หน้า 1 จากทั้งหมด 2

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 12:32 pm
โดย ซากคน
เพื่อนๆคนไหน มีความสุขของชีวิตส่วนใหญ่ ที่เกิดจากความสำเร็จส่วนตัวบ้างครับ   ผมเองมีตัวอย่างส่วนตัว ที่น่าแปลกใจว่า ทำมาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่เคยเกิดความเบื่อเลย  แถมพอมารู้จักการลงทุนแล้ว ทำให้ความเพลิดเพลินพัฒนาขึ้น กลายเป็นความมันส์ที่ยังหาอะไรมาทดแทนไม่ได้  ในตอนนี้คือการออมและลงทุน  ผมเองเคยเล่าให้เพื่อนๆฟังในบางกระทู้ว่า ผมมีความฝันที่สักวัน ผมจะสามารถออมได้เข้าใกล้สัดส่วน 99 % ของรายได้  

สำหรับช่วงเวลานี้  เป็นช่วงเริ่มต้นที่สำคัญมากๆ กับการลงทุนในหุ้นของผม มีการตัดเงินออมที่ถือมานานเข้าซื้อหุ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อเงินออมที่มีทั้งหมด ด้วยเพราะผมเริ่มที่จะหาหุ้นที่น่าสนใจลงทุนได้แล้ว ซึ่งต่อไปผมคาดหวังว่าด้วยพลังของการออมและการลงทุน ผมน่าจะมีโอกาสทำให้เป้าหมายทางการเงินเป็นจริงได้ตามเป้าหมาย    กลับมาที่การออมเงิน กิจกรรมสุดมันส์...เดือนเมษายน ที่ผ่านมา วันหยุดเยอะ  สำหรับผมเป็นเดือนที่ผมออมได้สัดส่วนสูงที่สุด ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยครับ

                   Historical Saving Ratio

                       Target      Output  
 
     Feb '10        68%          70%   --- เดือนแรกที่มีการบันทึก
     Mar '10         80%          73%          
       Apr '10       79%          82%   ------- NEW RECORD !!!

ทุกครั้งที่ผมตั้งใจจะออม ผมมีความรู้สึกไม่ต่างกับ นักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกทีไม่ได้หวังแค่เหรียญทองทุกประเภท  แต่ต้องการที่จะทุบสถิติเก่าของนักกีฬาคนอื่นลง  เพื่อที่จะสร้างสถิติใหม่ให้กับวงการนั้นๆอย่างที่  เอียน ธอร์ป  เจ้าของสถิติ ใน OLYMPIC  2001 และล่าสุด  ไมเคิล เฟลป์ส  ผู้ทุบทุกสถิติ ทุกประเภท ใน OLYMPIC 2008  

แน่นอนครับว่า  การออมเงินคงไม่มีใครมานั่งเชียร์ และให้เกียรติสัมภาษณ์เราออกอากาศ และตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ อย่างที่นักกีฬาหลายคนได้รับแต่ถึงอย่างนั้น เราก็สามารถจินตนาการตัวเองและมองเห็นตัวเองเป็นนักกีฬาคนนึงที่เตรียมโดดออกจากขอบสระ และจินตนาการไปอีกว่า record เก่าๆ นั้นเป็นของคู่แข่งเรา  ถ้าเรา break ตัวเลขนี้ลงได้  เราจะเป็นเจ้าสถิติคนใหม่ทันที  คิดดูสิครับว่า มันน่าภาคภูมิใจขนาดไหน กับการมีเงินเก็บมากขึ้น เพราะความบังเอิ๊ญ บังเอิญ แท้ๆ จากโลกเล็กๆของเรา ที่มีเพียงเราคนเดียวเท่านั้นที่รับรู้  

เพื่อนๆครับ  อย่าดูถูกโลกเล็กๆของตนเองนะครับ  นวัตกรรมใหม่ๆที่เปลี่ยนโฉมโลก ก็เกิดขึ้นจากจินตนาการในกะลาหัวเล็กๆของเรานี่เองครับ  เราทำ
อะไรสำเร็จเพียงเล็กๆน้อยๆ  ก็มีความหมายต่อ การทำสิ่งที่ใหญ่ขึ้นๆๆ ไม่น้อยเลย  เพราะเราทุกคนล้วนต้องการความมั่นใจอย่างมากในการทำสิ่งต่างๆโดยเฉพาะสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน  การเฝ้าสะสมความภาคภูมิใจเล็กๆไปทุกเรื่อง เป็นการสะสมพลังจินตนาการของเรา ที่จะผลักดันให้เราทำเรื่องที่ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องใช้ tips อะไรมากมายเลย

คำตอบของคำถามระหว่าง ความสุข vs ความสำเร็จ  จะบอกว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากกับ มุมมองที่ถูกหลงลืมไปว่า คนเราทุกคนเกิดมานั้นก็เพื่อ พัฒนาศักยภาพ และการตามหาตัวตนแท้จริงให้เจอ  การรู้จักตัวเอง   ซึ่งการที่แต่ละคนจะรู้ตัวว่า เราทำอะไรได้ดี ได้เด่นกว่าคนทั่วไปนั้น ก็ต่อเมื่อ มีความสำเร็จที่เกิดขึ้นให้เห็นในแต่ละอย่างที่ทำ บ่อยครั้งกว่ากิจกรรมอื่นๆที่ทำออกมาก็งั้นๆ   สำเร็จบ่อยๆ หลายครั้ง ก็จะเกิดคำๆนึงขึ้นมาเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างคำว่า  ความสุข กับ ความสำเร็จเข้าด้วยกัน  คำๆนั้นคือ  ความมันส์สะใจ นั่นเองนะครับ

