Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนแบบสบายๆสไตล์ VI แบบถือยาวเป็นช่วงๆ ขายเมื่อรู้สึกว่าตลาดดีเกินคาดแบบไม่มีเหตุผลเพื่อลดต้นทุน ไม่ใช้คำว่าเก็งกำไรนะคะเพราะส่วนต่างที่ขายได้ต้องนำไปลงทุนต่อ เพื่อความเป็นไททางการเงินที่ยั่งยืน

คิดว่าสุยศักดิ์โพสต์
แล้ว ใครเป็นคนโพสต์ละ

blueplanet เขียน:คิดว่าสุยศักดิ์โพสต์
แล้ว ใครเป็นคนโพสต์ละ

ลูกศิษย์พี่สุยศักดิ์เองคะ ได้รับคำแนะนำมามาก อยากแชร์ประสบการณ์กับพี่น้องTHAIVI ทุกท่านคะ เล่นหุ้นแบบไม่เครียด ผลกำไรอาจไม่อู่ฟู่มากมายแต่ไม่ต้องติดดอยนอนหนาวให้เครียดคะ

ท่าทางเจ๋ง
ขนาดลูกศิษยังขนาดนี้
อาจารย์คง
สุดที่จะหยั่งถึง

blueplanet เขียน:ท่าทางเจ๋ง
ขนาดลูกศิษยังขนาดนี้
อาจารย์คง
สุดที่จะหยั่งถึง

ไม่เจ๋งมากมายหรอกคะคงยังห่างไกลรุ่นพี่อย่างคุณ Blueplanetและพี่ SUYSUK แค่พยาบาลธรรมดาๆทำงานพยาบาลมา 7 ปีไม่มีเงินเก็บเลยแต่พอได้ลงทุนแบบ VI  ผสมผสานสไตล์ SUYSUK เพียงปีเดียว จากเงินทุนหลักพันสามารถเปลี่ยนเป็นหลักแสนได้(แต่จริงๆกำไรตั้งแต่เล่นมาแค่ประมาณเจ็ดหมื่นเองคะเพราะต้นทุนเราน้อยกว่าพี่เค้ามากๆๆๆๆ)แต่ก็ให้ความหวังกับตัวเองว่าเราต้องพัฒนาต่อไปอย่าหยุดยั้ง  

ความฉลาด
ความถ่อมตัว
จินตนาการ
ความรอบรู้
มีความกระหายที่จะเรียนรู้
อนิจา ผมกำลังจะเจอคู่แข่ง
ทีไม่มีวันที่ผมจะต่อกรได้

blueplanet เขียน:ความฉลาด
ความถ่อมตัว
จินตนาการ
ความรอบรู้
มีความกระหายที่จะเรียนรู้
อนิจา ผมกำลังจะเจอคู่แข่ง
ทีไม่มีวันที่ผมจะต่อกรได้

อย่าเรียกคู่แข่งเลยคะแค่ได้เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันดีกว่ายังต้องพัฒนาอีกเยอะ เห็นส่วนใหญ่ทำเปอร์เซนต์กันได้เยอะมาก ดูแล้วถ้าแข่งกันคงจะเครียดนะคะแค่ลำพังเลือกหุ้นช่วงนี้ก็เครียดพอสมควร หาหุ้นราคาตำกว่าพื้นฐานอนาคตไกลในปีนี้เนี่ยรู้สึกว่าจะยากกว่าปีที่แล้วเยอะมากขนาดท่านอาจารย์ suysuk ยังบ่นเลยบอกให้ช่วยกันขุดหุ้นหน่อยคิกๆๆๆๆๆ

