Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

SET สูงพันกว่าจุด เกิดฟองสบู่ในหุ้นหลายตัว
ฝรั่งขายกระหน่ำแบบนี้ คุณจะเลือกทำอะไรเพื่อป้องกันเงินของคุณ
1.ขายทิ้งก่อน พอหยุดไหล ค่อยช้อนหุ้นกลับ ได้หุ้นเดิมจำนวนมากขึ้น
2.ปล่อยราคาไหลไปเรื่อยๆ ยังไงก็ได้ปันผล ไม่ขายไม่ขาดทุน แต่ขาดใจ
3.ซื้อถัว เงินสดยังเหลือ
4.ทำใจ เงินสดหมดพอร์ทแล้ว
5.ออกจากตลาด เลิกดูหุ้นอีก 1 ปี

1 ครับ ในความคิดผมนะ ผิดถูกผมไม่ทราบ

6. ครับ
หากการที่ฝรั่งขายไม่ได้ส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทแย่ลง ผมก็ถือต่อ หรือ ซื้อเพิ่ม แต่ไม่ใช่เผื่อเฉลี่ยต้นทุน ผมซื้อเพราะมันถูกกว่ามูลค่า หรือหากจะขาย ก็เพราะเจอตัวอื่นที่ดีกว่ากำลังแขวนป้ายลดราคาครับ

7.ซื้อเพิ่มครับ

ผมเพิ่งซื้อเพิ่มมา 1 ตัวเมือวันศุกร์นี้นะครับ

ผมว่าดูที่บริษัทดีกว่าครับ ผมไม่ค่อยสนใจดัชนีเท่าไรครับ

แต่ผมซื้อหุ้นที่พวกฝรั่งถือหุ้นมากๆครับ ในช่วงนี้

ต้องดูก่อนครับพี่ว่าตอนนี้

พี่มีหุ้นอยุ่เยอะมั้ย อันดับแรก

ถ้ามีพี่ถือตัวอะไรอยุ่อนาคตเป็นไงในอีก 2-3 เดือน

ถ้าหมดซีซั่นก็ขายทิ้งลูกเดียวครับ ถ้าพอไปได้ก็จัดการซื้อถัวนะครับ (แต่ต้องแบ่งเงินไว้นะครับ เผื่อมันลงแบบไม่คาดฝัน)


แต่ถ้าไม่มีเลยก็เก็บเงินสดไว้ลงทุนปีหน้าครับ

ตอนนี้มีหุ้น VI เต็มพอร์ท KIAT,BJC,TPP,PTTCH,STA,PTL,AJ,HMPRO แดงทั้งพอร์ท

ขายเอาทุนออกมา เอาเงินไปฝากประจำ แล้วก็ให้รางวัลกับชีวิต ครับ

postnaninter เขียน:ตอนนี้มีหุ้น VI เต็มพอร์ท KIAT,BJC,TPP,PTTCH,STA,PTL,AJ,HMPRO แดงทั้งพอร์ท

คำถาม ที่สำคัญคือ ราคาที่ซื้อมี Margin of Safety หรือไม่
ถ้าไม่มี แสดงว่ายังไม่เข้าใจหลักการ

หุ้น VI ไม่น่า่จะมี มีแต่หลักการที่เรียกกันว่า VI

ไม่รู้จะตอบข้อไหนอ่ะครับ..มันขึ้นอยู่แบบไหนที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข
มากกว่า..มรสุมมันก็มาตลอดแหละครับในตลาดหุ้น..มันอยู่ที่ว่าไอ้เรือที่เรา
เลือกขึ้นมันแข็งแรงพอพาเราไปถึงเป้าหมายรึเปล่าสำหรับผมเมื่อเราคิดว่าเรือที่เราลงมันแข็งแกร่งพอที่จะฝ่าคลื่นลมมรสุมของมันไปได้มีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมอย่างแข็งแกร่งโดยตัวมันเอง..แล้วเราจะต้องมานั่งคาดการณ์กับความผันผวนต่อคลื่นลมวันนี้พรุ่งนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่เราก็ไม่อาจจะรู้ได้อย่างถูกต้องอยู่แล้ว..เรือดีไม่อับปางยังไงก็ต้องถึงฝั่ง  :D  :D

