หน้า 1 จากทั้งหมด 2

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 3:10 pm
โดย romee
เฉกเช่นกระทู้นี้

หลักการของ vi ในการเลือกหุ้นเป็นอย่างไร
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 26573.html

แต่ละคนก็นิยามคำว่า VI กันไป ตามแต่ละบุคคล แต่สิ่งนึงที่เห็นตลอด เหมือนล้อกรรมหมุนวน ก็คือ อารมณ์ของคน ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดตก หรือตลาดขึ้น เหมือนกันเด๊ะๆ

ผมอยู่ในตลาดแค่4ปี ก็เห็นเรื่องราวแบบนี้ซ้ำไป ซ้ำมา แล้วพวกพี่ๆที่อยู่กันมานาน...คงนึกขำเนอะ ว่า "อีกแล้วเหรอ"

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 4:34 pm
โดย murder_doll
ถือทน ไม่เเน่ใจว่าเข้าหลักการของ VI ไหมนะครับ

สำหรับผมคิดว่าน่าจะเข้าลงทุนในหุ้นที่ราคายังต่ำกว่ามูลค่า ถ้าเกินมูลค่าก็ไม่เข้าซื้อ และถ้าพื้นฐานต่างๆ เช่นการกำไรของ บจ . เปลี่ยนแปลง ไม่ในทางที่แย่ลง ก็ไม่จำเป็นต้องทนถือครับ

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 6:25 pm
โดย chaiwat_tra
ผมเข้าตอนปี 2008 แดงเดือดกว่านี้เยอะ แหะ

โชคดียังรอด ....

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 6:43 pm
โดย thaloengsak
คนไม่เข้าใจVI เห็นแล้วผมเฉยๆ
บางครั้งผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของพวกนักเก็งกำไรสักเท่าเลย
:|

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 7:42 pm
โดย navapon
มันขึ้นอยู่กับการมองการณ์ไกลต่างหาก ถ้าหุ้นเราดีเดี๋ยวราคามันก็ขึ้นใหม่ มันไม่ยังไม่มีวี่แววเศรษฐกิจขาลงซักหน่อยๆ ขายตอนนี้แล้วแน่ใจหรือครับว่าซื้อตัวใหม่จะได้ถูกกว่าและดีกว่าของเดิม ผมก็ไม่เข้าใจพวกกังวลราคาหุ้นรายวันเหมือนกันครับ

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 7:58 pm
โดย yoko
เวลาหุ้นทั้งตลาดตก   ไม่เคยกังวลเลย
แต่หลายๆครั้งเวลาหุ้นทั้งตลาดตก   ผมไม่มีเงินซื้อหุ้น
ทำไมบัฟเฟตมีเงินซื้อหุ้นเวลาหุ้นทั้งตลาดตก

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 8:01 pm
โดย nuaythebest
บอร์ด pantip ส่วนใหญ่ก็เป็นแนวนี้ทั้งนั้นอย่าไปคิดมากครับ เอะอะติดดอยก็ VI ผมไม่เคยอ่านกระทู้ในนั้นเลย ยกเว้นตอนเช้าที่จะ check สรุปข่าวแค่นั้น

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 8:01 pm
โดย chatchai
จากประสบการณ์ที่อยู่กับตลาดหลักทรัพย์มา 20 ปี  ผมคิดว่า  ปัจจุบันนี้  นักลงทุนรายย่อยคนไทยมีความรู้  ความเข้าใจ  ในการลงทุนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะเป็นนักเก็งกำไร  เป็นผมว่าคนลงทุนที่ถูกต้องมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  และปริมาณเงินลงทุนก็มากขึ้นเรื่อยๆ  จากพอร์ตที่โตขึ้น  และปริมาณนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น

หุ้นดีๆที่ราคาตกอย่างไม่มีเหตุผล  ก็มีนักลงทุนที่พร้อมจะเข้าไปรอซื้ออยู่มากมาย

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 8:18 pm
โดย superboy
เข้ามาลอกการบ้านครับ