โฮๆๆๆ
ผมกลายเป็นคน มีภูมิธรรม ต่ำกว่าเยอะเลย
คิดแต่จะแข่ง
คิดแต่จะชนะ
คิดแต่จะรวย(คนเดียว)
แต่ดูคุณสิ
คุณมองถึง ความสำเร็จ ที่ไม่ต้องแข่งขัน
ความร่วมทุกข์ร่วมสุข
การช่วยเหลือ การแบ่งปัน
คิดแล้ว ละอายนัก
ขอตัวไปดื่มน้ำสับปะรด
ผมจะได้มีความคิดที่เป็นสับปะรกมากกว่านี้

blueplanet เขียน:โฮๆๆๆ
ผมกลายเป็นคน มีภูมิธรรม ต่ำกว่าเยอะเลย
คิดแต่จะแข่ง
คิดแต่จะชนะ
คิดแต่จะรวย(คนเดียว)
แต่ดูคุณสิ
คุณมองถึง ความสำเร็จ ที่ไม่ต้องแข่งขัน
ความร่วมทุกข์ร่วมสุข
การช่วยเหลือ การแบ่งปัน
คิดแล้ว ละอายนัก
ขอตัวไปดื่มน้ำสับปะรด
ผมจะได้มีความคิดที่เป็นสับปะรกมากกว่านี้

แหะๆขอตัวไปนอนก่อนบ้างนะคะพอดีพรุ่งนี้ต้องขึ้นเวรต่อสงสัยถ้าคุยกับคุณ blueplanet ต่อสงสัยตัวคงลอยติดเพดานแน่เลย
                        เวลาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของธุรกิจ

คุณ popjavi มีแนวทางสบายๆยังไงบ้างเล่าให้ฟังหน่อย เปิดประเด็นในฐานะเจ้าของกระทู้

คุณ popjavi มีแนวทางสบายๆยังไงบ้างเล่าให้ฟังหน่อยครับ

เช็กชื่อครับ

ตบเท้าเข้ามาฟังครับ

popjavi เขียน:อย่าเรียกคู่แข่งเลยคะแค่ได้เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันดีกว่ายังต้องพัฒนาอีกเยอะ เห็นส่วนใหญ่ทำเปอร์เซนต์กันได้เยอะมาก ดูแล้วถ้าแข่งกันคงจะเครียดนะคะแค่ลำพังเลือกหุ้นช่วงนี้ก็เครียดพอสมควร หาหุ้นราคาตำกว่าพื้นฐานอนาคตไกลในปีนี้เนี่ยรู้สึกว่าจะยากกว่าปีที่แล้วเยอะมากขนาดท่านอาจารย์ suysuk ยังบ่นเลยบอกให้ช่วยกันขุดหุ้นหน่อยคิกๆๆๆๆๆ

โอว ในเวป เรา มี อาจารย์ เกิดขึ้นอีกคนแล้วรึ

เค้าคือใคร ทำไมผมไม่รู้จักอ่ะ  :?:
แนะนำ profile ด้วยครับ แต่ถ้าแนวคิดมีประโยชน์ก็ลองแชร์กันดู

+1  รออ่านด้วยคนค่ะ

อยากฟังด้วยคนครับ

มาขอรับฟังด้วยคนครับ

อยากเล่นทุนแบบสบายๆ พอเพียงๆ เหมือนกัน เน้นความสุขกายสบายใจ

ผมคนนึงที่ไม่ค่อยเครียด นะ เพราะผมมะได้แข่งกะใคร ใครจะได้ กี่ ร้อยกี่พันเปอร์เซ็นต์

ถ้าได้เยอะผมก็ดีใจด้วย ถ้าขาดทุน ก็ต้องหาสาเหตุ ให้กำลังใจสู้ๆกันต่อไป

ผมคิดว่า ผมลงทุน เพื่อตัวผม เพื่อชีวิตและครอบครัวของผม การตัดสินใจในแต่ละครั้ง

ก็เป็นการตัดสินใจของผมเอง แข่งกับตัวเอง ไม่ได้เปรียบเทียบกับใคร แค่ วางแผน แล้วก็ทำตามเป้าหมาย ให้ได้ตามแผน ก็แค่นั้นเอง  :lol:  :lol:  :lol:

อืม ในโลกการลงทุน 1 ปี มี 10 เด้งไม่ได้เกิดบ่อยๆ เคยเห็นมากสุด 800% กับหุ้น 1 ตัว

