Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตอนนี้ผมคิดว่ามีนักลงทุนหน้าใหม่ที่จะยึดแนว VI ในการลงทุนหุ้น
จึงอยากฝากให้อ่านแบบ 56-1 ก่อนและหลังลงทุนครับ

ประโยชน์ที่ผมได้รับคือความเข้าใจในกิจการที่เราสนใจ และผลกระทบต่อความเสี่บงที่อาจเกิดขึ้น
ตัวอย่างเช่น
1) central world ถูกเผาหากอ่านใน 56-1 จะพบว่า บริษัทมีการทำประกันคุ้มครองความเสี่ยงไว้แล้ว ทำให้เราสามารถตั้งสติในการตัดสินใจซื้อขายได้
2) สามารถประเมิน ธรรมาภิบาล เบื้องต้นของผู้บริหาร ในการทำสัญญาต่างๆ เช่น ค่าเช่าอาคารที่ผู้บริหารเป็นเจ้าของเอง การกู้ยืมเงินระหว่างกัน

นี่แค่ตัวอย่างคร่าวๆครับ ยังมีประโยชน์อีกมากในแบบ 56-1

ผมเริ่มอ่านหลังจากลงทุนในหุ้นมาเกือบปี ผมว่าเสียเวลาไปหน่อย
จึงอยากส่งสารนี้ไปยังนักลงทุนรุ่นใหม่ทุกท่านครับ

แม้ว่าปีที่ผ่านมาคุณจะได้กำไรหลายร้อย % แต่หากยังไม่เคยอ่าน 56-1
ผมว่าคุณยังห่างไกลคำว่า VI "Value investor" ครับ


โชคดีและมีความสุขในการลงทุนครับ

ถูกต้องที่สุด ขอบคุณมากครับ

เดี๋ยวนะครับ สรุป ประกันนี่คือเคลมได้ cover หมด ไช่ไหมครับ?

จากการติดตามข่าว cpn ทำประกัน all-risk และประกันวินาศกรรม
ดังน้ัน ไม่แบบใดก็แบบหน่ึงต้องชดใช้ความเสียหายครับ แต่บริษัทประกันยังเก่ียงกันอยู่ครับ

Cpn จึงลงค่าเผ่ือความเสียหายในงบปีท่ีจะออกครับ และ cpn ได้ดำเนินการฟ้องให้ประกันชดเชยแล้ว

ถ้าตีความว่าก่อการร้าย เครมได้ 3000 ล้าน
ถ้าจราจล เครมได้ครบ
เนื่องจากยอดการเครมสูงมากถ้าผมเป็นบริษัทประกันผมจะตีความว่าก่อการร้าย
และแน่นอนกลุ่ม central คงต้องพึ่งศาล คดีคงยืดเยื้อไปอีกนานกว่าจะได้เงิน

อยากฝากเพื่อนนลท.หน้าใหม่ว่าการอ่าน 56-1 ไม่ได้ยาก และไม่ได้เสียเวลาอย่างที่คิด

หากเพื่อนๆ มีประสบการณอ่านมาสักระยะ จะจับใจความสำคัญได้เร็ว และแยกข้อมูลที่จำเป็นออกจากไม่จำเป็นได้ง่าย และใช้เวลาไม่มากในการเข้าใจธุรกิจครับ

ยังมะเคยอ่านเลยครับ ว่าแต่ไปหาอ่านจากที่ไหนหรือครับ รบกวนขอความรู้ด้วยครับ

chatree เขียน:ยังมะเคยอ่านเลยครับ ว่าแต่ไปหาอ่านจากที่ไหนหรือครับ รบกวนขอความรู้ด้วยครับ

ตามลิ้ง เลือกบริษัทที่สนใจได้เลยครับ

http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... ntent_id=1

56-1 อ่านสนุกกว่าที่คิด
อ่านทีไร รู้สึกราวกับว่าเราเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีคนเข้ามารายงาน ตีแผ่ บริษัทของเขาให้เราฟัง ในหลากหลายแง่มุม แม้ว่าความจริง ผมจะเป็นเพียงนักลงทุนรายย่อย ที่คงไม่มีผู้บริหารคนไหนสละเวลามาเล่าเรือ่งบริษัทของตนให้ฟังโดยละเอียด
ว่าที่จริง ควรอ่าน 56-1 ก่อนดูงบด้วยซ้ำ แล้วจึงประมาณมูลค่าบริษัทคร่าวๆ จากนั้นไปดูราคาในตลาดอีกที

