Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

สวัสดีครับเพื่อนๆ และพี่ๆ ชาวtviทุกๆท่าน เนื่องด้วยจาก1-2วันมานี้ ตลาดร่วงพอสมควร จึงอยากให้เพื่อนๆช่วยกันวิเคราะห์สาเหตุ ความหนัก และสภาพตลาด ว่าเผาจริงหรือเผาหลอก เป็นช่วงปกติ น่ากลัว หรือโอกาสทอง

ปล.เนื่องด้วยทราบว่าviส่วนมาก ไม่ค่อยชอบสนใจสภาวะตลาดมากนัก แต่ผมก็มองว่ารู้ไว้ใช่ว่า รู้ย่อมดีกว่าไม่รู้ และก็เชื่อว่าจากบทวิเคราะห์จากเพื่อนๆหลายๆท่าน น่าจะมีผลให้นักลงทุนมือใหม่ๆที่ยังไม่เป็นviเต็มตัวนักหายตื่นตระหนกได้^^ ขอบคุณครับ

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

โครงการอลังการเกาะ"เดอะ เวิลด์"ของดูไบ ทรุดตัวจมทะเล สื่ออึ้ง วิจารณ์เป็นสัญญานหายนะโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวัน ที่ 24 ม.ค.ว่า โครงการพัฒนาสร้างเกาะ"เดอะ เวิล์ด"ซึ่งเป็นแหล่งลงทุนพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ของเมืองดูไบ ของสหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ กำลังเผชิญภาวะสถานการณ์จมลงสู่ทะเล นอกเหนือจากการเผชิญภาวะวิกฤตด้านการเงินหลังจากนักลงทุนแห่ถอนการลงทุนเพราะพิษวิกฤตเศรษฐกิจโลก

รายงานระบุว่า โครงการดังกล่าวซึ่งเป็นการสร้างเกาะขึ้นมาบนทะเล และเนรมิตให้เป็นภาพคล้ายแผนที่โลก กำลังทรุดตัวลงทะเลแล้ว โดยล่าสุด บริษัทดำเนินกิจกรรมเรือข้ามฟากไปยังเกาะอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ ได้ถอนสัญญาลงทุนจากบริษัท"นัคฮีล"ซึ่งเป็นเจ้าของโปรเจ๊คส์"เดอะ เวิล์ด"แล้ว เนื่องจากขาดลูกค้า และเกาะมีอาการทรุดตัวจมลงตัว และทนายความของบริษัทดังกล่าว หรือ"เพนกวิน มาร์รีน"ให้การต่อศาลพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดูไบว่า มีหลักฐานว่าเกาะ"เดอะ เวิล์ด"กำลังจมลงสู่ทะเล ขณะที่"นัคฮีค"ยอมรับว่า โครงการพัฒนาเกาะเดอะเวิล์ดขณะนี้อยู่ในภาวะขั้นโคม่าย่ำแย่

ทั้งนี้ การอ้างเปิดเผยถึงภาวะเกาะทรุดตัวจมทะเลของโครงการ"เดอะ เวิล์ด"มีขึ้นหลังจากรอยเตอร์ ได้จัดทำโพลที่ระบุว่า ราคาของอสังหาริมทรัพย์บนเกาะ"เดอะ เวิล์ด"จะตกลงอีก 10 % ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยก่อนหน้านี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ได้ตกลง 58 % จากช่วงราคาแพงสูงสุดช่วงไตรมาสสี่ของปี 2008

อนึ่งเหตุการณ์นี้ยังทำให้สื่อมวลชนบางสำนักที่รายงานข่าวโครงการเกาะเดอะเวิล์ดจมทะเล ยังตีข่าวด้วยว่า เป็นเหมือนสัญญาณวันสิ้นโลกด้วย
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 3&catid=no

อาจเกิดจากสาเหตุนี้ก็ได้ 555+
ล้อเล่นครับ อย่า เครียด

ได้เวลาช็อปของถูกกันอีกแล้วครับ ใครมีเงินสด กำลังยิ้มกริ่ม
ใครไม่เหลือเงินสดคงต้องรอปันผล หรือเงินเดือนออก
คราวที่แล้ว ซัพไพร์ม รอดได้เพราะกระแสเงินสด
คราวนี้หวังว่าจะรอดได้อีกครั้ง เพราะกระแสเงินสด
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

ถ้ามันสิ้นโลกจริงพวกชมพู่จะขายเอาเงินไปไหนครับ :lovl: :lovl: :lovl:

หุ้นมันตกแค่ในไทยรึปล่าวครับ?


แล้วชมพู่นี่ใครอะครับ

ชมพู่ทางภาคใต้ใช้เรียกฝรั่งก็ได้ครับ

ระยะสั้นตามตลาด ระยะยาวตามผลประกอบการ
แต่ก็หวั่นๆเหมือนกันครับ เพราะกำไรลดลงเรื่อยๆ ไม่รู้พี่หรั่งแกสนใจผลประกอบการบ้างรึป่าว

อยากเห็นยอดขายของ กลุ่มเทมาเส็ก จังครับ

fund flow กระมังครับ ฝรั่งเอาเงินเข้ามาเล่นรอบเก็งกำไรค่าเงิน บวกกับผลประกอบการของหุ้นไทยดีกว่าคาด

และเมื่อค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง และดัชนีก็ขึ้นมาตามพื้นฐานของมันแล้ว ฝรั่งเข้ามาเพราะเหตุผลอะไร

ฝรั่งก็เอาเงินออกเพราะเหตุผลนั้นเอง ถ้าถามว่าพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศเปลี่ยนไปแล้วหรือยัง ก็ไม่ใช่ แต่อาจจะไม่ดีเท่าปีก่อนเท่านั้น

นั่นคือภาพรวม แต่ภาพย่อยของเรา แต่ละคนต้องไปดูเอาเองว่าบริษัทเรามีอะไรเปลี่ยน ถ้าถามผม บริษัทที่ผมถืออยู่เหมือนเดิม คนก็ยังเดิน

ห้างปรกติ ซื้อข้าวซื้อของเหมือนไม่รู้ว่าวันนี้ตลาดหุ้นตกแรงงง.....

แต่ตอนนี้คนใช้มาร์จินเยอะ ๆคงเริ่่มหนาว ๆร้อนๆ กันบ้าง แต่ผมเสียดายที่ไม่มีเงินสดซื้อแล้ว เพราะเล่นรอบกับเขาไม่เป็น

ว่าแล้วก็อ่าน motto ประจำตัวไปพลาง ๆก่อน

ทำใจร่ม ๆกันไว้ครับ

ภาพรวมฝรั่งกับสถาบัน net sell....... แต่การซื้อก็ยังมีอยู่...... แต่เราก้อเห็นหุ้นหลายตัวที่เรารู้ว่าสัดส่วนการถือครองของฝรั่งและสถาบันนั้นน้อยนิดหรือไม่มีเลย ร่วงเหมือนกัน .............. เมื่อใดที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

บอกได้เลยว่า systematic correction ของจริงมาเยือน........... ไม่มีเหตุผลแล้วครับ เหตุผลเดียวคือ เอาตังเข้ากระเป๋าก่อน จบข่าว.....................

คาดเดาได้ยากครับว่าเผาจริงหรือหลอกยังไง รอดูผลประกอบการ บจ ที่เราถือดีกว่า ถ้ายังกำไรอยู่แต่ราคาลด ก็หาเงินมาซื้อ ปันผลออกมาในช่วงหุ้นตกก็ยิ่งดีได้ซื้อของถูก

เปนจังหวะเหมาะสมจะเข้าไปทยอยรับซื้อหุ้นพื้นฐานดี มีเงินปันผลรองรับ

วันนี้ได้ทราบศัพท์ใหม่มา1คำ
TIP Market (ไทย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์)

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:บอกได้เลยว่า systematic correction ของจริงมาเยือน........... ไม่มีเหตุผลแล้วครับ เหตุผลเดียวคือ เอาตังเข้ากระเป๋าก่อน จบข่าว.....................

