หน้า 1 จากทั้งหมด 1

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 3:15 pm
โดย +++
ราคาตอนนี้ มันประมาณ29 บาท
ปันผล 60 %
ถ้า EPS ปีนี้ออกมา ได้ 5 บาท
ก็ได้ปันผล 10 % แหล่วนะครัึบ


อย่าไปให้นายตลาดมันหลอกเอานะครับ :D :D



ยิ่งลงมา 20 บาท ยิ่งดีนะครับ อิิอิ เดี๋ยวจะซื้อ
ตรงนั้นจะได้ปันผลประมาณ 15 %
ถ้าเจ้าของมันไม่โกงนะครับ....... อิอิ

ไม่ทราบเพื่อนๆพี่ๆ ว่าไงครับ :D :D

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 3:25 pm
โดย ลูกอิสาน
นักลงทุนคงกลัวว่าจะไม่ได้กำไรอย่างนั้นจริงๆ นะซิครับ
เพราะค่าระวางก็ลดลงตลอด ไม่มีเบรคเหมือนตอนขาขึ้นเลยครับ
กำไรปีหน้าก็ยังไม่แน่นอน และปันผลยังเครดิตภาษีไม่ได้ด้วย
แต่ผมก็คิดว่าความเสี่ยงต่ำลงมากครับ

คุณ +++ ครับ ทำไมเจ้าชิ้นส่วนชุดชั้นในยังไม่ประกาศผลอีกครับ
ช้ากว่าเขาทุกครั้งเลย หวังว่ากำไรคงลดลงไม่มาก
อย่าให้หงายเก๋งเหมือน CM ก็แล้วกัน จากกำไรเป็นขาดทุนเฉยเลย :D

cm

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 3:33 pm
โดย hot
นี่เป็นหุ้นที่เดากำไรยากจัง

psl อืมดูเหมือนต้องแก้ข้อมูลนะคับ
เขาปันผลใหม่ที่ ไม่ตำกว่า25%

ส่วนเรื่องค่าระวางคงต้องปลายปี
ว่าจะมีแนวโน้มอย่างไร

แต่ผมอาจมีเฮ

เพราะน้ำมันในตลาดโลกไม่ตำลง
ค่าระวางเรือบิน ค่าระวางเรือตู้ จะต้องปรับขึ้น ผลักภาระให้คนใช้บริการ
ในที่สุด ปัญหาอยู่ที่ค่าระวางเรือ เทกอง จับตาดูให้ดีคับ

คนซื้อแถวนี้ยังมีความเสี่ยงน้อยกว่า คนซื้อแถว 50 บาท
แน่คับ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 3:39 pm
โดย +++unlog
เรียนท่าน ลูกอีสาน อิอิ

ผมว่า 5 บาท ไม่น่าหนี เพราะเรือเพิ่มขึ้นเืกือบเท่าตัว
และเพิ่งรับเข้าหลัง ไตรมาส แีรก
และ ค่าระวาง ได้เหมาไปแล้ว

แต่ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อนะครับ
เพียงแต่ว่า ไม่อยากให้ขายทิ้งกันครับ สำหรับคนที่มีอยู่
มันเสียของ ยังไงๆ ก็ จับตาดูไว้ครับ


ส่วน หุ้น child wood cloth (ผ้าลูกไม้) สุดรักสุดหวงของเรา
ก็หวังแบบเดียวกับพี่ท่านง่ะ ครับ

เดี๋ยวผมรอรับแถว volume ประมาณ 5000 ล้านดีกว่า
ช่วงนี้อดทนรอครับ..... เพราะใน port ก็เพียบอยู่ อิอิ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 3:58 pm
โดย ลูกอิสาน
:o ผมไม่ได้มองเรือในแง่ร้ายนะท่าน +++
แต่เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาได้พอสมควร
สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือความไม่แน่นอน
ไม่แน่ว่าเรือ อาจจะไปที่ 50 อีกก็ได้

ส่วนเรื่องผ้าลูกไม้ ปีที่แล้วส่วนผ้าลูกไม้ขายไม่ดีเลยครับ
โชคดีที่ได้แแผนกชิ้นส่วนยานยนต์มาช่วย ไม่อย่างงั้นอาจจะแย่
ขอแค่กำไรเท่าเดิม หรือไม่ลดลงมาก ก็ดีแล้วครับสำหรับตัวนี้

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 4:38 pm
โดย บุคคลทั่วไป
เทียบทุนกับหนี้ก่อนครับ

