ราคายางพารา กับภัยแล้ง : ข่าวจากฐานเศรษฐกิจ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 03, 2004 2:51 pm
ภัยแล้งพ่นพิษผลผลิตยางลดดันราคาภายในพุ่งพ่อค้าเจ๊ง
วิกฤติภัยแล้งไม้เว้นพืชยางพารา ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยกว่าปกติ ดันราคาภายในประเทศพุ่งเฉียด 50 บาท/กก.ผู้ส่งออกร้องจ๊ากรับออร์เดอร์ราคาสูง คาดหลายรายขาดทุน ด้านจีนหันนำเข้าจากอินโดฯ ส่งผลไตรมาสแรกส่งออกยางไทยไปจีนปริมาณลดฮวบ 19% อินโดฯ เพิ่ม 131%
นายชูสิทธิ์ โอภาสวงศ์ กรรมการผู้จัด การบริษัทฮ่วยชวน จำกัด เปิดเผยกับ "ฐาน-เศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์ส่งออกยางพารา ในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปีนี้ว่า การส่งออกยางไปจีนซึ่งเป็นตลาดนำเข้าที่สำคัญของไทยลดลงไปมาก โดยไตรมาสแรกจีนนำเข้ายางพารารวมทั้งสิ้น 3.24 แสนตัน นำเข้าจากไทย 1.95 แสนตันหากเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาลดลง 19% นำเข้าจากมาเลเซีย 68,000 ตัน เพิ่มขึ้น 63% นำเข้าจากอินโดนีเซีย 26,000 ตัน เพิ่มขึ้น 131% เหตุที่จีนนำเข้ายางจากไทยลดลงเพราะช่วงไตรมาสแรกภาวะราคายางของไทยค่อนข้างสูง เนื่อง จากภาวะความแห้งแล้งอากาศร้อนจัด ชาวสวนกรีดยางได้น้อยทำให้ยางออกสู่ตลาดน้อยลง และราคายางสูงขึ้น
"ช่วงนี้ผลผลิตยางของไทยยังออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ผู้ส่งออกที่รับออร์เดอร์ล่วงหน้าไว้ เชื่อว่าส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดทุน เพราะราคายางแผ่นดิบชั้น 3 ที่ตลาดกลาง ยางพารา หาดใหญ่ ณ วันที่ 21 เมษายน อยู่ที่กก.ละ 49 บาท ราคาดังกล่าวหากนำมาผลิตเป็นยางแผ่นรมควันและรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วจะทำให้ต้นทุนอยู่ที่ตันละ 1,437 เหรียญสหรัฐ ขณะราคาที่ผู้ส่งออกรับออร์เดอร์ล่วงหน้าไว้อยู่ที่ประมาณ 1,390 เหรียญสหรัฐ ซึ่งราคาดังกล่าวหากเสนอขายช่วงนี้จีนยังลังเลที่จะสั่งซื้อ โดยหันไปนำเข้าจากอินโดนีเซียและมาเลเซียซึ่งราคาถูกกว่า อย่างไรก็ดีคาดว่าจีนจะนำเข้ายางพาราจากไทยจำนวนมากในช่วงครึ่งหลังของปีเพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก"
ด้านแหล่งข่าวจากตลาดกลางยางพารา หาดใหญ่ กล่าวว่า ขณะนี้ยางพาราที่เข้าสู่ตลาดกลางทั้งที่ตลาดกลางหาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยที่หาดใหญ่และสุราษฎร์ฯ เข้ามาวันละประมาณ 10 ตัน ที่นครศรีธรรมราช วันละประมาณ 30 ตัน ทั้งนี้เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงยางผลัดใบ ชาวสวนจะยังไม่กรีดน้ำยางจนกว่าฝนจะตกและให้ปุ๋ยจึงจะกรีดน้ำยาง แต่ถ้าหากฝนทิ้งช่วงนานไม่สามารถใส่ปุ๋ยต้นยางพาราได้การกรีดน้ำยางจะล่าช้าออกไป ซึ่งจะทำให้ปริมาณผลผลิตยางพาราที่ออกสู่ตลาดในช่วงครึ่งแรกของปีมีไม่มาก
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคายางพาราโดยรวมในปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา เพราะความต้องการใช้ยางพาราของโลกจะเพิ่มขึ้น 4% ขณะที่ผลผลิตยางของโลกเพิ่มขึ้นเพียง 2% อีกทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของจีนและอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนขยายตัว ปีที่ ผ่านมาจีนมีความต้องการใช้ยาง 1.4 ล้านตัน ปีนี้คาดว่าจะใช้ 1.6-1.7 ล้านตัน
สำหรับความต้องการใช้ยางธรรมชาติของประเทศผู้ใช้ยางประเทศอื่นๆ มีดังนี้คือสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะใช้ยาง 1.18 ล้านตัน ญี่ปุ่น 0.78 ล้านตัน เกาหลีใต้ 0.34 ล้านตัน ส่วนประเทศผู้ผลิตยางไทยมีผลผลิต 3.18 ล้านตัน คาดว่าจะส่งออก 2.85 ล้านตัน อินโด- นีเซีย 1.86 ล้านตัน มาเลเซีย 0.72 ล้านตัน จีน 0.49 ล้านตัน เวียดนาม 0.41 ล้านตัน
อนึ่ง ปริมาณการส่งออกยางโดยรวมไตรมาสแรก กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่ามีการส่งออกทั้งสิ้น 787,471 ตัน เทียบกับช่วงเดียว กันปีที่ผ่านมาลดลง 18.3% ส่วนมูลค่า 898 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.1% ส่วนเป้าหมายทั้งปีตั้งไว้ที่ปริมาณ 3,356,260 ตัน มูลค่า 3,346 ล้านเหรียญสหรัฐ