Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

20 ปีหลัง Peter Lynch ลาออกจาก Fidelity Magellan (FMAGX)
ในเดือน พค 1990 ผ่านมา 20 ปี ผลตอบแทนของกองทุนนี้แย่เอามากๆ
ผลตอบแทนเข้าใกล้ 0 เลยทีเดียว

yahoo finance เอื้อเฟื้อภาพ
http://yhoo.it/bNFpEw

อืมมม  แพ้ทุกดัชนี มาตลอดเลยด้วยแฮะ

มีขึ้นก็ย่อมมีลง  :D

ของไทยมีผู้จัดการกองทุนไหน โดดเด่นมีชื่อเสียงเหมือน ปรมาจารย์ Peter Lynch ไหมครับ

แปลว่า เค้าอยู่เบื้องหลังของกองทุนนี้จริงๆนะครับ

เป็นคนคิด และตัดสินใจทุกอย่าง

หรือว่า หลังๆ กองทุนนี้ เปลี่ยน แนวมาลงทุนในหุ้นที่เป็นตัวชี้นำตลาด

จึงทำให้มีผลลัพท์เป็นไปตามภาพรวมของตลาด

SunShine@Night เขียน:ของไทยมีผู้จัดการกองทุนไหน โดดเด่นมีชื่อเสียงเหมือน ปรมาจารย์ Peter Lynch ไหมครับ

สำนัก  ที่มีเจ้าสำนัก  ชื่อ ลูกอีสาน ครับ

เห็นแล้วก็สะท้อนใจ logic ในวันวานของตัวเองตอนอายุ 12-13

อยากขึ้นสู่จุดสูงสุดเร็วๆ   การคิดถึงแต่จุดสูงสุด สิ่งที่รออยู่หลังจากนั้น

คือเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว  มานะ เรี่ยวเเรงที่มีก็พลันเหือดหายไป
อย่างสืบสาวราวเรื่องไม่ได้ซะด้วย  :lol:  :lol:

หลังๆๆ  กลับเห็นแต่ความเหนื่อยยากของคนที่เป็น no.1 ที่ต้องรักษาเข็มขัดคิดแล้ว การเป็นที่ 1 นี่ไม่น่าอภิรมย์มากไปกว่า การเป็น no.2..3  ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ท้าชิง (Challenger) มีโอกาสขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ได้  เรี่ยวแรง ขวัญ กำลังใจความฝันที่จะไปสู่ ที่ๆสูงกว่าเก่า มีอยุ่เต็มอักโข ซึ่งที่ 1 ในวันวานไม่มีแล้ว  ที่2..3ถึงแพ้ก็ได้ประสบการณ์ที่จะกลับมาแก้มือกันภายหลัง  รวมๆแล้วได้มากกว่าเสีย.. :lol:

ผมอยากเป็น Challenger ไปนานๆ ที่ค่อยๆตุ๊ยท้อง no.1 สักวัน มันต้องการ์ดตกอย่างแน่นอน    :twisted:

หมายถึงราคาไม่ได้ไหนเหรอครับ

ดูหุ้นที่กองทุนถืออยู่ก็ไม่คิดว่าจะแพ้หลุดลุ่ยแบบนี้ ตลาดหุ้นใครว่าหมู ๆ

หมายถึงราคาไม่ได้ไหนเหรอครับ

นอกจากไม่ไปไหนแล้วยังแพ้ S&P ขาดลอย
ถ้าลงทุนในดรรชนี 20 ปีจะได้ผลตอบแทน
S&P +200%
DJ + 300%
NASDAQ + 400%

FMAGX ดูจากราฟกะๆเอา คงประมาณ 10%
ลองกดตาม link แล้วเปลี่ยนวันที่เป็นประมาณ 1990 ดูครับ กราฟจะสวยมาก
เหมือนดรรชนีแต่ผลต่อบแทนต่ำกว่า

น่าคิดเหมือนกันกรณีนี้

อันที่จริงทีมงานของ ลินช์ ก็มีบทบาทไม่น้อย (จากที่เล่าในหนังสือ)  และทำงานด้วยกันมานานขนาดนั้น ก็ต้องซึมซับหลักการและวิธีการบริหารได้

น่าสงสัยว่า ความแตกต่างเกิดจากอะไร

[quote="jinyong"]น่าคิดเหมือนกันกรณีนี้

อันที่จริงทีมงานของ ลินช์ ก็มีบทบาทไม่น้อย (จากที่เล่าในหนังสือ)