ตอนนี้สำหรับคนที่จะขายหุ้น ตาย

ส่วนคนที่ไม่ขาย ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง อาจจะตายช้าหน่อย

แสงสว่างจากปลายอุโมงค์ยังไม่เห็นครับ

ตอนนี้อยู่ที่ความอึดของแต่ละคน เหมือนกับการดำน้ำเลย ใครอึดกว่าคนนั้นชนะ แต่เวลาไม่รู้เมื่อไรนะครับ

ส่วนผม เละน่วมเลยครับตอนนี้ กำลังคิดว่าจะล้างพอร์ตให้หมดดีไหม :lol:

ไม่มีต่อว่าใครครับ เพราะเวลาได้เงินก็เป็นของเรา เวลาเสียเราก็เสีย ไม่รู้จะไปโทษอะไรนอกจากโทษตัวเอง

บทเรียนครั้งนี้ราคาแพงเหลือ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 9:39 pm
โดย champ
Symbol: PSL
Headline: ได้รับมอบเรือจำนวน ทั้งหมด 15 ลำเรียบร้อยแล้ว
Time: 14 พ.ค. 2004 19:14:21


อ้างถึง : 2004-026
14 พฤษภาคม 2547
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ชั้น 9,
เลขที่ 62 ถนนรัชดาภิเษก,
ตลองเตย, กรุงเทพฯ 10110

เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) อ้างถึงมติผู้ถือหุ้นของบริษัทที่อนุมัติการ
ซื้อกองเรือจำนวน 15 ลำ จาก Malaysia International Shipping Corporation(MISC)
บริษัทขอแจ้งว่าบริษัทย่อยของบริษัทได้รับมอบเรือจำนวนทั้งหมด 15 ลำเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นถือเป็นการสิ้นสุดการซื้อสำหรับรายการนี้

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ
บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)



(คูชรู คาลี วาเดีย)
กรรมการ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 9:39 pm
โดย champ
Symbol: PSL
Headline: ได้รับมอบเรือจำนวน ทั้งหมด 15 ลำเรียบร้อยแล้ว
Time: 14 พ.ค. 2004 19:14:21


อ้างถึง : 2004-026
14 พฤษภาคม 2547
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ชั้น 9,
เลขที่ 62 ถนนรัชดาภิเษก,
ตลองเตย, กรุงเทพฯ 10110

เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) อ้างถึงมติผู้ถือหุ้นของบริษัทที่อนุมัติการ
ซื้อกองเรือจำนวน 15 ลำ จาก Malaysia International Shipping Corporation(MISC)
บริษัทขอแจ้งว่าบริษัทย่อยของบริษัทได้รับมอบเรือจำนวนทั้งหมด 15 ลำเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นถือเป็นการสิ้นสุดการซื้อสำหรับรายการนี้

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ
บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)



(คูชรู คาลี วาเดีย)
กรรมการ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 9:40 pm
โดย champ
Symbol: TTA
Headline: สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่2(F45-3)
Time: 14 พ.ค. 2004 18:42:21


TTA สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)

สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม (หน่วย : พันบาท)

ไตรมาสที่ 2 งวด 6 เดือน

ปี 2547 2546 2547 2546

กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 1,115,876 222,131 1,630,314 353,024
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 1.83 0.46 2.67 0.73



หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบงบการเงิน
จากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงินฉบับเต็ม
ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว"






ลงลายมือชื่อ..........................................
(ม.ร.ว.จันทรแรมศิริโชค จันทรทัต)(นายอาร์เน่ ไทเก้น)
ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 9:40 pm
โดย champ
Symbol: TTA
Headline: จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล/เพิ่มทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
Time: 14 พ.ค. 2004 18:57:27





Ref: COR:MS/EL04016t/st


วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2547

เรื่อง แจ้งการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล/การเพิ่มทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
เรียน คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่บริษัทฯ ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 คณะกรรมการ
ของบริษัทฯ ได้มีมติดังนี้

1. รับรองงบการเงินประจำไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2547
2. อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดระยะเวลาหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 31
มีนาคม 2547 หุ้นละ 1.00 บาท ให้แก่หุ้นสามัญจำนวน 639,353,820 หุ้น ที่มีชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
ของบริษัทฯ ณ วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2547 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน
2547
3. อนุมัติการเพิ่มทุนในบริษัทย่อย คือ บริษัท ทอร์ เอนเตอร์ไพร์ส ชิปปิ้ง จำกัด จาก 50 ล้านบาท เป็น
300 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในการขอรับสิทธิประโยชน์จาก
สำนักงานฯ
4. อนุมัติการลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทร่วม คือ บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด จำนวน 203.94
ล้านบาท

