Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมไม่ค่อยแน่ใจ
เป็นไปได้ไม๊ ที่ โบรค จะทุจริต ขโมยหุ้นของเรา
และถ้าโบรค ล้มละลาย อะไรจะเกิดกับหุ้นของเรา
เพราะผมกำลังจะชวนญาติๆมาเปิดพอร์ตในบริษัทเดียวกัน
กรณีผู้ถือหุ้น SCC และใบหุ้นหายเกิดจากอะไร
ขอบคุณสำหรับคำตอบด้วยครับ

อยากทราบคำตอบเหมือนกันรอผู้รู้มาตอบครับ

เสี่ยงเพราะเคยมีกรณีโบรกเกอร์แอบซื้อขายหุ้นของเราโดยที่เราไม่รู้เรื่องด้วยแล้วก็เป็นคดีความกันเอง ถ้าเงินเยอะ เปิดญาติล่ะบริษัทเลยได้อ่านบทวิเคราะห์หลายที่ด้วย และถ้าเล่นมาร์จินด้วยเปิดพอร์ตเดียวแล้วพอร์เกิดความเสียหาย

หุ้นของเรา จะเป็นชื่อของเรา และอยู่ในศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ครับ
ส่วน บล. หรือ โบรกเกอร์ เป็นนายหน้าทำคำสั่งซื้อคำสั่งขายแทนเรา

สำหรับเรื่องทุจริต ความเห็นส่วนตัว ผมว่ามันก็คล้ายๆ เงินหาย
ในบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารที่เป็นข่าวใน นสพ. แหละ
เงินหล่นใส่ทราย ทรายทรุด เงินหล่นใส่คน คนไร้คุณธรรม
ผมก็ไม่รู้ว่าการมีพอร์ตหลายโบรกจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่ครับ

blueplanet เขียน:ผมไม่ค่อยแน่ใจ
เป็นไปได้ไม๊ ที่ โบรค จะทุจริต ขโมยหุ้นของเรา
และถ้าโบรค ล้มละลาย อะไรจะเกิดกับหุ้นของเรา
เพราะผมกำลังจะชวนญาติๆมาเปิดพอร์ตในบริษัทเดียวกัน
กรณีผู้ถือหุ้น SCC และใบหุ้นหายเกิดจากอะไร
ขอบคุณสำหรับคำตอบด้วยครับ

คุณต้องหมั่น check บัญชี และ movement การซื้อขายของคุณสิครับ
ทางบริษัทเค้ามี confirmation และ report ให้อยู่แล้ว
ถ้าไม่มี record การ order ทาง voice แต่มีการเปลี่ยนแปลงของรายการ (คือโบรกเทรดเอง) ก็เล่นได้แล้วครับ
ดีที่สุดคือ key เอง และ keep track ทุกอย่าง
โบรคล้มละลายไม่มีผลอะไรครับ หุ้นก็ยังเป็นของคุณเหมือนเดิมหมด อยู่กะ TSD (ศูนย์รับฝาก) แต่ต้องเปลี่ยนบล เทรด

ส่วนเรื่อง ทุจริตนั้นเป็นรายบุคคล ผมว่าคงไม่มีทุจริตระดับองค์กรคือเลวทั้งหมด ถ้ามีคงได้ยินแล้วหละครับ ถ้าโดนก็จับให้ได้และเอาค่าเสียหายครับ เล่นให้เป็น มีแต่ได้ครับไม่ต้องห่วง

เรื่อง SCC นี่กรณีปลอมใบหุ้นหรือไม่ครับ? ..... เรื่องใบหุ้นไม่ต้องห่วงในอนาคตเค้าก็จะเปลี่ยนให้เป็น scripless หมดแล้วครับ

