โฆสิต" เชื่ออีก 9 ปี รายได้เฉลี่ยต่อหัวคนไทยแตะ1หมื่นดอ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 12, 2010 7:29 am
"โฆสิต" มั่นใจรายได้เฉลี่ยต่อหัวคนไทยเพิ่ม เป็น 10,000 ดอลลาร์ต่อคนต่อปี ในปี 2019 โดยภาคธุรกิจเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก แนะให้คำนึง 4 ปัจจัยหลักในการพัฒนา ทั้งด้านทักษะของบุคลากร ความรอบรู้เทคโนโลยีที่มีคุณภาพ และการพัฒนานวัตกรรม ที่ต้องเอาใจใส่จริงจัง และยั่งยืน
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในการอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวระดับสูง ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยระบุว่า ประเทศไทย ยังมีโอกาสที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวย สามารถเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ซึ่งจะมีบทบาทต่อการค้าโลกในอนาคต โดยในปี 2019 เชื่อว่า รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนไทย จะเพิ่มขึ้นจาก 4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี เพิ่มเป็น 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี แต่คนไทยจะต้องประคับประคองไม่ให้มีเหตุการณ์เข้ามากระทบอีก
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีหน้าที่ในการปรับยุทธศาสตร์ของประเทศ จะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลัก 4 ด้านของการพัฒนา โดยจะต้องทำให้ได้อย่างจริงจัง ประกอบด้วย ทักษะของบุคลากร ความรอบรู้เทคโนโลยีที่มีคุณภาพ และการพัฒนานวัตกรรม ที่จะต้องกระทำอย่างยั่งยืน
ประธานแบงก์กรุงเทพ กล่าวให้เหตุผลเสริมว่า ประเทศไทยอยู่ในกระแสการเติบโตที่เรียกว่า "ทศวรรษแห่งเอเชีย" ที่ประเทศกำลังพัฒนามีจำนวนประชากรมากอย่างจีน และอินเดีย เป็นกระบวนหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ประเทศไทยจึงได้รับอานิสงส์ของการเติบโตเศรษฐกิจของเอเชีย
"เห็นได้จาก แม้ประเทศไทยมีเหตุการณ์ปิดท่าสนามบินเศรษฐกิจไทยก็ชะงักติดลบเพียง 2.2% เท่านั้น แต่ปีนี้ไทยจะเติบโตได้ถึง 6% หรือมากกว่า ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าไทยจะเติบโตได้ถึง 7%"
ทั้งนี้ ภาคธุรกิจเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อน โดยจะต้องพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมอย่างเหมาะสม และมีการใช้นวัตกรรม หากทำได้ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นอีก 5,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปีได้
ขณะที่ภาคสังคมนั้น มีความเป็นห่วงการที่ไทยก้าวสู่สังคมที่มีโครงสร้างประชากรที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งจะเป็นภาระกับระบบประกันสังคม อีกส่วนที่มีความสำคัญมากที่ประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญคือ ต้องไม่มองว่า อาชีพเกษตรกร และอาชีพครู เลี้ยงตัวเองไม่ได้ จะต้องให้สองอาชีพนี้เข้มแข็งเลี้ยงตัวเองได้ เพราะเป็นเสาหลักของประเทศ หากไม่สามารถทำได้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในการอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวระดับสูง ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยระบุว่า ประเทศไทย ยังมีโอกาสที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวย สามารถเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ซึ่งจะมีบทบาทต่อการค้าโลกในอนาคต โดยในปี 2019 เชื่อว่า รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนไทย จะเพิ่มขึ้นจาก 4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี เพิ่มเป็น 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี แต่คนไทยจะต้องประคับประคองไม่ให้มีเหตุการณ์เข้ามากระทบอีก
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีหน้าที่ในการปรับยุทธศาสตร์ของประเทศ จะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลัก 4 ด้านของการพัฒนา โดยจะต้องทำให้ได้อย่างจริงจัง ประกอบด้วย ทักษะของบุคลากร ความรอบรู้เทคโนโลยีที่มีคุณภาพ และการพัฒนานวัตกรรม ที่จะต้องกระทำอย่างยั่งยืน
ประธานแบงก์กรุงเทพ กล่าวให้เหตุผลเสริมว่า ประเทศไทยอยู่ในกระแสการเติบโตที่เรียกว่า "ทศวรรษแห่งเอเชีย" ที่ประเทศกำลังพัฒนามีจำนวนประชากรมากอย่างจีน และอินเดีย เป็นกระบวนหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ประเทศไทยจึงได้รับอานิสงส์ของการเติบโตเศรษฐกิจของเอเชีย
"เห็นได้จาก แม้ประเทศไทยมีเหตุการณ์ปิดท่าสนามบินเศรษฐกิจไทยก็ชะงักติดลบเพียง 2.2% เท่านั้น แต่ปีนี้ไทยจะเติบโตได้ถึง 6% หรือมากกว่า ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าไทยจะเติบโตได้ถึง 7%"
ทั้งนี้ ภาคธุรกิจเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อน โดยจะต้องพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมอย่างเหมาะสม และมีการใช้นวัตกรรม หากทำได้ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นอีก 5,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปีได้
ขณะที่ภาคสังคมนั้น มีความเป็นห่วงการที่ไทยก้าวสู่สังคมที่มีโครงสร้างประชากรที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งจะเป็นภาระกับระบบประกันสังคม อีกส่วนที่มีความสำคัญมากที่ประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญคือ ต้องไม่มองว่า อาชีพเกษตรกร และอาชีพครู เลี้ยงตัวเองไม่ได้ จะต้องให้สองอาชีพนี้เข้มแข็งเลี้ยงตัวเองได้ เพราะเป็นเสาหลักของประเทศ หากไม่สามารถทำได้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้