คนที่ได้รู้และใช้ความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่นั้น  จะมีความมันส์สะใจทุกลมหายใจเข้าออก ไม่มีอะไรที่จะมาทดแทน การเสพติดความรู้สึกนี้ได้ คือ คนที่จะมีความสุขที่สุดในโลก  โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาชื่นชมกับพวกเขาครับ  

ฉะนั้นก่อนจากกันไป ผมขอสรุปว่า ความสำเร็จ เป็นเรื่องเดียวกับความสุขได้ก็ต่อเมื่อ มีความมันส์สะใจ สนุกทีได้ทำ ทุกลมหายใจเข้าออกครับ

เพื่อนๆมีตัวอย่าง ความสำเร็จ vs ความสุขมาเล่าให้ฟังกันไหมครับ

ผมรอฟังอยู่   :o

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 1:43 pm
โดย Likhit
ประเด็นอยู่ตรงใหนครับ

ออมเงินจากรายได้   หรือออมเงินเก็บไว้ในหุ้น

จะออมอย่างไงก็ออมไปเถอะ  แต่ต้องไม่ทำให้คุณภาพในการดำรงชีวิต

ต่ำกว่ามาตรฐานเฉลี่ยของคนทั่วๆไป

อย่าลืมว่า  ทุกออย่างเป็นมายา :lol:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 3:33 pm
โดย Anti-Aircraft
คนที่ได้รู้และใช้ความสามารถของตนเองได้อย่างเต็ม ที่นั้น  จะมีความ มันส์สะใจทุกลมหายใจเข้าออก ไม่มีอะไรที่จะมาทดแทน การเสพติดความรู้สึกนี้ได้ คือ คนที่จะมีความสุขที่สุดในโลก  โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาชื่นชมกับพวกเขาครับ
คิดว่าใจความอยู่ตรงนี้นะครับ ผมขออนุญาตขยายความให้แล้วกัน

คุณ Voldtrest มีความสุข ภาคภูมิใจ และ มันส์สะใจทุกลมหายใจเข้าออก ใน กิจกรรมการออมเงิน ของตัวเอง

สำหรับคุณแล้ว สิ่งใดที่ทำให้คุณรู้สึก มันส์สะใจทุกลมหายใจเข้าออก ครับ

ปล. บรรยายความรู้สึกได้ถึงอารมณ์มากครับ ขอไปนั่งนึกก่อน เดี๋ยวมาตอบ :lol:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 3:43 pm
โดย crt2000th
การออมเป็นสิ่งที่ดีครับ ส่วนตัวผมเอง ไม่เคยจดบันทึกการออมครับ คือผมจะต้องมีเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้ได้อย่างสบายเสมอ  ถ้าเมื่อไหร่ในบัญชีสำหรับใ้ช้จ่ายเยอะมาก ผมจึงค่อยโอนไปซื้อหุ้นครับ เเต่เงินในบัญชีหุ้นนั้น ไม่เคยถอนเลยครับ ทำมา เเปด ปีแล้วครับ วิธีนี้ ก็จะทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการใช้เงิน ไม่เครียดด้วย

ส่วนการลงทุนก็ต้องเน้นใ้ห้ได้ผลตอบเเทนที่ดี รวมทั้งปันผลก็ต้องใส่กลับไปในพอร์ตครับ

เเต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า ผมควรจะต้องหัดใช้เงินมากขึ้นครับ ผมคิดว่าการที่เราใช้เงินมากขึ้นจะทำให้เราตื่นตัว และมองเห็นโอกาสในการทำเงินมากขึ้นครับ
:wink:  :wink:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 5:04 pm
โดย kumchai
ทุกวันนั้ ผมก็ออมเยอะ  เงินเดือน กับเงินปันผลจากห้น  ผมไม่เคยใช้เลย พอได้มาก็ฝากที่บัญชีออมทรัพย์   มา 4 ปีแล้ว   ผมใช้เงินจากบัญชีห้น ซึ่งผมต้องพยายามบริหารพอร์ทหุ้นให้โตกับ จาก capial gain เพือ over ค่าใช้จ่าย มันก็ยากเหมือนกัน เพราะมันพิสูจน์ฝืมือเรา  แต่ผมก็ทำมา 7 ปี แล้ว

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 6:00 pm
โดย อนัตตา
นึกถึงสมัยที่จบใหม่ๆ (12 ปีที่แล้ว) ผมเองก็เก็บเงินแบบสุดๆ เหมือนกัน
เนื่องจากที่บ้านไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรให้ จึงต้องเก็บเงินให้ได้มากๆ เหมือน
น้อง Voldtrest นี่แหละครับ ก็ไม่รู้สึกลำบากอะไรเพราะเด็กๆ ลำบากกว่านี้

