Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

VI อย่างพวกเราไม่ขายกันอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าศึกษาแล้วมั่นใจกับหุ้นตัวนั้นๆ  ซึ่งจะไม่ถือหุ้นมากตัว เลือกหุ้นที่เราคิดว่าดีที่สุดในตลาด ถือหุ้นที่เรารู้จักดี  แต่ถ้าตลาดอย่างนี้ของมันเริ่มแพงกว่าราคาที่เราตั้งเป้าไว้  
แล้วเงินเดือนเงินเก็บที่ได้เพิ่มมาทุกเดือนสะสมกันเรื่อยๆจัดการกันยังไงครับ  หรือยังเอาไปลงอยู่แม้ตลาดเป็นอย่างนี้ซึ่งเท่ากับว่าเราซื้อหุ้นในราคาแพงสิครับ  แถมราคาก็ไปถัวกับที่อุตสาห์ซื้อได้ถูกมาอีก    

หรือจะรอ เพื่อนผมบางคนรอมาตั้งแต่8ร้อยจุดว่าหุ้นจะลง มันก็ไม่เห็นลง หรือ VI ต้องรอกันเป็นปีๆ  เท่ากับเสียโอกาสนำเงินต่อเงินรึเปล่าครับ    

หรือจะศึกษาหาหุ้นตัวอื่น  ก็เท่ากับว่าเราเพิ่มความเสี่ยงไปหากิจการที่เราคัดทิ้งไปตอนแรก ซึ่งย่อมเสี่ยงกว่าหุ้น No.1 ในใจเรา


ผมว่าเป็น VI หุ้นขึ้นนี่เล่นยากนะ  หุ้นตกเล่นง่ายกว่าอีก

ถูกต้องแล้วครับ
เป็นVIต้องอดทนรอซื้อหุ้นราคาถูกๆ
ซื้อและถือไว้ให้นานตราบจนคุณค่าบเปลี่ยน
สบายๆ
 :)  :)

ถ้าคิดว่ายังไม่เจอหุ้นที่ดีพอ และราคาไม่เหมาะสม

การรอคือคำตอบที่ดีดีสุดครับ เราไม่จำเป็นต้องตีลูกบอลทุกลูกที่มา waiting for perfect pitch  :o

งั้นขอถามต่ออีกข้อไปเลยครับว่า รอนานๆกันขนาดนี้พักเงินกันที่ไหนบ้างครับ

นอกระบบ  :lol:

ผมก็รอเช่นกันครับ ลงทุนในหุ้นแค่20% ของเงินออมอยู่ ที่เหลือก็กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น (MMF), บัญชีฝากประจำ 3 เดือน ส่วน 6หรือ12 เดือนไม่เอาเดี๋ยวดอกก็ปรับขึ้นปีหน้ามันจะไม่คุ้ม  และทองคำก็น่าสนใจ สุดท้ายก้ควานหาหุ้นดีที่ยังถูกไปเรือยๆครับ
ประหยัด ขยัน ออม ทำงานประจำต่อไปก่อนครับ

ถ้ารอแล้วมันขึ้นเรื่อยเรื่อยอ่าคับ

หุ้นบางตัว ลงไปแล้ว ไม่เคยกลับขึนมาก็มี

หุ้นบางตัว ขึ้นไปแล้ว ไม่เคยกลับลงมาก็มี

รอมานานแล้วเหมือนกันครับ ซื้อครั้งสุดท้ายตอนวิกฤตการเมือง จากตอนแรกถือหุ้น100% ตอนนี้กลายเป็นหุ้น 70 เงินสด 30ซะแล้วครับ  (เงินเก็บต่อเดือนไม่ได้สูงครับ แต่พอร์ทเล็ก :lol: )

จริงๆหุ้นถูกๆตอนนี้คงมีแหละครับ แต่สายตา+ฝีมือ ผมคงยังน้อยไป เลยหาไม่ค่อยจะเจอ ไอ้ที่เจอก็ดันไม่ค่อยจะรู้จักธุรกิจแนวนั้น สุดท้ายก็รอต่อไปครับ ส่วนแหล่งพักเงิน ตอนนี้กำลังหาๆอยู่เหมือนกันครับ ใครมีที่ไหนดีๆแนะนำผมด้วยครับ

