หน้า 1 จากทั้งหมด 1

จะรู้ได้อย่างไรว่าวัฏจักรธุรกิจจะชะลอตัวหรือจบลง ในงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2010 2:36 pm
โดย ^^
เพราะงบการเงินรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว
-เช่นสินค้าคงเหลือมาก ทำให้ต่อไปลดกำลังการผลิตลง?

สินค้าคงเหลือมาก ก็ไม่รู้อยู่ดีว่า อนาคตอาจขายได้ทำให้กำไรมาก
หรือเพราะตัวเองจัดซื้อพลาด

สินค้าคงเหลือน้อย ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะเป็นการรู้ล่วงหน้าว่าต่อไปไม่ดีเลยทำให้มันน้อยหรือว่าเพราะตัวเองทำคาดคะเนการจัดซื้อพลาด

หรือให้เทียบกับบริษัทคู่แข่ง แล้วถ้าคู่แข่งหลายๆคนทำตาม อาจเป็นจิตวิทยาหมู่ ให้รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำคือดีแล้ว ปรากฏตายกันหมด?

หรือจะรอให้งบการเงินแสดงกำไรขั้นต้นลดลง จึงจะเป็นสัญญาณ

1.จะรู้ได้อย่างไรว่าวัฏจักรอุตสาหกรรมจบลงหรือชะลอตัว
2.อยากทราบว่าเราควรรองบการเงินออกถึงดำเนินการซื้อ/ขาย
หรือว่าชิงทำก่อนเพราะเห็นสัญญาณเหล่านี้จากงบการเงินงวดที่แล้ว

จะรู้ได้อย่างไรว่าวัฏจักรธุรกิจจะชะลอตัวหรือจบลง ในงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 11, 2010 3:00 pm
โดย DragonV
ขอมารอฟังด้วยคนคับ

จะรู้ได้อย่างไรว่าวัฏจักรธุรกิจจะชะลอตัวหรือจบลง ในงบการเงิน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 12, 2010 9:31 am
โดย koh
เดานะ

ถ้าจากงบก็คือ GPM ลดลงขณะที่ยอดขายยังโตขึ้น



แต่หุ้นวัฏจักร รอดูงบน่าจะไม่ทันนะครับ งบเป็นแค่ตัวconfirm สมมุติฐานในใจเราที่คิดว่าธุรกิจมันจะไปทางไหน

เดาว่าน่าจะดูที่จำนวนคู่แข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า
แต่ที่สำคัญคือ demand&supply ทั้งฝั่งของสินค้าและฝั่งต้นทุนครับ :D

จะรู้ได้อย่างไรว่าวัฏจักรธุรกิจจะชะลอตัวหรือจบลง ในงบการเงิน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 12, 2010 1:38 pm
โดย Joga Bonito
ดู มันทั้ง sector ถ้าเป็นวัฐจักรขาลงจริง เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ของมันก็ต้องลงด้วย
ถ้าตอนรุ่ง มันรุ่งทั้ง sector ตอนร่วง ก็ต้องร่วงทั้ง sector เหมือนๆกัน

จะรู้ได้อย่างไรว่าวัฏจักรธุรกิจจะชะลอตัวหรือจบลง ในงบการเงิน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 12, 2010 1:46 pm
โดย Jazzman
ผมจะอ้างอิง จาก กฎ demand & Supply คับ  ง่ายๆก็เช่น

1. เรือ การที่ demand มากกว่า supply จะทำให้ อำนาจการต่อรองของ สายเรือ ต่างๆ มาก และสามารถขึ้นราคาได้ เพราะ จำนวนเรือไม่พอ อันนี้ผมจะไปสังเกตุจาก ค่า Freight

2. รถยนต์ ก็สังเกตุจาก รอบๆตัว ว่าจำนวนรถ ป้ายแดงมันเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแสดงว่า รอบมันกำลังมา  และติดตาม ยอดจำหน่ายรถของค่ายต่างๆคับ ทำเป็น excel เปรียบเทียบ กะๆๆ เอา

3. ยาง ก็สังเกตุจาก ราคา ยางพารา นี่แหละคับ ยางเป็นสินค้า commodity โดยปกติ supplier จะมีอำนาจต่อรอง ต่ำ  แต่ ถ้าราคายาง ส่งออกสูงขึ้น อย่างมีนัยยะสำคัญต่อเนื่อง แสดงว่า ยางเริ่มขาดตลาด ทำให้ราคาสูงขึ้น มาก ก็ย้อนกลับไปอีก ว่า เมื่อไหร่ supply จะตาม demand ทัน

4. ฟิล์ม นี้ ผมพลาดไปอย่างน่าเสียดาย :(

จะรู้ได้อย่างไรว่าวัฏจักรธุรกิจจะชะลอตัวหรือจบลง ในงบการเงิน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 12, 2010 3:55 pm
โดย nut776
รอฟังด้วย
แต่แจมจากข้างบนเรื่องรถ
เขาว่าดูจากยอดจองมอเตอร์โชว์ด้วยก็ได้