ถามอีกหน่อยครับ
กรณีโบรค เอาหุ้นเราไปขาย
เงินที่ขายหุ้นได้ โบรคเอาไปได้ไม๊
หรืออย่างไรเงินก็ต้องเข้าบัญชี ของเจ้าของหุ้นที่ระบุตอนเปิดพอร์ต
ผมไม่ได้ record หุ้นผมมาหลายเดือนแล้ว
เอกสารทุกใบที่มาจากโบรค ก็แทบไม่ได้อ่าน(ทิ้งอย่างเดียว)
สะบายใจที่รู้ว่าแม้โบรคจะล้ม หุ้นเราก็ยังอยู่
(แน่นะ อยากให้มีการยืนยันว่า แม้โบรคล้มหุ้นเราอยู่ครบที่ศูนย์รับฝาก)
ถามอีกนิด
มีกี่วิธีที่เจาเอาหุ้นออกจาก port ของเรา?

รอบคอบครับ
จริงๆผมก็อยากทราบมานานแล้วเช่นกันครับ

blueplanet เขียน:ถามอีกหน่อยครับ
กรณีโบรค เอาหุ้นเราไปขาย
เงินที่ขายหุ้นได้ โบรคเอาไปได้ไม๊
หรืออย่างไรเงินก็ต้องเข้าบัญชี ของเจ้าของหุ้นที่ระบุตอนเปิดพอร์ต
ผมไม่ได้ record หุ้นผมมาหลายเดือนแล้ว
เอกสารทุกใบที่มาจากโบรค ก็แทบไม่ได้อ่าน(ทิ้งอย่างเดียว)
สะบายใจที่รู้ว่าแม้โบรคจะล้ม หุ้นเราก็ยังอยู่
(แน่นะ อยากให้มีการยืนยันว่า แม้โบรคล้มหุ้นเราอยู่ครบที่ศูนย์รับฝาก)
ถามอีกนิด
มีกี่วิธีที่เจาเอาหุ้นออกจาก port ของเรา?

ต้องแยกแยะประเด็นก่อนนะครับ
ระหว่าง โบรก กับ พนักงานของโบรก
คนถ้าจะทุจริต เขามีวิธีของเขาอยู่แล้วแหละ
เหมือนเงินหายไปจากบัญชีธนาคารน่ะ
เราไม่ได้ไปถอน ทำไมเงินมันออกจากบัญชีได้ล่ะ
จริงไหม ?

ส่วนเรื่องเอกสารที่เราควรจะได้รับแต่ไม่ได้รับ
ผมว่ามันเป็นหน้าที่ของเราครับ ที่จะทวงถาม
และที่สำคัญ ควรจะอ่านด้วย และเก็บไว้เป็นหลักฐาน
แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระในการจัดเก็บ
ผมว่าเก็บย้อนหลังไว้สัก 2-3 ปีก็น่าจะพอครับ

ส่วนตัว ผมคิดว่าเราต้องติดตามธุรกรรม
ไม่ทิ้งไว้ให้บัญชีนิ่งนาน หรือถ้าจะเก็บไว้นานจริงๆ
ก็ควรจะติดตามพอร์ตตัวเองด้วย
จะได้รู้ว่าพอร์ตเราปกติหรือไม่
เพราะที่ผ่านมา ก็เคยได้ยินข่าวหุ้นหายเหมือนกัน
ยิ่งถ้าเรารู้เรื่องได้เร็ว การติดตามสืบเอาความ
ก็น่านะง่ายขึ้นครับ

แล้วเทรดผ่านอินเตอร์เนตจะมีปัญหาไหมครับ

จินตนาการง่ายๆ Broker ก็เหมือนนายหน้าขายประกัน
สมมติว่านายหน้าคนนั้นเลิกอาชีพขายประกัน ไปขายสบู่ยาสีฟัน บริษัทประกันก็มีข้อมูลเราอยู่

