Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สภาพคล่องของหุ้น มีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายหุ้นของแต่ละท่าน
แน่ๆ แต่ผมอยากทรบว่า มีใครมีหลักคิดอย่างไรบ้าง
1. ปริมาณเงินที่ลงได้สูงสุดในหุ้น1ตัวคิดจากอะไร (หุ้นมีสภาพคล่องน้อย)
2. มีการประเมินสภาพคล่องของหุ้นก่อนมั้ยแล้วค่อยคิด MOS
3. MOS ของหุ้นสภาพคล่องน้อยมากกว่าหุ้นปกติเท่าไร
4. หุ้นที่มีสภาพคล่องน้อยและมีนโยบายปันผลต่ำมากๆ ยังจะกล้าซื้อไม๊
5. กล้าซื้อ Turnaround Stock ไม๊ถ้าสภาพคล่องน้อยมาก
ไม่ต้องตอบทุกข้อก็ได้ครับ
หรืออาจจะใช้หลักการณ์เดียวแก้ปัญหาได้หมดเลยยิ่งดี

[quote="blueplanet"]สภาพคล่องของหุ้น มีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายหุ้นของแต่ละท่าน
แน่ๆ แต่ผมอยากทรบว่า มีใครมีหลักคิดอย่างไรบ้าง
1. ปริมาณเงินที่ลงได้สูงสุดในหุ้น1ตัวคิดจากอะไร (หุ้นมีสภาพคล่องน้อย)
ANS ขึ้นกับสภาพคล่อง กับ mos

2. มีการประเมินสภาพคล่องของหุ้นก่อนมั้ยแล้วค่อยคิด MOS
ตอบ คิด mos ก่อน สภาพคล่อง

3. MOS ของหุ้นสภาพคล่องน้อยมากกว่าหุ้นปกติเท่าไร
ตอบ ถ้ามากกว่า 50 ถึงลงทุน ถ้าสภาพคล่องน้อย ใส่เงินน้อย คล่องมากใส่เงินมาก
4. หุ้นที่มีสภาพคล่องน้อยและมีนโยบายปันผลต่ำมากๆ ยังจะกล้าซื้อไม๊
ตอบ mos ต้องสุดยอดกล้าซื้อ
5. กล้าซื้อ Turnaround Stock ไม๊ถ้าสภาพคล่องน้อยมาก
ตอบ เหมือนเดิม mos มากแค่ไหน เหนือสิ่งอื่นใด เรารู้จริงแค่ไหนกับหุ้น ยิ่งเสี่ยงสูง ยิ่งต้องมั่นใจมากๆ และผลตอบแทนต้องมากด้วย
ไม่ต้องตอบทุกข้อก็ได้ครับ
ตอบ เผลอตอบทุกข้อแล้วคงไม่ว่ากัน  :lol:
หรืออาจจะใช้หลักการณ์เดียวแก้ปัญหาได้หมดเลยยิ่งดี
ตอบ มีหลักการเดียว ใช้หลักการเดียวเสมอ  :shock:

1. ปริมาณเงินที่ลงได้สูงสุดในหุ้น1ตัวคิดจากอะไร (หุ้นมีสภาพคล่องน้อย)
-วางแผนก่อนที่จะลงมือทำครับ
-ตั้งเป้าไว้ก่อนจากการคิดว่า มูลค่าต่อ
หุ้นเป็นเท่าไหร่
จากนั้น ก็ลงมือซื้อทะยอยเก็บ ถ้าจำเป็นก็เคาะขวา

2. มีการประเมินสภาพคล่องของหุ้นก่อนมั้ยแล้วค่อยคิด MOS
ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องสภาพคล่อง ในตลาด มีคนซื้อก็มีคนขาย
รอได้ ก็รอ ไม่ต้องไล่ราคา

3. MOS ของหุ้นสภาพคล่องน้อยมากกว่าหุ้นปกติเท่าไร
ไม่ว่าสภาพคล่องมากหรือน้อย ไม่กังวลเนื่องจาก คิดมูลค่าต่อหุ้น
เหมือนกัน

4. หุ้นที่มีสภาพคล่องน้อยและมีนโยบายปันผลต่ำมากๆ ยังจะกล้าซื้อไม๊
กล้าซื้อ หากคิดแล้วว่ามี Story ของหุ้นที่จะทำให้ ราคาที่จะซื้อยังมี
Upside อยู่

5. กล้าซื้อ Turnaround Stock ไม๊ถ้าสภาพคล่องน้อยมาก
ต้องดูว่า มี MOS อยู่หรือไม่ ถ้ามีก็ลงมือซื้อได้

