Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ไอสไตน์ นี้เขาเล่นหุ้นรึเปล่าครับ ถ้าเล่น แล้วเขาชนะตลาดได้เปล่า

เห็นมีท่านเซอร์ ไอแชค นิวตันด้วย ผมก็เลยอยากถามว่า ไอสไตน์เขาเล่นหุ้นด้วยรึเปล่าครับ

น่าจะเป็น นักลงทุนที่ประสพความสำเร็จคนนึงเลยครับ

ผมถามน้องกุ๊กมา
http://www.crossingwallstreet.com/archi ... estor.html

ที่ผมอ่านแล้วเขาใจ คือเขาซื้อหุ้นทิ้งไว้ ไม่ถึง 20 ปี แล้วก็เซนชื่อตัวเองไว้ในใบรับรองหุ้น เอาไปประมูลขาย ได้กำไรบานเลย

ดูเหมือนคุณ cyber จะวิตกกับ IQ มากเลยนะครับ
อย่าไปวิตกเลยครับ ไอสไตน์จะเก่งหุ้นหรือเจ๊งหุ้นก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเราซักนิด
เป็นนักลงทุน ต้องใช้ EQ มากกว่า IQ ซะอีกครับ

นักลงทุนระดับอาจารย์ใน ThaiVI หลายๆคนก็ไม่ได้เรียนจบมหาลัยดีๆ อีกหลายคนก็ไม่จบตรี
แต่ก็ยังลงทุนประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม

ตั้งใจ ขยัน มั่นคงในหลักการลงทุนของเรา การชนะตลาดก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ(แต่ทุกปีหรือป่าวเป็นอีกเรื่อง)

ดูจากโพสก่อนๆ เข้าใจว่าคุณ cyber คงยังไม่ได้อ่านหนังสือวีไอเลย
งั้นผมขอแนะนำหนังสือดังนี้
ตีแตก - ดร.นิเวศน์
เรียนให้รวย - ปีเตอร์ ลินซ์
เหนือกว่าวอลสตรีท - ปีเตอร์ ลินซ์
บัฟเฟตและการตีความงบการเงิน
นักลงทุนดันโด - ปีเตอร์ ลินซ์
ลงทุนแบบเนฟฟ์ - จอนท์ เนฟฟ์
อ่านงบการเงินให้เป็น - ดร.ภาพร

นักลงทุนดันโด ของ มานิช พาไบร นะครับ
ไม่ใช่ ลินซ์ ผมเขียนผิด

ซุนเซ็ก เขียน:ดูจากโพสก่อนๆ เข้าใจว่าคุณ cyber คงยังไม่ได้อ่านหนังสือวีไอเลย
งั้นผมขอแนะนำหนังสือดังนี้
ตีแตก - ดร.นิเวศน์
เรียนให้รวย - ปีเตอร์ ลินซ์
เหนือกว่าวอลสตรีท - ปีเตอร์ ลินซ์
บัฟเฟตและการตีความงบการเงิน
นักลงทุนดันโด - ปีเตอร์ ลินซ์
ลงทุนแบบเนฟฟ์ - จอนท์ เนฟฟ์
อ่านงบการเงินให้เป็น - ดร.ภาพร

ของคุณครับ ตีแตกอ่านแล้ว เหนือกว่า อ่านแล้ว อ่านงบการเงินอ่านแล้ว แต่เล่นนี้อ่านไม่เข้าใจนะ ยากมาก

ที่เหลือเดี๋ยวจะไปหาอ่านครับ

คุณซุนเซ็ก ใจดีมาก

บัฟเฟตและการตีความงบการเงิน
อันนี้ของใครครับ
อ่านตีแตกเล่มเดียว คริคริ อ่านน้อยจังฉัน

แมร์รี่ บัฟเฟตครับ

cyber-shot เขียน:เห็นมีท่านเซอร์ ไอแชค นิวตันด้วย ผมก็เลยอยากถามว่า ไอสไตน์เขาเล่นหุ้นด้วยรึเปล่าครับ

ถ้าจำไม่ผิด ทั่นนี้จะเจ๊งนะครับ :lovl:

หนังสืออ่านๆ ไปเถอะครับ ตอนผมอ่านรอบแรกไม่รู้เรื่องหรอก อ่านซ้ำซัก 2-3 รอบก็เข้าใจเอง บางเล่มอ่าน 2-3 รอบแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ไปอ่านเล่มอื่นก่อนแล้วกลับมาอ่านใหม่ดันเข้าใจก็มี

ดันโดนี่สนุกมากนะครับ นอกจากจะเผยสุดยอดเคล็ดลับทำเงินแล้วยังสร้างแรงบันดาลใจได้ดีมากด้วย แนะนำๆ