แผนผมก็คือเซฟทุกกระเบียด เริ่มจาก

- ไปทำงานก็นั่งรถบริษัท
- กินข้าวเช้า กลางวันที่โรงอาหารบริษัท ถูก และได้เยอะ
- เสื้อผ้าก็ใส่ชุดบริษัทแจกฟรี
- รองเท้าก็ของบริษัท
- ชุดไปรเวท ถ้าไม่ขี้เหร่จริงๆ ก็ไม่ซื้อใหม่
- หนัง ไม่ดูอยู่แล้ว รอดูบิ๊กซีนีม่าเอา 555
- ซีดีเพลงก็ไม่ซื้อ เปิดวิทยุมีให้ฟังเยอะแยะ
- กินข้าวนอกบ้านก็รอกินเลี้ยงแผนก บริษัทจ่าย (แดร็กฟรี)
- หน้าหนาวบางวันไม่ต้องอาบน้ำ ประหยัดได้อีก
- เสื้อผ้าจ้างซัก แต่ถ้าไม่เปื้อนมากก็ใส่ซ้ำได้นิ
- ข้าวเย็นกินอาหารตามสั่ง ไข่ดาวไม่ต้อง กินมากเดี๋ยวโคเรสเตอรอลขึ้น
- ไปไหนมาไหนก็นั่งรถเมล์ หลีกเลี่ยงมอไซต์เพราะค้ากำไรเกินควร
- ถ้าระยะไม่เกิน 1 km. ก็เดินเอาครับ สบายๆ ยังหนุ่มยังแน่น
- งบ บันเทิงเริงรมย์ มีจำกัด ฉะนั้น หมดโควต้าแล้วหมดเลย ไม่มีไหล
- หอพักก็ตระเวณหาที่ที่ถูกที่สุด จำได้ว่าถูกสุดๆ ก็ 1200 B/month
- ใครอยากจะชวนไปเที่ยวก็มารับตรูด้วย
- ถ้าบางอาทิตย์ไม่มีไรทำ ขอหัวหน้าไปทำงานให้บริษัท ฟรี ไม่คิดค่าตัว
 แต่ให้รถตู้บริษัทมารับถึงกระไดบ้านนะ ประหยัดน้ำ ไฟ ที่บ้านได้อีก
- ฯลฯ

ผมใช้ชีวิตอย่างนี้ 3 ปีก็เก็บเงินก้อนได้ ถึงจะไม่มากแต่ก็มาก
สำหรับชีวิตคนรายได้น้อยพึงจะมีได้ และมันก็เป็นเงินก้อนแรก
ที่นำมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นี่เอง

แต่น้อง Voldtrest เซฟได้ถึง80% นี่สุดยอดจริงๆ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 8:28 pm
โดย SunShine@Night
เขียนได้สนุกดีครับ :)

เขียนต่อซิ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 8:35 pm
โดย j21
ออมตังค์ ได้เทพมั่ก ๆ   :bow:  :bow:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 8:56 pm
โดย vivitawin
เอาพอเหมาะพอสมดีกว่ามั้ง
ไม่ต้องเอาขนาดว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิค
ผมเอาแค่พอเอาตัวรอดว่ายข้ามคลองได้ก็พอ  :lol:

ประหยัดมากๆ กลายเป็น ตระหนี่ แล้วจะค่อยๆกลายเป็น งก ไป
ตัวคนเดียวยังไม่เป็นไร ถ้าอนาคตมีแฟน มีครอบครัว แล้วติดนิสัย งก ไป
ไม่อดตายแน่นอน แต่.. คนรอบข้างเรามีความสุข?

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 9:10 pm
โดย คนคอน
โห แบบนี้ผมต้องเงินเดือนหลักแสนแล้วครับ หมายถึงถ้าอยู่กทม นะครับ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 13, 2010 9:42 pm
โดย leonleon
ความสุข กับ ความสำเร็จ นั้น
สำหรับบางคนความสุขที่เกิดขึ้นมันเป็นความสุขชั่วคราวครับ
เป็นความสุขที่เกิดจากการเดินไปถึงปลายทาง
แต่ระหว่างทางอาจจะไม่สุข

ต้องแลกด้วยอะไรหลายๆอย่าง เช่น ทำงานดึกๆดื่นๆ ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ฯลฯ
พอประสบความสำเร็จ เช่นได้เลื่อนตำแหน่ง ก็เกิดความสุขขึ้น ณ ขณะนั้น แต่ต่อมาอาจจะกลับสู่วังวนเดิมก็เป็นได้
เนื่องจากมีเป้าหมายใหม่ให้ไข่วคว้า ก็ต้องเดินไปหาความสุขแบบไม่มีความสุขอีกครั้ง


แต่สำหรับผม ผมให้ความสำคัญกับทั้ง 2 อย่างพอๆกันนะครับ
ความสำเร็จของผม ต้องเกิดจากระหว่างทางที่มีความสุขด้วย
การเดินทางนั้นจึงจะมีความหมาย มีความหลังที่น่านำมาเล่า น่าจดจำครับ

ส่วนของคุณ Voldtrest นั้น
จากการที่อ่านตัวหนังสือหลายๆกระทู้
ผมคิดว่า การเก็บออมเงิน และ บริหารเงินนี่ มันเป็นความสุขของคุณแน่ๆ
สู้ต่อไปครับ !

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2010 4:26 pm
โดย Anti-Aircraft
ผมว่าผมมีความสุขกับการอ่านหนังสืออะ สุขก่านั้นคือทำเงินจากการอ่านหนังสือได้ เพราะงั้นเลยมาลงทุนมั้งครับ ฟังดูไม่ค่อยเกี่ยวกันเนอะ เหอะๆๆๆ

เรื่องออมเงินผมยอมแพ้ครับ ขอให้แข่งกับตัวเองอย่างมีความสุขครับ :rofl:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2010 8:43 pm
โดย keeti
ออมเงินได้สุดยอดมากๆ
นับถือๆๆ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 8:41 am
โดย jek ae
ความสุขของผมใน2ปีนี้คือ สามารถไปออกกำลังกายตีเทนนิสได้ทุกวันช่วงเย็น รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นกว่าที่ผ่านมา รีดน้ำหนักไปได้กว่า 10 กก. คุมความดันโลหิตได้โดยไม่ต้องใช้ยา

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 9:36 am
โดย killyz
ตอนกินข้าวเที่ยงที่ทำงาน บิ๊กใส่ปิ่นโตจากบ้านไปใช่ไหม