รายละเอียดของมติที่ประชุมคณะกรรมการจะอยู่ในเอกสารแนบท้าย



ขอแสดงความนับถือ
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)




(ม.ร.ว. จันทรแรมศิริโชค จันทรทัต) (นายอาร์เน่ ไทเก้น)
ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 9:42 pm
โดย champ
2 อันหลังของ TTA นะครับ
ผลประกอบการโตขึ้นมาเลยครับ
มีปันผลให้ 1 บาท ปีนี้ผลประกอบดูดีแน่ครับ
ผมว่า PSL ไตรมาส 2 ก็คงโตขึ้นครับ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 9:43 pm
โดย Stock Broker
Anonymous เขียน:เทียบทุนกับหนี้ก่อนครับ

ตอนนี้สำหรับคนที่จะขายหุ้น ตาย

ส่วนคนที่ไม่ขาย ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง อาจจะตายช้าหน่อย

แสงสว่างจากปลายอุโมงค์ยังไม่เห็นครับ
ปีนี้ยังไงบริษัทก็จะมีกระแสเงินสดเข้ามาจำนวนมากแน่นอน และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนก็จะค่อยๆ ลดลงไปจนน่าจะเหลือประมาณแค่ 1 เท่ากว่าๆ ตอนสิ้นปี 47 ผมว่าประเด็นนี้ไม่น่ากลัวครับ

มาลุ้นเรื่องจีนกับค่าระวางในอนาคตดีกว่า อันนั้นเสียวกว่ากันเยอะครับ

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 11:47 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ผมเชื่อผู้บริหาร psl หัวปักหัวปำเลยครับ เพราะจากที่ตามมาประมาณ ปีนึงแล้ว ไม่ว่าเค้าจะพูดหรือให้ข้อมูลอะไรเค้าก็ทำตามที่พูดหมดทุกอย่างเลยครับ

ดังนั้นจากข้อมูลวิเคราะห์สถานการณ์ล่าสุดของบริษัทที่เค้าแจ้งตลาด ผมก็เชื่อเค้าอีกครับว่าค่าระวางจะทรงอยู่ในระดับสูงอีกอย่างน้อย 2 ปี เพราะ demand จะมากกว่า supply จะยังคงมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงนี้(และมีข้อมูลบ่งชี้ที่ทำให้เชื่อได้อีกด้วย เพราะเรือที่อายุมากกว่า 25 ปี มีมากเหลือเกิน) และแม้ดัชนี้ JEHSI จะลดลงอย่างมากจากจุดสูงสุดซึ่งเป็นผลกระทบจากจีนแต่ค่าระวางที่เป็น spot rate ของ psl ก็ไม่ได้ลดมากมายเหมือนดัชนีเลยครับ เพราะส่วนใหญ่ตัวที่ถ่วงดัชนีลงมาคือเรือขนาดใหญ่กว่า psl ครับ คอยดูกำไรไตรมาสสอง สาม สี่ ปีนี้ให้ดีๆครับ รวมกันทั้งปีอาจได้เห็นกำไรต่อหุ้นของ psl ใกล้ 10 บาท !!! ส่วนกระแสเงินสดนั้นผมว่าปีนี้เกิน 10 บาทต่อหุ้นแน่นอน :)

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 14, 2004 11:47 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ข้างบนนี้ ผมเองครับ Blueblood :)

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2004 12:02 am
โดย Blueblood
Symbol: PSL
Headline: คำอธิบายและบทวิเคราะห์ของผู้บริหารต่อผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1
Time: 14 พ.ค. 2004 19:22:31


อ้างถึงที่ 2547-025
วันที่ 14 พฤษภาคม 2547
เรียน ท่านกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่อง คำอธิบายและบทวิเคราะห์ของผู้บริหารต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2547