ผมคิดว่าถึงไอสไตน์จะเล่นหุ้นแล้วแพ้ตลาดก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะล้มเหลวอะไร เพราะในชีวิตของไอสไตน์ และอัจฉริยะหลายๆ คนที่ว่านี้ได้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติซึ่งมีคุณค่าเหนือกว่าการเล่นหุ้นได้กำไรและร่ำรวยอย่างมากมหาศาลแล้ว

ดังนั้นเราไม่ควรไปมองว่าคน IQ สูงๆ ทุกคนจะต้องใช้ความฉลาดและเก่งเพื่อการหาเงินทั้งในตลาดหุ้นหรือด้วยวิธีต่างๆ ครับ เพราะแต่ละคนก็อาจจะมีเป้าหมายหรือสิ่งที่อยากทำในชีวิตที่แตกต่างกันครับ อย่างกรณีของโมสาร์ท ซึ่งเป็นอัจฉริยะทางดนตรี ในช่วงแรกของชีวิตก็ได้รับจ้างให้เขียนเพลงและบรรเลงเพลงจากราชสำนักและบรรดาเศรษฐีทั้งหลายซึ่งทำให้โมสาร์ทร่ำรวย แต่ในช่วงกลางถึงปลาย โมสาร์ทเห็นว่าการรับจ้างทำเพลงจากราชสำนักและเศรษฐีนั้นทำให้ตนเองไม่สามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระ โมสาร์ทจึงปฎิเสธรับงานจากราชสำนักและเศรษฐีทั้งหลายและหันมาทำงานเพลงเพื่อคนหมู่มากแทน เช่น ละครเร่ หรือโอเปร่า ซึ่งได้เงินน้อยกว่ามาก ทำให้โมสาร์ทต้องมีบั้นปลายชีวิตที่ยากจนและต้องเสียชีึวิตด้วยความแร้นแค้น แต่ก็ได้สร้างสรรค์ผลงานเพลง classic ซึ่งเป็นอมตะ และสามารถนำมาเป็นดนตรีเพื่อบำบัดจิตใจและพัฒนาสมองสร้างประโยชน์ให้คนรุ่นหลังจนถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคต ซึ่งถ้าโมสาร์ทเลือกที่จะทำงานเพลงให้ราชสำนักและเศรษฐีต่อไป วันนี้เราคงจะรู้จักเพลงของโมสาร์ทน้อยกว่านี้หรือาจจะไม่รู้จักเลยก็ได้ครับ

Impressionists เขียน:ผมคิดว่าถึงไอสไตน์จะเล่นหุ้นแล้วแพ้ตลาดก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะล้มเหลวอะไร เพราะในชีวิตของไอสไตน์ และอัจฉริยะหลายๆ คนที่ว่านี้ได้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติซึ่งมีคุณค่าเหนือกว่าการเล่นหุ้นได้กำไรและร่ำรวยอย่างมากมหาศาลแล้ว

ดังนั้นเราไม่ควรไปมองว่าคน IQ สูงๆ ทุกคนจะต้องใช้ความฉลาดและเก่งเพื่อการหาเงินทั้งในตลาดหุ้นหรือด้วยวิธีต่างๆ ครับ เพราะแต่ละคนก็อาจจะมีเป้าหมายหรือสิ่งที่อยากทำในชีวิตที่แตกต่างกันครับ อย่างกรณีของโมสาร์ท ซึ่งเป็นอัจฉริยะทางดนตรี ในช่วงแรกของชีวิตก็ได้รับจ้างให้เขียนเพลงและบรรเลงเพลงจากราชสำนักและบรรดาเศรษฐีทั้งหลายซึ่งทำให้โมสาร์ทร่ำรวย แต่ในช่วงกลางถึงปลาย โมสาร์ทเห็นว่าการรับจ้างทำเพลงจากราชสำนักและเศรษฐีนั้นทำให้ตนเองไม่สามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระ โมสาร์ทจึงปฎิเสธรับงานจากราชสำนักและเศรษฐีทั้งหลายและหันมาทำงานเพลงเพื่อคนหมู่มากแทน เช่น ละครเร่ หรือโอเปร่า ซึ่งได้เงินน้อยกว่ามาก ทำให้โมสาร์ทต้องมีบั้นปลายชีวิตที่ยากจนและต้องเสียชีึวิตด้วยความแร้นแค้น แต่ก็ได้สร้างสรรค์ผลงานเพลง classic ซึ่งเป็นอมตะ และสามารถนำมาเป็นดนตรีเพื่อบำบัดจิตใจและพัฒนาสมองสร้างประโยชน์ให้คนรุ่นหลังจนถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคต ซึ่งถ้าโมสาร์ทเลือกที่จะทำงานเพลงให้ราชสำนักและเศรษฐีต่อไป วันนี้เราคงจะรู้จักเพลงของโมสาร์ทน้อยกว่านี้หรือาจจะไม่รู้จักเลยก็ได้ครับ

