หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากกัน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 17, 2010 1:19 pm
โดย pat4310
การวิเคราะห์หามูลค่าหุ้นให้ได้ค่าที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุดนั้น เราต้องทำตัวเป็นผู้สังเกต(observer)แบบคนวงนอกแล้วหาความสัมพันธ์ของแต่ละปัจจัย จนได้ข้อสรุปออกมา ว่าแต่ละเหตปัจจัยส่งผลอย่างไร การวิเคราะห์ฝรั่งก็พยายามแยกตัวเราออกมาเหลือแค่ข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นทำให้มีแบบจำลองการประเมินมูลค่าหุ้นมากมาย แต่สุดท้ายได้ตัวเลขมาก็มาเห็นความจริงแล้วรับไม่ได้ก็ปรับตัวเลขให้ตรงกับกิเลสตัวเราเองอยู่ดี จึงเป็นข้อสรุปว่าทำไมหุ้นตัวเดียวกันแต่ละคนถึงมีมูลค่าหุ้นในใจไม่เท่ากันให้ใช้เครื่องมือเดียวกันด้วย

สรุปราคาหุ้นก็มาจากใจเรานั่นแหละ เป็นตัวแทนสะท้อนกิเลสเรานั้นเอง แค่มีสติรู้ทันใจตัวเองเห็นหุ้นตามความเป็นจริง เห็นเหตุปัจจัยที่มาปรุงแต่หุ้นตัวนั้น ท่านจะลงทุนในหุ้นได้ระดับบร๊ะเจ้ากันเลยทีเดียว ทฤษฎีเรื่องใจนี่อย่าถามฝรั่งครับเพราะพวกนี้ศึกษาจนรู้ทุกเรื่อง อวกาศก็ไป ทะเลลึกก็ไป ไม่รู้อยู่เรื่องเดียวคือ ใจตัวเอง ก็ต้องมาพึ่งพระพุทธเจ้านี่แหละครับ ท่านวิจัยเรื่องใจจนแจ่มแจ้ง

วิธีการก็ง่ายๆเพียงแค่มีสติรู้ทันใจก็จะสามารถแยกข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นและการปรุงแต่งออกจากกันได้ เห็นเป็นส่วนๆ แล้วจะเห็นหุ้นตามความเป็นจริง

ยกตัวอย่างหุ้น GFPT แล้วกัน ตอนค้นพบครั้งแรก มาจากการกรองหุ้นเอาที่ PE ต่ำๆ ก็ได้หุ้นตัวนี้มา
ข้อเท็จจริง
ราคา 20 บาท
กำไรปีนี้ 8 บาท/หุ้น
PE ตอนนี้ =20/8= 2.5
ข้อคิดเห็น
สมมติให้ปีหน้ากำไรใกล้เคียงเดิมที่ 8 บาท
สมมติให้ foreword PE อยู่ที่ 10 เท่า
10=p/8
ราคาเหมาสมอยู่ที่ p=80 บาท ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 20 บาท
การปรุงแต่ง
มันจะวิ่งไป 4 เท่าต้องขายบ้านขายรถซื้อแล้ว รวย ๆๆๆๆๆๆๆๆ :ep:
เอาเงินไปทำอะไรดีหนอ เที่ยวรอบโลกดีไหม
ตอนนี้คนไม่ค่อยสนใจเก็บหุ้นให้ได้จำนวนก่อนแล้วค่อยไปโพสใน thaivi เดี๋ยวคนก็แห่กันมาซื้อตาม
....
...
..

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 17, 2010 9:05 pm
โดย สามัญชน
รอฟังต่อครับ :D

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 17, 2010 9:11 pm
โดย naris
เล่าได้ถูกจริตกับผมดีจัง :lol: รอฟังอยู่ครับ

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 17, 2010 9:30 pm
โดย o-bo-ja-ma
Mos=margin of satisfaction

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 17, 2010 10:37 pm
โดย simplelife
เห็นด้วยครับ ขอยกตัวอย่างเสริมให้ดูนิดนึง

เหมือนที่มีคนบอกว่า บางครั้ง VI มัน base on สมมติฐานเยอะเกินไป ตัวเลขทุกตัวที่เราตั้งขึ้น เช่น ถ้า growth stock เติบโต yoy 15% ไปได้ 10 ปี หลังจากนั้นจะโตแค่ 2-3% พอ DCF ออกมาแล้ว intrinsic value ของบริษัทนี้ได้ค่าเป็น X ถ้าสูงกว่า Y ราคาปัจจุบันก็ซื้อ ถ้า X ต่ำกว่า Y ก็ไม่ซื้อ ฟังดูง่ายไหมครับ