อยู่เฉยๆครับ QE2 มันเพิ่งเริ่มต้นครับ ไม่เชื่อว่าตรงนี้คือจุดสูงสุดครับ ไม่ถือตัวที่เป็นฟองสบู่เป็นใช้ได้ครับ

ไม่รู้จะทำอะไรดีเหมือนกันครับ เพราะผมคิดว่าได้ทำการป้องกันไว้แล้วบางส่วนตั้งแต่วันที่ซื้อ
แต่ก็มีบางตัวที่เข้าไปเก็งเล่นๆ ก็คงต้องรอให้ถึงระยะหวังผล ว่ามันจะออกมาอย่างที่คิดหรือเปล่า
(ช่วงนี้ก็ดูมันดิ่งไปก่อน)

ตอน 1050 จุด ในร้อยคนร้อยหุ้นเชียร์ว่าจะไป 1200 จุด ผมก็บ้าซื้อตาม ติดดอยเพียบ อาทิตย์ที่แล้วขายออกเก็บเงินสดบางส่วน หุ้นมันก็ลงหนัก ดีที่ cut ไปก่อน ไม่งั่นขาดทุนเยอะกว่านี้ รอนิ่งๆเมื่อไหร่ค่อยซื้อตัวเดิมกลับ ให้ฝรั่งมันหยุดขายก่อน ยังไงก็ได้หุ้นมากกว่าเดิม ถือยาวอยู่แล้ว

แล้วถ้าที่บอกว่าเกิดฟองสบู่เป็นการเข้าใจผิด
จะทำยังไงครับ

1 เดี๋ยวมันลงค่อยซื้อ
2 รอมันขึ้นๆไปเรื่อยๆ แล้วก็มาบ่นกับเพื่อนว่า รู้งี้...
3 พอทนไม่ไหวเลยซื้อตาม มันก็ลงพอดี ติดดอย

ผมเลือก 8. ทำตัวเหมือนอย่างเมื่อวาน และตั้งหน้าตั้งตาลงทุนต่อไป

kanoon เขียน:

postnaninter เขียน:ตอนนี้มีหุ้น VI เต็มพอร์ท KIAT,BJC,TPP,PTTCH,STA,PTL,AJ,HMPRO แดงทั้งพอร์ท

คำถาม ที่สำคัญคือ ราคาที่ซื้อมี Margin of Safety หรือไม่
ถ้าไม่มี แสดงว่ายังไม่เข้าใจหลักการ

หุ้น VI ไม่น่า่จะมี มีแต่หลักการที่เรียกกันว่า VI

ยืนยันด้วยคนครับว่าไม่มีหุ้น VI (อย่างน้อยก็ไม่เคยเห็นละ)

kanoon เขียน:

postnaninter เขียน:ตอนนี้มีหุ้น VI เต็มพอร์ท KIAT,BJC,TPP,PTTCH,STA,PTL,AJ,HMPRO แดงทั้งพอร์ท

คำถาม ที่สำคัญคือ ราคาที่ซื้อมี Margin of Safety หรือไม่
ถ้าไม่มี แสดงว่ายังไม่เข้าใจหลักการ

หุ้น VI ไม่น่า่จะมี มีแต่หลักการที่เรียกกันว่า VI

เห็นด้วยครับกับประโยคที่ว่าไม่มีหุ้น VI
แต่อยากจะแสดงความคิดเห็นว่า MOS ไม่ได้ช่วยให้ราคาหุ้นของเราไม่ตกลงไปกว่าราคาที่เราซื้อนะครับ
เพราะตลาดมีความผันผวน MOS มากแค่ไหนก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นเราจะลงไปต่ำกว่าได้
(ซึงก็เป็นเพียงระยะสั้น ระยะยาวก็จะเป็นไปตามพื้นฐานของมัน)
แต่ผมว่า MOS มันมีไว้เผื่อในกรณีที่เราวิเคราะห์ผิด หรือเผื่อไว้ว่าบางอย่างอาจไม่เป็นไปตามสมมติฐานของเรา
และเมื่อมันเกิดขึ้นมาก็มีผลทำให้พื้นฐานของบริษัทไม่เป็นไปตามสมมติฐานของเรา
เราก็จะได้ไม่เจ็บตัว หรือไม่เจ็บตัวมาก หรืออาจจะกำไรน้อยหน่อย
เพราะถ้าเป็นกรณีนี้ ระยะเวลานานแค่ไหน ราคามันก็คงไม่ขึ้นมาเท่ากับที่เราสมมติฐานไว้ใช่ไหมครับ