คิดไม่ออก ก็ ฝากประจำสิครับ ม่ายก็ไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์ชีวิต ชีวิตมีอะไรมากกว่าหน้าจอแดงเขียวนะ  :lol: ไว้คนกลัวตลาดค่อยซื้อ

    ผมลงทุนในบริษัทที่ ผมมองว่าจะมีผลประกอบการที่ดีต่อไป

ไม่เคยมองว่าset เท่าไรมานานเเล้วครับ

set ขึ้นไปอีกเป้น 1500จุด ผมก้เชื่อว่ายังมีคนขาดทุนได้

เเต่ในขณะที่ set ลง พอรท์เราก็ยังมีผลประกอบการที่ดีกว่าการนำเงินไปฝากเเบงค์ได้

สำหรับผม set index ไม่ได้มีค่าอะไรนัก เพราะไม่ว่าเท่าไรผมก้ยังคงลงทุนต่อเนื่อง

เว้นเเต่ว่าผมสามรถหาการลงทุนที่ให้ผลตอบเเทนดีกว่า เเละปลอดภัยมากกว่า



ลงทุนเเบบมีสติเเละมีความสุขกับการลงทุนครับ

เท่าที่ดูผ่าน ๆ หุ้นที่ตัวเองสนในตอนนี้เกินเกณฑ์ทั่วไปที่ผมจะซื้อแล้วสิ เว้นแต่ว่าจะมีข้อมูลอะไรที่ทำให้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่จะซื้อได้

ผมซื้อขาย สามเดือนครั้งครับ หลังงบออก ถ้ายังมีหุ้นเข้าเกณฑ์ก็ซื้อ ถ้าตกเกณฑ์ก็ขาย ไม่สนใจเป็นรายตัวมากถ้าพอร์ตรวมยังเขียวอยู่

[quote="nw108"]

saichon เขียน:
ในช่วงนี้ก็ฝันหวานไปพลางๆว่าอีก2-3ปี จะมีเงินปันผลเข้ามาปีละประมาณเท่าไหร่
และพอร์ตจะโตเป็นเท่าไหร่เอาครับ

ฝันหวาน

http://www.youtube.com/watch?v=TrWCJevtGVM

ซื้อเมื่อเจอหุ้นที่เสนอขายในราคาต่ำกว่ามูลค่า ไม่เจอก็ถือเงินรอไว้ก่อนครับ
มันเป็นข้อดีของการลงทุนนะครับ เราเลือกเล่นในเกมส์ที่มีโอกาสชนะมากมากได้ ส่วนเกมส์ที่มีโอกาสแพ้สูง เราก็อยู่เฉย ๆ ดีกว่า

หากมองไปแล้วเจอแต่หุ้นราคาแพง

แล้วเราจะเสี่ยงเข้าไปเล่นทำไมครับ ในเมือมันมีโอกาสเสียมากกว่าได้

ปล.แต่ตอนนี้ ยังมีหุ้นถูกให้เลือกอีกเยอะครับ

ผมก็ยังเจอหุ้น undervalue ให้ลงทุนอยู่เรื่อยๆนะ ติดปัญหาไม่มีเงินสดในมือทุกทีเลย  :8)  :8)

[quote="reiter"]ผมก็ยังเจอหุ้น undervalue ให้ลงทุนอยู่เรื่อยๆนะ ติดปัญหาไม่มีเงินสดในมือทุกทีเลย

[quote="newbie_12"][quote="reiter"]ผมก็ยังเจอหุ้น undervalue ให้ลงทุนอยู่เรื่อยๆนะ ติดปัญหาไม่มีเงินสดในมือทุกทีเลย

ดร.นิเวศ ลงทุนตั้งแต่ตอน SET 800-900 (รอบก่อนๆนู้น)
ตอนนี้ SET ก็ยัง 800-900 อยู่
แต่เงินจาก 10 ล้าน กลายเป็นเกือบ 2000 ล้านแล้วครับ
ดร.นิเวศ ท่านสามารถรวยได้ เด้งได้ ไม่รู้กี่สิบเท่า โดย SET เท่าเดิมๆ