+A

SGOLD เขียน:

Impressionists เขียน:ผมคิดว่าถึงไอสไตน์จะเล่นหุ้นแล้วแพ้ตลาดก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะล้มเหลวอะไร เพราะในชีวิตของไอสไตน์ และอัจฉริยะหลายๆ คนที่ว่านี้ได้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติซึ่งมีคุณค่าเหนือกว่าการเล่นหุ้นได้กำไรและร่ำรวยอย่างมากมหาศาลแล้ว

ดังนั้นเราไม่ควรไปมองว่าคน IQ สูงๆ ทุกคนจะต้องใช้ความฉลาดและเก่งเพื่อการหาเงินทั้งในตลาดหุ้นหรือด้วยวิธีต่างๆ ครับ เพราะแต่ละคนก็อาจจะมีเป้าหมายหรือสิ่งที่อยากทำในชีวิตที่แตกต่างกันครับ อย่างกรณีของโมสาร์ท ซึ่งเป็นอัจฉริยะทางดนตรี ในช่วงแรกของชีวิตก็ได้รับจ้างให้เขียนเพลงและบรรเลงเพลงจากราชสำนักและบรรดาเศรษฐีทั้งหลายซึ่งทำให้โมสาร์ทร่ำรวย แต่ในช่วงกลางถึงปลาย โมสาร์ทเห็นว่าการรับจ้างทำเพลงจากราชสำนักและเศรษฐีนั้นทำให้ตนเองไม่สามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระ โมสาร์ทจึงปฎิเสธรับงานจากราชสำนักและเศรษฐีทั้งหลายและหันมาทำงานเพลงเพื่อคนหมู่มากแทน เช่น ละครเร่ หรือโอเปร่า ซึ่งได้เงินน้อยกว่ามาก ทำให้โมสาร์ทต้องมีบั้นปลายชีวิตที่ยากจนและต้องเสียชีึวิตด้วยความแร้นแค้น แต่ก็ได้สร้างสรรค์ผลงานเพลง classic ซึ่งเป็นอมตะ และสามารถนำมาเป็นดนตรีเพื่อบำบัดจิตใจและพัฒนาสมองสร้างประโยชน์ให้คนรุ่นหลังจนถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคต ซึ่งถ้าโมสาร์ทเลือกที่จะทำงานเพลงให้ราชสำนักและเศรษฐีต่อไป วันนี้เราคงจะรู้จักเพลงของโมสาร์ทน้อยกว่านี้หรือาจจะไม่รู้จักเลยก็ได้ครับ

+A

b4solid เขียน:คุณซุนเซ็ก ใจดีมาก

+1 เห็นด้วย

นึกไม่ถึงว่าไอสไตน์จะลงทุนหุ้นด้วย

Anti-Aircraft เขียน:

cyber-shot เขียน:เห็นมีท่านเซอร์ ไอแชค นิวตันด้วย ผมก็เลยอยากถามว่า ไอสไตน์เขาเล่นหุ้นด้วยรึเปล่าครับ

ถ้าจำไม่ผิด ทั่นนี้จะเจ๊งนะครับ :lovl:

ผมจำได้แม่นครับ
เจ๊งไม่เป็นท่าด้วย......

"ข้าพเจ้าสามารถคำนวณความเร็วของวัตถุที่ตกลงมาจากฟากฟ้าได้
แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถหยั่งรู้ถึงความบ้าคลั่งของฝูงชน"

เสื่อมมากเลยครับ ถ้าแกมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
แต่ก็ชอบคำพูดของแกคำหนึ่ง สิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตของกระผมคือทบต้น

ความสามารถของมนุษย์ที่สวรรค์ประทานมา ล้วนมีความโดดเด่นแตกต่างกัน บางคนเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ บางคนเป็นนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ บางคนเป็นนักฉวยโอกาส ดังนั้นความโดดเด่นที่แตกต่างกันนี้ จึงกำหนดบทบาทของมนุษย์แต่ละคน ความพยายามอย่างแรงกล้าอาจเปลี่ยนให้คนที่ไม่มีอะไรโดดเด่น สามารถสร้างความโดดเด่นขึ้นมาได้ ดังคำกล่าวของขงจื้อที่ว่า "ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะคน" แต่ผมมีคำกล่าวนึงอยากเตือนทุกคนนะครับ "รู้คือไม่รู้ ไร้ประโยชน์คือมีประโยชน์"