Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

SEHJU เขียน:มีอยู่เล่มครับ ที่รวมประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นไทย มีเหตุการณ์และตัวละครต่างๆมากมาย ไปที่นี่เลยครับ

http://www.tasimplified.com/joomla/inde ... Itemid=287

หรือ หนังสือของ ตลท แต่ไม่ค่อยมีวางขายครับ ต้องไปดูที่ ตลท ครับ

ส.สลึง เขียน:ส่วนตัวผมว่าเล่มนี้ work นะ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=39931

เหตุการณ์ที่สำคัญ
Question book-4.svg
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงตามสมควร บทความที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงเลยอาจพิจารณาให้ลบ

   * 30 เมษายน พ.ศ. 2518: วันเปิดตลาดครั้งแรกที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยาม มีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 8 บริษัท บริษัทรับอนุญาต 3 บริษัท นำหลักทรัพย์เข้ามาซื้อขายรวม 14 หลักทรัพย์ และมีหลักทรัพย์ภาครัฐบาล 2 หลักทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 16 หลักทรัพย์ ซึ่งการซื้อขายในวันแรกมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.98 ล้านบาท
         o บริษัทจดทะเบียนครั้งแรกประกอบไปด้วย
         o ธนาคารกรุงเทพ จำกัด
         o บรรษัทเงินทุนอุตสหกรรมแห่งประเทศไทย
         o บริษัท ดุสิตธานี จำกัด
         o บริษัท บางกอกอินเวสท์เมนท์ จำกัด
         o บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด
         o บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด
         o บริษัท เดอะเมตัลบ๊อกซ์ ประเทศไทย จำกัด
         o บริษัท อุตสหกรรมทำเครื่องแก้วประเทศไทย จำกัด
         o บริษัทรับอนุญาตประกอบไปด้วย
         o บริษัท เจ แอนด์ เจ โฮ จำกัด
         o บริษัท ลีกวงมิ้งทรัสต์ จำกัด
         o บริษัท เจเนอรัลไฟแนนส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

   * 17 มีนาคม พ.ศ. 2519: ดัชนีทำจุดต่ำสุดที่ 76.44 จุดต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องมาจากการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในช่วงนั้นนั่นเอง

   * 7 สิงหาคม พ.ศ. 2522: วิกฤตการณ์ราชาเงินทุน บริษัทราชาเงินทุนถูกเพิกถอนใบอนุญาต ทำให้ราคาและปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว

   * 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2525: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยย้ายที่ทำการจากอาคารศูนย์การค้าสยามมาอยู่ที่อาคารสินธร ถนนวิทยุ

   * 19 ตุลาคม พ.ศ. 2530: วันจันทร์ทมิฬ (Black Monday) - ตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดต่ำลงอย่างรวดโดยลดลงกว่า 509.32 จุดภายในวันเดียว เป็นผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกลงกันถ้วนหน้า ตลาดฮั่งเส็งในฮ่องกง ตกลงกว่า 420.81 จุด และมีผลถึงตลาดหุ้นไทยที่นักลงทุนหมดความเชื่อมั่นจนมีการสั่งขายหุ้นเป็น จำนวนมากโดยดัชนีจาก 459.01 จุด ได้ลดลง 13 จุดภายในวันแรกก่อนที่วันต่อมาจะลดลง 36.64 จุด และลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน โดยในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ดัชนีอยู่ที่ระดับ 243.97 จุด

   * 2 สิงหาคม พ.ศ. 2533: เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย ดัชนีจากระดับ 1,129.36 จุด ได้ลดลง 14.42 จุดภายในวันแรก ก่อนที่วันต่อมาจะลดลงกว่า 44.26 จุด และลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 4 เดือน โดยในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ดัชนีอยู่ที่ระดับ 544.3 จุด

   * 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2534: มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ASSET มาใช้กับการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบ แทนที่ระบบการซื้อขายโดยการเคาะกระดานแบบเดิม โดยระบบ ASSET ได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2534 โดยเริ่มจากการซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทหน่วยลงทุนเป็นลำดับแรก

   * 4 มกราคม พ.ศ. 2537: ดัชนีราคาหุ้นได้สร้างจุดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยอยู่ที่ระดับ 1,753.73 จุด

   * เมษายน พ.ศ. 2541: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยย้ายที่ทำการจากอาคารสินธร ถนนวิทยุมายังที่ทำการอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานของตนเอง

   * 23 มกราคม พ.ศ. 2549: มูลค่าการซื้อขายในตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ภายในวันเดียว โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้นกว่า 94,062.04 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าการซื้อขายหุ้น SHIN กว่า 57,058.10 ล้านบาท

   * 19 ธันวาคม พ.ศ. 2549: ธนาคารแห่งประเทศไทยออก มาตรการกันสำรอง 30% เพื่อป้องกันกันเก็งกำไรค่าเงินบาท ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติตื่นตระหนกพากันเทขายหุ้น โดยดัชนีหลักทรัพย์ได้ลดลงต่ำที่สุดกว่า 142.63 จุดหรือ 19.52% ซึ่งเป็นการลดลงต่ำที่สุดภายในวันเดียวที่มากที่สุดในประวัติศาสาตร์ตลาด หลักทรัพย์ฯ ก่อนที่จะปิดตลาดที่ติดลบ 108.41 จุด หรือลดลงกว่า 14.84% และมีการใช้มาตรการ Circuit Breaker เป็นครั้งของตลาดในช่วงเวลา 11.26 ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีลดลงกว่า 74.06 หรือ 10.14%

   * 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งใช้มาตรการเซอร์กิต เบรกเกอร์ (circuit breaker) หยุดทำการซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราว 30 นาที ตั้งแต่เวลา 14.35 น. ถึง 15.05 น. เนื่องจากตลาดหุ้นไทย ลดลงมากกว่า 10 % เป็นครั้งที่ 2 ของประเทศไทย นับตั้งแต่ วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ เวลา 14.35 น. อยู่ที่ 449.91 จุด ลดลง 50.08 จุด ลดลง 10.02 %

   * 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551:ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งใช้มาตรการเซอร์กิต เบรกเกอร์ (circuit breaker) หยุดทำการซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราว 30 นาที ตั้งแต่เวลา 16.04 น. ถึง 16.34 น. เนื่องจากตลาดหุ้นไทย ลดลงมากกว่า 10 % เป็นครั้งที่ 3 ของประเทศไทย และครั้งที่ 2 ในปีนี้ โดยเมื่อเวลา 16.04 น. ดัชนีร่วงลง 10% อยู่ที่ระดับ 389.58 จุด หรือลดลง 43.29 จุด หลังเปิดการซื้อขายอีกครั้งในรอบที่ 2 ดัชนียังคงปรับลดลงต่อเนื่อง โดยปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 387.43 จุด ลดลง 45.44 จุด หรือลดลง 10.50 % ดัชนีต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี
   * 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552:ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ต่ำที่สุดในไตรมาศ 4/*2552* ดัชนีปิดที่ 681.91 จุด
   * 7 เมษายน พ.ศ. 2553 : ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 20 ปี โดยทำจุดสูงสุดที่ 820 จุด ก่อนปิดตลาดมีแรงเทขายทำกำไรออกมามาก ดัชนีของวันจึงปิดที่ 812.63 จุด เพิ่มขึ้น 4.48 จุด
   * 8 เมษายน ถึง 19 เมษายน พ.ศ. 2553 : การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ได้ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้ SET Index ในวันทำการระหว่างวันที่ 8-19 เมษายน ร่วงลงกว่า 94 จุด โดยในวันที่ 8 เมษายน ลดลง 28.70 จุด และลดลงทุกวันจนถึงวันที่ 19 เมษายน ซึ่งดัชนีของวันที่ 19 เมษายน ปิดที่ 726.29 จุด ลดลง 9.87 จุด ก่อนรีบาวน์ได้ในวันที่ 20 เมษายน ซึ่งบวกแรงกว่า 39 จุด
   * 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553:กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ได้เผาทำลายชั้นล่างของอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากที่แกนนำกลุ่ม น.ป.ช. ได้มอบตัว ทำให้การซื้อขายหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ ซื้อขายได้เพียงครึ่งวันเช้าเท่านั้น ต่อมาได้ปิดทำการในวันที่20 พฤษภาคมและ21 พฤษภาคมตามลำดับ

    27 สิงหาคม พ.ศ. 2553      ดัชนีทำจุดสูงสุดในรอบ3ปี ที่ 900.37 จุด

chumber เขียน:

ส.สลึง เขียน:ส่วนตัวผมว่าเล่มนี้ work นะ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=39931

เล่มนี้ผมเคยเห็นเหมือนกัน "2530-2551 จาก Black Monday ถึง Hamburger Crisis" หนาน่าดูเลยครับ

ถ้ามันดีจริงๆผมจะได้ซื้ออ่านดูครับ

ขอบคุณครับผม