ส่วนใหญ่พี่ๆที่อ่าน 56-1 ใช้เวลานานแค่ไหน กว่าจะอ่านจบแต่ละ บริษัทครับ

และเท่าที่อ่านบ่อยๆ มีจุดไหนที่เน้นว่าควรสังเกตุเป็นพิเศษ

ขอบคุณครับ

การจะอ่านรายงาน 56-1 ให้ได้ผลมากที่สุด ก่อนอ่านควรตั้งคำถามตัวเองก่อนว่าต้องการรู้อะไร เช่น

1. ความเสี่ยงของบริษัทคืออะไร ทำให้เราต้องเฝ้าระวังปัจจัยเหล่านั้นว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน บริษัทฯมีการเตรียมตัวอย่างไร ฝึกให้เรามองโอกาส downside ของธุรกิจ

2. บริษัทมี business model อย่างไร เช่น สินค้าอะไร รายได้มาจากไหน ใครคือลูกค้า ห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท คู่แข่ง จุดเด่นของบริษัท
กลยุทธ์การเติบโต ปัจจัยการเติบโต เป็นต้น

3. ผลงานในอดีตทำได้ดีแค่ไหน (งบการเงิน)

4.ความโปร่งใสของผู้บริหาร (ดูจากรายการระหว่างกัน นโยบายบัญชี คณะกรรมการอิสระ หมายเหตุงบการเงิน)

ผมคิดว่า 4 ข้อนี้เป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบให้ได้ พยายามตั้งคำถามตัวเองมาก ๆ ทำตัวให้เหมือนเจ้าหนี้ที่จะให้บริษัทกู้เข้าไว้ :lol:

อย่าลืมอีกอย่างหนึ่งก็คือ รายงานนี้จัดทำโดยบริษัท ซึ่งความลำเอียงของข้อมูลย่อมมีบ้าง ต้องพิจารณาดี ๆเพราะส่วนใหญ่จะชอบบอกแต่เรื่องดี ๆแต่งบการเงินควรจะมีความถูกต้องมากที่สุด และความลำเอียงน้อยที่สุดแล้ว เพราะผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี

unnop.t เขียน:การจะอ่านรายงาน 56-1 ให้ได้ผลมากที่สุด ก่อนอ่านควรตั้งคำถามตัวเองก่อนว่าต้องการรู้อะไร เช่น

1. ความเสี่ยงของบริษัทคืออะไร ทำให้เราต้องเฝ้าระวังปัจจัยเหล่านั้นว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน บริษัทฯมีการเตรียมตัวอย่างไร ฝึกให้เรามองโอกาส downside ของธุรกิจ

2. บริษัทมี business model อย่างไร เช่น สินค้าอะไร รายได้มาจากไหน ใครคือลูกค้า ห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท คู่แข่ง จุดเด่นของบริษัท
กลยุทธ์การเติบโต ปัจจัยการเติบโต เป็นต้น

3. ผลงานในอดีตทำได้ดีแค่ไหน (งบการเงิน)

4.ความโปร่งใสของผู้บริหาร (ดูจากรายการระหว่างกัน นโยบายบัญชี คณะกรรมการอิสระ หมายเหตุงบการเงิน)

ผมคิดว่า 4 ข้อนี้เป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบให้ได้ พยายามตั้งคำถามตัวเองมาก ๆ ทำตัวให้เหมือนเจ้าหนี้ที่จะให้บริษัทกู้เข้าไว้ :lol:

อย่าลืมอีกอย่างหนึ่งก็คือ รายงานนี้จัดทำโดยบริษัท ซึ่งความลำเอียงของข้อมูลย่อมมีบ้าง ต้องพิจารณาดี ๆเพราะส่วนใหญ่จะชอบบอกแต่เรื่องดี ๆแต่งบการเงินควรจะมีความถูกต้องมากที่สุด และความลำเอียงน้อยที่สุดแล้ว เพราะผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี

+1 ครับ

เห็นด้วยครับ การอ่าน 56-1 ทำให้เรารู้ถึงข้อมูลพื้นฐานในหุ้นตัวนั้นๆ อ่านแล้วสนุกครับ ได้คิด ได้วิเคราะห์ และเห็นภาพ ว่าบริษัทต่างๆ ทำธุรกิจแบบไหน

ในหัวข้อปัจจัยเสี่ยง ที่ผมชอบอ่านมากที่สุด เพราะว่าเค้าจะบอกว่าปัจจัยเสี่ยงคืออะไรแถมด้วย "วิธีจัดการความเสี่ยง" ดังกล่าวให้มาด้วย

ถ้าเราได้อ่าน และได้ศึกษา 56-1 มาบ้าง พวกคำถามพื้นฐาน ที่ถามในกระทู้ต่างๆที่หาอ่านได้ใน 56-1 ก็จะหมดไป เช่น

"CPALL ปัจจุบันมีกี่สาขาแล้วครับ รบกวนเซียนๆด้วยครับ" หรือ
"SF ที่กำลังวิ่งๆอยู่ในขณะนี้ เป็นเพราะขยายโรงหนังมากขึ้นหรือเปล่าครับ" หรือ
"SMT ทำไมถึง NPM ต่ำจังครับ ธุรกิจไม่ดีหรือเปล่า" หรือ

"RS วิ่งดีจัง มีข่าวอะไรครับ"

อันหลังสุดนี่ล้อเล่นนะครับ

newbie_12 เขียน:เห็นด้วยครับ การอ่าน 56-1 ทำให้เรารู้ถึงข้อมูลพื้นฐานในหุ้นตัวนั้นๆ อ่านแล้วสนุกครับ ได้คิด ได้วิเคราะห์ และเห็นภาพ ว่าบริษัทต่างๆ ทำธุรกิจแบบไหน

ในหัวข้อปัจจัยเสี่ยง ที่ผมชอบอ่านมากที่สุด เพราะว่าเค้าจะบอกว่าปัจจัยเสี่ยงคืออะไรแถมด้วย "วิธีจัดการความเสี่ยง" ดังกล่าวให้มาด้วย

ถ้าเราได้อ่าน และได้ศึกษา 56-1 มาบ้าง พวกคำถามพื้นฐาน ที่ถามในกระทู้ต่างๆที่หาอ่านได้ใน 56-1 ก็จะหมดไป เช่น

"CPALL ปัจจุบันมีกี่สาขาแล้วครับ รบกวนเซียนๆด้วยครับ" หรือ
"SF ที่กำลังวิ่งๆอยู่ในขณะนี้ เป็นเพราะขยายโรงหนังมากขึ้นหรือเปล่าครับ" หรือ
"SMT ทำไมถึง NPM ต่ำจังครับ ธุรกิจไม่ดีหรือเปล่า" หรือ

"RS วิ่งดีจัง มีข่าวอะไรครับ"

อันหลังสุดนี่ล้อเล่นนะครับ

newbie_12 เขียน:เห็นด้วยครับ การอ่าน 56-1 ทำให้เรารู้ถึงข้อมูลพื้นฐานในหุ้นตัวนั้นๆ อ่านแล้วสนุกครับ ได้คิด ได้วิเคราะห์ และเห็นภาพ ว่าบริษัทต่างๆ ทำธุรกิจแบบไหน

ในหัวข้อปัจจัยเสี่ยง ที่ผมชอบอ่านมากที่สุด เพราะว่าเค้าจะบอกว่าปัจจัยเสี่ยงคืออะไรแถมด้วย "วิธีจัดการความเสี่ยง" ดังกล่าวให้มาด้วย

ถ้าเราได้อ่าน และได้ศึกษา 56-1 มาบ้าง พวกคำถามพื้นฐาน ที่ถามในกระทู้ต่างๆที่หาอ่านได้ใน 56-1 ก็จะหมดไป เช่น

"CPALL ปัจจุบันมีกี่สาขาแล้วครับ รบกวนเซียนๆด้วยครับ" หรือ
"SF ที่กำลังวิ่งๆอยู่ในขณะนี้ เป็นเพราะขยายโรงหนังมากขึ้นหรือเปล่าครับ" หรือ
"SMT ทำไมถึง NPM ต่ำจังครับ ธุรกิจไม่ดีหรือเปล่า" หรือ