ส่วนวิธีการรับมือ ผมว่าไม่ต้องคิดซับซ้อน ระดับ idol เกรแฮม บัฟเฟต เนฟฟ์ คิดไว้แล้ว
เจอหุ้นถูกก็ซื้อ ไม่เจอก็ถือเงินสด ง่ายๆแค่นั้น

เห็นด้วยกับคุณหมอ reiter ครับ

แล้วก็ ซื้อตัวหุ้นครับ อย่าไปมองดัชนี เว้นเสียว่า หุ้นที่เราสนใจนั้นหรือซื้อไว้นั้น มีผลอย่างมากกับดัชนีคับ

เขา้ใจหลักการนะ  
ผมทำอยู่คือซื้อเมื่อเห็นราคาต่ำกว่ามูลค่า  แต่ถ้ามองอีกแบบถ้าซื้อเฉพาะเวลาหุ้นราคาถูก  แปลว่าเราใช้วิธีอื่นเป็นส่วนใหญ่ในการออมใช่มั้ยครับ  เพราะซื้อได้เฉพาะเวลามีจังหวะ     แต่เงินเก็บเราเพิ่มทุกเดือน  เราก็มองเงินมันแช่ไว้ไปเรื่อยๆ   ทั้งๆที่ถ้าไปซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้อาจได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอแน่นอนกว่า

แต่ถ้าซื้อหุ้นที่เรามั่นใจเรื่อยๆไม่เี่กี่ยงราคาก็เพิ่มโอกาสติดดอยเข้าใกล้กับพวกเล่นสั้น  เพราะซื้อราคาเดียวกับพวกเขา


เลยมองว่าเกมส์นี้  จริงๆมันก็วัดการอดทนอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ    ถ้าผมเป็นฝรั่งรู้อย่างนี้ผมก็ซื้อไปก่อนไม่เกี่ยงราคาแม้จะขาดทุนตอนแรก แต่ลากไปสูงไว้นานๆเข้า  สุดท้ายคนที่ทนไม่ไหวก็ต้องเอากำไรที่เคยได้จากเราเข้ามารับไม้อยู่ดี   มองอย่างนี้เลยเริ่มเข้าใจแล้วว่าระยะยาวตลาดหุ้นทำไมคนขาดทุนมากกว่าคนกำไร    ยกเว้นมีความสามารถแบบดร.นิเวศน์  คือมีสายตาหาหุ้นundervalueใหม่ๆมาเล่นได้เรื่อยๆตลอดสภาพตลาด

ผมใช้พวก TLOGIS กับ TFUND พักเงินอ่า มันค่อนข้างนิ่ง ปันผลสมำเสมอ 6-8%ได้ โดยเฉพาะ TLOGIS นี่ถ้าเข้าใจไม่ผิดกองทุนจะรับประกันรายได้ค่าเช่าขั้นต่ำประมาณ 7% เป็นเวลาอีก 6 ปี (คิดจากต้นทุน 10 บาทน๊า)

เก็บตางไว้คับ อาจจะเอาไปทำอย่างอื่น ก่อนก็ได้นะ่ ฝาก ธ ไว้ก่อน ก็ได้ หากไม่รู้ว่าจะทำไร...

ผมมองว่า หากเรา คิดว่า ตอนนี้ ตลาดไม่มีหุ้นถูกแล้ว ก็ให้รอ คับ บัฟเฟตต์ บอกว่า เล่นหุ้นห้ามเชื่อคนอื่นน่ะคับ หากเราไม่มั่นใจ ผมคิดว่า ใ้ห้รอน่ะคับ ถึงแม้คนอื่นเขายังบอกว่า ยังมีหุ้นถูกอยู่ แต่อย่าลืมคับ ว่า คนที่พูดเขาอาจจะอยู่ีในตลาดและอาจจะมีประสบการณ์ในการลงทุนมากกว่าเรา รวมถึงศึกษามากกว่าด้วย