นั่งนิ่งๆรอดู หุ้น บลูชิพตก
แล้วค่อยซื้อเพิ่ม
รอดู หลังปีใหม่
เท่าที่จำได้ ปลายปี ฝรั่งขาย realize ผลกำไรขาดทุน
เด๋วต้นปี มันก็หาเวลามาทำรอบใหม่มั้ง

เดาล้วนๆคับ
แต่ผมเชื่อว่าอยู่กับหุ้นบลูชิพไม่เจ็บมาก

ถ้ามั่นใจว่าราคาต่ำกว่าพื้นฐาน  ต้องซื้อและถือต่อไป  ตลาดผันผวนเรื่องปกติ

ไม่มีข้อให้เลือกเลยครับ ผมจะตอบว่า ทำเหมือนเดิม
เคยทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น เพราะเราไม่รู้หรอกว่าหุ้นจะลงถึงไหน ไม่มีทาง

และถึงฝรั่งไม่ซื้อหุ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไทยจะเลิกซื้อรถ,ซื้อแอร์ เลิกเดินห้าง เลิกใช้น้ำปะปา,ไฟฟ้า นี่ครับ  :D

sathaporne เขียน:

kanoon เขียน:

postnaninter เขียน:ตอนนี้มีหุ้น VI เต็มพอร์ท KIAT,BJC,TPP,PTTCH,STA,PTL,AJ,HMPRO แดงทั้งพอร์ท

คำถาม ที่สำคัญคือ ราคาที่ซื้อมี Margin of Safety หรือไม่
ถ้าไม่มี แสดงว่ายังไม่เข้าใจหลักการ

หุ้น VI ไม่น่า่จะมี มีแต่หลักการที่เรียกกันว่า VI

เห็นด้วยครับกับประโยคที่ว่าไม่มีหุ้น VI
แต่อยากจะแสดงความคิดเห็นว่า MOS ไม่ได้ช่วยให้ราคาหุ้นของเราไม่ตกลงไปกว่าราคาที่เราซื้อนะครับ
เพราะตลาดมีความผันผวน MOS มากแค่ไหนก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นเราจะลงไปต่ำกว่าได้
(ซึงก็เป็นเพียงระยะสั้น ระยะยาวก็จะเป็นไปตามพื้นฐานของมัน)
แต่ผมว่า MOS มันมีไว้เผื่อในกรณีที่เราวิเคราะห์ผิด หรือเผื่อไว้ว่าบางอย่างอาจไม่เป็นไปตามสมมติฐานของเรา
และเมื่อมันเกิดขึ้นมาก็มีผลทำให้พื้นฐานของบริษัทไม่เป็นไปตามสมมติฐานของเรา
เราก็จะได้ไม่เจ็บตัว หรือไม่เจ็บตัวมาก หรืออาจจะกำไรน้อยหน่อย
เพราะถ้าเป็นกรณีนี้ ระยะเวลานานแค่ไหน ราคามันก็คงไม่ขึ้นมาเท่ากับที่เราสมมติฐานไว้ใช่ไหมครับ

เห็นด้วยเช่นกันครับว่าไม่มีหุ้นวีไอ
ถ้าพี่ซื้อมาที่ราคาแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น มันก็ผิดหลักการวีไอตั้งกะแรกแล้วครับ

อยากตอบว่าทำแบบไหนแล้วสบายใจก็ทำแบบนั้นเถอะครับ

แต่สุดท้ายแล้วผมเองนาทีนี้ ที่ set เกิน 1000 pe ตลาด 15-16 แล้ว

 -ขายไม่มีหุ้นเลยก็ไม่สบายใจ กลัวหุ้นขึ้นต่อ
 -ซื้อหุ้นเต็ม port ก็กลัวหุ้นตก
 -ถือยาวในหุ้นที่มี mos สูง วิกฤติมาก็ไม่รอดเหมือนกัน ลงลงด้วย
 -กะถือยาว ไม่ดู ราคาแบบ ดร. แหมเราก็สำเร็จไม่ถึงขั้นท่าน

อิอิ ใครเป็นบ้างครับ แต่ผมเป็นคร๊าบ  :)

