Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ข้อมูลทางการเงินผมเป็นยังงี้ครับ
- ผมเป็นคนต่างจังหวัดทำงานราชการ อายุ 27 ปี
- กำลังจะเริ่มเรียนป.โท คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 ปี ค่าเทอมละ 45,000 บาท (ใช้เงินเก็บเก่าอยู่ 80,000+หาเงินไปด้วยเรื่อยๆ)
- วางแผนว่าจะกลับต่างจังหวัดในอีก 5 ปี
- ตอนนี้กลับมาโสด อีกแล้วครับ T_T


- ตอนนี้เงินเดินผม 20,000
- ค่าหอพักเดือนละ 4,000 บาท
- ส่งกลับบ้าน เดือนละ 5000 บาท
- แบ่งไปลงทุนในหุ้นเดือนละ 2,500 บาท
- กันไว้เป็นค่าเทอมเดือนละ 2,500 บาท
- ใช้จ่ายทั่วไปเดือนละ 6,000 บาท


ทีนี้ผมอ่านหนังสือสองเล่ม พ่อรวยสอนลูก เล่ม 1 (โรเบิร์ต คิโยซากิ เขียน) กับ ลงทุนให้มั่งคั่ง (ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร)

- คิโยซากิ บอก บ้านเป็นหนี้สิน
- ดร.สุวรรณ บอก ลงทุนในบ้านไปเถอะ

1. ดูจากข้อมูลแบบนี้ผมควรซื้อบ้านตอนนี้ดีมั้ยครับ หรือควรรอให้จบเรื่อง ป.โท ก่อน

2. ถ้าผมจะผ่อนบ้านหรือคอนโดแทนเช่าหอ ราคาบ้านที่ผมจะซื้อได้สูงสุด จะเป็นประมาณเท่าไหร่ครับ ถ้าสนใจพฤกษา52 นวนครประมาณ 1,000,000 บาท จะไหวมั้ยครับ

ขอบคุณมากครับ

ถ้าคิดจะซื้อบ้าน  อย่าลืมงบประมาณในการตกแต่งบ้านด้วย  อีกทั้งต้องมีงบประมาณในการดูแล  และซ่อมแซมบ้านด้วยนะครับ

ซื้อเมื่อพร้อม  ไม่ต้องรีบซื้อ  เพราะบ้านไม่เหมือนหุ้น  ซื้อแล้วขายไม่ง่าย  มีภาระหนี้สินผูกพันระยะยาว

บ้านน่ะเป็นสินทรัพย์อยู่แล้วครับ จับต้องได้ เปลี่ยนมือ ซื้อขายได้ และเสื่อมค่าได้
แต่ที่มาของเงินที่จะมาซื้อสินทรัพย์นี้น่ะสิ อาจจะเป็นหนี้สิน เช่น ถ้าไปกู้เงินมาซื้อ

ผมว่าถ้าเจอบ้านที่ถูกใจจริงๆ ก็น่าซื้อ เพราะบ้านไม่เหมือนหุ้น ไม่เหมือนทอง ที่จะเหมือนกันทุกชิ้น บ้านหมู่บ้านเดียวกัน แต่คนละหลัง หันคนละทิศ หรือเพื่อนบ้านต่างกัน ก็ไม่เหมือนกันแล้ว บ้านไม่ใช่ว่าจะซื้อได้เมื่ออยากซื้อ และแน่นอนก็อาจจะไม่ใช่ว่าอยากขายก็ขายได้ทันทีในราคาที่วางไว้ โอกาสที่จะซื้อบ้านทำเลนั้นๆ ในราคานั้นๆ อาจจะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต ไม่งั้นอาจต้องไปซื้อที่อื่น หรือซื้อราคาสูงกว่านั้น

ผมจึงคิดว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า บ้านหลังที่จะซื้อดีจริงแค่ไหน เช่น ถ้าคิดจะขาย มันดีในสายตาเราคนเดียวหรือเปล่า หรือว่าคนทั่วไปก็คิดว่าดีเหมือนกัน ทำให้ขายได้ง่ายเมื่อจะย้าย แล้วเมื่อจะขาย จะขายได้กี่บาทล่ะ ประเมินตลาดให้ดีจะได้รู้ว่าถ้าซื้อราคานี้ จะขายได้สูงหรือต่ำกว่าเท่าไหร่