แต่ถ้าเป็น tfex ผมไม่เถียง

แล้วจู่ๆก็มีใครก็ไม่รู้สมัคร log in มา เพื่อสิ่งนี้ เอาเป็นว่าลองพิมพ์มาก่อนแล้วกัน แต่ถ้าผมอ่านแล้วไม่ เชื่อ ก็เป็นสิทธิ์ของผม  :arrow:

โว้กว้าก เขียน:คุณ popjavi มีแนวทางสบายๆยังไงบ้างเล่าให้ฟังหน่อย เปิดประเด็นในฐานะเจ้าของกระทู้

จริง ๆ มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังมากมาย แชร์ประสบการณ์การลงทุนกันน่ะค่ะ แต่ตอนนี้ต้องขึ้นเวร ติดต่อกัน 2 วันค่ะ ยังไงวันนี้ถ้าพี่ Suysak เห็นกระทู้แล้ว รบกวนเข้ามาแชร์ก่อนน่ะค่ะ แล้ววันจันทร์จะเข้ามาแจมด้วยอีก

มารอฟัง ครับ  :P  :P

อุ้ย อะไรกันนี่  :roll:

[quote="kenne"]มาขอรับฟังด้วยคนครับ

อยากเล่นทุนแบบสบายๆ พอเพียงๆ เหมือนกัน เน้นความสุขกายสบายใจ

ผมคนนึงที่ไม่ค่อยเครียด นะ เพราะผมมะได้แข่งกะใคร ใครจะได้ กี่ ร้อยกี่พันเปอร์เซ็นต์

ถ้าได้เยอะผมก็ดีใจด้วย ถ้าขาดทุน ก็ต้องหาสาเหตุ ให้กำลังใจสู้ๆกันต่อไป

ผมคิดว่า ผมลงทุน เพื่อตัวผม เพื่อชีวิตและครอบครัวของผม การตัดสินใจในแต่ละครั้ง

ก็เป็นการตัดสินใจของผมเอง แข่งกับตัวเอง ไม่ได้เปรียบเทียบกับใคร แค่ วางแผน แล้วก็ทำตามเป้าหมาย ให้ได้ตามแผน ก็แค่นั้นเอง

popja เขียนเวอร์แล้ว พอร์ตน้องเขาโตตลอดเพราะ เขาแบ่งเงินเดือนมาลงทุนตลอดต่างหากครับ

ไม่ใช่กำไรเป็นสิบเด้งนะครับ ผมก็ไม่ทราบว่าน้องเขากำไรเท่าไหร่ยังไง รู้แต่เพียงว่าให้แนวทาง แล้วก็คำปรึกษาเขาไป

เห็นกระทู้นี้แล้วเสียวสันหลังวาบ กลัวทุกท่านจะเข้าใจผิดว่ามีเจตนาไม่ดี แต่ได้โทรไปคุยกะน้อง popja แล้ว ว่าใจจริงอยากแชร์ประสบการณ์กับผม อีกทั้งเพื่อนๆที่หาดใหญ่ ก็อยากเข้ามาคุยกัน

ผมต้องกราบขออภัยเพื่อนๆในเวปทุกคนที่อาจสงสัยว่าใครกันหนอ แล้วก็ดูเหมือนตอนนี้จะฮิตตั้งกระทู้ถามคนนู้นคนนี้จนเหมือนเป็นเทรนด์ อย่างไรไม่ทราบ

เอาเป็นว่าในเมื่อมันมีขึ้นมาแล้ว ผมก็คงขอเล่าเรื่องตัวเองเป็นประสบการณ์ให้ทุกท่านฟังกันก็แล้วกันนะครับ

Suysak เขียน:เอาเป็นว่าในเมื่อมันมีขึ้นมาแล้ว ผมก็คงขอเล่าเรื่องตัวเองเป็นประสบการณ์ให้ทุกท่านฟังกันก็แล้วกันนะครับ

 รออยู่เลย ขอรับ

จัดมาเลยครับ

ตอนที่ 1 พกความฝันมาเต็มกระเป๋า

      ผมจำได้ว่าความคิดที่จะเล่นหุ้นมีมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่เนื่องจากผมเรียนที่หาดใหญ่ ประกอบทั้งช่วงนั้นไม่มีใครแนะนำ ก็เลยยังไม่ได้เริ่มต้น

