Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เพราะอะไรครับ เขาถึงซื้อขายกันที่ pe 5-7 เท่านั้น

e มันไม่แน่นอนมั้ง ผมว่า ตลาดเลยไม่กล้าจะเสี่ยงให้ พีอี สูงๆ

แล้วธุรกิจอสัง คุณ wantaract ก็น่าจะรู้ดีกว่าผมอีก ว่ามันเทาขนาดไหน เอาคะแนน CG ไปหัก ก็ยิ่งพีอีต่ำเตี้ยลงไปอีก


อีกอย่างผมว่าคนในตลาดส่วนใหญ่ทั้งสาย VI สายเทคนิคอล ไม่ค่อยมีคนให้น้ำหนักกับ book เท่าไร ( ไม่เหมือนสาย VI เก่าแบบคุณ wantaract )  กลุ่มอสังที่มีแวลูซ่อนอยู่ในบุ๊คเลยไม่มีคนมองเท่าไร

อย่าง ที่เขาบอกล่ะ กำไรมันไม่มั่นคง แปรผันกับทิศทางดอกเบี้ย ผันผวนตามทิศทางเศรษฐกิจ
อนาคตข้างหน้ามี3ปัจจัยที่ต้องคิด
1.ดอกเบี้ยขาขึ้น
2.supplyที่เริ่มล้นตลาด
3.นโยบายทางภาษีของอสังหาที่หมดอายุ
ช่วงนี้ที่ผ่านมากำไรมันเยอะเพราะดอกเบี้ยต่ำมาก คนซื้อกันมาก
กำไรมาก P/E เลยดูว่าถูก
ถ้ากำไรกลับมาปกติ P/E จะออกมาจะไม่ต่ำอย่างนี้หรอก
สรุปคือถ้าจะซื้อโดยดูP/e ให้ดูกำไรในอนาคตเป็นหลักครับ

มาตรฐานบัญชีที่กำลังจะเปลี่ยนก็โดนกลุ่มนี้เต็ม ๆ เลยนะครับ การรับรู้รายได้จะไม่รับรู้แบบเปอรฺเซ็นต์ที่สร้างเ้สร็จแล้ว แต่จะให้รับรู้เมื่อโอนแทน เฉพาะกลุ่มรับเหมาเท่านั้นที่ยังคงให้ใช้บันทึกตามเปอร์เซ็นต์ที่สร้างเสร็จเหมือนเดิม อสังหาตัวที่ไม่ได้สร้างเสร็จก่อนขายก็จะมีงบกำไรขาดทุนแกว่งเป็นรถไฟเหาะเลยครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าตลาดจะตอบสนองกับเรื่องนี้ยังไงมั่ง

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ว่าทำไมมันดูเหมือนถูก

ผมจะปรับสมมติฐานการประเมินมูลค่าใหม่นะครับ



สมมติว่าทุกบริษัทมีจริยะธรรมแบบไต่เส้น และกินกันนิดหน่อย

สมมติว่าทุกบริษัทมีการบันทึกมูลค่าทางบัญชีที่สูงเกินจริง

ทำไม pe พฤกษา มันสูงจัง 55555


สมมติว่าต้องลดราคาถึงขายออกเพราะ supply ล้น

เอาหละ พอแล้ว ถ้ายัง under value อีก ก็ต้องซื้อหละ 5555

Warantact เขียน:ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ว่าทำไมมันดูเหมือนถูก

ผมจะปรับสมมติฐานการประเมินมูลค่าใหม่นะครับ



สมมติว่าทุกบริษัทมีจริยะธรรมแบบไต่เส้น และกินกันนิดหน่อย

สมมติว่าทุกบริษัทมีการบันทึกมูลค่าทางบัญชีที่สูงเกินจริง

ทำไม pe พฤกษา มันสูงจัง 55555


สมมติว่าต้องลดราคาถึงขายออกเพราะ supply ล้น

เอาหละ พอแล้ว ถ้ายัง under value อีก ก็ต้องซื้อหละ 5555

ที่จ่ายแพงเป็นค่าPremiumครับ

พฤกษาสร้างบ้านเดี่ยวใช้เวลาแค่เดือนเดียวครับ หนี้แบงค์ไม่มีเลย ( มีแต่ตราสารหนี้ ) และ มีแผนการที่จะโตแบบ aggressive มากๆ ที่มันต้องโตเพราะสร้างโรงงานปั๊มบ้านใว้แล้ว ต้องปั๊มออกมาให้เยอะที่สุด ขายให้เร็วที่สุดครับ  :twisted:

ที่ p/e ต่ำ นอกจากจะเพราะว่ามันเป็น cyclical แบบอ่อนๆแล้ว น่าจะเพราะธุรกิจประเภทนี้มันต้องลงทุนอยู่ตลอด ไม่สามารถปันผลออกมาทั้งหมดได้ เนื่องจากพอโครงการเก่าเริ่มที่จะหมดไป ก็ต้องนำเงินทุนส่วนนึงไปซื้อที่เพื่อพัฒนาโครงการต่อไปเพื่อมาเป็นรายได้ของปีถัดไป ไม่งั้นรายได้จากโครงการหมดไป จะเอาอะไรไปจ่ายเงินเดือนพนักงานละคับ

ผมมองว่าเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงของรายได้ครับ

ธุรกิจอื่นๆก็ทำไปเรื่อยๆของมันได้

อย่างรับเหมา งานหมดก็ต้องประมุลใหม่  บ้านก็ต้องหาทำเลใหม่เรื่อยๆ
ทุกปีถ้าทำตัวชิวๆเมื่อไหร่ เกมส์แน่นอน ดังนั้นผมมองว่าธุรกิจกลุ่มนี้เหมือนหนูติดจั่นครับหยุดไม่ได้ ต้องActiveตัวเองตลอดเวลา ซึ่งธุรกิจอื่นก็เหมือนกันนะครับแต่น้อยกว่ากลุ่มนี้ ดังนั้นอะไรก็ตามที่ต้องนับ1ใหม่เรื่อยๆคนก็ให้PEต่ำมากครับผมมองว่าเป็นเรื่องปกติ

แต่ถามว่าทำไมบางตัวPE10 บางตัวPE4 ผมมองว่าเพราะตัวPE10มักจะเป็นบริษัทใหญ่จนคนเริ่มคิดว่ามันไม่ได้นับ1ใหม่นะ มันมีแบรนของตัวมันด้วย
เช่นกลุ่มแลนแอนเฮ้าส์ หรือพฤกษา ลุมพินี เปิดตัวมาคนเห็นแบรนก็ซื้อแล้วก็เยอะนะครับ

ส่วนมองในบริษัทก่อสร้าง อย่างITD CK ที่PEสูงก็เพราะว่ามักจะรับงานรัฐบาลและก็วนๆกันอยู่ในกลุ่มนี้ ดังนั้นพอปีหน้าก็ไม่เหมือนกับนับ1หใม่เสมอไป

แต่เท่าที่ผมคุยกับพี่คนหนึ่งเขาบอกว่าต่างประเทศกลับไม่กดราคาขนาดนี้นะครับ ซึ่งก็แปลกดี

หลายๆตัวผมว่า อาจถูกไป แต่ยังไม่ได้ประเมินเลยนะ 5555

ไม่รู้ประเมินยังไง เอาอดีตมาคิดแล้วดูมีหนี้น้อยๆละกัน

pe ต่ำอาจจะเป็นโอกาศก็ได้นะครับ

เชิญครับ

ง่ายๆนะครับ อสังหา ขายแล้วจบกันคุณทราบรายได้ของหมู่บ้านที่ขายไป แต่ว่าอนาคตล่ะครับจะขายได้เท่าเดิมไหม ตรงกันข้าม เซเว่น ๑ ร้าน มียอดขาย ๓แสนต่อเดือน ปีหน้าก็ขายได้เท่าเดิม หรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดังนั้น อสังหาจึงมี พีอีไม่มาก ผิดกับพวกค้าปลีก

คำตอบแต่ละท่านชัดเจนสุดๆ นับถือ นับถือ

ที่เห็ฯ P/E ต่ำๆนี่ก็ขึ้นมาทำ New high กันหมดแล้วนะคับ  :shock: