Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

JN_5480 เขียน:1. เว็บที่มีประโยชน์เอาไว้ใช้ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลบริษัท นอกจากเว็บบริษัทและ SET.or.th แล้ว มีเว็บไหนอีกมั้ยครับ

JN_5480 เขียน:2. ทำไมใน one up on wallstreet ถึงต้องบอกให้หาหุ้นที่มีบริษัทถือหุ้นอยู่ไม่มากด้วยล่ะครับ (เข้าใจไปเองว่าเป็นเพราะ ถ้าบริษัทนั้นๆขาย หุ้นจะตกมาก)

JN_5480 เขียน:4. พวกบริษัทหลายๆบริษัทที่กำไรสุทธิติดลบเอาๆ เค้าจะทำไปทำไมครับ แล้วทำไมยังมีคนไปซื้อหุ้นเค้าอีก

JN_5480 เขียน:1. เว็บที่มีประโยชน์เอาไว้ใช้ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลบริษัท นอกจากเว็บบริษัทและ SET.or.th แล้ว มีเว็บไหนอีกมั้ยครับ

2. ทำไมใน one up on wallstreet ถึงต้องบอกให้หาหุ้นที่มีบริษัทถือหุ้นอยู่ไม่มากด้วยล่ะครับ (เข้าใจไปเองว่าเป็นเพราะ ถ้าบริษัทนั้นๆขาย หุ้นจะตกมาก)

3. การเรียน MBA หรือการเรียนด้านการเงิน หรือ การสอบ CFA ช่วยในการลงทุนแบบ VI มากน้อนแค่ไหนครับ (อยากขอหลายๆความเห็น)

4. พวกบริษัทหลายๆบริษัทที่กำไรสุทธิติดลบเอาๆ เค้าจะทำไปทำไมครับ แล้วทำไมยังมีคนไปซื้อหุ้นเค้าอีก

JN_5480 เขียน:1. เว็บที่มีประโยชน์เอาไว้ใช้ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลบริษัท นอกจากเว็บบริษัทและ SET.or.th แล้ว มีเว็บไหนอีกมั้ยครับ

www.sec.or.th มีข้อมูลหนังสือชี้ชวน และ รายงาน 56-1 รวมถึงงบการเงินย้อนหลัง www.settrade.com มีข้อมูล Analyst Consensus

2. ทำไมใน one up on wallstreet ถึงต้องบอกให้หาหุ้นที่มีบริษัทถือหุ้นอยู่ไม่มากด้วยล่ะครับ (เข้าใจไปเองว่าเป็นเพราะ ถ้าบริษัทนั้นๆขาย หุ้นจะตกมาก)

น่าจะตามที่พี่ suysak ตอบมา เพราะ การมีกองทุน บริษัทประกัน หรือ นักลงทุนสถาบันอื่นๆ ถือหุ้นอยู่เยอะ มีโอกาสที่ราคาหุ้นของบริษัทนั้นจะสะท้อนถึงอนาคตของธุรกิจไปแล้ว เพราะนักลงทุนสถาบันมักมีวิธีการประเมินการลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานอยู่แล้ว ดังนั้นโอกาสจะได้หุ้นดีราคาถูกมากๆจึงน้อยลง (รวมถึงหุ้นที่มีนักวิเคราะห์ติดตามเยอะ ก็จะมีโอกาสได้ 2 เด้ง 3 เด้ง ไม่มากนัก ถ้าไม่ใช่หุ้นวัฎจักร และ หุ้นพลิกฟื้น)

3. การเรียน MBA หรือการเรียนด้านการเงิน หรือ การสอบ CFA ช่วยในการลงทุนแบบ VI มากน้อนแค่ไหนครับ (อยากขอหลายๆความเห็น)

MBA ผมว่ามีผลมาก แต่สาขาที่วิชาที่คิดว่าสำคัญต่อแนวทาง VI ในความคิดของผมคือ Marketing เพื่อการวิเคราะห์ศักยภาพของธุรกิจมากกว่า Finance และ Accounting ส่วนการสอบ CFA ก็เหมือนกับการได้ทบทวนความรู้สมัยเรียน MBA หรือ MSFinance อีกรอบสำหรับคนที่ลืมไปแล้ว ไม่น่าจะมีผลมากถุ้าไม่ได้อยากไปทำงานสายนักวิเคราะห์ หรือ ผู้จัดการกองทุน (ซึ่งตามกฎแล้ว ก็จะไม่สามารถลงทุนเองได้อย่างสะดวกถ้าทำอาชีพนี้)  