Broker ล้มละลาย ศูนย์ฝากหลักทรัพย์ (TSD) ก็ยังมีข้อมูลเราอยู่ ต้องมีวิธีการ เช่น โอนความรับผิดชอบไปให้นายหน้ารายอื่น เพราะ broker เป็นแค่ตัวทางผ่าน/ตัวแทนทำให้บมจ. ตลาดทำงานง่ายในการแลกเปลี่ยนซื้อขายหุ้นของตัวเองกับประชาชนเท่านั้น

เราจะเปิด port สัก 10 ฺbrokers TSD ก็จะมีข้อมูลขอเราทั้ง 10 ฺbrokers
ยิ่งยุคนี้ยุคไอที คุณไปเปิด login เช็คเองได้จากฐานข้อมูลของ TSD ได้โดยตรง โดยไม่ต้องโทรถามเจ้าหน้าที่

http://www.tsd.co.th/th/investorportal/index.html

ไปสมัครได้ครับ แค่ scan บัตรประชาชนไปให้ เขาจะส่ง password มาให้ทางมือถือ ตอนหลังเอกสารปันผลหาย ก้ไป download ย้อนหลังได้อีกด้วย ไม่ว่ากับ broke ไหน

วิสัยทัศน์ และพันธกิจ

TSD Investor Portal เป็นบริการข้อมูลผู้ถือหุ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ต สำหรับบุคคลธรรมดาในประเทศที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์(ประเทศไทย) จำกัด TSD ให้บริการงานนายทะเบียนหลักทรัพย์ โดยเป็นศูนย์รวมข้อมูลหลักทรัพย์และข้อมูลผู้ถือหุ้นด้วยระบบการรักษาข้อมูล ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน และระบบบริหารข้อมูลสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นที่เปี่ยมประสิทธิภาพ

TSD Investor Portal มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกในการค้นหา ตรวจสอบและพิมพ์เอกสารต่างๆ ของผู้ถือหุ้นทางอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการ e-Service ของหรือ TSD ที่สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้ถือหุ้น เพิ่มความสะดวก สบาย ประหยัดเวลา ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางติดต่อกับ TSD และในอนาคตผู้ถือหุ้นสามารถใช้บริการอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกมากมาย อาทิ เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น ยอดหุ้น/รายละเอียดใบหุ้นและที่หุ้นที่ฝากไว้ในบัญชีบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ (Issuer Account Statement) เอกสารส่งออก- เอกสารตีคืน หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย

พิเศษล่าสุด! เพิ่ม รายงาน Tax Summary รายปี สรุปการจ่ายเงินปันผล และรายงานยอดหุ้น ณ วันที่ปิดสมุดทะเบียนตามเลขทะเบียนผู้ถือหุ้น

ส.สลึง เขียน:หุ้นของเรา จะเป็นชื่อของเรา และอยู่ในศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ครับ
ส่วน บล. หรือ โบรกเกอร์ เป็นนายหน้าทำคำสั่งซื้อคำสั่งขายแทนเรา

สำหรับเรื่องทุจริต ความเห็นส่วนตัว ผมว่ามันก็คล้ายๆ เงินหาย
ในบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารที่เป็นข่าวใน นสพ. แหละ
เงินหล่นใส่ทราย ทรายทรุด เงินหล่นใส่คน คนไร้คุณธรรม
ผมก็ไม่รู้ว่าการมีพอร์ตหลายโบรกจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่ครับ

+1 ครับ
การเปิดพอร์ตหลายโบรก ผมว่ามีข้อดีแค่ได้อ่านบทวิเคราะห์ได้เยอะขึ้นแค่นั้นนะ
เพราะหุ้นในพอร์ตจะเป็นชื่อของเราเก็บอยู่ใน tsd อยู่แล้วครับ ดูได้จากใบเสร็จเงินปันผลที่ส่งมาหรือดูในเวปไซด์ก็ได้
สิ่งที่เราควรทำคือต้องคอยตรวจสอบจำนวนหุ้นที่เรามี อย่างน้อยๆ ซักเดือนละครั้ง หรือ สามเดือนครั้งก็ยังดี เงินทองของเราเองทั้งนั้น
ซื้อแล้วถือลืมราคาหุ้นได้แต่อย่าลืมจำนวนหุ้นแล้วกัน :lol:

แต่กรณีแบบผมที่ซื้อขายทางเน็ต ต้องโอนเงินเข้าบัญชีโบรกเกอร์ก่อนถือจะซื้อหุ้นได้ หากโบรกเกอร์เกิดเจ๊งขึ้นมา
เงินที่ค้างอยู่ในพอร์ตเนี่ยสิจะได้คืนหรือป่าว

โดยส่วนตัวแล้ว. ผมว่า มีหนึ่งbroker. ก็เหมือนมีเพื่อนสนิทหนึ่งคนคับ

มีหลายคน ก็มีข้อมูลและconnection ที่แตกต่างกันคับ เพราะเพื่อนแต่ละคนเก่งไม่เหมือนกัน

สิ่งที่สำคัญคือ ต้องระบุให้ได้ว่า แค่ละ broker. มีจุดอ่อนจุดแข็งที่แตกต่างกันอย่างไร แล้วสิ่งเหล่านั้นเหมาะกับ"สมการแห่งความสำเร็จ" ของเราไหม

ส่วนคนที่เคยมีเพื่อนแค่คนเดียวก็จะไม่มีทางรู้ว่า เค้ามีจุดอ่อนแข็งแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร เพราะขาดซึ่งการเปรียบเทียบ

การเปิด port มิใช่เลือกคู่แต่งงานนะคับ มีหลายคนได้คับ ไม่ผิด. ^^

ปล.ผมใช้บริการอยู่ 5 brokers. คับ :lol: :lol:

กองทุนคุ้มครองผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ (Securities Investor Protection Fund หรือ SIPF)

กองทุนคุ้มครองผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ ( Securities Investor Protection Fund หรือ SIPF) คือ กองทุนที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิก ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ( โบรกเกอร์ ) จำนวนหนึ่งซึ่งสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนฯ จัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนที่ซื้อขายหลักทรัพย์ผ่าน โบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิก กองทุนฯ ว่าจะได้รับความคุ้มครองทรัพย์สินที่มอบไว้ในความดูแลของโบรกเกอร์ที่เป็น สมาชิกกองทุน โดยได้รับการจ่ายเงินชดเชยจากกองทุนตามหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด

เงื่อนไขการให้ความคุ้มครอง
ผู้ลงทุนมีสิทธิได้รับการชดเชยจากกองทุนฯ เป็นเงินสดหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากผู้ลงทุน ไม่ได้รับคืนทรัพย์สินที่มอบไว้ในความดูแลของโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้

ในกรณีที่โบรกเกอร์ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนฯ ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามกฎหมายล้มละลาย
ในกรณีที่โบรกเกอร์ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนฯ กับผู้ลงทุนมีข้อพิพาททางแพ่ง เกี่ยวกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดให้โบรกเกอร์รายนั้นคืนทรัพย์สินแก่ผู้ลงทุน แต่โบรกเกอร์รายดังกล่าวไม่ปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ การคุ้มครองจะไม่รวมถึงผลขาดทุนที่เกิดจากการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเองหรือไม่ก็ตาม

จำนวนเงินคุ้มครอง
กองทุนฯ จะจ่ายชดเชยให้ผู้ลงทุนแต่ละรายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินรายละ 1 ล้านบาทต่อสมาชิก กองทุน 1 แห่ง

วิธีการได้รับความคุ้มครอง
กองทุนฯ จะมอบความคุ้มครองให้ผู้ลงทุนโดยอัตโนมัติ ทันทีที่ผู้ลงทุนเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนฯ โดยผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องสมัครและไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น ความคุ้มครองจะคงอยู่ตราบเท่าที่โบรกเกอร์นั้นยังเป็นสมาชิกกองทุนฯ

http://www.set.or.th/th/regulations/pro ... pf_p1.html

blueplanet เขียน:ผมไม่ค่อยแน่ใจ
เป็นไปได้ไม๊ ที่ โบรค จะทุจริต ขโมยหุ้นของเรา
และถ้าโบรค ล้มละลาย อะไรจะเกิดกับหุ้นของเรา
เพราะผมกำลังจะชวนญาติๆมาเปิดพอร์ตในบริษัทเดียวกัน
กรณีผู้ถือหุ้น SCC และใบหุ้นหายเกิดจากอะไร
ขอบคุณสำหรับคำตอบด้วยครับ

เรื่องโบรคล้มละลายอันนี้ผมว่าแก้ปัญหาที่ต้นเหตุดีกว่า คือหาโบรคที่มีคุณภาพดีๆครับ มีลูกค้ามากๆ
ส่วน กรณี SCC ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดเป็นกรณีที่ เค้าถูกขโมยใบหุ้นจริงไปแล้ว เอาของปลอมมาแทนที่ โดยที่คนขโมยไปก็จ่ายปันผลให้ทุกปีทำให้เจ้าของไม่รู้ตัวจนผ่านไป เป็น 10ปี ค่อยรู้ตัว ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับโบรคนะครับ เป็นความสะเพร่าของเจ้าของใบหุ้นเองที่ไปเซนชื่อในใบหุ้นของตัวเอง
ถ้าผิดพลาดตรังไหนก็ขออภัยนะครับ

kensorat เขียน:โดยส่วนตัวแล้ว. ผมว่า มีหนึ่งbroker. ก็เหมือนมีเพื่อนสนิทหนึ่งคนคับ

มีหลายคน ก็มีข้อมูลและconnection ที่แตกต่างกันคับ เพราะเพื่อนแต่ละคนเก่งไม่เหมือนกัน

สิ่งที่สำคัญคือ ต้องระบุให้ได้ว่า แค่ละ broker. มีจุดอ่อนจุดแข็งที่แตกต่างกันอย่างไร แล้วสิ่งเหล่านั้นเหมาะกับ"สมการแห่งความสำเร็จ" ของเราไหม

ส่วนคนที่เคยมีเพื่อนแค่คนเดียวก็จะไม่มีทางรู้ว่า เค้ามีจุดอ่อนแข็งแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร เพราะขาดซึ่งการเปรียบเทียบ

การเปิด port มิใช่เลือกคู่แต่งงานนะคับ มีหลายคนได้คับ ไม่ผิด. ^^

ปล.ผมใช้บริการอยู่ 5 brokers. คับ :lol: :lol:

+1
ขอเพิ่มครับ หลายโบรคได้สิทธ์หุ้นที่บริษัท underwrite มากขึ้นด้วย

แต่นิสัยผมขี้เกียจทำหลายบัญชี เลยมีอยู่โบรกเดียว เสียโอกาสไปเยอะเลย :lol:แต่ข้อดีคือ อำนาจการต่อรองสูง และตรวจเช็คง่ายครับ

อืมๆ มีทั้งข้อดีข้อเสียนะครับ...

ผมกะลังไม่ค่อยประทับใจการทำงานของโบรกปัจจุบันทีเดียว (สงสัยเห็นว่าไม่ใช่ลูกค้ารายใหญ่)
จะพิจารณาให้รอบคอบครับก่อนเปิดที่อื่น อิอิ...

naris เขียน:แต่นิสัยผมขี้เกียจทำหลายบัญชี เลยมีอยู่โบรกเดียว เสียโอกาสไปเยอะเลย :lol:แต่ข้อดีคือ อำนาจการต่อรองสูง และตรวจเช็คง่ายครับ

ขอถามหน่อยครับ
"อำนาจการต่อรองสูง" ต่อรองอะไรกันบ้างครับ
ของผมเทรดทางเน็ต แทบไม่ได้คุยกับโบรคเลย