ที่สำคัญ ถ้าไม่ได้ซื้อเพราะชอบในบ้านนั้นมาก แต่ซื้อเพระแค่จะอยู่สักพัก คิดว่าดีกว่าเช่า อย่างนี้ต้องระวัง เพราะอาจต้องรับภาระผ่อน พอถึงวันหนึ่งก็ต้องผ่อนเพราะติดภาระ แต่ไม่ต้องการบ้านแล้ว ก็รีบร้อนจะขายอีก ก็ไม่ได้ราคาดี ถ้าคิดว่าจะซื้อเพราะแค่เห็นว่าคุ้มกว่าเช่า ผมว่าไปหาเช่าถูกกว่านั้นดีไหม

ว่างๆ จะมาแชร์เรื่องซื้อบ้านให้ฟัง ตอนนี้ยุ่งมาก ขอตัวก่อนนะครับ  

ดูค่าใช้จ่ายด้วยครัับ บ้านถ้าราคา 1000000 ผ่อนน่าจะ 6-7 พัน ไม่รวมค่าตกแต่งค่าดูแล น่าจะเล็งบ้านที่เล็กกว่านี้พวกคอนโดครับราคาอยู่ในช่วง 6-7 แสน ผ่อนน่าจะ 4-5 พัน เท่าๆกับเช่า จะดีกว่าอยู่ไปสัก 3 ปี อาจฟลุกราคาขึ้นขายได้กำไร

ถ้าซื้อคอนโดราคาต่ำๆ  ควรระวังเพื่อนร่วมโครงการด้วยนะครับ  ถ้ามีการซื้อเพื่อเก็งกำไรมาก อาจส่งผลต่อการชำระค่าธรรมเนียมส่วนกลาง  อาคารก็จะไม่น่าอยู่อาศัย

ซื้อบ้านในหมู่บ้านก็เช่นกัน  ถ้ามีบ้างร้างมากๆ  ซื้อแล้วไม่อยู่อาศัย  บรรยากาศของหมู่บ้านก็ไม่น่าอยู่  น่ากลัว  และก็คงมีปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียมส่วนกลางเช่นกัน

บ้านเป็นสินทรัพย์ เป็นที่ซุกหัวนอน และเป็นความสมบูรณ์ของชีวิตครอบครัว หลังจากที่ผมสร้างบ้านแล้ว ตอนนี้ก็เป็นโอกาสสร้างเงินทอง แนะนำให้ซื้อแต่ต้องดูความพร้อมของตนเองด้วย

[quote="chatchai"]ถ้าซื้อคอนโดราคาต่ำๆ

[quote="sukum"][quote="chatchai"]ถ้าซื้อคอนโดราคาต่ำๆ

sukum เขียน:การที่มีคนอยู่น้อย จะเกี่ยวพันถึงค่าส่วนกลางยังไงครับผม

ก็ถ้าไม่ค่อยมีคน ก็เก็บค่าส่วนกลางไม่ค่อยได้ หรือได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย การดูแลรักษา พัฒนา ก็จะไม่ค่อยดีไงครับ เช่น ลดจ้าง รปภ. 2 คน เหลือคนเดียว ไฟดับ ไม่มีตังก์ซ่อม ลิฟต์เสีย ต้องเรี่ยไรเงินเพิ่ม เป็นต้น  :o

ผมเห็นหมู่บ้านใหม่ๆ เดี๋ยวนี้จัดสวนกันสวยๆ มีพนักงานกันหลายคน ค่าส่วนกลางก็มากตามมา จะซื้อบ้านก็ต้องดูเรื่องนี้ด้วยนะครับ อย่าคิดว่าไม่กี่บาท บางทีรวมๆ กันก็หลายตังก์อยู่เหมือนกัน

ซื้อบ้านถ้าผ่อนนาน ดอกก็จะมากตามมา อย่าดูแค่ว่าผ่อนเดือนละแค่นี้เอง ไม่กี่พันเอง แต่การผ่อนนานนี้ถ้ามาคำนวณดูก็กลายเป็นว่า ผ่อนดอกอยู่นั่นแหละ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ

ผมซื้อบ้านมือ 2 มาหลังหนึ่ง ชอบเพราะอยู่ในทำเลที่ต้องการ ทิศทาง องค์ประกอบเป็นไปอย่างที่ต้องการ ซื้อมาแล้วคนนั้นว่าให้เปลี่ยนพื้น คนนี้ว่าให้ทำห้องน้ำใหม่... คนนั้นว่าทำไฟใหม่เหอะ คนนี้ว่าฝ้าเพดานทำใหม่ก็ดี คนนั้นอยากได้ประตูไม้สัก คนนี้ว่าไม้สักก็ต้องสักแก่... สารพัดความอยาก จริงๆ แล้วตอนแรกผมไม่กะทำอะไรเลย ถ้าจะอยู่ก็อยู่ไปตามสภาพนั่นแหละ ไปๆ มาๆ เสียตังก์จนได้ ไอ้เราก็ยอม บอกตัวเองว่าแลกความสุขๆ เพราะบางทีเราก็ไม่ได้ทำเพื่อให้ตัวเองพอใจคนเดียว ใช่ไหม ทำไปทำมาก็หลายแสนแล้ว ยังทำไม่หมดเลยเนี่ย ถ้าใครนึกไม่ออกว่าค่าบำรุงรักษานี่มันมากมายแค่ไหน เหมือนเวลาใครว่า Stock เยอะมี Carrying Costs แล้วนึกไม่ออก ก็นึกถึงบ้านที่เสื่อมสภาพแล้วต้องใช้เงินซ่อมนี่ก็ได้ครับ

ไม่วันใดก็วันหนึ่งเราต้องใช้ช่าง ช่างมีหลายแขนง แต่แขนงนึงไม่ต้องสอนแต่เป็นกันเกือบทุกคน คือ ช่างเบิก เบิกโน่นเบิกนี่ เงินไม่พอขอเบิกก่อน ถึงซื้อบ้านใหม่วันหนึ่งก็ต้องมีอะไรเสีย อะไรให้ซ่อม เตรียมใจไว้เลย ช่างที่เคยดีๆ พอว่ากันว่าดี คนก็มาแย่งกันจ้าง สุดท้ายทำอะไรก็ไม่เสร็จ แยกแยะเงินแต่ละงานไม่ค่อยออก บ้านโน้นเบิกยากจะมาขอเบิกบ้านเราก่อน ดีแตก

ซื้อบ้านมาแล้ว วันหนึ่งจะไม่อยู่ บอกตัวเองว่าไม่รีบขาย รอได้ รอเจอลูกค้าที่ใช่ ในราคาที่ชอบ รอได้ ระวังจะมีใครมาอยู่ในบ้าน เช่น ปลวกมา กินปาร์เก้ กินขอบประตู ขอบหน้าต่าง วัสดุที่ทนพวกนี้ก็ช่วยได้มากนะครับ

หลังคารั่ว ให้ระวัง ซื้อหน้าแล้ง พอหน้าฝน หลังคารั่ว ไม่แตก หารูไม่เจอ แต่รั่ว ก็พายุมันเริ่มแรงขึ้น พัดทะแยงมากขึ้น น้ำไหลไม่ทัน รั่วเข้ามาให้ได้ซ่อมฝ้า ถ้าไม่อยู่มันทำพื้นพังก็มี ต้องระวัง

ท่อแตก ก็ท่อที่ฝังพื้น ผนัง พอมันร้าวก็มีแตก เสียตังก์ค่าน้ำ ทำความเสียหายอื่นๆ อีก

พอดีกว่า ยกมาให้ดูว่าค่า Maintenance มันไม่ใช่น้อย ค่าติดตั้งอะไรใหม่ เช่น แทงก์น้ำสมัยนี้ กับปั๊มน้ำ ราคาก็ไม่ใช่น้อย ต้องหาช่างจุ๊กจิ๊กอีก ค่าพวกนี้ต้องเผื่อเยอะๆๆๆ เลย ซื้อบ้านใหม่ ใครงการใหม่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ต้องเสีย ต้องดูว่ามีอะไรให้แล้วบ้าง ประกันอะไรบ้างนานแค่ไหน บ้านตัวอย่างมักดูดีเสมอ แต่ชีวิตจริงอาจไม่ใช่