น่าคิดเหมือนกันนะครับ ถ้าต่อไปเบริกไชค์ไม่มีบัฟเฟ็ตกับมังเจอร์แล้วจะเป็นอย่างไร กาลเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์

ความเห็นผมนะครับ
1. ขนาดของกองทุนต่างกันระดับไหน ก่อนและหลังจาก ลินซ์ลาออก??? คนที่มาหลังลินซ์ ต้องเหนื่อยมากกว่าเพราะกองทุนขนาดใหญ่ขึ้น
2. มองว่าวิธีการลงทุนเป็นความสามารถเฉพาะตัวของตัวเค้าเอง จนสุดท้ายต้องลาออกเพราะไม่มีเวลาให้กับครอบครัว (ลินซ์ ถือหุ้นหลายร้อยบริษัทในคราวเดียวกัน)
คนมารับช่วงน่าจะลำบากในการลงทุนโดยวิธีการแบบลินซ์ ประกอบกับเหตุผลในข้อ 1 ผลตอบแทนจึงแพ้ตลาดแบบนี้

san เขียน:

SunShine@Night เขียน:ของไทยมีผู้จัดการกองทุนไหน โดดเด่นมีชื่อเสียงเหมือน ปรมาจารย์ Peter Lynch ไหมครับ

สำนัก

From my understanding, I think Lynch's return still less than Dow Jones?the graph shows less return r kab.

iceberg เขียน:ความเห็นผมนะครับ
1. ขนาดของกองทุนต่างกันระดับไหน ก่อนและหลังจาก ลินซ์ลาออก??? คนที่มาหลังลินซ์ ต้องเหนื่อยมากกว่าเพราะกองทุนขนาดใหญ่ขึ้น
2. มองว่าวิธีการลงทุนเป็นความสามารถเฉพาะตัวของตัวเค้าเอง จนสุดท้ายต้องลาออกเพราะไม่มีเวลาให้กับครอบครัว (ลินซ์ ถือหุ้นหลายร้อยบริษัทในคราวเดียวกัน)
คนมารับช่วงน่าจะลำบากในการลงทุนโดยวิธีการแบบลินซ์ ประกอบกับเหตุผลในข้อ 1 ผลตอบแทนจึงแพ้ตลาดแบบนี้

เห็นด้วยครับคิดเหมือนกันเลย

คล้าย ๆ คำสาปของผู้ชนะ แต่เป็นคำสาปของลินซ์

unnop.t เขียน:น่าคิดเหมือนกันนะครับ ถ้าต่อไปเบริกไชค์ไม่มีบัฟเฟ็ตกับมังเจอร์แล้วจะเป็นอย่างไร กาลเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์

น่าคิดเหมือนกันครับ แต่ผมคิดว่าบัฟเฟตคงเลือกตัวแทนของเค้าได้ดีแน่ๆ

ส่วนผลตอบแทนของฟิเดลลิตี้นั้นย่ำแย่จริงๆ
เห็นชัดเจนเลยว่า การจะหาใครสักคนมาทำงานแทนกันนั้นไม่ง่ายเลย...

เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล  ห้ามลอกเลียนแบบหรือเปล่าครับ สำหรับ ลินซ์  

กองทุนใหญ่ขึ้น ความคาดหวังมากขึ้น ก็อาจจะเป็นตัวบีบการบริหารผลตอบแทนให้ยากขึ้น ก็ได้นะครับ  :lol:  :lol:

unnop.t เขียน:น่าคิดเหมือนกันนะครับ ถ้าต่อไปเบริกไชค์ไม่มีบัฟเฟ็ตกับมังเจอร์แล้วจะเป็นอย่างไร กาลเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์

วัฒนธรรมขององค์กรมีผลอย่างมากครับ อย่างน้อยๆก็ระดับหนึ่ง ถ้าคนที่เข้ามาใหม่ถูกคัดเลือกมาอย่างดี และไม่มาเปลี่ยนโยบายที่มีผลต่อโครงสร้างธุรกิจเดิม การเปลี่ยนแปลงก็น่าจะไม่มีผลเร็วครับ แต่จะค่อยๆซึมบ่อทรายแค่นั้นเอง เหมือนกับปู่วอเรนว่าไว้ว่า เขายังจะดูแลพอร์ตของเขาอยู่ถึงแม้นเขาจะตายไป5ปีแล้วก็ตาม เพราะว่าอย่างน้อยๆหุ้นตัวเดิมๆที่หาเงินให้ก็ยังสามารถหาให้ได้อย่างต่อเนื่องอยู่นั่นเอง