ปีนี้ผมเจอหุ้นหลายตัว แต่ถือไว้ แล้วขายไปก่อนที่จะราคาสูงทุกทีเช่น
CI , KH, MCS  ขายหมูไปโดยไม่ตั้งใจ

ไม่ต้องตอบทุกข้อก็ได้ครับ
หรืออาจจะใช้หลักการณ์เดียวแก้ปัญหาได้หมดเลยยิ่งดี

blueplanet เขียน:สภาพคล่องของหุ้น มีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายหุ้นของแต่ละท่าน

ถ้าไม่ใช่หุ้นที่มี free float น้อยจริงๆ ผมไม่เคยคิดถึงสภาพคล่องเลยครับ เพราะ ถามตรงๆคุณรู้ได้ยังไงว่าหุ้นตัวไหนมีสภาพคล่องน้อยหรือมากจริงๆ

ช่วงที่ market แย่ๆปีสองปีก่อน ผมจำได้ว่า หุ้นบางตัวไม่มีการซื้อขายเลย หรือมีการซื้อขายหลักพันหุ้น ช่วงเดือนสองเดือนมานี้ หุ้นเดิมๆตัวนั้นมีการซื้อขายเป็นแสนเป็นล้านหุ้นครับ

สภาพคล่องไม่ใช่เรื่องสำคัญของผม

ไม่ค่อยสน สภาพคล่องต่ำน่ะ ลากง่ายดี 5555

อสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นอีก

สำหรับผมถ้าเป็นหุ้นที่สภาพคล่้องต่ำจริง ๆ ผมจะ derate P/E ลงมาเล็กน้อยเพื่อชดเชยเวลาซื้ออาจต้องซื้อในราคาสูงบ้าง เวลาขายอาจจะขายในราคาต่ำลงกว่าที่คิด

[quote="chatchai"]อสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นอีก

เห็นด้วยกับพี่ฉัตรชัยครับ
ทำธุรกิจส่วนตัวไม่หมูครับ อัตราการอยู่รอดของธุรกิจขนาดเล็กต่ำมากครับ

[quote="chatchai"]อสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นอีก

[quote="chatchai"]อสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นอีก

[quote="frontosa"][quote="chatchai"]อสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นอีก

[quote="rayshow"][quote="frontosa"][quote="chatchai"]อสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นอีก

[quote="chatchai"]อสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นอีก

[quote="frontosa"][quote="chatchai"]อสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นอีก

[quote="chatchai"]
เรามักจะได้ยินข่าวเสมอว่า

แหม ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ไม่ใช่ว่าหุ้นไม่มีตัวตน แต่มันจับต้องยากกว่าในสายตาของคนทั่วไป

ส่วนตัวผมเองก็ลงทุนในหุ้น100% เหมือนกัน

ที่อยากบอกคือ ไม่มีอะไรที่มีแต่ข้อดีหรอก แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนมากว่า

อย่างที่ปีเตอร์ ลินช์ บอกละครับ "หุ้นดีที่(ยัง)ไม่มีคนสนใจ มักมีราคาต่ำกว่าราคาที่เหมาะสมมากๆ"

หาหุ้น"ดี"ให้เจอก่อน เมื่อเจอแล้ว ค่อยๆทะยอยเก็บไปเรื่อยๆ ติดตามผลประกอบการไป หาโอกาสไปดูโรงงาน ฟังวิสัยทัศน์ผบห.

ดีซะอีก มีเวลาทบทวนการบ้านเยอะกว่าหุ้นที่เคลื่อนไหวเร็ว

หุ้นบางตัว เมื่อสองปีก่อน ซื้อขายกันวันละไม่กี่หมื่นบาท บริษัทต้องตั้งโครงการซื้อหุ้นคืน ตอนนี้ซื้อขายกันวันละหลายล้านบาท แต่ราคาก้อขึ้นมาสามสี่เท่าแล้วครับ อยากซื้อตอนนี้หรือตอนนั้นครับ

คนเรา ต่างกรรมต่างวาระ

บางครั้ง ช่วยมากไป หรือ ให้วิชาไป

ก็เป็นภัยแก่ตัวอีก และคนอื่นอีก



อย่างสำนวน "ศิษย์ล้างครู"  หรือ

ดาบสองคม เป็นต้น

อยู่ที่ว่าเราให้ ดาบ แก่ คนดี หรือ คนเลว ในสังคม แค่นั้น

blueplanet เขียน:5. กล้าซื้อ Turnaround Stock ไม๊ถ้าสภาพคล่องน้อยมาก

กล้าแน่นอนครับ
สภาพคล่องน้อย ผมมองว่านั่นคือความไม่มีประสิทธฺภาพของตลาด (นั่นอาจจะหมายถึง "ของดี" ที่คนละเลยและไม่มีใครให้ความสนใจ)

เป้าหมายในการซื้อหุ้นของผม ไม่เหมือนใครนะ
ผมชอบที่จะมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในเว็บ Settrade.com (ต้องมีหุ้นมากกว่าหรือเท่ากับ 0.5% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว)
ดังนั้นผมจึงเลือกหุ้นได้ไม่หลายตัวนัก
และผมมักจะเลือกซื้อหุ้นประเภท Turnaround ที่มีเสน่ห์!!!