แต่ชีวิต คุณภาพของชีวิตก็สำคัญ อยู่ที่ว่าเราชอบแบบไหน พอใจแบบไหน ซื้อบ้านไม่ใช่ไม่ดี แต่ต้องวางแผนเยอะๆ เลยครับ เรื่องเงินที่จะผ่อน อย่าวางให้ฟิตมาก มันจะมีค่าใช้จ่ายทีไม่ได้คาดไว้เข้ามาเสมอ ถึงตอนนั้นจะหมุนกันหัวขวิด บางคนกู้โน่นยืมนี่ อิออนยิ้ม สุดท้ายผ่อนไม่ไหว โดนยึดก็มีเยอะ

ซื้อบ้านดูทำเลดีๆ เผื่อค่าเดินทางด้วยนะครับ ตอนแรกเช่าอยู่ใกล้ พอซื้อบ้านอาจไม่ใช่ บางคนไปซื้อรถเพิ่ม ค่าใช้จ่ายของรถนี่มันมากจริงๆ เช็คระยะที บางระยะมันช่างมีค่าบำรุงรักษาสุดยอดจริงๆ ค่าประกันอีกปีก็หลายตังก์ เดี๋ยวค่าพรบ. ภาษีรถก็มาอีก ไม่นานต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ ไม่นานก็ยาง (อันนี้ประหยัดแล้วตายไม่รู้ด้วย) ยังไม่รวมค่าซ่อม ค่าน้ำมัน เผื่อค่าเดินทางด้วยนะครับ

คิดให้ดี เลือกให้ดี เผื่อเงินดีๆ จะช่วยให้ตัดสินใจแล้วไม่เสียใจนะครับ เอาใจช่วยครับ ชั่งใจๆ ไม่มีใครรู้ดีเท่าเรา ถามได้ รวบรวมข้อมูลได้ สุดท้ายคนตัดสินใจได้ดีที่สุดคือตัวเราจริงๆ ครับ สู้ๆ

ผมอยากคุณให้มองทุกอย่างในโลกนี้เป็นการลงทุนหมดครับ....

1.ลองหาคำตอบให้ตัวเองว่าศัยภาพของเราตอนนี้สามารถสร้างผมตอบแทนในหุ้นได้เท่าไหร่ และมีแนวโน้มจะได้เยอะกว่านี้ไหมถ้าเราขยันๆมากขึ้น?

2.ในเรื่องเรียน เรี่ยนเพื่ออะไร เอาปริญญาเฉยๆ เอาไปปรับเงินเดือน เอาเพื่อให้ประวัติการศึกษาดูดีน่าเชื่อถือ ใช้เงินลงทุนในเรื่องเรียนเท่าไหร่คุ้มทุนไหม? เป้าหมายในชีวิตคืออะไร? ถ้าเอาไปเงินไปทำอย่างอื่นจะดีกว่าหรือไม่ดีกว่า? ควรจะต้องทำตารางเปรียบเทียบอย่างละเอียด บางคนอาจจะควรเรียน บางคนอาจจะไม่ควรเรียน อยากให้ศึกษาทุกอย่างก่อนตัดสินใจครับแต่เรียนไปนะดีแล้วครับแค่ทักๆไว้ว่าต้องเปรียบเทียบก่อนเพราะสมัยนี้คนเรียนโทตามกระแสเยอะ อิอิ

3.ในเรื่องบ้านก็เช่นกันค่าเช่าเดือนละเท่าไหร่ ถ้ากู้เงินไปซื้อบ้านจ่ายดอกเดือนละกี่% ราคาบ้านขึ้นเดือนละเท่าไหร่(คิดไม่ออกให้5%) แล้วก็ลองดีดดูว่าคุ้มไหม ซึ่งผมว่าคำตอบมันจะชัดเจนมากๆครับว่าควรซื้อไหม?
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักคือบ้านเป้นการลงทุนก้อนใหญ่ ลงแล้วเปลี่ยนใจยาก ความคร่องตัวตัวต่ำ ดังนั้นต้องศึกษาดีๆและมั่นใจเต็ม100ก่อนซื้องั๊บ

ขอบคุณทุกท่านมากครับ โดยเฉพาะคุณMagneto อธิบายซะเห็นภาพเลย

สำหรับผม บ้านคือ หนี้สิน ถ้ามันไม่ทำ cashflow ให้เราได้ แต่บ้านจะเป็นทรัพสินถ้าคุณหา cashflow ได้จากมัน

สิ่งที่คุณ Magneto พูดไว้  เป็นเรื่องจริงที่มาจากประสบการณ์เลยนะ  ใครจะซื้อบ้านควรอ่านก่อนตัดสินใจ

อย่าเพิ่งซื้อเลยค่ะ เช่าไปก่อนก็ได้
เอาเงินมาลงทุนดีกว่านะคะ

Magneto เขียน:หลังคารั่ว ให้ระวัง ซื้อหน้าแล้ง พอหน้าฝน หลังคารั่ว ไม่แตก หารูไม่เจอ แต่รั่ว ก็พายุมันเริ่มแรงขึ้น พัดทะแยงมากขึ้น น้ำไหลไม่ทัน รั่วเข้ามาให้ได้ซ่อมฝ้า ถ้าไม่อยู่มันทำพื้นพังก็มี ต้องระวัง

ท่อแตก ก็ท่อที่ฝังพื้น ผนัง พอมันร้าวก็มีแตก เสียตังก์ค่าน้ำ ทำความเสียหายอื่นๆ อีก

พอดีกว่า ยกมาให้ดูว่าค่า Maintenance มันไม่ใช่น้อย ค่าติดตั้งอะไรใหม่ เช่น แทงก์น้ำสมัยนี้ กับปั๊มน้ำ ราคาก็ไม่ใช่น้อย ต้องหาช่างจุ๊กจิ๊กอีก ค่าพวกนี้ต้องเผื่อเยอะๆๆๆ เลย ซื้อบ้านใหม่ ใครงการใหม่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ต้องเสีย ต้องดูว่ามีอะไรให้แล้วบ้าง ประกันอะไรบ้างนานแค่ไหน บ้านตัวอย่างมักดูดีเสมอ แต่ชีวิตจริงอาจไม่ใช่

ชีวิตจริงของผมเมื่อปีที่แล้วเลยครับ
การซื้อบ้าน 1 หลัง มันจะมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมาก (แบบว่าคาดไม่ถึง) ไหนจะค่าต่อเติม ไหนจะค่าตกแต่ง ฯลฯ
เช่นเรื่องปั๊มน้ำ ผมละงงจริง ๆ ผมไปซื้อปั๊มน้ำ กับแท็งค์น้ำมา ทั้ง 2 อย่างราคาประมาณ 15,000 แต่ดันไม่มีบริการติดตั้ง ต้องเสียตังอีกเพื่อให้ช่างมาติดตั้ง

ถ้าอยู่คนเดียวแนะนำว่าซื้อคอนโด size เล็ก ดีไหมครับ  เพราะยังไงก็ต้องจ่ายค่าหออยู่แล้ว  แต่ถ้าอยากได้บ้าน ผมมองว่าต้องคิดหนักนะครับ  :D

[quote="babypex"]ถ้าอยู่คนเดียวแนะนำว่าซื้อคอนโด size เล็ก ดีไหมครับ

ชอบคำแนะนำของพี่ chatchai + picklife จังครับ (หลายๆกระทู้)
..........

สำหรับคุณ sukum ผมช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
ถึงส่วนตัวจะไม่มีประสบการณ์เพราะอายุยังน้อย

แต่จากการอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง( The Number )
ศักยภาพในการซื้อบ้านของเรา = 3 * (รายได้ต่อปี)

เช่น คุณเจ้าของกระทู้มีเงินเดือน เดือนละ 20000 (ต่อปี = 240000)
ดังนั้น เราคาบ้านที่คุณเจ้าของกระทู้จะซื้อได้คือราคา (3*240000=720000) <<<< แต่ในกรณีของคุณ sukum ต้องการซื้อบ้าน 1 ล้าน ถ้ามองระยะยาวในการกู้เงิน + เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นทุกปี ผมว่าคุณน่าจะซื้อได้นะ แต่ควรเพิ่มเงินดาวน์ให้มากขึ้นหน่อยก็ดีครับ