Systematic Correction อธิบายเป็นไทย คร่าวๆ ว่ายังไงเหรอครับพี่ Warrant

เนื่องจากใกล้ตรุสจีน เจ้าสัวทั้งหลายจึงขายหุ้นนำเงินไปใส่ซองให้ลูกหลาน
และสีแดงเป็นสีมหามงคล จึงมาแบ่งฉลองตรุสจีนโดยทั่วกัน 55555

Warantact เขียน:เนื่องจากใกล้ตรุสจีน เจ้าสัวทั้งหลายจึงขายหุ้นนำเงินไปใส่ซองให้ลูกหลาน
และสีแดงเป็นสีมหามงคล จึงมาแบ่งฉลองตรุสจีนโดยทั่วกัน 55555

+1
สำหรับคนมีเงินสดในมือ
มุกนี้ตลกครับ

มีเงินสดก็หนาวนะครับ

เพราะไม่รู้ว่าจริงๆ bottom มันอยู่ตรงไหน
ซื้อแล้วลงต่อ หมดตูด มีเซ็ง

แล้วสถานการณ์แบบนี้จะอยู่ต่อไปนานขนาดไหนหรอครับ
คือผมเพิ่งเข้าตลาดมา เข้ามาก็ตอนตลาดมันเป็นกระทิง เลยไม่ค่อยรู้ว่าเวลาลงมันเป็นช่วงๆหรือป่าวครับ

Stay Calm and Wait.

บริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นไทย
จะขาดทุนอย่างหนัก พนักงานไม่มีกะใจทำงานต่อและปิดตัวเอง
เนื่องจาก ฝรั่งขายหุ้นทิ้ง

เหตุผลนี้ใช่อะเปล่า

picklife เขียน:สวัสดีครับเพื่อนๆ และพี่ๆ ชาวtviทุกๆท่าน เนื่องด้วยจาก1-2วันมานี้ ตลาดร่วงพอสมควร จึงอยากให้เพื่อนๆช่วยกันวิเคราะห์สาเหตุ ความหนัก และสภาพตลาด ว่าเผาจริงหรือเผาหลอก เป็นช่วงปกติ น่ากลัว หรือโอกาสทอง

ปล.เนื่องด้วยทราบว่าviส่วนมาก ไม่ค่อยชอบสนใจสภาวะตลาดมากนัก แต่ผมก็มองว่ารู้ไว้ใช่ว่า รู้ย่อมดีกว่าไม่รู้ และก็เชื่อว่าจากบทวิเคราะห์จากเพื่อนๆหลายๆท่าน น่าจะมีผลให้นักลงทุนมือใหม่ๆที่ยังไม่เป็นviเต็มตัวนักหายตื่นตระหนกได้^^ ขอบคุณครับ

ผมเริ่มเข้าตลาดเมื่อ2ปีที่แล้วตอนset 380 กว่าๆตอนนั้นเพื่อนๆผมบอกว่าอย่าเพิ่งรีบซื้อหุ้นรอมันลงอีก แต่ผมไม่เชื่อผมทุ่มหมดตัวเลย แล้วเพื่อนๆผมก็รอจิงๆหลังจากนั้นผ่านไป3เดือน set ขึ้นมา 400กว่าๆ เพื่อนผมบอกอีกว่าเดี๋ยวมันก็ลงมา แล้วพอถึงปัจจุบันนี้ผมก็ยังไม่เห็นมันลงเลย ที่ผมซื้อตอนนั้นไม่ใช่ว่ารู้หรือวิเคราะห์ออก แต่พอดีที่สมัครทางโบรกเกอร์เพิ่งผ่านตอนนั้นพอดีก็เลยซื้อเลย แบบมั่วๆ
ปล. ที่จะบอกคือ ณ.เวลานั้นขนาดsetอยู่ที่ 380 กว่าๆก็ยังว่าสูงอยู่แต่เวลานี่ set เกือบพันมันถูกหรือสูงคิดต่อเอาเองแล้วกันครับ (ผมชอบที่ท่าน ดร.เขียน คนเราความจำสั้น แต่ความโลภนั้นยาวนาน)

เหล็งฮู้ชง เขียน:บริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นไทย
จะขาดทุนอย่างหนัก พนักงานไม่มีกะใจทำงานต่อและปิดตัวเอง
เนื่องจาก ฝรั่งขายหุ้นทิ้ง

เหตุผลนี้ใช่อะเปล่า

check ปัจจัยพื้นฐาน
เตรียมเก็บเพิ่มครับ........เฮ่อออออๆๆๆๆ

jojolorsud เขียน:แล้วสถานการณ์แบบนี้จะอยู่ต่อไปนานขนาดไหนหรอครับ
คือผมเพิ่งเข้าตลาดมา เข้ามาก็ตอนตลาดมันเป็นกระทิง เลยไม่ค่อยรู้ว่าเวลาลงมันเป็นช่วงๆหรือป่าวครับ

+1 เหมือนกันเลยครับ

ผมว่าบาทอ่อนลงดีกับธุรกิจครับ

ตลาดหุ้นไทยตอนนี้ pe 14นิดๆ จะว่าถูกก็ไม่ถูก จะว่าแพงก็ไม่แพง เหรียญออกได้สองด้านครับ แต่ถ้าเราประเมินด้านแย่เอาไว้ก่อน ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
ถ้าpe 10 setอยู่ที่ประมาณ 670
ถ้าpe 11 setอยู่ที่ประมาณ 740
ถ้าpe 12 setอยู่ที่ประมาณ 807
ถ้าpe 13 setอยู่ที่ประมาณ 874

ท่านว่าpeที่เหมาะสมจะอยู่ที่เท่าไรในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ส่วนหุ้นขาขึ้นไม่ขอพูดถึงครับ ถือเป็นผลพลอยได้

ที่ผมรู้คือ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เป็นตัวบ่งบอกถึงสภาพเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนถึง 1 ปีข้างหน้าว่าเป็นเช่นไร
ตอนนี้ดัชนีลดลงจาก พันกว่าๆ มาเหลือ 9 ร้อยกว่าๆ ลดลงประมาณ 100 จุด คือ ประมาณ 9-10%
ดังนั้น GDP ในอีก หกเดือนข้างหน้า หรือ 1 ปีข้างหน้า
ก็ควรลดลง 9-10% ด้วย

ZhugeLiangVI เขียน:

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:บอกได้เลยว่า systematic correction ของจริงมาเยือน........... ไม่มีเหตุผลแล้วครับ เหตุผลเดียวคือ เอาตังเข้ากระเป๋าก่อน จบข่าว.....................

Systematic Correction อธิบายเป็นไทย คร่าวๆ ว่ายังไงเหรอครับพี่ Warrant

ไม่ทราบคำภาษาไทยตรงๆเหมือนกันครับ

systematic นั้นเป็น generic term (คำทั่วไป) ที่แปลว่า การเกิดขึ้นทั้งระบบ

correction แปลตรงๆคือการ "ทำให้ถูกต้อง" หรือที่เราๆเรียกกันคือ หุ้นปรับฐาน ว่าง่ายๆ เป็น concept ของการที่ว่าราคาขึ้นไปเกินที่ควรจะเป็นตาม sentiment ของตลาด ณ จุดนึง มีความไม่แน่นอนมากกว่าความแน่นอน จึงต้องมีการ ปรับฐานราคาให้ลงมา อยู่ในช่วงที่เหมาะสมมากขึ้น ให้เวลาตลาด evaluate หุ้นตัวนั้นอีกทีและดูว่าในอนาคตมันควรจะไปอยู่ที่ไหน