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 9:49 am
โดย ซากคน
killyz เขียน:ตอนกินข้าวเที่ยงที่ทำงาน บิ๊กใส่ปิ่นโตจากบ้านไปใช่ไหม
ส่วนใหญ่ยังกินข้าวแกง 20-30 บาท  

บางวันเบื่อ...และไม่อยากง่วงนอนช่วงบ่าย  ก็ดื่มไอ้นี่กล่องเดียว

เอาอยู่นะ   ตกเย็นก็ยังซื้อลูกชิ้นทอด หรือไม่ก็หมูย่าง กิน  บ่อยๆ  

รูปภาพ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 11:23 am
โดย Anti-Aircraft
killyz เขียน:ตอนกินข้าวเที่ยงที่ทำงาน บิ๊กใส่ปิ่นโตจากบ้านไปใช่ไหม
เอ่อ อันนี้ผมเองครับ :oops:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 11:31 am
โดย leonleon
Voldtrest เขียน:
ส่วนใหญ่ยังกินข้าวแกง 20-30 บาท

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 3:53 pm
โดย hagrid
อ่านแล้วได้มุมมองใหม่ๆ ดีครับ คุณ Voldtrest

ผมว่าวิธีชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ความสำเร็จและความสุขของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

ตอนที่ ดร.นิเวศน์ เอาเรื่องคุณศรัทธามาเขียนลง

บทความ ตอนนั้นบางคนก็ชื่นชม บางคนก็ไม่เห็นด้วย

ผมว่าตัวเราเนี่ยแหละครับที่รู้จักตัวเองมากที่สุด

ความสำเร็จและความสุขของใครก็ขึ้นกับตัวของเขา

เองคนเดียวเท่านั้นแหละครับ

จากที่อ่านมาหลายๆ กระทู้ ผมเห็นว่าคุณ Voldtrest

เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูงมาก อนาคตถ้าจะประสบ

ความสำเร็จก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ขอให้โชคดีครับ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 5:13 pm
โดย por_jai
hagrid เขียน: ผมว่าวิธีชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ความสำเร็จและความสุขของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
ตอนที่ ดร.นิเวศน์ เอาเรื่องคุณศรัทธามาเขียนลง
บทความ ตอนนั้นบางคนก็ชื่นชม บางคนก็ไม่เห็นด้วย
ผมว่าตัวเราเนี่ยแหละครับที่รู้จักตัวเองมากที่สุด
ความสำเร็จและความสุขของใครก็ขึ้นกับตัวของเขา
เองคนเดียวเท่านั้นแหละครับ
:8) เท่าที่ผมทราบอีตาศรัทธาแกโกรธดร.เชียวนะครับ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 6:14 pm
โดย อ่องอ๋า
บังเอิญเซียวหู(คนทำงานบ้าน)เพิ่งจะลาออก
เงินเดือนเซียวหู 5,000 บาท
เลยตัดสินใจพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ทำเองเสียเลย

ปรากฏว่ารีดผ้าเป็นงานที่ใช้เวลามาก
เลยตัดสินใจ(อีกแล้ว)ซื้อเตารีดแรงดันไอน้ำ ราคา 15,900 บาท มาใช้ค่ะ

แล้วมันจะประหยัดขึ้นหรือเปล่านี่ 555
แต่ก็ประหยัดเวลาขึ้นเยอะเลยค่ะ
................

แถมจากที่งดมื้อเย็นมาเป็นเวลาหลายเดือน
พอมาทำงานบ้านแล้วเหนื่อยมาก(ร้อนด้วย) เริ่มหิวจะเป็นลม
เลยกลับมากินข้าวเย็นเสียอีก

แล้วมันจะประหยัดขึ้นไหมนี่ 555

.................

ตามความคิดหนูนะ คนโสดหรือคนที่อยู่คนเดียวจะออมได้ง่ายกว่าคนมีครอบครัวหรืออยู่กันหลาย ๆ คนมากค่ะ เพราะการตัดสินใจจะเป็นอิสระกว่ากันเยอะ เก็บแล้วก็ไม่มีคนมาช่วยใช้ด้วย เต็มที่ค่ะเต็มที่

อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ขยันอดออม ขอให้เก็บให้ได้เยอะ ๆ ลงทุนได้ผลงอกเงยกันเยอะ ๆ ทุกท่านค่ะ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 7:48 pm
โดย champ_st
สุดยอดครับ เก็บเงินได้แบบนี้ ตอนแรกตกใจนึกว่าพอตโตเดือนละ 70-80% อิอิ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 8:28 pm
โดย reiter
ความสุขของแต่ละคนมีที่มาไม่เหมือนกัน

ถ้าบิ๊กมีความสุขจากการออมพี่ก็ยินดีด้วย

แต่ตัวพี่เอง พี่ยังมีความสุขกับการกินอาหารอร่อยๆ จิบกาแฟหอมๆ ดูหนังดีๆ อ่านหนังสือดีๆ ( ถึงแม้ว่าการออมและการลงทุนจะเป็นความสุขลำดับต้นๆ ก็ตาม )

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 8:39 pm
โดย hagrid
por_jai wrote :
ดังนั้นที่พี่แฮกริดพูดมาผมเห็นด้วยครับ
    มีข้อแม้นิดนึง
    คือ
    1.ทิศที่พี่หันหน้าไปต้องไปทิศที่ถูกนะครับ
       หันหน้าผิดเดินแบบธรรมดาไม่ว่าดันไปบวกมุ่งมั่นเข้าไปซ้ำ
       เดินผิดไกลกว่าคนที่ไม่มุ่งมั่นซะอีก
       
    2.ผมไม่ยุ่งกับพี่
      พี่คิดว่าทางของพี่ถูก
      พี่ก็อย่ามายุ่งกับผมล่ะ
ผมก็ขอเห็นด้วยกับข้อแม้ของคุณ por_jai ครับ

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 8:58 pm
โดย Sorgios
ทางสายกลางดีที่สุดครับ

แต่ทางสายกลางของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน

บางคนใช้เงินแค่ 20-30% ของที่หามาได้ก็มีความสุขมากพอแล้ว

บางคนใช้เงิน 120% ของที่หามาได้ ก็อาจจะยังไม่พอ

นานาจิตตัง

จริงไหมครับ :D

ปล. ออมได้ 80% เจ๋งจริงๆครับพี่ Voldtrest :cool:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2010 9:00 pm
โดย Sorgios
Anti-Aircraft เขียน: เอ่อ อันนี้ผมเองครับ :oops:
เหมือนกันครับพี่ ข้าวกล่องภรรยาจัดให้ ทั้งประหยัด ทั้งอิ่มอร่อย :lol:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 18, 2010 9:16 am
โดย ซากคน
รูปภาพ

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ : ไมเคิ่ล เฟลป์ส
เกิด : 30 มิถุนายน 1985
สถานที่เกิด : บัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา
ส่วนสูง : 6 ฟุต  3 นิ้ว (193 เซ็นติเมตร)
น้ำหนัก : 88 กิโลกรัม
กีฬาที่ชอบ : ว่ายน้ำ
สโมสร : นอร์ธ บับติมอร์ เอซี

ชีวิตความเป็นมา

ไมเคิ่ล เฟลป์ส (Michael Phelps) นักว่ายน้ำชื่อดังชาวอเมริกัน ซึ่งเพิ่งสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองในโอลิมปิกได้มากที่สุดในโลกถึง 14 เหรียญทอง เกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ปี 1985 (พ.ศ.2528) ที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเติบโตที่ย่านร้อดเจอร์ส ฟอร์จ (Rodgers Forge)  เขามีพี่สาว 2 คน ได้แก่ วิทนีย์ และ ฮิลารี่ ซึ่งทั้งคู่เป็นนักว่ายน้ำเช่นกัน (โดยวิทนีย์ เกือบจะได้ลงแข่งว่ายน้ำให้กับทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในโอลิมปิกเกมส์ 1996 แต่โชคร้ายต้องมาบาดเจ็บเสียก่อน)

อาจได้ว่า เฟลป์ส สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองอย่างมากใน โอลิมปิก เกมส์ 2008 ที่ ปักกิ่ง ประเทศจีน โดยเขาสามารถคว้าเหรียญทองให้กับทีมชาติสหรัฐอเมริกาถึง 8 เหรียญ แถมยังทำลายสถิติโลก ที่เคยทำไว้อีกหลายรายการ หลังจากเมื่อ 4 ปีที่ก่อน ณ การแข่งขันโอลิมปิก 2004 ที่ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เขาสามารถคว้าได้ถึง 6 เหรียญทองมาแล้ว  

เฟลป์ส หรือเด็กหนุ่มที่มีชื่อเล่นว่า "เอ็มพี" จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมที่ ทาวสัน ไฮสคูล เมื่อปี 2003 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อปี 1994  เฟรด เฟลป์ส พ่อของเขา ซึ่งเป็นตำรวจแห่งรัฐแมรี่แลนด์ และ เด้บบี้ เดวิสสัน เฟลป์ส ผู้เป็นแม่ ที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนประถม ได้หย่าร้างกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงอะไร  

ในวัยเด็ก เฟลป์ส ถูกวินิจฉัยว่า เป็นโรค ADHD หรือ โรคสมาธิสั้น โดยเขาเริ่มว่ายน้ำเมื่ออายุได้ 7 ปี ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมาจากพี่สาวทั้ง 2 คน และเมื่ออายุ 10 ขวบ เขาก็สามารถทำลายสถิติระดับประเทศในเด็กอายุรุ่นเดียวกัน ต่อมา ไมเคิล เฟลป์ส ได้พัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็วจนติดทีมชาติ และได้เข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก 2000 (พ.ศ.2543) ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ด้วยวัยเพียง 15 ปี  

ในเดือนพฤศจิกายน 2004 ขณะที่ เฟลป์ มีอายุ 19 ปี เขาก็ถูกจับในคดีเมาและขับ ที่เมืองซาลิสบิวรี่ รัฐแมรี่แลนด์ โดยขณะนั้นมีอายุ 19 ปี และต้องถูกปรับเงิน 250 ดอลลาร์สหรัฐฯ และบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมเป็นเวลา 18 เดือน ด้วยการพูดรณรงค์เมาไม่ขับตามโรงเรียนต่างๆ  

และด้วยนิสัยส่วนตัวที่ชอบใช้ชีวิตคนเดียว ทำให้หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เฟลป์ส ได้ตัดสินใจซื้อบ้านและย้ายไปอยู่ที่รัฐมิชิแกนคนเดียว โดยเขาเริ่มหัดว่ายน้ำลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ แต่ไม่ลืมที่จะจัดตารางเวลาฝึกซ้อมอย่างเคร่งครัด
เฟลป์ส เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ระหว่างปี 2004-2008 โดยเรียนด้านการตลาดและการจัดการด้านกีฬา จากนั้นเดือนพฤษภาคมปี 2008 ไมเคิล เฟลป์ส ตั้งใจที่จะกลับไปยังบัลติมอร์อีกครั้ง เพื่อเข้าคัดตัวไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 โดยจะร่วมมือกับ บ๊อบ โบว์แมน พร้อมกับกล่าวว่า ผมไม่ได้ว่ายน้ำเพื่อใครอื่น ผมคิดว่าเราทั้งคู่ จะสามารถช่วยให้สโมสรนักกีฬาบัลติมอร์เหนือ (North Baltimore Athletic Club) ไปได้ไกลกว่านี้อย่างแน่นอน