     จนเรียนจบมาทำงานที่ กทม. ก็ได้แต่ซื้อ นสพ กรุงเทพธุรกิจ มาอ่าน จนวันนึงได้ไปงาน SET ตั้งแต่ยังจัดงานใหญ่ที่ ไบเทค มีพวก บลจ บมจ มาออกบู้ธกันมากมาย จนได้เปิดพอร์ท แล้วก็ได้ไปหาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาอ่าน
ซึ่งแน่นอนครับมันต้องมี  ตีแตก   และ   วาทะของวอเรนท์ บัฟเฟต  และก็ อยากอ้วน ที่พิมพ์โดย ตลท

   จำขึ้นใจ ธุรกิจมีแบรนด์ pe < 7, pbv < 1, %dvd > 7

          อันนี้ผมสรุปได้จาก ตีแตก ของท่าน ดร นิเวศน์ และผมก็เริ่มหาหุ้น โดยการอ่านตารางหุ้นที่พิมพ์ใน นสพ
          สุดท้ายเนื่องจากผมชอบอ่านหนังสือผมจึง ซื้้อ MATI เป็นหุ้นตัวแรก และหลังจากซื้อ ผมก็ถือไปเรื่อยๆ เนื่องจากผมมักจะบอกตัวเองว่า รอปันผล
           ช่วงนั้นผมแทบไม่มีความรู้เรื่องตลาดหุ้นเท่าไหร่ ตลาดผมก็ไม่ค่อยดู แต่ก็เช็คราคาหุ้นเป็นระยะๆ จนกระทั่ง วันนึงเครื่องบินก็ชนตึก 911

          ผมจำได้ว่าช่วงนั้นหุ้นผมตก แต่ตลาดหรือหุ้นตัวอื่นเป็นอย่างไรผมไม่รู้ ชีวิตผมตอนนั้นมีเพียง MATI ซึ่งมันก็ตกตามตลาดนะแหละครับ แต่ผมก็มีเรื่องปลอบใจตัวเองว่า ปันผลที่ผมจะได้มันก็มากกว่าราคาหุ้นที่ตก ดังนั้นผมไม่ขาดทุน แล้วเวลาก็ผ่านไป จนหุ้นกลับพลิกฟื้นขึ้น

         ผมมีกำไรจาก ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น บวกกับปันผลที่ผมได้ ผมจึงมานั่งคิดว่า เล่นอย่างนี้เมื่อไหร่เราจะรวย มันต้องขายเอาเงินส่วนต่างสิฟระ ผมจึงขายออกไป แล้วไปถือ Aprint ซึ่งก็เหมือนเดิม กำไร  :lol:

นั่งโต๊ะรออ่านด้วยคนเลยครับ   :lol:

ตอนที่ 2 อยากรวย ก็เราเก่งนิ

   หลังจากผมกำไรหุ้นมาติดๆกัน ผมก็ชักจะรู้สึกว่า ตลาดหุ้นนี้มันหมูมาก ผมขาย aprint แล้วผมก็เริ่มหาหุ้นใหม่ จนมาปิ้ง cpf ซึ่งผมคิดว่า cpf มันช่างดีเสียนี่กระไร มีแบรนด์ ปันผลทุกไตรมาส พีอีต่ำ ราคา 5 บาทก่าๆ นี่มันช่างเย้ายวน ผมเลยซื้อ cpf หมับเข้าให้

  แต่ แต่ แต่ และ แต่ ผมลืมไปว่า ช่วงนั้นเงินบาทไทยเริ่มแข็ง เป็นช่วงที่ cpf เพิ่งแจกวอแรนท์ไป อีกทั้งเริ่มมีข่าวการตอบโต้การทุ่มตลาดต่อไทย ของ สหรัฐ และ ยุโรป

