Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมอยากจะเปลี่ยนตัวเองจากการลงทุนพื้นฐานเชิ่งประยุกต์ มาเป็นการลงทุน
พื้นฐานเต็มตัว เนื่องด้วยหลายๆปัจจัยจากพอร์ตที่โตขึ้นและเรื่องการสอบเข้า
มหาวิทยาลัย

 กิจวัตรของผมก็ืคือการโหลด 56 - 1 มาอ่านทุกบริษัทโดยตั้งเป้าไว้ว่าอาทิตย์
ละ 1 บริษัท แต่พอเริ่มอ่านไปหลายๆบริษัทผมก็เริ่มสับสนในความสัมพันธ์ ของ
วัฎจักรแต่และกลุ่ม โดยเฉพาะ กลุ่มธนาคาร เหล็ก และ ปิโตเคมี ซึ่งเป็น
อุตสาหกรรมพื้นฐานในอีกหลายๆกลุ่ม อย่างผมสนใจหุ้นฟิล์มแต่พอไปดูองค์ประ
กอบของความสัมพันธ์ของธรุกิจนี้แล้วมันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ความรู้ผม
ไปไม่ถึง

 ก็เลยอยากจะเรียนถามพี่ๆว่า มือใหม่ที่เริ่มศึกษาพื้นฐานควรเริ่มจากกลุ่มไหน
ก่อน ที่ความสัมพันธ์ของธุรกิจไม่ลึกมาก ( เช่นไม่อิงกับราคาน้ำมัน BDI หรือค่า
เงิน เป็นต้น )
 และในความคิดเห็นของพี่ๆ พี่ๆคิดว่าธุรกิจรูปแบบไหนที่วิเคราะห์ยากสุด และมี
องค์ประกอบของความสัมพันธ์มากที่สุด

ขอบคุณครับ

เค้าว่ากันว่า ให้ลงทุนใน บริษัทที่เราอยากเป็นเจ้าของครับ โดยทยอยเข้าทีละเล็ก ทีละน้อยแต่สม่ำเสมอ ต้นทุนเราจะดีครับ

แนะนำให้ลงทุนในกลุ่มที่คนสนใจและมีความเข้าใจมากที่สุดก่อน ส่วนตัวผมเริ่มต้นจากหุ้นค้าปลีก แต่ช่วงนี้คงหาหุ้นยากสักหน่อย ซึ่งเป็นเวลที่ดีที่คุณจะศึกษาหุ้นที่คุณสนใจ

น่าจะเป็น ธนาคาร นะครับ
เนื่องจาก ธนาคารในประเทศไทย มีพื้นฐานที่ดี หลังจากเจอปัญหาเศรษฐกิจช่วง ปี 2540 เป็นต้นมา
ศึกษา อัตราการปล่อยกู้ ดูหนี้สิน ความสามารถในการบริหารหนี้เสีย ฐานลูกค้า ประมาณนี้มั้งนะครับ

สินค้า เหล็ก ก็ขึ้นอยู่กับ demand กับ supply ในโลกครับ ต้องใช้ความรู้รอบประไทย และในประเทศเยอะหน่อย

ลงทุนแบบเดิม พอร์ตโตขึ้น ทำไมไม่ทำแบบเดิมละครับ

ผมอยากลองศึกษาให้ลึกซึ้งถึงความสัมพันธ์ของแต่ละกลุ่มครับ ยังไม่ได้
คิดจะลงทุนตามที่ศึกษา ปัญหาก็คือว่าบางกลุ่มองค์ประกอบมันเยอะมากเลย
ครับ ผมไม่ได้พูดถึงงบการเงินนะครับ ผมพูดถึงโอกาสที่บริษัทจะเติบโตใน
อนาคต  กลุ่มธนาคารสำหรับผมแล้วยากมากเลยครับมีศัพท์การเงินหลายๆคำ
ที่ต้องใช้ความรู้มากกว่าเด็กม.6 มันเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะเข้าใจ แต่ในเชิง
พื้นฐานแล้ว ถ้าจะลงทุนแบบVI กับกลุ่มธนาคารผมรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่ากับส่วน
ต่างและปันผล แต่ถ้าลงทุนแบบวัฎจักรผมสนใจมากๆเลย