แต่การจะซื้อบ้านได้นั้นต้องมีเงินดาวน์ก้อนใหญ่ ซึ่งควรมีเงินดาว20%ของราคาบ้าน (144000) << บ้าน 1 ล้าน เงินดาวน์ 35%ของราคาบ้าน

นี้เป็นแค่เทคนิคในการคิดตัวเลขครับ ซึ่งมันไม่ตายตัว ยังมีค่าใช้จ่ายที่"ไม่คาดฝัน"อีกเยอะ

แต่การจะซื้อบ้านได้ ผมว่าคุณ sukum มีภาระที่ต้องใช้ ต้องจ่ายเยอะ จึงยังไม่เหมาะที่จะซื้อเหมือนที่พี่ๆเซียนเค้าว่าแหละ (เหลือเงิน 5 พันจากเงินเดือนแล้วยิ่งยากใหญ่)
เรียนจบโทมาก็ใช่ว่าจะอยู่ตัวและซื้อบ้านได้เลย เราเรียนสูง ต้องหางานที่เข้ากับการเรียนที่สูงไปด้วย ซึ่งการหางานใหม่ก็ทำให้รายได้เรามากขึ้น และรอเครีย์ค่าใช้จ่ายต่างๆจนคิดว่าตัวเองอยู่ได้ด้วยเงิน ไม่กี่พันในหนึ่งเดือน และมีเงินผ่อนเป็นหมื่นๆจะดีกว่า (ยิ่งผ่อนเร็ว ดอกน้อย หนี้หมดไว นำเงินไปลงทุนต่อได้ไว สุดท้ายถ้าอดทนได้รอได้ ก็คือเศรษฐีคนหนึง["ถ้าเลือกหุ้นถูก ฮ่าๆ"]    )

............
ส่วนเรื่องหนังสือนี้ คนเรามันคิดไม่เหมือนกันจริงๆครับ  :?
ที่ว่าคิโยซากิบอกว่าบ้านคือหนี้สินเพราะกลัวว่าจะมีคนมาแย่งซื้อบ้านเค้ามั้งครับ อิอิ (เค้าเล่นอสังหาฯอยู่)

ความเป็นจริงก็อย่าเชื่อมากดีกว่า ความสามารถคนเราไม่เหมือนกัน ถามว่าบัฟเฟตบอกวิธีเล่นหุ้นให้คนทั่วโลก แต่ทำไมถึงไม่มีคนรวยได้เหมือนเค้าหรือเท่าเค้า ณ ตอนนี้หละ คำตอบ ก็คนมันความคิดต่างกัน แค่เสี้ยวเดียวก็เปลี่ยนชีวิตคนได้
อ่านไว้เป็นแนวคิดดีที่สุด อย่าเชื่อและทำตามไปซะทุกอย่าง  :lol:

ดังนั้น คิโยซากิว่าบ้านคือหนี้สิน แต่สำหรับบางคนบ้านคือกำไรมหาศาล (ดร.สุวรรณ)

เขียนซะยาวเลย เสียเวลาไปมากครับ แต่ยินดีแบ่งความรู้ เป็นแนวทาง และอย่าเชื่อผมไปซะหมด เป็นกำลังใจให้ครับ  :D

จะเลือกมีบ้านก็ได้ หรือจะเรียนต่อก็ได้ครับ
ผมว่ามันอยู่ที่เหตุปัจจัยของแต่ละคนนะ
คงต้องถามตัวเองใหม่
มีบ้านไว้เพื่ออะไร ?
เรียนต่อไปเพื่ออะไร ?
เพราะถ้ามันไม่สอดคล้องกับ Life Style
หรือว่าเป้าหมายในชีวิต
ผมว่ามันก็ทำให้เราเสียเวลาน่ะ

สำหรับการเป็นหนี้ ผมว่ามันมีทั้งหนี้ดี
แล้วก็หนี้เลวครับ อยู่ที่วิธีคิด วิธีใช้ ฯลฯ