 จากที่คิดว่ามันจะขึ้น มันกลายเป็นลงทุกวัน ยิ่งซื้อยิ่งลง ยิ่งลงยิ่งซื้อ จนหมดเงินซื้อ เงินเดือนออกมาซื้อเพิ่ม ปันผลออกมาซื้ออีก กดบัตรเงินสดมาซื้อด้วย เอากะเขาสิ

 ก็เราเป็น VI นี่น่า ถือยาวๆๆๆๆ ดิ รับปันผลเรื่อยๆ แต่การณ์มันไม่เป็นดั่งที่คาดไว้ จาก 5 กลายเป็น 4 ร่วงเป็น 3 มาที่ 2

 ผมจำได้ว่า ถึงแม้ผมอยากเป็น vi แค่ไหน แต่เมื่อเห็นตัวเลขขาดทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆๆๆ และถึงแม้ผมจะเชื่อคำของบัฟเฟตที่ว่า ถ้าคุณทนเห็นหุ้นตัวเองตกลงมา 50% ไม่ได้ ก็อย่าเล่นเลยหุ้น ผมก็ลืมไปชั่วขณะ

  มือผมเริ่มสั่น น้ำตาผมเริ่มไหล หลักการลงทุนที่อยู่ในหัว เริ่มงงงวย แถมยังไปอ่านบอร์ดหุ้นต่างๆ แล้วให้เจ็บใจ เพราะคนนั้นก็กำไร คนนี้ก็กำไร ทำไมกุขาดทุนคนเดียววะ ผมจึงกด  SELL  ล้างพอร์ทครั้งแรกในชีวิต ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เหลือที่จะกล่าว

ตอนที่ 3 เอาใหม่ ๆ

       ผมรู้สึกเสียศูนย์ และ สูญเสีย อยู่ช่วงนึง แต่ด้วยความที่เห็นการขึ้นลงของหุ้นเหมือนจังหวะหัวใจ ยังไงฏ็คงขาดมันไม่ได้ ผมจึงมองหาหุ้นใหม่ แต่ระหว่างนี้ผมก็พยายามศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ

     PTT แน่นอนจิงๆ ผมตื่นแต่ตีห้าพกเงิน จะไปจองหุ้น ปตท ได้คิวที่สอง ที่ ธนาคารแห่งนึง พอ พนง แบ้ง จะกดคีย์คำสั่งปุ้บ พี่แกก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วบอกผมว่า

         " เต็มแล้วงะ น้อง "
         " ครับพี่ "

    ไม่เป็นไรจองไม่ได้ ซื้อในตลาดก็ได้ครับ ผมจึงได้ซื้อ ปตท ที่ราคา 40 บาท แล้วผมก็ไปทำงาน ตจว อย่างสนุกสนาน เพราะผมถือว่า ถ้า ปตท เจ้ง ไทยแลนด์ก็เจ้ง ด้วย

   และก็แน่นอนครับมันไม่เจ้ง แถมยังขึ้นด้วย และผมก็ดูราคาหุ้นมันพบว่า อยู่ที่ 45 บาท โอ้โห กำไรนี่หว่า เราเก่งจิงๆ เทพมั่กมาก

   และผมก็เริ่มมีเวลาว่างจากการงาน จนมานั่งส่องพวก บอร์ด ที่คุยหุ้นอีกครั้ง

     " เฮ้ย ปตท ไม่ดีหรอก ไม่รู้เหรอมันมีปัญหาท่อก๊าซ เดี๋ยวโดนฟ้อง ขาดทุนน่า "

    " ปตทหุ้นมันการเมือง ทั้งโกง ทั้งกิน ใครซื้อก็บ้าฟระ "

     ผมได้ยินคำนี้ซะจนชินหู แล้วก็เริ่มกลายเป็นความเครียด แน่นอนครับผมไม่อยากขาดทุน

    Take Profit เท่านั้น คือ คำตอบสุดท้าย ไม่เป็นไรฟระกำไรตั้งเยอะ แนะ ผมขายด้วยหน้าตาแช่มชื่น แล้วคิดว่า จะตบรางวัล ตัวเองด้วย กาแฟ starbuck แก้วโตๆ พร้อมทั้ง ชุดเท่ๆ สักชุด

     :8)