"การซื้อหุ้น Turnaround" แปลว่า เราจะสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาถูก เนื่องจากเรามีเงินอยู่อย่างจำกัด และหุ้นพวกนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะเราซื้อที่จุดเกือบต่ำที่สุด

"การซื้อหุ้นที่มีเสน่ห์" เช่น บริษัทฯมีแบรนด์ที่ดีเป็นที่รู้จัก ,บริษัทฯน่าจะมีข่าวดีออกมาอย่างต่อเนื่อง หรือ อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ

ลองนึกดูซิครับว่า...
"มันจะดีแค่ไหน ถ้ามีชื่อเราเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในกิจการที่ดี และมีอนาคตที่ดี"
โดยเฉพาะถ้าเราซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าเจ้าของ ถูกกกว่านักลงทุนคนอื่นๆ
เพราะเราซื้อที่ "จุด(เกือบ)ต่ำสุด"


ถึงวันนี้...
"ผมเอง ปรับพอร์ตไป ปรับพอร์ตมา
ตอนนี้ผมสามารถมีชื่อได้ใน 2 บริษัทฯแล้ว คือ NC และ PAE
NC ตอนนี้...มีชื่ออยู่แล้ว
PAE จะมีชื่อ...เมื่อปิดสมุดครั้งต่อไป"

จากเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 300,000 บาทในหุ้น BATA
และนำเงินมาเติมอีกระหว่างทางอีก 500,000 บาท (เป็นเงินที่คุณแม่ให้มาลงทุน เพราะเป็นเงินที่ผมฝากคุณแม่มาตลอดตั้งแต่ทำงาน)
โดยผมใช้กลยุทธ์ Turnaround Stock มาตลอด
และผมคงจะปรับพอร์ตไปเรื่อยๆ เพื่อก้าวไปหาบริษัทที่ 3 และ 4 และต่อๆไปในอนาคต


หุ้นทุกตัวมีห้วงเวลาของมัน สรุปว่า...ผมเองไม่กลัวเรื่องสภาพคล่องเลยครับ
สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าคือ "การคาดการณ์ผลประกอบการที่ผิดพลาด ,การมองภาพธุรกิจผิดพลาด และธรรมมาภิบาลของผู้บริหาร" ครับผม

เล่าสู่กันฟังวันหยุดครับผม

(^_^)

ถ้าธุรกิจดีจริง(ย้ำว่าต้องศึกษาอย่างถ่องแท้) ไม่ต้องห่วงเรื่องสภาพคล่องครับเพราะวันไหนเบื้องบนเห็นคุณงามความดีที่สะสมไว้(แนวโน้มกำไรเติบโต ราคาต่ำกว่ามูลค่ามากๆ) จะเกิดภาวะองค์ลง volum มาจากไหนก็ไม่รู้ :lol:

ตอบในภาพกว้างก่อนล่ะ
ตั้งแต่ไปเรียนที่ MFE ที่นิด้ามาล่ะ

ทำให้เห็นภาพการลงทุนในอีกมุมมองหนึ่งขึ้นมานอกเหนือจาก VI
ว่า โดยทั่วไปเข้าคิดมาอย่างไง (เรียนมาได้แค่ 1เทอม และ 1 summer กำลังเข้าสู่เทอม 2)

สิ่งที่ขาดไปคือ ไม่ได้ดูเรื่อง RISK ที่ลงทุนอย่างเต็มที่
ประกอบกับได้อ่านหนังสือเรื่อง ดันโด ทำให้คิดได้ว่า
การลงทุนอีกแนวหนึ่งคือ คิดเรื่อง RISK อย่างเดียว
ทำให้ปีนี้คิดปีหลัง ก็เริ่มให้หลักของดันโด มาใช้
โดยใช้ประมาณ 30% ของเงินลงทุนทั้งหมดเลย
ผลปรากฏว่า ดีกว่าที่คิดไว้เลยล่ะ

แต่อย่างไงก็ตามต้องคอย Monitor อยู่ตลอดเวลาล่ะครับ