มุมคิดของโรเบิร์ตเป็นอย่างนึง
ของ อ.สุวรรณ ก็แบบนึง

คำถามเดียวกัน
แต่ท่านเลือกที่จะเดินไปสู่เป้าหมายคนล่ะอย่าง
อ่านหนังสือมากๆ ก็มีประโยชน์อย่างนี้แหละครับ
มีตัวอย่างให้เรียนรู้เยอะ แต่อย่าเอามาตีกัน
ถ้าเอาความคิดคนอื่นเป็นที่ตั้ง
บนโลกใบนี้มีล้านคน ก็คงมีล้านคำตอบล้านเหตุผล
แต่ถ้าบ่มความคิดของตัวเองจนตกผลึก
มันจะเหลือแค่หนึ่งเดียวครับ
คือทางที่ตัวเองเลือก

แต่ถ้าพี่คิดจะเลือกบ้าน
มีสิ่งนึงที่มีค่ามากกว่าตัวบ้านครับ คือ...

ทำเล ...

บ้านเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีแต่รายจ่าย ถ้าไม่มีความจำเป็นจริงๆ เช่นอยู่กับพ่อแม่ได้ หรือยังไม่มีครอบครัวไม่จำเป็นต้องมีบ้านครับ แถวรังสิตผมเคยหาหอพักได้ราคา 1200 บาทเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว คิดว่าตอนนี้ค่าเช่าคงเพิ่มมาบ้างแต่น่าจะหาได้ต่ำกว่า 4 พันที่จ่ายตอนนี้แน่ๆ

ดูจากฐานะการเงินค่อนข้างตึงตัว กู้แบงค์ก็ไม่ง่ายนะครับ ว่าแต่ทำไมอยากมีบ้านละครับ ผมยังไม่มีเลย และไม่อยากจะมีตอนนี้ด้วย รอให้เงินเติบโตก่อน ตอนนั้นจะเอาหรูขนาดไหนก็ได้ แต่เอาเข้าจริงๆก็คงสร้างเล็กๆไว้ก่อน ดูแลง่าย ลูกๆโตก็แยกย้ายกันไปหมดแล้ว..

ลำบากวันนี้ เพื่อสบายในวันหน้า น่าจะเป็นหนทางรวย(ถ้าต้องการรวยนะ) คนทั่วไปที่ไม่รวยส่วนใหญ่บินก่อนผ่อนทีหลังกันทั้งนั้น

คุณบอกคุณจะกลับต่างจังหวัดอีก 5ปีคุณจะซื้อบ้านในกรุงเทพฯทำไมครับ

chode เขียน:คุณบอกคุณจะกลับต่างจังหวัดอีก 5ปีคุณจะซื้อบ้านในกรุงเทพฯทำไมครับ

เห็นหลายคนแนะนำครับ กลับปุ๊บขายปั๊บ นึกซะว่าเก็บเงินอะไรประมาณนี้

แต่เท่าที่ดูผมก็ว่าผมตึงตัวไปซักหน่อยจริงๆแหละครับ

แง่ ผมจะซื้อ Condo อยู่พอดี นัดทำสัญญา วันเสาร์นี้แล้ว
เหตุผลก็เหมือนเจ้าของกระทู้ ครับ ผมอยู่หอมาประมาณ 4 ปีแล้ว
เลยอยากซื้อของ Condo ซื้อต่อจากคนอื่นอะครับ ตอนนี้ยังผ่อนดาวน์
อยู่ ครับ คอนโด 2.27 ล้านอะครับ ที่ซื้อเพราะคิดว่าวันนี้ไม่ซื้อวันหน้า
ก็ซื้ออยู่ดี แถมราคาก็แพงขึ้นเป็นเท่าตัว ผมอยู่แถวห้วยขวางเลยอยากซื้อ
Condo แถวนี้อะครับ เพื่อนๆในนี้ คิดว่าไงส่วนตัวผม คิดว่าดีกว่าเช่าหออยู่
เพราะผมเช่าหออยู่ตลอดตั่งแต่ทำงานมา ครับ
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่า Condo 2.27 ล้านเกินตัวผมเปล่าครับ
เงินเดือนผมก็ ประมาณ 38K หักภาษีเหลือ 35K  อายุ 27
ให้ที่บ้าน 4,000 ถ้าผ่อนคอนโดคงให้ 3,000
ค่าหอปัจจุบัน 3,500 รวนน้ำไฟ
ค่าใต้ดิน 1,000
เงินใน Port ประมาณ 100Kกว่า ครับ
ช่วยวิเคราะห์ด้วยครับ จะทำสัญญาเสาร์นี้แล้ว

ลืมบอกเงินเก็บ ประมาณ 400K อยู่ในบัญชีฝากประจำ 3 เดือน ครับ

เข้ามาแซวคุณ O_CHAY

อายุเท่ากัน
เงินเดือนเยอะกว่าผม 2 เท่า
เงินเก็บเยอะกว่าผม 5 เท่า

สุดยอด...