ผลประกอบการที่สอบทานแล้ว: งบการเงินสกุลบาทที่สอบทานโดยสำนักงาน เอินส์ แอนด์ ยัง และ
งบการเงินเหรียญสหรัฐ ที่สอบทานโดย เบเคอร์ ทิลลี่ เอฟ เอ เอส (ประเทศไทย)จำกัด แสดง
ให้เห็นถึงฐานะทางการเงินล่าสุดของบริษัท ผลกำไรสุทธิของไตรมาสที่1 เท่ากับ 14.78 ล้าน
เหรียญสหรัฐ รายได้ค่าระวางเรือต่อวันต่อลำในไตรมาส 1 นี้ได้มากกว่าที่บริษัทได้คาดหวัง
ไว้อย่างมากแม้ว่าค่าใช้จ่ายในการเดินเรือต่อวันต่อลำจะสูงกว่าที่เราคาดไว้เช่นกันแต่ไม่
มากนัก ในไตรมาสนี้ต้นทุนการเดินเรือได้รวมค่าวัสดุและอะไหล่สำหรับงานเดินเรือสำหรับ
ทั้งปีไว้ ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการเดินเรือต่อวันต่อลำสำหรับทั้งปีคาดว่าจะต่ำกว่า 2,700
เหรียญสหรัฐ กำไรจากการดำเนินงานสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากอัตราค่าระวางต่อลำเรือ
เพิ่มขึ้นอีกทั้งจำนวนวันในการเดินเรือที่เพิ่มขึ้นสำหรับไตรมาส 1 ปี 2547 เมื่อเปรียบ
เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2546 รายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่าย
บริหาร (EBITDA) (แต่หลังหักค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเรือและสำรวจเรือตัดบัญชี) ได้เพิ่ม
ขึ้นอย่างมาก มากกว่าเกือบสามเท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับไตรมาส
นี้กำไรต่อหุ้น (EPS) ที่งบเงินบาทอยู่ที่ 1.20 ต่อหุ้น และมีจำนวน 168 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่าย
ครั้งเดียวสำหรับค่าที่ปรึกษา ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อกองเรือ 15 ลำจาก
MISC และการได้วงเงินสินเชื่อจำนวน 170 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มเติมจากธนาคารกรุงไทย ซึ่ง
ถ้าไม่รวมรายการพิเศษนี้ซึ่งจะเกิดครั้งเดียว กำไรต่อหุ้นจะเป็น 1.52 บาทต่อหุ้นหรือมากกว่า
ครึ่งของกำไรต่อหุ้นของปี 2546

ตัวเลขที่สำคัญ ไตรมาส 1/2547 ไตรมาส 1/2546
รายได้ค่าระวางเรือสูงสุดต่อวันต่อลำเรือ (หน่วยเป็นเหรียญสหรัฐ) 25,650 11,898
รายได้ค่าระวางเรือเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือ (หน่วยเป็นเหรียญสหรัฐ) 12,526 6,474
ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือต่อวันต่อลำเรือ (หน่วยเป็นเหรียญสหรัฐ) 2,896 2,571
รายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายบริหาร(EBITDA)
(หน่วยเป็นล้านเหรียญสหรัฐ) 23.68 8.18
กำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษและค่าใช้จ่ายครั้งเดียว(รวมกำไร/
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) (หน่วยเป็นล้านเหรียญสหรัฐ) 19.08 2.44
กำไรสุทธิ (หน่วยเป็นล้านเหรียญสหรัฐ) 14.78 2.05
กำไรต่อหุ้น (EPS) (หน่วยเป็นบาท) 1.20 0.36

การคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต: ในช่วง 12 เดือนนับจากนี้มีความน่าสนใจอยู่มาก จุดที่รายได้
ต่อวันต่อลำเรือต่ำที่สุดของบริษัท เกิดขึ้นเมื่อไตรมาส 2 ของปี 2545โดยต่ำลงมาที่ 5,497
เหรียญสหรัฐ ในอดีตอัตราค่าระวางที่ดีที่สุดที่บริษัทได้ประมาณต่ำกว่า 8,000 เหรียญสหรัฐ
ต่อวันต่อลำ และอัตราที่เลวร้ายที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประมาณ 5,000 เหรียญสหรัฐต่อวัน
ต่อลำ บริษัทสงสัยว่าโครงสร้างอัตราค่าระวางอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับขนาดและประเภท
ของเรือในกลุ่มของเรา บริษัทคาดว่าอัตราค่าระวางในอนาคตจะผันผวนอยู่ระหว่าง9,000 ถึง
16,000 เหรียญสหรัฐต่อวันต่อลำ ในกลุ่มเรือขนาดและประเภทเดียวกับของบริษัท ถ้าการ
คาดการณ์ของเราเป็นจริง เราก็จะได้เห็นจุดต่ำสุดของวัฎจักรในอนาคตสูงกว่าจุดสูงสุดที่เคย
มีมาในอดีต