"RS วิ่งดีจัง มีข่าวอะไรครับ"

อันหลังสุดนี่ล้อเล่นนะครับ

:lovl: ด้วยคน

charnengi เขียน:แม้ว่าปีที่ผ่านมาคุณจะได้กำไรหลายร้อย % แต่หากยังไม่เคยอ่าน 56-1
ผมว่าคุณยังห่างไกลคำว่า VI "Value investor" ครับ

เห็นด้วยครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ควรอ่าน 56-1 ก่อนลงทุนหุ้นทุกบริษัท และหลังจากลงทุนแล้วก็ควรหาโอกาสอ่าน 56-1 ของบริษัทคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน 56-1 ของบริษัทไหนที่เยอะไป อ่านแล้วอ่านอีกแล้วไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วย ไม่รู้เรื่อง ก็อย่าไปลงทุนในบริษัทนั้นครับ

[quote="chatree"]ยังมะเคยอ่านเลยครับ ว่าแต่ไปหาอ่านจากที่ไหนหรือครับ รบกวนขอความรู้ด้วยครับ[/quote]
ตาม web ของบริษัทในส่วน investor relation ก็มักจะมีครับ คู่กับรายงานประจำปีครับ

เออพี่ ๆ แล้วแบบ 56 - 1 น่าเชื่อถือแค่ไหนครับ ใครเป็นผู้จัดทำ ถ้าตัวบริษัททำเองไม่มีบริษัทไหนหรอกที่ทำในลักษณะให้ร้ายบริษัทตัวเอง จะชมตัวเองก็แลดูน่าเกลียด

อย่างที่บอกครับ มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น เรามีหน้าที่ที่จะให้ความรู้ที่เรามีวิเคราะห์ ข้อมูลข่าวสารต่อเองครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เมื่อก่อนตอนผมเริ่มเล่นหุ้นไม่เคยดู 56-1 เลยและไม่รู้ด้วยซํ้าว่ามันคืออะไร จนสุดท้ายพอได้เข้ามาเป็นสมาชิกเวบนี้ จึงได้รู้ว่ามันสำคัญขนาดไหน และมีประโยชน์มากขนาดไหนๆ ต้องขอบคุณพวกพี่ๆทุกคนในเวบนี้จริงๆครับ

todsapon เขียน:เออพี่ ๆ แล้วแบบ 56 - 1 น่าเชื่อถือแค่ไหนครับ ใครเป็นผู้จัดทำ ถ้าตัวบริษัททำเองไม่มีบริษัทไหนหรอกที่ทำในลักษณะให้ร้ายบริษัทตัวเอง จะชมตัวเองก็แลดูน่าเกลียด

มันต้องแยก fact กับ comment ให้ออก อย่างเช่น

[quoteแต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของไทยจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้การขยายตัวทางด้านการผลิตและการส่งออกลดลง หรือชะลอตัวลง แต่ในส่วนของอุตสาหกรรมอาหารแล้วภาวการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกไม่ได้มีผลกระทบที่รุนแรงต่ออุตสาหกรรมอาหารมากนัก เนื่องจากสินค้าอาหารเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ และคุณภาพมาตรฐานของสินค้าไทยยังเป็นที่ยอมรับและต้องการในตลาดโลก รวมถึงผู้ประกอบการของไทยมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การพัฒนาศักยภาพการผลิต การตลาด และการบริหารจัดการของตนเองให้แข็งแกร่ง จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้

สัดส่วนของรายได้จากการขายของกลุ่มบริษัท ในปี 2552
ผลิตภัณฑ์ ร้อยละของรายได้จากการขาย
- ปลาทูน่าแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง 44%
- กุ้งแช่แข็ง 20%
- อาหารแมวบรรจุกระป๋อง 9%
- อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง 9%
- อาหารกุ้ง 6%
- ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ 5%
- ปลาซาร์ดีน 4%
- ปลาหมึกแช่แข็ง 3%
][/quote]

ตัวสีน้ำเงินเป็น comment แต่ตัวสีแดงเป็น fact ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่เป็น comment อย่างที่บอกไว้งบการเงินควรเป็น fact และควรเป็นส่วนที่น่าเชื่อถือที่สุดครับ