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 9:45 pm
โดย วรันศ์ บัฟเฟต
ปล่อยเค้าไปเถอะครับ value investing เป็นแค่ generic term. ไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่คุณเป็นนั้นแหละคือของจริง

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2010 10:10 pm
โดย ดอยเต่า
ถ้าเราเข้าใจในกิจการที่ลงทุน และมูลค่าหุ้นยังต่ำกว่าที่ประเมินอยู่ ก็ไม่เห็นจะต้องกังวลกับSETที่จะขึ้นหรือลง ตราบที่บริษัทยังเติบโตได้ดีอยู่

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 10:31 am
โดย คลายเครียด
เรื่องถือหุ้นทน กับทนถือหุ้น
ผมเคยออกความเห็นตามแนวทาง vsop  แบบนี้ครับ

mos = margin of satisfaction


ถือหุ้นแล้วเครียด  เสียสุขภาพจิต จนไปกระทบสุขภาพกาย
ก็คือ

ทนถือหุ้น


ถือหุ้นแล้วไม่เครียด หรือเครียดแต่สุขภาพจิตไม่กระทบไปถึงสุขภาพกาย
ก็คือ

ถือหุ้นทน


ไม่ได้เกี่ยวกับการลงทุนแนวไหนทั้งนั้น

อย่าง tpp ซึ่งติดมาสามปี  จนตอนนี้ได้กำไรเกินสองเด้ง
ก็เข้าข่าย  ถือหุ้นทน โดยไม่ใช่หุ้นแนววีไอ หรือวีเอส
เพราะถึงถือแล้วเครียดบ้าง  
แต่สุขภาพจิต  ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบไปถึงสุขภาพกาย
ยังกินอิ่ม  นอนหลับ  ตลอดสามปีที่ผ่านมา


:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:   :lol:  :lol:  :lol:

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 10:41 am
โดย chatchai
[quote="คลายเครียด"]อย่าง tpp ซึ่งติดมาสามปี

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 10:46 am
โดย MO101
ต้องอดทน
ในยามหุ้นขึ้นต้องอดทนที่จะไม่ขาย ถ้าไม่ถึงเป้า
ในยามหุ้นลงก็ต้องอดทนถือเช่นกัน เดี๋ยวมันก็กลับมา
ผ่านพวกซึนามิ สับพราม มาแล้วจะอดทนได้ดีเป็นพิเศษ

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 11:04 am
โดย superboy
ผมก้อถือหุ้นทนบ้างไม่ทนบ้าง

แต่ผมคิดว่า ทนถือหุ้นที่ราคาเกินพื้นฐานแล้วแนวโน้มตลาดเป็นขาลง

ผมคิดว่า อย่าทนเลยครับ บ้างครั้ง

วีไอมือใหม่อย่างผมก้อไม่ค่อยเข้าใจ เหมือนกัน

เรื่องมูลค่าพื้นฐาน เนี้ย มันยาก สำหรับผม

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 1:19 pm
โดย aviruth
คนที่ไม่ได้ลงทุนเป็นอาชีพแต่มีรายได้ประจำไม่จำเป็นต้องกังวลกับภาวะตลาดไดๆทั้งสิ้นถ้าเรามีวินัยกระจายการลงทุน ลงทุนในหุ้นที่มีกำไรสม่ำเสมอ หุ้นตกก็ซื้อเพิ่ม หุ้นขึ้นก็ขาย ไม่ไม่ขึ้นก็ถือไปซื้อเพิ่มไปเรื่อยๆ เก็บทีละเล็กละน้อย ซักวันคงรวย

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 1:42 pm
โดย nut776
มันกลายเปนหมดตูดไม่มีเงินซื้อเพิ่มดิคับ
ตอนมีเงินหุ้นก็มักจะไม่ถูกแล้ว
อย่างตอนนี้อยากได้banpu
board lot ละ 35000 up
เครียดเลย

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 2:18 pm
โดย nut776
แสดงว่ากลยุทธในการบริหารเงินสดคงผิดแน่ๆใช่ไหมคับ