4. พวกบริษัทหลายๆบริษัทที่กำไรสุทธิติดลบเอาๆ เค้าจะทำไปทำไมครับ แล้วทำไมยังมีคนไปซื้อหุ้นเค้าอีก

อันนี้ก็น่าจะตามที่พี่ suysak ได้ตอบไว้แล้วว่าคนหวังการพลิกฟื้นกลับมาทำกำไร ... อยากจะเสริมอีกประเด็นว่า กำไร ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะสะท้อนราคาหุ้น เพราะอย่าลืมว่าบริษัทเองก็มีทรัพย์สินอยู่ ... ถึงตัวธุรกิจจะไม่ทำกำไรเลย โดยทฤษฏีแล้วก็ควรจะมีมูลค่าของหุ้นไม่ต่ำกว่าศูนย์อยู่แล้ว... พอราคาหุ้นลดลงเนื่องจาบริษัทขาดทุนถึงระดับหนึ่ง มุมมองของนักลงทุนจะเริ่มเปลียนจากการมองด้านผลตอบแทนดู P/E เป็นหลัก ไปเป็นการมองด้านมูลค่าทรัพย์สิน หรือดู P/B แทน ซึ่งพอหุ้นมีระดับราคาต่ำกว่า Bv มากๆ ตามทฤษฏีก็จะมีแรงจูงใจให้นักลงทุนหาผลตอบแทนจากการซื้อหุ้นตัวนั้นเพื่อเลิกกิจการแล้วนำทรัพย์สินออกไปแปลงเป็นเงินคืนมาที่สูงกว่าราคาหุ้น ... แต่ในทางปฏิบัติในระยะยาวแล้วก็เป็นไปตามทฤษฏีแต่อาจจะมีปัญหาด้านระยะเวลาว่าอาจต้องรอกััน 5 ปี 10 ปี ...

(ที่กล่าวข้างต้นไม่รวมกรณีของหุ้นปั่น หุ้นเก็งกำไร หุ้นเก็งข่าวบริษัทรับส้ม
หล่น)

JN_5480 เขียน:1. เว็บที่มีประโยชน์เอาไว้ใช้ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลบริษัท นอกจากเว็บบริษัทและ SET.or.th แล้ว มีเว็บไหนอีกมั้ยครับ

2. ทำไมใน one up on wallstreet ถึงต้องบอกให้หาหุ้นที่มีบริษัทถือหุ้นอยู่ไม่มากด้วยล่ะครับ (เข้าใจไปเองว่าเป็นเพราะ ถ้าบริษัทนั้นๆขาย หุ้นจะตกมาก)

3. การเรียน MBA หรือการเรียนด้านการเงิน หรือ การสอบ CFA ช่วยในการลงทุนแบบ VI มากน้อนแค่ไหนครับ (อยากขอหลายๆความเห็น)

4. พวกบริษัทหลายๆบริษัทที่กำไรสุทธิติดลบเอาๆ เค้าจะทำไปทำไมครับ แล้วทำไมยังมีคนไปซื้อหุ้นเค้าอีก

JN_5480 เขียน:1. เว็บที่มีประโยชน์เอาไว้ใช้ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลบริษัท นอกจากเว็บบริษัทและ SET.or.th แล้ว มีเว็บไหนอีกมั้ยครับ

ตามความเห็นข้างบนครับ

2. ทำไมใน one up on wallstreet ถึงต้องบอกให้หาหุ้นที่มีบริษัทถือหุ้นอยู่ไม่มากด้วยล่ะครับ (เข้าใจไปเองว่าเป็นเพราะ ถ้าบริษัทนั้นๆขาย หุ้นจะตกมาก)

ตามความเห็นข้างบนครับ

3. การเรียน MBA หรือการเรียนด้านการเงิน หรือ การสอบ CFA ช่วยในการลงทุนแบบ VI มากน้อนแค่ไหนครับ (อยากขอหลายๆความเห็น)

ได้ตามที่เรามีความสามารถในการประยุกต์ใช้ครับ

4. พวกบริษัทหลายๆบริษัทที่กำไรสุทธิติดลบเอาๆ เค้าจะทำไปทำไมครับ แล้วทำไมยังมีคนไปซื้อหุ้นเค้าอีก

เค้ามองเห็นอนาคตครับ เช่น อาจล้างขาดทุนสะสมได้ เมื่อเขาเปลี่ยน model ธุรกิจครับ หรือ เก็งกำไร หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่นักลงทุนมีความคาดหวังครับ