สัญญาเช่าเหมาเรือระยะสั้นกับสัญญาเช่าเหมาเรือระยะยาว: ในอดีตบริษัททำธุรกิจแต่สัญญา
เช่าเหมาเรือระยะสั้นหรือเป็นแบบการเช่าเป็นครั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อตลาดขนส่งสินค้าทางเรือ
ได้มาถึงจุดที่สูงสุด บริษัทก็ได้เปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจของบริษัทใหม่ โดยแทนที่จะ
ดำเนินธุรกิจโดยการให้เช่าเรือแบบเป็นครั้งๆ บริษัทมุ่งไปที่การทำสัญญาเช่าระยะยาวแทน
สัญญาเช่าระยะยาวที่ได้ทำสัญญาแล้วคิดเป็นร้อยละ 82 ของกองเรือทั้งหมดที่คาดว่าจะมีจำนวน
50 ลำ ที่อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูงถึง 12,950 เหรียญสหรัฐต่อวันต่อลำเรือ
กล่าวคือร้อยละ 38 ของเรือทั้งหมดของบริษัทได้ตกลงทำสัญญาเช่าระยะยาว 1 ปีหรือกว่า 1 ปี
อีกร้อยละ 44 ของเรือทั้งหมดได้ทำสัญญาน้อยกว่า 1 ปี และส่วนสัดส่วนที่เหลืออีกร้อยละ
18 นั้นเป็นเรือที่ไว้สำหรับการเช่าเป็นรายเที่ยว แม้ว่าบริษัทจะมีความเชื่อมั่นว่าตลาด
ขนส่งสินค้าทางทะเลจะอยู่ในภาวะที่ดีไปเรื่อยๆสักระยะหนึ่งในระยะที่สามารถที่จะคาดการณ์
ได้ก็ตาม แต่บริษัทเชื่อว่าจะเป็นการรอบคอบกว่าหากจะผูกมัดการเช่าไว้ในอัตราค่าระวางเรือ
ที่สูงนี้ไว้ด้วยสัญญาเช่าระยะยาว เพื่อที่จะเป็นการประกันว่ารายได้ที่จะเข้ามาในปีหน้า
และปีต่อๆไปจะสม่ำเสมอ

ผลกระทบจากประเทศจีน: คำยืนยันล่าสุดจากผู้นำของประเทศจีนเกี่ยวกับความประสงค์และพยายาม
ที่จะชะลอความร้อนแรงของความเร็วในการขยายตัวของเศรษฐกิจ ได้ก่อให้เกิดความหวั่นไหวต่อ
ตลาดขนส่งสินค้าแห้งเทกองไม่มากก็น้อย โดยดัชนีบอลติค (BDI) ได้ลดลงอันเนื่องจากแรงกดดัน
อย่างมากนั้น เหตุผลที่ดัชนี BDI ลดลงนั้นเป็นผลโดยตรงมาจากการที่ประเทศจีนชะลอการนำเข้า
สินค้าเทกองประเภทเหล็ก สินแร่ และถ่านหินเป็นเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ สิ่งนี้มีผลกระทบ
โดยตรงอย่างหนักต่อตลาดเรือเคปไซต์และปานาแมกซ์ ดัชนี BDI ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนอัตรา
ค่าระวางของตลาดเรือทั้งสองส่วนนี้โดยตรงจึงลดลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ดัชนี
นี้ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน รัฐบาลจีนได้ใช้โอกาสนี้แก้ไขปัญหาติดขัดและความ
หนาแน่นการนำเข้าของที่ท่าเรือสินค้าเทกอง ท่าเรือสินค้าเทกองเหล่านี้แน่นขนัดทั้งนี้
เนื่องจากความไร้ประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของการขนส่งทางถนนและรถไฟ เมื่อมีปริมาณสินค้า
เทกองจำนวนมหาศาลขนส่งเข้ามา ผู้ขนส่งสินค้าเทกองเหล่านี้จึงจำต้องรอการขนถ่ายจากท่าเรือ
เป็นเวลานาน ขณะเดียวกันผู้นำเข้าสินค้าก็ถูกเรียกค่าปรับการขนส่งล่าช้า ข้อเท็จจริงของ
ปัญหานี้ก็คือกำลังการผลิตเหล็กรีดร้อนและเหล็กกล้าของจีนนั้นชะลอตัวลงจากอัตราเร่งสูง
สุดลงอย่างมาก ตัวเลขในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2547 ชี้เป็นฐานทั้งปี 2547 ว่าประเทศจีน
จะผลิตเหล็กประมาณ 240 ถึง 250 ล้านตัน จากที่เคยผลิตในปี 2546 ที่ตัวเลข 220 ล้านตันเท่านั้น
อย่างไรก็ตามความต้องการเหล็กยังคงมีอยู่แม้จะมีการสกัดการนำเข้าเพื่อแก้ปัญหาความหนาแน่น
ของสินค้าเทกองที่ท่าเรือในประเทศจีนซึ่งเป็นเพียงการแก้ปัญหาคอขวดในการขนถ่ายสินค้าที
่ท่าเรือ เหตุการณ์น่าจะกลับสู่จุดที่เราได้ผ่านมาเมื่อต้นปีนี้ มีเพียงกาลเวลาเท่านั้นที่จะ
บอกเราได้ถ้าเราได้เห็นดัชนี BDI กลับไปสู่ระดับที่เคยสูงมาก่อนที่ 5,681จุดเมื่อต้นปีนี้
หากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง มีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเดินเรือทะเลได้กล่าวไว้ว่าน่าจะเกิดขึ้น
ในไตรมาสที่ 3 หรือ 4 ของปีนี้ ในส่วนของตลาดเรือขนาดของบริษัท บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ
จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนในขณะนี้ และผลจากการลดลงของดัชนี BDI อัตราค่าระวางเรือ
ปัจจุบัน (spot rate) นั้นลดลงเล็กน้อยจากที่เคยปรับตัวขึ้นสูงสุด แต่เนื่องจากเรือของ
บริษัทส่วนใหญ่มีสัญญาเช่าระยะยาว ดังที่ได้อธิบายไว้ในย่อหน้าก่อนนี้ บริษัทจึงมีภูม
ิคุ้มกันที่ดีจากกระแสการปรับตัวของตลาดที่เกิดขึ้นกับตลาดเรือสินค้าแห้งเทกองแบบไม่
ประจำเส้นทาง

แผนการปรับกำลังกองเรือ: แผนการปรับกำลังกองเรือได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี
2546 ต่อเนื่องมาด้วยผลสำเร็จเกินคาด บริษัทได้พยายามมองหาข้อตกลงในการซื้อขายเรือที่ดี
ที่สุดที่จะสามารถทำให้บริษัทสามารถขยายความแข็งแกร่งของกองเรือบริษัทได้ และบริษัทก็ได้
ประสบความสำเร็จในการซื้อกองเรือจำนวน 15 ลำในครั้งเดียว จากมาเลเซีย ชิปปิ้ง คอร์ปอเรชั่น
(MISC)ด้วยราคา 98 ล้านเหรียญสหรัฐ เรือทั้งหมดนี้คาดว่าจะส่งมอบให้บริษัทได้ภายในสิ้น
ไตรมาสที่สองของปีนี้ นอกจากนั้น บริษัทยังได้ทำสัญญาที่จะซื้อเรือของ MISC เพิ่มอีก 2 ลำ
ซึ่งคาดว่าจะถูกส่งมอบเข้าสู่กองเรือของ PSL ได้ในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม ซึ่ง ณ เวลา
นั้นจะทำให้กองเรือของ PSL มี 50 ลำ! ในเวลาที่การท้าทายสูงสุดของเจ้าของเรือคือจะขยาย
กองเรือได้อย่างไรนั้น บริษัทได้บริหารงานเพื่อข้ามพ้นอุปสรรคนี้อย่างง่ายดาย

การซื้อหุ้นคืน: เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2547และ ณ วันที่บริษัทได้ซื้อหุ้นจำนวน 3.55 ล้านหุ้น
คืน ณ ราคาเฉลี่ย 35.01 บาทต่อหุ้น ข้อปฏิบัติในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีที่บริษัท
ได้กำหนดขึ้นเพื่อการซื้อหุ้นคืนนี้ เพื่อให้การซื้อหุ้นคืนได้มีการปฏิบัติอย่างถูกต้องและ
เคร่งครัด ทั้งก่อนและหลังการประกาศผลประกอบการ ข้อปฏิบัติจะใช้กับกรรมการที่ทำงานเต็มเวลา
ให้กับบริษัท ดังที่ได้เปิดเผยไว้ในรายงานประจำ

การปลดระวางเรือของกองเรือโลก: ระหว่างไตรมาสแรกของปีนี้ เรือในกลุ่มของบริษัท (ในประเภท
เรือ 10,000- 30,000 เดตเวทตัน) ได้ถูกปลดระวางลงไปทั้งสิ้น 38 ลำขณะที่มีเรือต่อใหม่เพิ่ม
ขึ้นเพียง 13 ลำ ทั่วโลกใน เป็นผลให้เรือจำนวน 25 ลำ หรือร้อยละ 0.82 ที่หายไปจากกองเรือ
โลก ส่งผลให้กองเรือเอนกประสงค์ขนาดเล็กของโลกในไตรมาสแรกของปี 2547 เหลือเรือเพียงจำนวน
3,003 ลำ การปลดระวางเรือได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาส2 ปี 2546 และได้เริ่มเร่งระดับ
ขึ้นแม้ว่าตลาดขนส่งสินค้าทางทะเลจะเติบโตขึ้นมากก็ตาม บริษัทหวังว่าอัตราการปลดระวาง
เรือเก่าออกไปจากกองเรือโลกจะรักษาระดับนี้ไว้เพื่อจะได้เห็นอนาคตที่ดี

ด้วยความนับถือ
ในนามของบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)


มร.คาลิด ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ

ก็อปมาให้อ่านกันครับ :)

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2004 8:45 am
โดย s@int
Anonymous เขียน:ตอนนี้ผมเชื่อผู้บริหาร psl หัวปักหัวปำเลยครับ เพราะจากที่ตามมาประมาณ ปีนึงแล้ว ไม่ว่าเค้าจะพูดหรือให้ข้อมูลอะไรเค้าก็ทำตามที่พูดหมดทุกอย่างเลยครับ
เห็นด้วยครับ... ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ่ายปันผล
เรื่องการเพิ่มทุน (ที่บอกว่าจะไม่มี)
เรื่องการซื้อเรือใหม่
หรือแม้แต่แนวการบริหารก็รู้สึกว่าตรงใจ... เรียกได้ว่าบริหารได้ถูกใจจริง ๆ เช่นเรื่องลด % เงินปันผลลงเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท...

ผมก็เป็นอีกคน

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 15, 2004 10:43 am
โดย hot
ที่ชื่นชอบการบริหารของบริษัทนี้คับ
เขาว่าคนอินเดียทำการค้าเก่ง

ผมว่ามีส่วนจริงมากทีเดียว

ส่วนกำไรปีนี้ผมคาดว่าเต็มที่คงไม่น่าเกิน8.4 บาทต่อหุ้นคับ
ยกเ้ว้นว่าค่าเงินบาทยืนเหนือ41 บาท ก็อาจจะเกินกว่านิดหน่อย

หุ้นซื้อคืนที่เหลือ ถ้าราคายังยืนแถว ใต้30 ผมว่าเขาประหยัดเงินซื้อ
หุ้นไปหลายร้อยล้านเหมือนกัน

แต่ใจก็อยากให้ปันผลสัก50% (ปันผลไม่ต่ำกว่า25%)
ถ้าเป็นไปได้

แต่สิ่งที่ผมกลัวคือ ถ้ากิจการเขาดีติดต่อกันมากกว่า3 ปี
ผมกลัวว่าเขาจะืซื้อหุ้นคืนจากตลาดทั้งหมดเพื่อออกไปเลยก็ผม
กลัวตรงนี้มากกว่า เพราะมีกิจการเรือหลายแห่งที่ไม่ต้องการพึงพา
จากเงินทุนจากตลาดสักเท่าไร

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 16, 2004 10:31 am
โดย suthepj
จากคำอธิบายและบทวิเคราะห์ของผู้บริหารต่อผลการดำเนินงาน
ไตรมาส 1
14/05/04

ผมเชื่อว่าบริษัทมีธรรมาภิบาลมากกว่าหลายบริษัทที่เคยลงทุน

แต่ไม่ขอเอ่ยนาม

PSL ลืมอะไรกันไปป่าวฮะ......

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 17, 2004 12:54 pm
โดย ppssll
ห้ามใช้ข้อความโต้แย้งครับ กลัวจะมีเรื่องกัน