....นอกจากนั้นผมมองว่า ในช่วงที่คุณเก็บตางไว้ โดยที่ไม่เอามาลงทุนในช่วงนี้ คุณก็ลองศึกษา ศึกษา ให้เยอะๆ คับ เพื่อเพิ่มเสริมประสบการณ์คับ บางที ตลาดอาจจะปรับไปสูงกว่านี้ ตอนที่คุณศึกษามาระดับหนึ่ง และอาจจะมองกลับกันจากตอนนี้ ว่า มันยังมีของถูก......ลงทุนให้เชื่อตัวเองคับ เพระหากพลาดแล้ว มันก็คือเงินเราคับ

...ส่วนตัวผมก็ยังเห็นว่า พอจะมีของถูกอยู่...

[quote="reiter"]ผมก็ยังเจอหุ้น undervalue ให้ลงทุนอยู่เรื่อยๆนะ ติดปัญหาไม่มีเงินสดในมือทุกทีเลย

ตอนนี้ผมเพิ่งเปลี่ยนกลยุทธจากซื้อหุ้นถูก เป็นหุ้นที่กำลังจะถูกแทน
ทำให้ยอมซื้อหุ้นที่ PE สูงได้ แต่คาดการณ์(เดา) ว่า PE จะต่ำลงในอนาคต
เพราะ Growth ที่สูง  :lol:

[quote="Suysak"]คิดไม่ออก ก็ ฝากประจำสิครับ ม่ายก็ไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์ชีวิต ชีวิตมีอะไรมากกว่าหน้าจอแดงเขียวนะ

ซุนเซ็ก เขียน:ดร.นิเวศ ลงทุนตั้งแต่ตอน SET 800-900 (รอบก่อนๆนู้น)
ตอนนี้ SET ก็ยัง 800-900 อยู่
แต่เงินจาก 10 ล้าน กลายเป็นเกือบ 2000 ล้านแล้วครับ
ดร.นิเวศ ท่านสามารถรวยได้ เด้งได้ ไม่รู้กี่สิบเท่า โดย SET เท่าเดิมๆ

ส่วนวิธีการรับมือ ผมว่าไม่ต้องคิดซับซ้อน ระดับ idol เกรแฮม บัฟเฟต เนฟฟ์ คิดไว้แล้ว
เจอหุ้นถูกก็ซื้อ ไม่เจอก็ถือเงินสด ง่ายๆแค่นั้น

แจ่มชัด!

ซุนเซ็ก เขียน:ดร.นิเวศ ลงทุนตั้งแต่ตอน SET 800-900 (รอบก่อนๆนู้น)
ตอนนี้ SET ก็ยัง 800-900 อยู่
แต่เงินจาก 10 ล้าน กลายเป็นเกือบ 2000 ล้านแล้วครับ
ดร.นิเวศ ท่านสามารถรวยได้ เด้งได้ ไม่รู้กี่สิบเท่า โดย SET เท่าเดิมๆ

ส่วนวิธีการรับมือ ผมว่าไม่ต้องคิดซับซ้อน ระดับ idol เกรแฮม บัฟเฟต เนฟฟ์ คิดไว้แล้ว
เจอหุ้นถูกก็ซื้อ ไม่เจอก็ถือเงินสด ง่ายๆแค่นั้น

+1 เห็นด้วย

บางที ผมก็เจอบ่อยเวลาโทรหาเพื่อน เพื่อนก็ถามหุ้นขึ้นมาขนาดนี้ รวยกันใหญ่เลยสินะ

ผมก็บอกว่า ดัชนีหุ้น กับ ตัวหุ้น นี่ต้องมองแยกกันนะ แล้วก็ บลา บลา บลา

ก็เอาเป็นว่า ถ้าหุ้นที่เราซื้อแต่เดิม ถ้าดูเกินมูลค่าที่เราต้องการ ก็ขายทิ้ง กำไรก็แล้วแต่

ถ้าเจอหุ้นที่ยังมี MOS มากพอควร เราก็เก็บเข้าพอร์ต

ส่วนตัวผมก็มีเงินสดไว้ส่วนหนึ่งเสมอ เผื่อเหคุการณ์ที่ไม่คาดคิด