แต่ผมมีคำถามนิดนึง ยกตัวอย่าง banpuเลยละกัน
หุ้นขึ้นแรงพอเข้าใจ
แต่ตกลงแรงแบบนี้ถือว่าไร้เหตุผลไหมคับ
ผลประกอบการลดลงกว่าคาดเล็กน้อย
แต่ยังรับรู่้ายได้เหมืองที่ออสเตเลียไม่เต็มที่
แล้วต้องตกลงแรงแค่ไหนถึงจะเรียกว่าลงแบบไร้เหตุผล

บางทีมือใหม่อย่างผมก็ไม่เข้าใจ
ยิ่งการประเมินมูลค่ากิจการ
ควรใช้วิธีใด หรือแต่ละท่านเห็นว่าวิธีใดเหมาะสม

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 4:42 pm
โดย aviruth
ผมก็มือใหม่นะ แต่ผมประเมินราคาหุ้นโดยเี่ทียบกับการลงทุนอย่างอื่น
เช่น ฝากแบ๊งค์ได้ 2.5 % ซื้อพันธบัตร ได้ 5% แต่ผมอยากได้ 10%ต่อปี
แต่ถ้าเราสมมุติว่าเรามีเงินที่จะซื้อบริษัทหนึ่งทั้งบริษัทเราจะได้กำไรกี่เปอร์เซ็นของเงินที่ลงไป
บ้านปูถ้าเราซื้อทุกหุ้นหมดตอนนี้ต้องใช้เงิน 205,984.87 ล้านบาท บ้านปูทำกำไรได้ปีละ 25000 ล้านบาท (ประมาณทั้งปี) 25000/205984 = 12% ผมหวังแค่ปีละ 10 เอง งั้นผมควรลงทุนบ้านปูมั้ย ถ้าบ้านปูราคาตกอีกก็เหมือนกับผมได้ผลตอบแทนเพิ่มอีกถ้าผมซื้อเพิ่ม แต่ก็นั่นแหละหุ้นมันแพงผมต้องเก็บเงินตั้ง 8 เดือน เดือนละ 10000 ถึงจะซื้อได้ซัก 100 หุ้น ผมคงมองแต่บริษัทเล็กๆ แต่ก็คิดคำนวนเหมือนกัน เพราะงั้นถ้าคำนวนแล้วได้น้อยกว่า 10 % ผมก็ไม่ลงทุน ถ้ามากกว่าผมก็ลงทุน อีกอย่างหุ้นมีปันผลตอนที่หุ้นตกแล้วเราได้ปันผลพอดี เราก็มีเิงินมาซื้อหุ้นเพิ่มอีก ระยะยาวแล้วผมว่ายังไงผมก็ไม่ขาดทุน กำไรมากน้อยอีกเรื่อง

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 7:41 pm
โดย unnop.t
ช่วง 2 ปีนี้ ผมซื้ออย่างเดียว ขายแค่ครั้งเดียว อย่างนี้คงเรียกว่าถือทน  :D

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 18, 2010 8:54 pm
โดย myway
aviruth เขียน:ผมก็มือใหม่นะ แต่ผมประเมินราคาหุ้นโดยเี่ทียบกับการลงทุนอย่างอื่น
เช่น ฝากแบ๊งค์ได้ 2.5 % ซื้อพันธบัตร ได้ 5% แต่ผมอยากได้ 10%ต่อปี
แต่ถ้าเราสมมุติว่าเรามีเงินที่จะซื้อบริษัทหนึ่งทั้งบริษัทเราจะได้กำไรกี่เปอร์เซ็นของเงินที่ลงไป
บ้านปูถ้าเราซื้อทุกหุ้นหมดตอนนี้ต้องใช้เงิน 205,984.87 ล้านบาท บ้านปูทำกำไรได้ปีละ 25000 ล้านบาท (ประมาณทั้งปี) 25000/205984 = 12% ผมหวังแค่ปีละ 10 เอง งั้นผมควรลงทุนบ้านปูมั้ย ถ้าบ้านปูราคาตกอีกก็เหมือนกับผมได้ผลตอบแทนเพิ่มอีกถ้าผมซื้อเพิ่ม แต่ก็นั่นแหละหุ้นมันแพงผมต้องเก็บเงินตั้ง 8 เดือน เดือนละ 10000 ถึงจะซื้อได้ซัก 100 หุ้น ผมคงมองแต่บริษัทเล็กๆ แต่ก็คิดคำนวนเหมือนกัน เพราะงั้นถ้าคำนวนแล้วได้น้อยกว่า 10 % ผมก็ไม่ลงทุน ถ้ามากกว่าผมก็ลงทุน อีกอย่างหุ้นมีปันผลตอนที่หุ้นตกแล้วเราได้ปันผลพอดี เราก็มีเิงินมาซื้อหุ้นเพิ่มอีก ระยะยาวแล้วผมว่ายังไงผมก็ไม่ขาดทุน กำไรมากน้อยอีกเรื่อง
ปัญหามีอยู่ว่า บางทีเราประเมินว่า บ้านปูจะกำไร ปีละ 25000 ล้าน แต่ มันกลับทำได้แค่ 15000 แล้ว อาจจะลดลงไป หรือ เพิ่มขึ้นไม่มีใครรู้    คุณซื้อ 205984 ล้าน  ก็อาจต้อง ทนถือ จนมันกำไรปีละ 25000 ได้จริงๆ (ปีนี้กำไรจากการขายเงินลงทุน กำไรพิเศษนะ โปรดดู)

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 19, 2010 9:32 am
โดย aviruth
แน่นอนการประเมินข้างต้นเป็นแบบหยาบๆถ้าจะลงทุนจริงๆก้คงต้องตัดรายการพิเศษที่จะเกิดขึ้นครั้งเดียวออก ส่วนใหญ่มือใหม่ก็จะละเลยตรงนี้แหละ

ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 19, 2010 10:19 am
โดย saichon
พอดีผมเพิ่งอ่านเจอในหนังสือ LEARN TO EARN
ผู้เขียน/ผู้แปลใช้คำว่า รอและตามดู ในความหมายที่ใกล้เคียงกัน
ผมว่าโดนใจดีครับ

Re: ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 25, 2010 5:28 pm
โดย postnaninter
VI ไม่ใช่ติดดอย

Re: ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 26, 2010 7:58 pm
โดย sorawut
ถ้าราคาหุ้นยังไม่เลยมูลค่าที่คิดไว้ซะที ผมก็ถือทน
ถ้ายังหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าไม่ได้ ผมก็ทนถือ
ผมเป็น VI หรือเปล่าครับ :lol: :lol: :lol:

Re: ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 27, 2010 12:13 am
โดย miracle
ถ้าดู ธุรกิจไม่ขาด ถืออย่างไงก็แพ้
:)

Re:

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 28, 2010 10:32 am
โดย K o S o L
วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ปล่อยเค้าไปเถอะครับ value investing เป็นแค่ generic term. ไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่คุณเป็นนั้นแหละคือของจริง
ชอบมาก คมจริงๆ :cheers:

Re: ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 10, 2011 9:24 pm
โดย luckme
ไม่ขาย ไม่ขาดทุน

Re: ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 10, 2011 9:38 pm
โดย simplelife
luckme เขียน:ไม่ขาย ไม่ขาดทุน
จริงๆแล้ว ถ้าไม่เข้าใจการลงทุนใดๆจริงๆ ควรใช้คติ "ไม่ซื้อ ไม่ขาดทุน" ครับ

Re: ตอนนี้กระแส VI = ถือทน ทนถือ มากันเยอะเนอะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 10, 2011 10:40 pm
โดย poonpoon7
simplelife เขียน:
luckme เขียน:ไม่ขาย ไม่ขาดทุน
จริงๆแล้ว ถ้าไม่เข้าใจการลงทุนใดๆจริงๆ ควรใช้คติ "ไม่ซื้อ ไม่ขาดทุน" ครับ


+1 ครับ