ในตอนนี้ผมยังไม่คิดจะลงทุนแบบพื้นฐานผมรู้สึกว่าผมมีเวลาที่จะศึกษามันเยอะ
เอาไว้ใช้ยามที่วิกฤตมาถึง ผมก็ลงทุนตามสูตรเดิมผมละครับ แต่มันติดเรื่องการ
เรียนมากหน่อย ก็เลยอยากถือให้มันมากกว่ารอบเดือน เป้าหมายของผมในตลาด
ขาขึ้นคือเดือนละ 30% แบบทบต้น ผมรู้สึกว่ามันง่ายมากในตลาดแบบนี้

แต่สิ่งที่ยังไม่แน่ใจก็คือมันจะง่ายทุกสถานการณ์รึเปล่า ฉะนั้นพื้นฐานจึงเป็น
คำตอบสำหรับผม

ขอบคุณทุกท่านนะครับ  

เดือนนี้ก็ยังได้เหรอคับ
น้องจับจังหวะเก่งนะ

เพราะช่วงนี้ร่วงกันระนาว
ได้แล้วก็อย่าลืมหยุดบ้างล่ะ
pe ตลาดเกินสิบมาหน่อยๆละ

จริงๆอ่านใน 56-1 หัวข้อปัจจัยความเสี่ยงก็น่าจะพอรู้นะครับว่าธุรกิจมีความสัมพันธ์กับอะไรบ้าง ปกติกิจการนำเข้าหรือส่งออกจะเกี่ยวข้องกับค่าเงินอยู่แล้ว

กลุ่มธุรกิจที่ทำงานอยู่ หรือธุรกิจใกล้ตัว ของใช้ในชีวิตประจำวัน
หาบริษัทที่ทำธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน ทำธุรกิจอย่างเดียว productเดียวก่อน
จะเข้าใจง่ายกว่า
แล้วค่อยๆขยายหาธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน เอามาเปรียบเทียบว่าอะไรดีที่สุด

Boyadvance เขียน:น่าจะเป็น ธนาคาร นะครับ
เนื่องจาก ธนาคารในประเทศไทย มีพื้นฐานที่ดี หลังจากเจอปัญหาเศรษฐกิจช่วง ปี 2540 เป็นต้นมา
ศึกษา อัตราการปล่อยกู้ ดูหนี้สิน ความสามารถในการบริหารหนี้เสีย ฐานลูกค้า ประมาณนี้มั้งนะครับ

สินค้า เหล็ก ก็ขึ้นอยู่กับ demand กับ supply ในโลกครับ ต้องใช้ความรู้รอบประไทย และในประเทศเยอะหน่อย

ผมว่ากลุ่มธนาคารนี่วิเคราะห์โคดยากเลยนะครับ สำหรับผมธนาคารในประเทศไทยนี่ใหญ่โคดๆ ต้องวิเคราะห์พอทสินเชื่อของธนาคาร ว่าสินเชื่อดี สินเชื่อห่วย มีแค่ไหน ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ครับ

ถ้า พิจารณาจาก ข้อมูล ของ คุณ END แล้วจะพบว่า
เค้าต้องการความสัมพันธ์ธุรกิจที่ ไม่อิงกับราคาน้ำมัน BDI หรือค่าเงิน เป็นต้น
ในมุมมองของผม  ก็มีเพียงกลุ่ม ธนาคารเท่านั้น

แล้วธนาคารนี้แหละครับ ตัวบ่งชี้ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างดี

เพราะไหนๆ ก็มีเวลาอีกมาก ศึกษาด้านธนาคาร ผมว่าเป็นข้อดีมากเลยนะครับ แม้ว่า อัตรา ผลตอบแทน อาจจะไม่ได้ มากมายเหมือน commudity ก็ตาม

