในกรณีเลือกขาย คอนโดวันทิ้งจะเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 800,000 บาท
ลงทุนในหุ้น 500,000 บาท คิดผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี = 50,000-75,000 บาท ต่อ ปี
หมุนธุรกิจร้าน 300,000 บาท
เงินเย็น (ออมเป็นรูปของเงินเก็บจากรายได้ในแต่ละเดือน)
รายจ่ายต่อปี (ไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางในแต่ละเดือน)
- AP life@ Ratchada 16000-15000 = 1000x11 = 11000+16000= 28000 บาท ต่อปี
- Condo one (กู้เงินออกมาปีที่แล้ว 1,000,000) ผ่อนเดือนละ 10,000*12 = 120,000 บาทต่อปี
- ประกันชีวิต 100000
- ค่าส่วนกลาง คอนโด 2 แห่ง 35,000
รวมรายจ่ายต่อปี(ไม่รวมค่ากิน) 28,000+120,000+100,000+35,000 = 283,000 บาท
รายได้ของดิฉัน ประมาณ 460,000 บาทต่อปี (รายได้ค่อนข้างมั่นคง เพราะทำงานบริษัทค่ะ)
รายได้ของคุณแม่ ประมาณ 300,000-1,000,000 บาท ต่อปี (ธุรกิจค้าขาย รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจอย่างมากค่ะ)
ถ้าพิจารณาจาก
1. ทำเล ของคอนโดทั้ง 2 แห่ง
2. ความเหมาะสมของเงินสดที่เหลือจากการขายคอนโดแห่งใดแห่งหนึ่งและแบ่งไปลงทุนในหุ้น
3. จำนวนหนี้สินต่อปี และ รายได้ของดิฉันกับคุณแม่
4. หลังจากขายทิ้ง คอนโดที่เหลืออยู่ 2 ที่ ก็จะอยู่เองที่หนึ่ง และปล่อยเช่าอีก 1 ค่ะ
ถ้าพี่ๆอยู่ในสถาณการณ์แบบเดียวกันนี้จะเลือกเก็บคอนโดแห่งไหนไว้คะ ขอทราบเหตุผลด้วยค่ะ
ถ้าข้อมูลคำนวณผิดพลาดหรือต้องการองค์ประกอบอื่นๆในการพิจารณา สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ และที่สำคัญมีข้อคิดและคำแนะนำใดๆ เชิญได้เลยค่ะ