ผมคงทำเหมือน ทุกๆวันครับ

หุ้นที่ถืออยู่ตอนนี้ ผมมีราคาที่คำนวณไว้ในใจแล้วทุกตัว
และติดตาม บริษัทนั้นอย่างต่อเนื่อง เท่าที่มีเวลา

เลยไม่ได้สนใจ อารมณ์ตลาดมากนัก  :oops:

ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของ บริษัทที่ถืออยู่เป็นหลักครับ ถ้าเติบโตดีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ pe ยังไม่เท่ากับ pe ตลาด ผมก้ถือต่อถ้ามันตก ผมก้เอาเงินเดือนมาซื้อเพิ่ม ถ้าผลประกอบการแย่ลงหรือ pe สูงเกินตลาดไปแล้วผมก็ขายเอาเงินไปซื้อตัวอื่นที่ผมมีอยู่แล้วแล้วราคายังไม่ขึ้นหรือลดลงแต่ผลประกอบการดีขึ้นเพิ่ม ยังไงผมก็ถือหุ้น 100 % ตลอดเวลา

postnaninter เขียน:ตอนนี้มีหุ้น VI เต็มพอร์ท KIAT,BJC,TPP,PTTCH,STA,PTL,AJ,HMPRO แดงทั้งพอร์ท

PTL ผมซื้อไว้ตั้งแต่ 8 บาทกว่าๆ ไม่เห็นจะแดงนี่ครับ ?

ผมยังคงใช้กลยุทธ์เดิมๆในการรักษาเงินลงทุนคือ
ลงทุนในกิจการที่ตัวเองพอเข้าใจ มีโอกาสเติบโตไปเรื่อยๆ
และประเมินแล้วคิดว่าราคาหุ้นยัง undervalue อยู่ครับ

ตอนนี้ยังอยู่เฉยๆครับ เฝ้ามองพื้นฐานของบริษัทที่ลงทุนอยู่ห่างๆ(อย่างห่วงๆ )

เวลาว่างก็หยิบหนังสือแนวลงทุนที่ทะยอยซื้อมาอ่านเรื่อยๆ

มีเวลาเข้าเวป ก็เข้ามาอ่าน เก็บข้อมูล ซึมซับแนวคิดจาก Thai VI อยู่เนืองๆ

ที่สำคัญ ตอนนี้ก็พยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อจะได้มีเงินทุนก้อนใหม่เข้าไปสมทบก้อนเดิมที่ลงทุนอยู่ (อันนี้ลำบากสุดเลยครับ ทำข้างบนสบายกว่าเยอะครับ )

สรุป ไม่รู้ตรงกับข้อไหนอ่ะคับ แหะๆ  :oops:

postnaninter เขียน:ตอน 1050 จุด ในร้อยคนร้อยหุ้นเชียร์ว่าจะไป 1200 จุด ผมก็บ้าซื้อตาม ติดดอยเพียบ อาทิตย์ที่แล้วขายออกเก็บเงินสดบางส่วน หุ้นมันก็ลงหนัก ดีที่ cut ไปก่อน ไม่งั่นขาดทุนเยอะกว่านี้ รอนิ่งๆเมื่อไหร่ค่อยซื้อตัวเดิมกลับ ให้ฝรั่งมันหยุดขายก่อน ยังไงก็ได้หุ้นมากกว่าเดิม ถือยาวอยู่แล้ว

ถ้านั่นเป็นเหตุผลในการซื้อ ผมคิดว่าคงต้องทบทวนหลักการลงทุนของตัวเองใหม่แล้วหละครับ

"ฝรั่งขายกระหน่ำแบบนี้คุณจะเลือกทำอะไรเพื่อป้องกันเงินของคุณ"

ผมว่ายังไม่ถึงกับคำว่า ขายกระหน่ำ

ช่วงนี้ฝึกฝนควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เป็นกลางครับ
เพื่อป้องกันแผนการลงทุนจะเพี้ยนตามอารมณ์
เดี๋ยวจะมองอะไรดีเกินไป  น่ากลัวเกินไป

จริงๆก็ฝึกทุกช่วงแหละครับ ยังไม่บรรลุ

เตรียมหาเงินสดครับ :lol:

จัดมา

ขอ 400  อีกรอบ