ปัญหามันอยู่ที่ว่าไอ้เลข 15% กับ 10 ปีเราสมมติขึ้นมา บังเิอิญว่าถ้า Y>X แต่เราดันอยากซื้อหุ้นตัวนี้มาก เลยคิดว่าเอาหน่ะ หยวนๆ มันอาจจะโต 16% ต่อปีก็ได้ หรือมันอาจจะ sustain high growth rate ไปได้อีก 11 หรือ 12 ปีก็ได้ พอปรับค่าลง intrinsic value ก็มากขึ้น เมื่อ X สูงขึ้นกว่า Y เราก็ eureka ซื้อหุ้นได้แล้ว เห็นไหม ราคาตอนนี้ถูกกว่ามูลค่ามัน

ถ้ามองในแง่นี้ Philips Fisher กับ Warren Buffett ถึงประสบความสำเร็จเพราะว่า เลือกที่จะซื้อบริษัทที่มี DCA สูงมากๆ มัน sustain growth rate ได้ยาวกว่าที่เราคิด(มาก) แต่ถ้าเราซื้อบริษัทที่มี DCA สูงมากๆไม่ได้อย่างเขาหล่ะ บริษัทแบบที่ life cycle ธรรมดาๆ เกิดมาแล้วดับไปครับ คือจากโต 15% ต่อปีลงมาเหลือ 4-5% ต่อปี ลองดูพวกหุ้นเก่าแก่ อย่าง SUC, DTC, CTW, AFC ดู (ยกเว้น SCC กับ SPC) พวกนี้ปัจจุบัน ส่วนของผู้ถือหุ้นโตขึ้นปีละกี่เปอร์เซ็นต์ครับ

ไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องฝรั่ง เชื้อชาติไม่เกี่ยวหรอกครับ

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 18, 2010 12:27 am
โดย pat4310
ไอเดียมาจากการปฎิบัติธรรมครับ ถ้าใจตั้งมันเป็นสัมมาสมาธิ จะเห็นขันธ์ 5 แยกเป็นส่วน
รูป คือร่างกายเรา แสง สี เสียง ที่มากระทบ
เวทนา ความรู้สึกสุข ทุกข์ เฉยๆ
สัญญา ความจำได้หมายรู้ ว่านี่คือราคาหุ้น PE BV CFC (ข้อเท็จจริง)
สังขาร การคิด (ข้อคิดเห็น)
วิญญาณ การปรุงแต่ง
ถ้าใจตั้งมันเป็นผู้รู้ผู้ดูต่อไปจะเห็นขันธ์ 5 มันแสดงไตรลักษณ์ให้ดูต่อหน้าต่อตา เห็นความจริงบ่อยๆ ว่ามันเป็นทุกข์ เพราะมันไม่เทียง และถูกปรุงแต่ไปตามเหตุปัจจัย ใจมันก็จะวางเอง

ถ้าสังเกตใจเราเวลาเราะวิเคราะห์หุ้น แบบไม่มีสติ ทั้งความคิดเห็น ข้อเท็จจริง และ การปรุงแต่งมันจะรวมเป็นก้อนเดียวหมดเลย คิดวนไปวนมาอย่างนั้นแหละ ราคาที่วิเคราะห์ออกมาก็ไม่สะท้อนความเป็นจริง เป็นราคาที่เราอยากให้เป็น bias เต็มไปหมด

ดังนั้นในการวิเคราะห์ถ้าเราเอาปรุงแต่งเป็นอารมณ์ออกมา ก็จะเป็นการวิเคราะห์ด้วยเหตุและผลอย่างโดยใช้ข้อเท็จจริงและความคิดเห็นเท่านั้น ราคาที่ออกมาก็จะสะท้อนความจริงมากขึ้น(ตามกรอบความรู้และประสบการณ์ที่เรามีนะ) เหมือนวิเคราะห์จากคนวงนอก

เครื่องมือสำคัญคือสติ การปรุงแต่งหรือกิเลศมันกลัวสติ กิเลศเกิดขึ้นสติมากิเลศดับ วิธีฝึกวิธีแรกคือหัดรู้สภาวะไปเรื่อยๆ รู้บ่อยๆ ความโลภเกิดขึ้นให้รู้ ความโกรธเกิดขึ้นให้รู้ ความหลงเกิดขึ้นให้รู้ ฝึกบ่อยๆเวลาวิเคราะห์หุ้น พอความโลภเกิดขึ้นสติจะเกิดแบบ Realtime พอตามทันความโลภมันจะดับไป ก็จะเหลือแต่เหตุผล (ข้อเท็จจริงกับความคิด)

