Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ครม.เห็นชอบมาตรการทางภาษีเชิงรุกเพื่อสนับสนุนการอ่าน
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 12 ตุลาคม 2553 16:07:38 น.

นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการทางภาษีเชิงรุกเพื่อสนับสนุนการอ่าน และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

โดยกำหนดกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ดังนี้ สำหรับบุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่า ลดหย่อน เป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงินที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมการอ่าน แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับ โครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลด หย่อนดังกล่าวนั้น

สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้เป็นจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สิน เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมการอ่าน แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับ โครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ และรายจ่ายในการจัดสร้างและการบำรุงรักษาสนาม  เด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของเอกชนที่เปิดให้ประชาชนใช้เป็นการทั่วไป โดยไม่เก็บค่าบริการใด ๆ หรือสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของทางราชการแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือ เพื่อการสาธารณประโยชน์และเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา

นอกจากนี้ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเท่ากับจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินเป็นจำนวน ร้อยละ 100 ของรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อจัดหาหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมการอ่าน สำหรับหอสมุดหรือห้องสมุดของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/นิศารัตน์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการทางภาษีเชิงรุกเพื่อสนับสนุนการอ่าน และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

virginboy เขียน:

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการทางภาษีเชิงรุกเพื่อสนับสนุนการอ่าน และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

แสดงว่าบังคับใช้ได้ตามกฎหมายแล้วใช่ไหมครับ

เหตุที่ลงข่าวหลายๆ ชิ้นมาให้อ่านเปรียบเทียบ  เพราะบางข่าวอาจอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ  หรืออ่านจนจบแล้วไม่รู้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  จึงนำลงมาให้ทุกท่านติดตาม  และวิเคราะห์กันเองก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ได้ข้อยุติ เกี่ยวกับมาตรการภาษีเชิงรุกเพื่อส่งเสริมการอ่าน  และอีกหลายอย่างยังขึ้นกับรายละเอียดที่กระทรวงการคลังจะทำงานร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการอีก

ทราบมาว่า  ในอีกไม่กี่วันนี้  คณะกรรมการส่งเสริมการอ่าน  ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน  จะมีการประชุมซักซ้อมมาตรการทางภาษีเชิงรุกที่ยังค้างอยู่   เพื่อเตรียมสำหรับการประชุมเพื่อหาข้อยุติกับกระทรวงการคลัง  ดังนั้น  คำถามที่ท่านทั้งหลายสอบถามมาจึงยังตอบไม่ได้ชัดเจนในขณะนี้  หากมีความชัดเจนแล้ว จะแจ้งให้ทราบทางเวบบอร์ดนี้ อีกครั้งหนึ่งครับ  


.....................................................................................


ครม. ลดหย่อนภาษีหนังสือ 100%


เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม  นายชินวรณ์  บุญยเกียติ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ว่าที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการในการลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้ บริจาค หรือ ซื้อหนังสือให้แก่สถานศึกษา หรือ ห้องสมุด โดยจะลดหย่อนภาษี 100 % ให้แก่ผู้ซื้อหนังสือ และผู้บริจาคหนังสือ ตลอดจนสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้าห้องสมุด  อย่างไรก็ตาม ครม.เห็นว่ายังเป็นมาตรการเบื้องต้นที่ไม่มีผลกระทบมากพอที่จะทำให้คนไทยได้ อ่านหนังสือ และซื้อหนังสือราคาถูกมากยิ่งขึ้น

“ผมได้เสนอที่ประชุม ครม.ว่าหากกระทรวงการคลังพิจารณา เรื่องการลดหย่อนภาษีด้านกระดาษ และปรับเปลี่ยนฐานภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ผลิตหนังสือ และโรงพิมพ์ต่าง ๆ ให้เข้าสู่การพิจารณาภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคิดภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 0  จะมีผลโดยตรงที่จะทำให้ราคาหนังสือลดลงได้  ซึ่งจะจูงใจให้ประชาชนอ่านหนังสือมากขึ้น เพราะซื้อหนังสือในราคาถูก ทั้งทำให้ซื้อและบริจาคหนังสือมากขึ้นด้วย ซึ่งนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นด้วย  ครม.จึงเห็นชอบให้กระทรวงการคลังรับข้อเสนอดังกล่าวไปพิจารณา และนำกลับเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.อีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ และหาก ครม.เห็นชอบ จะส่งผลให้ปรับสาระเพิ่มในร่างพระราชกฤษฎีกาของกระทรวงการคลัง  นอกจากนี้ ศธ. และกระทรวงการคลัง จะร่วมกันออกระเบียบรองรับ เพื่อเป็นมาตรการที่ส่งเสริมการอ่านอย่างแท้จริง” นายชินวรณ์กล่าว

จาก นสพ. มติชนรายวัน 13 ต.ค. 2553


...............................................................................................


รัฐบาลเล็งลดภาษีส่งเสริมการอ่าน

นายวัชระ  กรรณิการณ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงผลการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.)  เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมว่า ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้นายประดิษฐ์  ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรงการคลัง  พิจารณามาตรการทางภาษีเชิงรุกเพื่อสนับสนุนการอ่าน ในเรื่องของการลดภาษีเชิงรุกเพื่อสนับสนุนการอ่าน ในเรื่องของการลดภาษีนำเข้ากระดาษเพื่อการผลิตหนังสือ และการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจหนังสือ มานำเสนอให้ ครม.พิจารณาเพิ่มเติมใน 2 สัปดาห์ หลังจาก ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการเบื้องต้น อาทิ

1. การให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือและสื่อเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อบริจาค แก่สถานศึกษาของราชการและเอกชนมาหักเป็นค่าใช้จ่ายสองเท่าของที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้สุทธิและกำไรสุทธิ แล้วแต่กรณี

2. ให้นิติบุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือและสื่อเพิ่มส่งเสริมการ อ่านให้ห้องสมุดองค์กร มาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้สองเท่าของที่จ่ายจริง สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือและสื่อเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อบริจาค แก่ห้องสมุดของเอกชนที่ไม่เก็บค่าใช้จ่ายมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษี ได้

แหล่งข่าวกล่าวว่า  การนำเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาหารือในครั้งนี้  เป็นเพราะปัจจุบันธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม  ทำให้เกิดปัญหาเวลาซื้อวัตถุดิบแล้วต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่นำไปขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ได้  เพราะไม่ได้อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือสูง ที่ประชุมจึงเห็นว่า ควรนำธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์เข้ามาอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม  โดยกำหนดให้ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นศูนย์  ซึ่งมีผลดีในการส่งเสริมการอ่าน  เพราะต้นทุนผู้ผลิตหนังสือลดลงเมื่อซื้อวัตถุดิบจะขอคืนภาษีได้ เมื่อต้นทุนการผลิตลดลง จะทำให้การตั้งราคาหนังสือถูกลง และผู้บริโภคจะซื้อหนังสือถูกลงตามไปด้วย

จาก นสพ. มติชนรายวัน 13 ต.ค.2553