อีกอย่างผมคิดว่า ในช่วงหลายปีหลังจากปี ค่าเงิน เป็นตัวละครหลัก ไปแล้วยากต่อการวิเคราะห์มาก แค่ มีประเทศใดประเทศนึง ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินก็พร้อมที่ไหลไปแล้วครับ พอค่าเงินเปรียบ พวก commudity ก็ผันผวนตาม ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก สังกะสี ทองคำ หรือแม้แต่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ล้วนเป็นต้นทุนการผลิตของบริษัทหลายบริษัทในประเทศไทย

ดังนั้นการศึกษากลุ่มธนาคาร ก็น่าจะปลอดภัยกว่านะครับ

haehae เขียน:ผมว่ากลุ่มธนาคารนี่วิเคราะห์โคดยากเลยนะครับ

ผมเห็นด้วยว่ากลุ่มธนาคารอ่านงบยากเกินไปสำหรับมือใหม่ ยิ่งธนาคารใหญ่ๆยิ่งซับซ้อน กลุ่มพวกประเภทซื้อมาขายไป หรือพวกผลิตแล้วขายน่าจะอ่านเข้าใจง่ายกว่ามากๆ

ว่าแต่ว่า ช่วยขยายความคำว่า "การลงทุนพื้นฐานเชิ่งประยุกต์" ให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ

อย่าพึ่งรีบ

ช่วยขยายความคำว่า "การลงทุนพื้นฐานเชิ่งประยุกต์" ให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ

เคยเขียนไว้อย่างละเอียดแล้วในห้องเทคนิคครับ

กลุ่มธนาคารแม้ว่าความสัมพันธ์จะไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นมากแต่ถ้ามองให้
รอบด้านแล้ว ผมว่ามันสัมพันธ์กับหลายๆกลุ่มนะครับ เช่นการปล่อยสินเชื่อ
ต้องสัมพันธ์กับความเคลื่อนไหวของกลุ่มธุรกิจต่างๆ เราก็ต้องมากดูอีกว่า
ธุรกิจกลุ่มนั้นมีการขยายตัวดีพอไหมที่จะขอสินเชื่อเพิ่ม เป็นต้นครับ
และตัวเลขแต่ละตัวของธนาคารแล้วอ่านแล้วปวดตาครับ งง คำเดียว
และกลุ่มนี้ถึงลงทุนไป ส่วนต่างราคาและเงินปันผล ถือว่าเด็กๆครับ เสีย
เวลามากเลยที่จะถือ ขนาดเล่นแบบวัฎจักร กำไรยังไม่ถึง 4 - 5 เด้งเลยครับ

เวลาผมทำการบ้านเกี่ยวกับการวิเคราะห์หุ้นแต่ละกลุ่มผมก็จะไปดูว่ามันมีความ
สัมพันธ์  กับสิ่งใดบ้างที่ต้องนำมาวิเคราะห์
เช่น
PTL เราต้องไปดู น้ำมัน ปิโต bopp  ประมาณนี้ครับผมก็จะจดไว้ว่าอะไร
จำเป็นสำหรับหุ้นตัวนี้
แต่ว่าพอเราอ่านหลายๆกลุ่มอุตสาหกรรมแล้วก็เริ่มสัพสน ผมก็เลยคิดว่า
มีธุรกิจไหนที่เหมาะสำหรับฝึกวิเคราะห์ที่ความสัมพันธ์มันน้อยๆอะครับ

เช่น พวกวัสดุก่อสร้าง มันง่ายกว่าไหมครับผมคิดว่าความสัมพันธ์มันไม่น่า
จะเยอะนะครับ (อันนี้ไม่รู้จริงนะครับแค่ตั้งข้อสังเกตุ)

สรุป แล้ว แค่ต้องการ กลุ่มที่ สามารถ ทำกำไร ได้หลายเด้ง ใช่มั้ยครับ

แบบนี้ คงไม่มีกลุ่มไหนที่ง่ายต่อ มือใหม่แล้วล่ะครับ
ไปตาม Fund Flow