สรีระและไลฟ์สไตล์

เฟลป์ส มีสรีระในร่างกาย 5 ส่วน ที่มีส่วนช่วยให้เขาเป็นนักว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมดังปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ ลำตัวที่เล็กเรียว, ช่วงแขนที่ยาว กว่า 6 ฟุต 7 นิ้ว (201 เซนติเมตร), ช่วงขาที่สั้น, เท้าที่ใหญ่ถึง 14 ฟุต, และความสามารถในการสบัดเท้าที่รวดเร็ว

ตามรายงานจากบทความของ "The Guardian" ระบุว่า เฟลป์ส จะรับประทานอาหารเกือบ 12,000 แคลอรี่ ต่อวัน หรือ บริโภคอาหาร 5 มื้อต่อวัน ซึ่งมากกว่าการบริโภคของผู้ชายโดยปกติทั่วไปเสียอีก

เริ่มต้นอาชีพว่ายน้ำ

เมื่อสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น เฟลป์ส ฝึกซ้อมว่ายน้ำที่ "North Baltimore Aquatic Club" ภายใต้การฝึกสอนของ โค้ช บ็อบ โบว์แมน และเมื่อตอนอายุ 15 ปี เฟลป์ส สามารถผ่านการคัดตัวเข้าแข่งขันโอลิมปิกฤดูกาล ปี 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักว่ายน้ำชายสหรัฐฯ ที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 68 ปี อย่างไรก็ตาม ปีนั้น เขาก็ยังไม่อาจคว้าเหรียญใดๆ มาครองได้ โดยเขาผ่านเข้ารอบสุดท้าย ในรายการ ผีเสื้อ 200 เมตร และว่ายเตะขอบสระในอันดับที่ 5 เท่านั้น

แต่ในอีก 5 เดือนถัดมา เฟลป์ส ก็สร้างชื่อในวงการว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว โดยเขาสามารถทำลายสถิติโลกในรายการ ผีเสื้อ 200 เมตร ด้วยวัยเพียง 15 ปี 9 เดือน ซึ่งทำให้เขาเป็นเจ้าของสถิติที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น เฟลป์ส ยังทำลายสถิติรายการเดียวกันนี้อีกครั้ง ในรายการ เวิล์ด แชมเปี้ยนชิพ ที่ ฟูโกโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

เข้าสู่ปี 2002 เฟลป์ส สามารถทำลายสถิติโลกในประเภท เดี่ยวผสม 400 เมตร ในรายการ ซัมเมอร์ เนชั่นแนลส์ ที่  Fort Lauderdale รวมถึงรายการ ผีเสื้อ 100 และ เดี่ยวผสม 200 เมตร อีกด้วย ต่อมาในปี 2003-2004 เฟลป์ส ยังทำลายสถิติของตนเองอย่างต่อเนื่่อง ทั้งในรายการ เดี่ยวผสม 400 เมตร, เดี่ยวผสม 200 เมตร

ในปี 2004 เฟลป์ส ตัดสินใจออกจากทีม "North Baltimore Aquatic Club" เพื่อไปเล่นให้กับทีม Club Wolverine เช่นเดียวกับที่ บ็อบ โบว์แมน โค้ช ที่ไปย้ายไปฝึกสอนที่ University of Michigan

โอลิมปิก เกมส์ 2000 ที่ซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย

เฟลป์ส เข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำ รายการ ผีเสื้อ 200 เมตร และสามารถทำเวลาผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้สำเร็จ ก่อนที่จะว่ายเตะขอบสระในอันดับ 5 ด้วยเวลา 01:56:50 วินาที

โอลิมปิก เกมส์ 2004 ที่ เอเธนส์ ประเทศกรีซ

เฟลป์ส ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยคว้าไปถึง 6 เหรียญทอง ในรายการ เดี่ยวผสม 400 เมตร, ผีเสื้อ 100 เมตร, ผีเสื้อ 200 เมตร, เดี่ยวผสม 200 เมตร, ผลัดผสม 4 คูณ 200 เมตร และ ผลัดผสม 4 คูณ 100 เมตร นอกจากนี้ เขายังได้อีก 2 เหรียญทองแดง จากรายการ ฟรีสไตล์ 200 เมตร และ ผลัดฟรีสไตส์ 4 คูณ 100 เมตร  

2004-2008

เฟลป์ส ย้ายไปที่  Ann Arbor, Michigan ภายหลังเสร็จศึกโอลิมปิก 2004 เพื่อมาร่วมงานกับ บ็อบ โบว์แมน  อดีตโค้ชคู่ใจสมัยที่เล่นให้กับ North Baltimore Athletic Club ซึ่งปัจจุบัน โบว์แมน เป็นโค้ชให้กับทีมมหาวิทยาลัย มิชิแกน โดยเฟลป์ส ไปทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครผู้ช่วยโค้ช แต่เขาก็ไม่ได้แข่งขันว่ายให้กับทีมมหาวิทยาลัยในการแข่งขันกีฬาระดับอุดมศึกษาแต่อย่างใด เนื่องจากเขาไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นนักว่ายน้ำสมัครเล่น

อย่างไรก็ตาม เฟลป์ส ประสบความสำเร็จอย่างมากในการแข่งขันรายการ เวิล์ด แชมเปี้ยนชิพ 2005 โดยเขาสามารถคว้ามาได้ถึง 6 เหรียญ (5 เหรียญทอง กับ 1 เหรียญเงิน) รวมถึงทำลายสถิติ 1 รายการอีกด้วย ต่อมาในรายการ เวิล์ด แชมเปี้ยนชิพ 2007 เฟลป์ส กวาดมาได้ถึง 7 เหรียญทอง รวมถึงทำลายสถิติโลกถึง 5 รายการ  

เฟลป์ส ได้เป็น 1 ในผู้ก่อตั้ง โครงการ "Swim with the Stars" ร่วมกับ เอียน คร็อกเกอร์ และ เลนนี่ เครย์เซลบวร์ก ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาว่ายน้ำ และจัดทำแคมป์ให้กับนักว่ายน้ำทุกวัย

โอลิมปิก เกมส์ 2008 ที่ ปักกิ่ง ประเทศจีน

ก่อนที่จะเดินทางมาแข่งขันโอลิมปิกที่ปักกิ่ง ไมเคิล เฟลป์ส เคยประกาศเอาไว้ "ผมพร้อมแล้ว" ซึ่งจุดมุ่งหมายของเขาคือการทำลายสถติของ มาร์ค แอนดรูว์ สปิตซ์ (เจ้าของสถิติคว้าเหรียญทองมากที่สุดจากการแข่งขันโอลิมปิคเกมส์ครั้งเดียว ด้วยผลงาน 7 เหรียญทอง ในโอลิมปิก เกมส์ ปี 1972 ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี และยังทำลายสถิติโลกทั้ง 7 รายการอีกด้วย) พร้อมกลายเป็นฮีโร่อเมริกันคนใหม่

และในที่สุด เขาก็สามารถทำได้อย่างที่กล่าวไว้ หลังจากคว้าเหรียญทองมาให้สหรัฐฯ ได้ถึง 8 เหรียญทอง จากการลงแข่งขันทั้งหมด 8 รายการ พร้อมทั้งทำลายสถิติทุกรายการ ได้แก่ เดี่ยวผสม 400 เมตร, ผลัดฟรีสไตล์ 4 คูณ 100 เมตร, ฟรีสไตล์ 200 เมตร, ผีเสื้อ 200 เมตร, ผลัดฟรีสไตล์ 4 คูณ 200 เมตร, เดี่ยวผสม 200 เมตร, ผีเสื้อ 100 เมตร และ ผลัดผสม 4 คูณ 100 เมตร  


เกียรติประวัติที่เคยได้รับ

World Swimmer of the Year Award: 2003, 2004, 2006, 2007
American Swimmer of the Year Award: 2001, 2002, 2003, 2004, 2006, 2007
Golden Goggle Male Performance of the Year: 2004, 2006, 2007
Golden Goggle Relay Performance of the Year: 2006, 2007
Golden Goggle Male Athlete of the Year: 2004, 2007
ESPY Best Olympic Performance: 2005
USOC Athlete of the Year Award: 2004
USSA Athlete of the Year Award: 2003
World Championships Swimmer of the Meet: 2003
James E. Sullivan Award: 2003
Teen Choice Awards - Male Athlete: 2005
Laureus World Sports Sportsman of the Year Award (Nominated): 2004, 2005, 2008
USA Olympic Team Member: 2000, 2004, 2008
Holds the record for most Olympic gold-medals: 14
Holds the record for most Olympic gold-medals in individual events: 9
Holds the record for most Olympic gold-medals at a single games: 8 (Beijing 2008)
Street in his hometown of Baltimore was re-named 'The Michael Phelps Way': 2004

:cool:  :cool:  :cool:  :cool:  :cool:

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 18, 2010 9:35 am
โดย ซากคน
Ian Thorpe

รูปภาพ


ธอร์ปิโด เอียน ธอร์ป อำลาสระเมื่อขาดความท้าทาย  23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549

อะไรคือเหตุผลสำคัญที่สุดของการอำลาสระในครั้งนี้?


ที่ผมบอกกับตัวเองก็คือ การทำลายสถิติโลกไม่ใช่สิ่งที่จูงใจผมเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ผมคิดว่าตัวเองยังเล่นได้ดีอยู่ และรู้ดีว่าจะทำลายสถิติโลกเหล่านั้นได้อย่างไร แต่มันไม่มีความรู้สึกกระหายที่จะทำลายสถิติโลกเหมือนที่เคยเป็นมาอีกต่อไป ธอร์ปเผยความรู้สึก


เป็นความจริงที่ ธอร์ปยังคงเยี่ยมยอดอยู่ และอายุยังน้อยเกินไปที่จะเลิกเล่น แต่ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ธอร์ปิโด ประสบความสำเร็จนับครั้งไม่ถ้วน ยังไม่พบพานคู่ต่อสู้ที่จะสร้างความกดดันให้ เมื่อบวกเข้ากับอาการบาดเจ็บที่รบกวนอยู่เนืองๆ การเลิกเล่นครั้งนี้จึงมีที่มาที่ไป

:roll:  นี่ละมั้ง...

ผมประสบความสำเร็จมากกับชีวิตการเป็นนักว่ายน้ำ และการประกาศเลิกเล่นในขณะนี้อาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมนัก แต่ผมคิดว่าเวลาของผมมาถึงแล้ว

ข้อมูลจำเพาะเอียน ธอร์ป


- ธอร์ป เป็นนักกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในออสเตรเลีย โดยหนังสือพิมพ์เดลี่ เทเลกราฟ ระบุว่า ผลการสำรวจระบุว่าธอร์ปมีคะแนนนิยมเหนือกว่า ดอน แบร็ดแมน นักคริกเกตระดับตำนานของออสเตรเลีย


- ธอร์ปรับรายได้ก้อนมหาศาลจากการเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์หลายรายไม่ว่าจะเป็น อาดิดาส, สายการบินแคนตัส, เทลสตาร์ และเซเว่น เน็ตเวิร์ก


- แม้จะได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาที่สมบูรณ์แบบ แต่ธอร์ปถูกวิจารณ์จากสื่อในออสเตรเลียว่าเงียบเกินไป และปิดตัวเองมากเกินไป


- นอกจากว่ายน้ำแล้ว ธอร์ปิโด ยังสนใจในเรื่องแฟชั่นมากเป็นพิเศษ นอกจากนั้น ยังเปิดบริษัทออกแบบเครื่องประดับและชุดชั้นใน มีชื่อแบรนด์ เป็นของตัวเอง นั่นจึงทำให้นักว่ายน้ำวัย 24 ผู้นี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นพวก โฮโมเซ็กช่วล และหลายครั้งหลายคราที่ภาพของเขาถูกนำไปเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกลุ่มรักร่วมเพศ


- ธอร์ปเกือบต้องกลายเป็นเหยื่อในเหตุการผู้ก่อการร้ายขับเครื่องบินพุ่งชนยอดตึกเวิลด์เทรด ที่นิวยอร์กเมื่อเดือนก.ย.ปี 2001 เพราะในช่วงก่อนเกิดเหตุ เขาได้ไปวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่ใกล้กับตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์


- นอกจากโด่งดังในกีฬาว่ายน้ำแล้ว ฉลามหนุ่มออสซี่ยังอุทิศตัวให้สาธารณกุศลอยู่เนืองๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการรณรงค์ต่อต้านการใช้ยาเสพติด รวมไปถึงทำงานให้องค์กรสหประชาชาติ และยูนิเซฟ


- ธอร์ปเคยเป็นนักแสดงรับเชิญในละครซีรีส์ซิทคอมชื่อดังของอเมริกาอย่าง เฟรนด์ส ด้วย


คำสัมภาษณ์เอียนธอร์ป ที่เอ่ยถึง ไมเคิล เฟลบส์

" ส่วนตัวแล้วต้องการให้เขาทำลายสถิติคว้า 8 เหรียญทอง และชื่นชอบที่จะเห็นมัน "

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 18, 2010 1:54 pm
โดย ซากคน
พี่ๆ เพื่อนๆ ThaiVI ครับ

    ตอนนี้ผมก็หมดมุขเล่าแล้วครับ  ถึงเล่าเรื่องอื่นแทนก็จะทำกระทู้เลอะเทอะมากกว่า  ยังไงก็ยังรอฟัง เรื่อง ความสำเร็จที่สร้างความสุขของคนอื่นๆ บ้าง      :lol:
   
    ผมอ่านความเห็นของทุกคนแล้ว มีทั้งเห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย  ผมจะรับเอาไปปรับปรุงตัวเองให้มีความสมดุลมากขึ้น เหมือนกระทู้ที่ผ่านมา ที่ผมรับความเห็นของทุกคน มาปรับจนตัดสินใจเดินหน้าได้แล้ว แต่กระทู้นี้มาจนถึงวันนี้ยังไม่มีคนไหนเล่าความสำเร็จที่สร้างความสุขเลยสักคน  ซึ่งผมคิดว่าเป็นประโยชน์กับ ทุกคนที่กำลังหัดสร้างแรงบันดาลใจ น่ะครับ  แรงบันดาลใจทำให้คนทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ซึ่งจุดนี้เป็นมุมที่ควรมองมากกว่า มองว่าเป็นการเอาเรื่องตัวเองมาคุยโม้โอ้อวด หรือ รู้สึกอายที่จะเอาเรื่องส่วนตัวมาแสดงออก        

นอกเรื่องนิดนึงครับ   ผมอ่านประวัติของ ไมเคิล เฟลบส์ รู้สึกโดนใจนัก ยิ่งรู้ว่า เขาเคยเป็นเด็กสมาธิสั้น เหมือนผมตอนเด็กๆ แล้ว  ทำให้คิดอยู่แว๊บนึง
ว่า ทำไม่สำเร็จ ไม่ได้แปลว่า ทำไม่ได้   แต่แปลว่า  ไม่อยากทำต่อมากกว่า

ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งครับ  และรอฟังเรื่องของคนอื่นๆด้วย
 :D

ความสำเร็จ VS ความสุข

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 18, 2010 2:10 pm
โดย OutOfMyMind
สำหรับผม ชีวิตก็เหมือนวิ่งมาราธอนครับ
เรามีเป้าหมายระยะยาว ว่าเส้นชัยเราอยู่ที่ไหน
ศึกษาเส้นทางที่ใช้
ศึกษาเทคนิคการวิ่งจากมืออาชีพ
ใช้รองเท้าที่เหมาะกับสรีระของเรา
จากนั้นเราเริ่มวิ่ง
เส้นชัยเรารู้อยู่ไหนแน่นอน แต่อย่ามัวแต่ฝันกลางวันถึงมัน
ต้องมีสมาธิ เราต้องจับจ้องกับทุกก้าวที่วิ่ง
ควบคุมสองขา ให้วิ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
ให้กำลังใจตัวเองตลอดเวลาที่เคลื่อนที่ไป
อย่าให้พลาดหกล้ม
อย่าทุ่มกำลังจนสุดท้ายต้องหยุดหอบ
รับน้ำมาดื่มบ้าง
มองดูวิวข้างทางที่วิ่งผ่านบ้าง
ชื่นชมกับทุกเมตรที่วิ่งผ่านได้
ขออย่างเดียว
หมั่นตรวจสอบเสมอ
ว่าเรายังวิ่งถูกทาง และกำลังมุ่งตรงไปที่เส้นชัย