[quote="O_CHAY"]แง่ ผมจะซื้อ Condo อยู่พอดี นัดทำสัญญา วันเสาร์นี้แล้ว
เหตุผลก็เหมือนเจ้าของกระทู้ ครับ ผมอยู่หอมาประมาณ 4 ปีแล้ว
เลยอยากซื้อของ Condo ซื้อต่อจากคนอื่นอะครับ ตอนนี้ยังผ่อนดาวน์
อยู่ ครับ คอนโด 2.27 ล้านอะครับ ที่ซื้อเพราะคิดว่าวันนี้ไม่ซื้อวันหน้า
ก็ซื้ออยู่ดี แถมราคาก็แพงขึ้นเป็นเท่าตัว ผมอยู่แถวห้วยขวางเลยอยากซื้อ
Condo แถวนี้อะครับ เพื่อนๆในนี้ คิดว่าไงส่วนตัวผม คิดว่าดีกว่าเช่าหออยู่
เพราะผมเช่าหออยู่ตลอดตั่งแต่ทำงานมา ครับ
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่า Condo 2.27 ล้านเกินตัวผมเปล่าครับ
เงินเดือนผมก็ ประมาณ 38K หักภาษีเหลือ 35K

เพื่อนผมบอก ผม"งก"
ผมไม่ได้ "งก" ผมใช้เงินเป็นต่างหาก

เป็นความผิดผมเองแหละครับ ตอนแรก Presale ไม่ซื้อกลัวนู๋นกลัวนี้สุดท้าย
พอโครงการเริ่มสร้าง ชาตร์จากราคาเดิม 5% ขึ้นเป็นแสนเลย  
ผมเลยซื้อต่อจากคนเค้าที่ซื้อตอน Presale พอดีเค้าเปลี่ยนงานเลยยอม
ขายผมครับ เค้าเอากำไร 15K ครับเมื่อเทียบกับโครงการแล้วต่างกันสุดขั้ว
แถมเหลือแต่ทิศตะวันตก ครับ ห้องที่ผมได้เป็นทิศตะวันออกครับแถมได้ราคา
ถูกว่าโครงการตอนนี้ด้วย ครับ แต่ีราคาก็แพงใช้ได้เนื่องจากห้องใหญ่ 41 ตร.ม
ครับ

ปล.ถ้าเซนทรัลพระรามเก้าเสร็จ คงไม่ได้เห็นราคานี้อีกแล้วครับ Confirm อิิอิ
ถ้า Up sidegain สัก 150% อาจขายต่อ อิอิ

คุณ sukum เป็นข้าราชการเดี๋ยวนี้ยังมีบำนาญอยู่หรือเปล่าครับ
หรือว่ารอรับบำเหน็จก้อนโตทีเดียว
ตั้งใจรับน้อยกว่าในตอนนี้เพื่อไปรับส่วนที่เหลือตอนเกษียณใช่ไหมครับเนี่ย

ถ้าเป็นบำนาญ อยู่ยาวๆ ก็ไม่เลวนะครับ เห็นบางคนทำงานตอน 23 ปี ทำถึง 60 ปี รวม 38 ปี แต่ได้บำนาญตั้งแต่ปีที่ 61 ถึง 100 ก็อีกครึ่งชีวิต รวมค่ารักษาพยาบาลทั้งหลายด้วย และถ้าทำงานดีมีผลงาน ได้เติบโตไป บำนาญก็ได้หลายตังก์อยู่

ลืมตอบ เจ้าของกระทู้

ข้าราชการเงินเดือน
 - 20,000  ผมว่าไม่ธรรมดานะ อายุน้อยด้วย สุดยอดจริงๆๆ

ผมทำบริษัท Sofeware เองครับ