หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ขอคำแนะนำเรื่องการกระจายความเสี่ยง

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 16, 2010 8:30 pm
โดย gnomeller
ผมเข้ามาในตลาดหุ้นไทยได้ 5ปี เดิมผมลงทุนในหุ้น 90% ของเงิน เก็บทั้งหมด และปีนี้ผมทำกำไรได้ 40%
ตอนนี้ผมขายออกมาครึ่งหนึ่ง เพื่อเอากำไรในขั้นแรกออกมาก่อน และมีแผนว่าจะนำไปต่อยอดอีกที
และอีกครึ่งผมยังเชื่อมั่นว่าจะไปได้ต่อ ผมยังถือไว้อีกอยางน้อย 1ปีแน่นอนจากนี้

พอมาตอนนี้ ผมคงไม่เอาเงิน ครึ่งหนึ่งที่ออกมาจากหุ้น ไปฝากแน่นอน รับไม่ได้กับอัตราดอกเบี้ยครับ ก็เรามันเลือดนักลงทุนนิเนอะ ผมจึงมองหาการลงทุนที่จะกระจายความเสี่ยงออกไปหลายๆทาง

วันนี้ผมกำลังเตรียมอยู่ 1.ลงทุนในตลาด NY 2.กองทุนทองคำ

ที่ผมอยากที่จะย้ายเข้าไปสู่ตลาด NY เพราะว่า ผมรุ้สึกว่าตอนนี้ผมยังไม่สามารถหาหุ้นที่ผมจะซื้อได้อีก และไม่มีอะไรที่ผมมองว่าดูดีไปกว่าที่ผมถืออยู่ตอนนี้ ผมเลยคิดว่าผันไปลงทุนเมืองนอกก็น่าจะดี มีอะไรให้เลือกเยอะ และตลาดใหญ่ ราคาน่าจะเป็นไปตามกลไกมากกว่าตาม volume แปลกๆของไทยเรา และตอนนี้ผมก็ไปเจอกิจการทีน่าสนใจอยุ่บ้างแล้ว
อยากขอคำแนะนำการลงทุนในต่างประเทษครับว่ามีอะไรที่ต้องพึงระวังบ้าง เพราะเราเข้าไปตรงนั้นก็ถือเป้นมือใหม่หน่ะครับ

ที่เลือกลงทุนในทองคำ เพราะอยากจะหาอะไรที่มันต้านคานกับ ตลาดหุ้นไว้บ้าง ปกติแล้ว หุ้นลงทองขึ้น หุ้นขึ้นทองลง ประมาณนั้น ก็จะได้ลงทุนสลับกันได้ และตรงเรื่องทองนี่ก็คิดว่าจะถือยาวๆเหมือนกันครับ ดูจากราคาแล้ว ไปช้าเหมือนเต่า แต่ผมว่ามันไปชัวร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากได้คำแนะนำ ว่าอะไรที่ควรระวังของกองทุนทองคำบ้างครับ


ยังไงขอคำแนะนำด้วยครับ ถ้าพี่ๆเป้นผม พี่ๆจะจัดการการลงทุนยังไง ถ้าพี่ยังหาหุ้นตัวอื่นๆที่น่าสนใจไม่ได้อีก จะเอาเงินไปพักไว้ที่ไหนก่อนดี  เงินแต่ละก้อนหลักหมื่นครับ พอร์ทเลีก แต่ผมต้องการทำกำไรทวีคูนครับ ผมคิดว่ามันเป้นไปได้ง่ายในตอนที่พอร์ทเรากำลังเล๊กๆแบบนี้ ผมรับความเสี่ยงได้ ยังไงขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ด้วยครับ

ขอคำแนะนำเรื่องการกระจายความเสี่ยง

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 16, 2010 9:50 pm
โดย nattachai
เท่าที่ผมลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยใช้บริการของ Philips เค้าจะให้ฝากเงินเข้าไปขั้นต่ำ 500,000 บาทนะครับ และการซื้อแต่ละทีมีค่าธรรมเนียม 1000-3000 บาท ขึ้นอยู่กับซื้อตลาดไหน ถ้าลงทุนเป็นหลักหมื่นไม่น่าจะคุ้มครับ ผมว่าต้องลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไปครับ

และถ้าลงทุนในตลาด NYSE หรือ NASDAQ ของอเมริกา ต้องลงทุนอย่างน้อย 1 ปีครับ ไม่งั้นขายแล้วจะโดนภาษีจากกำไรด้วยครับ