หน้า 1 จากทั้งหมด 1
หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 1:01 pm
โดย penonline
D/E ประมาณไหนถือว่าค่อนข้างไม่เหมาะสมที่จะมองหรอครับ
ขอบคุณพี่ๆไว้ล่วงหน้านะครับ
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 1:36 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
ถ้าหุ้นสองตัวมี
Dividen/Price เท่ากัน
Dividen/EPS ต่ำกว่า ย่อมดีกว่า
เพราะแสดงว่า
บริษัทยังมีกำไร แบ่งไปเป็นกำไรสะสม เยอะกว่า
หรือถ้าจะปันผลเพิ่ม ก็ปันผลเพิ่มได้มากกว่า
แต่เรื่องว่า ค่าเหมาะสมตรงไหน บอกไม่ถูก
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
เพราะต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
แอะ หรือถาม D/E หมายถึง Debt/Equity กันละนี้
ถ้าตัวนี้ ยิ่งน้อยยิ่งดี
แต่หนี้ก็ไม่ใช่ไม่ดีนะ ถ้าดอกเบี้ยถูกๆ แล้วมีความสามารถนำมาสร้างกำไรเยอะๆ
มากกว่าดอกเบี้ยหลายเท่าได้ ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าไม่มีปัญญาสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น แล้วมีหนี้เยอะหนี้พอกหนี้บาน แล้วตายลูกเดียว
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 1:37 pm
โดย j2methai
ยิ่งน้อยยิ่งดีครับ ปกติก็ไม่ควรจะเกิน 1 เท่าน่ะครับ
ที่ดีควรจะไปดูว่าเป็นหนี้แบบไหน ระยะสั้นหรือยาว เจ้าหนี้เป็นใคร เจ้าหนี้จะบ้าจี้เรียกเงินคืนแล้วจะกระทบกับสภาพคล่องบ.มั้ย หรือเป็นแบบหุ้นกู้คือไม่ว่ายังก็ต้องรอตามสัญญา 5 ปีก็ต้อง 5 ปีอันนี้ไม่วิตกเท่าไร
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 3:25 pm
โดย thaloengsak
ครรชิต ไพศาล เขียน:บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูงบางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
ตามความเข้าใจของผม พี่พูดสลับกันใช่ไหมครับ
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 4:21 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
เพราะต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
ประโยคนี้หมายถึง D = Diveden / E = EPS ไม่ได้หมายถึง D = Debt / E = Equity
โดยผมตั้งเงื่อนไขว่า ถ้ามีหุ้นสองตัว อัตราปันผลต่อราคาหุ้น เท่ากัน สมมุติ D/P = 5 %
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 10 บาทต่อหุ้น เพราะไม่ต้องการเอาเงินไปลงทุนเพิ่ม
D/E = 10/10 =100%
D/P = 5 % ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 200 บาท
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 5 บาทต่อหุ้น เพราะต้องการเอาเงินกำไรสะสมไปลงทุนต่อ 5 บาท
เพื่อว่าปีต่อๆไป กำไรต่อหุ้นจะได้เพิ่มขึ้นอีก
D/E = 5/10 = 50%
D/P = 5% ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 100 บาท
ผมว่าผมพูดถูกนะ
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 7:53 pm
โดย thaloengsak
ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ
ผมปล่อยไก่ไปเลยครับ :lol: ผมอ่านไม่ละเอียดเอง
ขอคำแนะนำเพิ่มเติมหน่อยครับ
ถ้าเป็นกรณี Debt per Equity จะเป็นเช่นไรครับ
ขอบคุณครับ
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 8:29 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
ผมว่า บริษัท มันก็เหมือน คนธรรมดา เราๆนี้แหละ
บริษัทที่ 1 เหมือนคนที่ทำงานหาเงินได้มา 100 แล้วกินหมดทั้ง 100
บริษัทที่ 2 เหมือนคนที่ทำงานหาเงินได้มา 100 แล้วกินเพียง 50 เก็บ 50
นานๆไปหลายๆปีเข้า ใครจะมีฐานะมั่นคงกว่ากัน
วันไหนเกิดป่วยไข้ขึ้นมาต้องใช้เงินค่ารักษา ใครต้องกู้หนี้ยืมสิน
แล้วเกิดวันหนึ่งเศรษฐกิจตกต่ำ หารายได้ได้น้อยลง จำเป็นต้องใช้เงินเยอะขี้นมา
บริษัทที่ 1 ต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาดำเนินการ สู้วิกฤติ ทำได้เท่าไรก็เอาไปจ่ายแต่ดอกเบี้ย แทบไม่เหลือ
บริษัทที่ 2 มีเงินเเก็บของตัวเอง ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน ทำได้เท่าไรก็เป็นของผู้ถือหุ้น
ปันผลครึ่งหนึ่ง เก็บ เพื่อความมั่นคงครึ่งหนึ่ง
หนี้น้อย นะมันดี กว่าหนี้มาก อยู่แล้วละ ครับ ยิ่งไม่มีหนี้ยิ่งดีใหญ่
มีเงินเก็บมากๆ จะได้ใช้เงินของตัวเองลงทุน ดีกว่าจะต้องไปกู้เขามาลงทุน
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 9:22 pm
โดย penguin738
ครรชิต ไพศาล เขียน:บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
เพราะต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
ประโยคนี้หมายถึง D = Diveden / E = EPS ไม่ได้หมายถึง D = Debt / E = Equity
โดยผมตั้งเงื่อนไขว่า ถ้ามีหุ้นสองตัว อัตราปันผลต่อราคาหุ้น เท่ากัน สมมุติ D/P = 5 %
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 10 บาทต่อหุ้น เพราะไม่ต้องการเอาเงินไปลงทุนเพิ่ม
D/E = 10/10 =100%
D/P = 5 % ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 200 บาท
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 5 บาทต่อหุ้น เพราะต้องการเอาเงินกำไรสะสมไปลงทุนต่อ 5 บาท
เพื่อว่าปีต่อๆไป กำไรต่อหุ้นจะได้เพิ่มขึ้นอีก
D/E = 5/10 = 50%
D/P = 5% ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 100 บาท
ผมว่าผมพูดถูกนะ
สอบถามพี่ครรชิตหน่อยครับว่าราคาหุ้นที่ว่ามาจากสมการอะไรครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 29, 2010 9:32 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
โดยผมตั้งเงื่อนไขว่า ถ้ามีหุ้นสองตัว อัตราปันผลต่อราคาหุ้น เท่ากัน สมมุติ D/P = 5 %
แล้วเพื่อให้ดูง่ายขึ้น ก็สมมุติว่ามันกำไร 10 บาทเท่ากัน
แล้วปันผลออกมาอย่างนี้ ราคามันก็เลยออกมาอย่างนั้น
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 30, 2010 7:55 am
โดย sattaya
D/E (Debt/Equity) สูงไม่ใช่ไม่ดีครับ อยู่ที่ว่าสูงเพราะอะไร
ถ้าเจ้าหนี้ที่สูงเป็นหนี้การค้า หนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยต่ำ ดีไหม?
อย่ายึดติดแค่ D/E (Debt/Equity)
ดูภาพรวมของธุรกิจและบริษัทจะดีกว่าไหมครับ
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 30, 2010 8:30 am
โดย ครรชิต ไพศาล
คุณ sattaya พูดถึง หนี้การค้า ขึ้นมา
ทำให้ผม
นึกขึ้นได้ว่า ผมควรเพิ่ม ฟังค์ชั่นใน ชีต PRIC&PE ของผม
ให้ผู้ใช้สามารถเลือกดู หนี้/ผู้ถือหุ้น ได้ 6 แบบ
1. หนี้เงินกู้1ปี/ผู้ถือหุ้น
2. หนี้การค้า/ผู้ถือหุ้น
3. หนี้หนุมอื่น/ผู้ถือหุ้น
4. หนี้หมุนรวม/ผู้ถือหุ้น
5. หนี้เงินกู้รวม/ผู้ถือหุ้น
6. หนี้สินรวม/ผู้ถือหุ้น
คงจะดี นะ ทำให้เรารู้ว่า หนี้ที่มากที่สุด มาจากอะไรกันแน่
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 30, 2010 9:25 am
โดย ครรชิต ไพศาล
เสร็จแล้ว แจก
EPS16YEAR มีฟังค์ชั่นนี้ เพิ่มไปดูเล่นได้เลย
ให้ผู้ใช้สามารถเลือกดู หนี้/ผู้ถือหุ้น ได้ 6 แบบ
1. หนี้เงินกู้1ปี/ผู้ถือหุ้น
2. หนี้การค้า/ผู้ถือหุ้น
3. หนี้หนุมอื่น/ผู้ถือหุ้น
4. หนี้หมุนรวม/ผู้ถือหุ้น
5. หนี้เงินกู้รวม/ผู้ถือหุ้น
6. หนี้สินรวม/ผู้ถือหุ้น
คงจะดี นะ ทำให้เรารู้ว่า หนี้ที่มากที่สุด มาจากอะไรกันแน่
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 30, 2010 9:36 am
โดย thaloengsak
เป็นความคิดที่ดีครับ
แล้วรู้สึกดีใจมากที่ทุกท่านมาแบ่งปันความรู้กันครับ
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2010 9:42 am
โดย bushino
ขอบคุณมากครับ ความรู้ทั้งนั้น
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2010 10:35 pm
โดย กาละมัง
d/e ratio = debt to equity ratio นั้น ระบุเจาะจงจำเพาะไม่ได้ว่าที่เหมาะสม สมควรเป็นเท่าไร
d/e บอกแต่ความเสี่ยง คือ d/e สูงมีความเสี่ยงสูงกว่า d/e ต่ำ เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันมักมีโครงสร้าง d/e ที่คล้ายกัน ซึ่งแต่ละอุต ฯอาจแตกต่างกันได้อย่างมาก เช่นสถาบันการเงินมักมี d/e สูง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคาร)
และก็บอกไม่ได้ด้วยว่า d/e สมควร สูง หรือ ต่ำดี เพราะหากนำเงินจากการสร้างหนี้ ไปทำประโยชน์ได้มากกว่าดอกเบี้ยจ่ายแล้ว ย่อมส่งผลทำให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมากกว่าการไม่ได้สร้างหนี้ขึ้น
ในเรื่องการพิจารณาความเสี่ยง เราก็ไม่สมควรดู d/e อย่างเดียว เราต้องดูในรายละเอียดของประเภทหนี้สิน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับส่วนของทรัพย์สินด้วย
แม้เราระบุเจาะจงไม่ได้ d/e เหมาะสมควรเป็นเท่าไร แต่ผู้บริหารองค์กร จะรู้ดีกว่า และมักจะกำหนดความเสี่ยง คือ d/e ที่เหมาะสมว่าสมควรไม่เกินเท่าไร แต่ก็จะไม่ยึดเป็นกฎเหล็ก เพราะบ่อยครั้งก็อนุโลมให้เกินได้เป็นการชั่วคราวเมื่อเห็นโอกาส
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2010 12:42 am
โดย miracle
ความเหมาะสมของ D/E นั้นบอกไม่ได้ว่าจุดไหนดี
เพราะอะไรหรือ มันเกี่ยวไปถึง ต้นทุนเงินทุนของบริษัทหรือ WACC เลยที่เดียว
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2010 1:45 pm
โดย unnop.t
การบอกจุดที่พอดีของ D/E บางครั้งมันก็ลำบากเหมือนกัน การที่ดี D/E สูง บอกถึงว่าบริษัทใช้ leverage ในการเติบโต ซึ่งต้องแลกกับ
ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ในช่วงเศรษฐกิจดี ๆบริษัทมีแนวโน้มจะใช้เงินกู้เพิ่มขึ้น แต่ในช่วงอนาคตที่มองว่าไม่แน่นอน บริษัทอาจจะลดความ
เสี่ยงจากเงินกู้ แต่อย่างที่หลายคนพูดมาข้างต้น เราควรจะดูอัตราส่วนอื่น ๆประกอบด้วย รวมถึงลักษณะอุตสาหกรรมด้วย อย่างพวกค้าปลีก
หนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้การค้าไม่มีดอกเบี้ย ดังนั้นเราควรดูอัตราส่วน Interest Bared Ratio (หนี้ที่มีดอกเบี้ย/ ทุน) ประกอบด้วย
ผมคิดว่าการจะใช้เงินกู้มากหรือน้อย บริษัทควรประเมินความแน่นอนของกระแสเงินสดในอนาคต บริษัทที่กระแสเงินสดในอนาคตไม่แน่ไม่
นอนอย่างพวกรับเหมา ประมูล อสังหา เป็นต้น ถ้ากู้เยอะ ๆอย่างนี้น่ากลัวครับ แต่อย่างพวกที่ต้องใช้เงินทุนสูง เช่นพวกโรงไฟฟ้า แต่มี
ความแน่นนอนของกระแสเงินสดกว่า ความเสี่ยงก็ไม่สูงเท่าถึงแม้ว่าจะมี D/E เท่า ๆกัน ผมเชื่อว่าหลักการเศรษฐกิจพอเพียงนำมาใช้ได้
ครับสำหรับกรณีนี้