หรืออีกวิธีถ้าไม่สามารถรู้ทันใจขณะวิเคราะห์ได้ก็เขียนแยก เป็นข้อเท็จจริง ความคิดเห็น และการปรุงแต่งก็ได้ครับ

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 18, 2010 12:34 am
โดย pat4310
ข้อควรระวังคือ ถ้าเอาการปรุงแต่งออกแล้วก็อย่าพึ่งเชื่อความคิดของตัวเองเพราะคนเราก็ไม่ได้รู้ไปซะทุกเรื่อง อาจจมีปัจจัยอีกหลายตัวที่สำคัญแล้วไม่ได้เอามา
ค=คิด
ว=วิเคราะ
ย=แยกแยะ


ป.ล เรื่องฝรั่งก็เขียนขำๆไปอย่างนั้นเอง ฝรั่งก็ไม่ได้เก่งทุกเรื่อง คนเอเซียก็ไม่ได้เก่งทุกเรื่องเหมือนกัน

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 18, 2010 12:41 am
โดย murder_doll
pat4310 เขียน: ค=คิด
ว=วิเคราะ
ย=แยกแยะ
:lovl: เจอเทคนิคนี้เข้าไป จำขึ้นใจเลย

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 18, 2010 11:47 am
โดย unnop.t
บางครั้งถึงแม้ว่าเราแยกเอาส่วนที่เป็นอารมณ์ออกจากข้อเท็จจริง ก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถพิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง

ผมคิดว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่ากรอบความคิดที่เรามองด้วย อย่างเช่นคนที่มีประสบการณ์ การศึกษา พื้นฐานนิสัยส่วนตัว ต่างกัน สิ่งที่เรามองว่าเป็นข้อเท็จจริง มันอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ได้ ถึงแม้ว่าเราจะรู้ตัวเองว่าไม่ใช้เรื่องของอารมณ์ กิเลส ความกลัว มาพิจารณา

ผมชอบตัวอย่างของ Stephen Covey ในหนังสือ 7 Habits ที่ให้มองรูปผู้หญิงรูปหนึ่งแล้วถามว่าเห็นอะไร บางคนเห็นคนแก่ บางคนเห็นเป็นหญิงสาว ทั้ง ๆสิ่งที่ทุกคนมองคือ รูปเดียวกัน เป็น fact อันเดียวกัน

สำหรับผมพยายามเตือนตัวเองเวลาอยากจะซื้อ หรืออยากจะขาย ถามตัวเองว่าเราโลภหรือเรากลัวอยู่หรือเปล่า ?

แต่ผมชอบนะครับ ที่มองการวิเคราะห์หุ้นด้วยหลักพุทธศาสนา :D

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 18, 2010 10:09 pm
โดย laohanant
pat4310 เขียน: ค=คิด
ว=วิเคราะ
ย=แยกแยะ
:rofl:

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 19, 2010 8:10 pm
โดย itnas
pat4310 เขียน: ค=คิด
ว=วิเคราะ
ย=แยกแยะ
:lovl: :lovl: :lovl:

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 25, 2010 12:46 pm
โดย luangrit
เป็นบทความที่น่าสนใจตั้งแต่หัวข้อกระทู้แล้วครับ...

คุณ pat4310 มีความเห็นที่เป็นพุทธะมากๆ
จริงๆไม่อยากใช้คำว่า"ความเห็น"เลย เพราะในทางโลกความเห็นย่อมเจือไปด้วยความอยากหรือกิเลสนั้นเอง

แต่ความเห็นของคุณ ผมเองหมายถึง ความเห็นตามความเป็นจริง ครับ...

กลับมาที่เรื่องของแนวทางการลงทุน
สำหรับผมแล้ว....
EPS, Forward EPS = ข้อเท็จจริง
P/E, Forward P/E = ความเห็น หรือ การให้ค่า

ดังนั้นผมจะให้ความสำคัญที่ EPS, Forward EPS....
ส่วนใครจะให้ค่า(P/E, Forward P/E)เท่าไหร่....ก็สุดแล้วแต่ครับ

Re: การประเมินมูลค่าหุ้นต้องแยกข้อเท็จจริงกับความเห็นออกจากก

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 26, 2010 1:40 am
โดย pornchal
ทั้ง EPS and PE มันเป็นทั้ง FACT และความเห็นครับ
ถ้าเป็นข้อมูลปัจจุบัน มันเป็น FACT แต่ถ้าเป็นอนาคต มันเป็น ความเห็นครับ

แต่การให้ PE ที่เหมาะสมแตกมักแตกต่างกันตามความเห็น ไม่รู้ว่ามาได้ไง บางคนให้ PE 8 บางคน บอก 10 เหมาะสม อันนี้แล้วแต่

ผิดถูกประการใด ให้อภัยหน่อยนะครับ