แต่เราจะเห็นได้ว่า concept ของ correction นั้นมันไม่ valid เพราะหุ้นหลายตัว ยังไม่ถึงคราวที่ต้องถูก correct ของมัน และไม่จำเป็นต้องถูก "correct"

ทั้งนี้ทั้งนั้นคำพวกนี้มันโดนใช้กันบ่อยๆจนติดปาก

systematic correction ก็คือหุ้นปรับฐานทั้งระบบ บนตัวแปรเดียวกัน ดังนั้นตอนนี้ ตลาดกำลังทำการ evaluate และ assess หุ้นทั้งหมดใหม่ว่าฐานที่มันปรับลงมานั้น คือ ปรับลงมาสู่ช่วงเหมาะสม รอการ confirm ความแน่นอนและไม่แน่นอนใน investment story ต่อไป หรือ ปรับลงมาสร้าง springboard ให้กับหุ้นที่มีความแน่นอนสูงกว่าทำราคากระโดดขึ้นไปใหม่ และจะไปสูงกว่าเดิมเสมอ

สิ่งที่เราต้องทำในภาวะ systematic correction ก็คือ ลงทุนในหุ้นที่จะทำฐานใหม่เป็น springboard ...... อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเก่งของแต่ละคนในการวิเคราะห์

จะให้เห็นภาพชัดขึ้นต้องเข้าใจว่าแล้ว NON-systematic correction คืออะไร ยกตัวอย่าง หุ้น A ราคาขึ้นนำไปมากเพราะตลาดหวังผล eps ในอนาคตโต พอถึงเวลาจริงหรือใกล้วันประกาศมีพวกวงในรู้ก่อนว่าไม่โตตามคาด
behavior คือการ sell on fact. price movement ที่ลงมาจะเรียกว่า non-systematic correction เพราะเกิดขึ้นกับตัวนั้นตัวเดียวครับ ไม่ได้เกิดทั้งระบบ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียง theory เท่านั้นครับ ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลเหมาะสม อย่างที่ผมพูดไว้ว่า เราต้อง identify เหตุของ systematic correction ก่อน เจอเหตุเมื่อไหร่และมั่นใจว่ามันคือเหตุเราก็ไป single out บริษัทที่เราคิดว่าไม่ควรจะถูกจัดอยู่ใน systematic correction ครั้งนี้ หรือเรียกง่ายๆว่ามันถูก MISPRICE อยู่....

เวลาราคาลง CORRECTION กับ MISPRICING ต่างกันครับ แต่ราคาวิ่งไปทางเดียวกัน คือลงกับลง..

ดังนั้นเมื่อหุ้นโดนตลาด misprice............ สิ่งที่ตามมาก็คือการ CORRECTION....... แต่อันนี้คือ correct ขึ้น ..ราคาขึ้นหาตามมูลค่าที่มันควรจะเป็น

ไม่รู้เข้าใจป่าวครับ ผมอธิบายไม่เก่ง

ผมว่า GDP กับุ้นตกมันคนละเรื่องกันครับ หุ้น 2 ปีที่แล้วกับ GPD ไม่เกี่ยวเลย มันก็แค่ ขายหุ้นที่กำไร แล้วไปหาแหล่งเงินที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ไม่รู้เข้าใจป่าวครับ ผมอธิบายไม่เก่ง

เข้าใจมากขึ้นครับ ขอบคุณพี่มากๆ

ป.ล. แอบชอบชื่อพี่มาสักพักแล้วครับ

ผมว่าตลาดกำลังปรับเข้าสู่สมดุล มันขึ้นมามากแล้วจากที่ผ่านมา ถึงเวลาฝรั่งที่ขนเงินมาลงทุนก็ต้องทำกำไรออกไปบ้าง แต่ดูเหมือนวันนี้จะเทหนักไปซะหน่อย เล่นเอาเป๋ไปเลย

บางทีนายตลาดอารมณ์ดี มองอะไรสดใสไปหมด ก็ดันราคาหุ้นขึ้นไปแพงสุดกู่ มองกันสดใสซาบซ่านขนาดรมต.คลังบอกปีนี้อาจได้เห็น 1,700 จุด ราคาวิ่งไกลเลยพื้นฐานจริงๆของกิจการเหมือนกันในหลายๆตัว

ในทางกลับกัน เวลานายตลาดหวั่นไหว ตื่นกลัว บางทีก็ลดราคา เสนอหุ้นให้แบบลดกระหน่ำจนน่าตกใจ บางทีถูกจนไม่กล้าซื้อ เพราะเห็นราคาไหลลงๆแล้วหวั่นไหวตามไปกับนายตลาด เหอๆ :lol: :lol:

ปล.ช่วงนี้ใครที่ยึดมั่นการลงทุนแบบ VI (ผมก็คนนึงหละ) กำไรในพอร์ตคงหายไปบานนนน แต่ก็ถือเป็นอีกด่านทดสอบจิตใจนะครับ เพราะโดยส่วนตัว...ผมยังมองว่าพื้นฐานกิจการหรือเศรษฐกิจ มันยังไม่ได้เปลี่ยนนะครับ น่าจะแค่ panic เพราะมีแต่บ้านเราที่ลงหนักๆ เจ๊จัดให้ เหอๆ :lol: :lol:

[v] เขียน:ผมว่า GDP กับุ้นตกมันคนละเรื่องกันครับ หุ้น 2 ปีที่แล้วกับ GPD ไม่เกี่ยวเลย มันก็แค่ ขายหุ้นที่กำไร แล้วไปหาแหล่งเงินที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

เดาเอาว่า คุณ Miracle เล่นมุขมากกว่าครับ เดาเอาจากการตอบกระทู้อื่นๆ และ ตัว ท้ายโพส

มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านหนึ่ง เจ้าของเป็นคนทำมาหากิน และทำเลร้านก็ดี มีลูกค้าจำนวนมาก บ้างก็เป็นลูกค้าประจำ และบ้างก็เป็นลูกค้าขาจร จึงทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ขายดีมาก จนพนักงานทำตัวกันเป็นเกลียว ส่วนร้านก๋วยเตี๋ยวก็มีการพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นมาดตลอด ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ที่เปิดร้านมาช้านาน สร้างฐานะที่มั่นคงให้กับตัวเอง และเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวมาได้เป็นอย่างดีตั้งแต่แกเปิดร้านนี้มา

แล้วอยู่ๆ วันหนึ่ง เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวผู้นี้ ก็จำเป็นต้องเซ้งร้านก๋วยเตี๋ยว (พร้อมลูกน้อง + ระบบการจัดการในร้าน + สูตรก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด + ลูกค้า) ให้ผู้ที่จะมาเซ้งต่อในราคาที่ถูกกว่าร้านก๋วยเตี๊ยวที่มีัศักยภาพทางธุรกิจใกล้เคียงกันในทำเลอื่นๆ เพราะแกเกิดร้อนเงินก้อน และต้องการเงินก้อนขึ้นมาเดี๋ยวนี้

แบบนี้การเซ้งต่อร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้จากเจ้าของร้านก็จะเป็น Good Deal หรือ Bad Deal?

กำลังนั่งนึกถึงคำพูดที่ว่า

" ถ้าวันนี้ไม่มีตลาดหุ้น คุณจะยังอยากมีหุ้นตัวนี้หรือเปล่า ??"

ลองนั่งคิดดูดี ๆ หาคำตอบให้ตัวเอง รวมทั้งตัวเอง