Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ถ้าจะเป็น VI จะต้องเรียนรู้วิธีการ cut loss ไหมครับ? และถ้าราคาหุ้นที่เราถือมันไม่เป็นอย่างที่เราคิด เราต้องให้เวลาถือกันกี่ปีอ่ะครับถึงจะตัดสินใจขายได้แม้จะขาดทุนก็ตาม?

รู้ทุกเรื่องเลยก็ยิ่งดี รู้ไว้ไม่เสียหาย
ถือกี่ปีอันนี้ตอบมะได้ เพราะเราถือหุ้นตัวไหน ไอ้ตัวเราเองนั้นแหละจะรู้จักหุ้นตัวนั้นดีที่สุด

ส่วนเรื่องปัจจัย ให้คนข้างล่างตอบ

ในกรณีที่เรามีหุ้นอยู่แล้วจะขึ้นอยู่กับตัว บ.น่ะครับ ไม่ใช่ราคาครับ ถ้าผลประกอบการไม่ดี ขาดทุนเท่าไรก็ขายครับ ไม่ขายเพราะนายตลาดให้ราคาไม่ดีครับ ถ้าเรามั่นใจว่าบ.ดี เติบโตดี แต่นายตลาดให้ราคาไม่ดี เป็นโอกาสในการเก็บเพิ่มครับ แต่ถ้าบ.ดี แต่ผู้บริหาร ไม่ดีขี้โกงอันนี้ ไม่เอาด้วยล่ะครับ หรือถ้าราคาแพงก็รอ จนกว่าจะถูกค่อยซื้อ

VI ส่วนใหญ่จะไม่พยายามเดาอารมณ์ตลาดน่ะครับ ซื้อเพราะบ.ดี ราคาถูก ผู้บริหารดี มีอนาคต ถือกี่ปีก็รอได้ครับ

ความคาดหวังจากผลตอบแทนมันมีหลายแนวทางที่เกิดขึ้นได้
มีทั้งขาดทุน,กำไร,เท่าทุน โอกาสเกิดขึ้นเท่าไร และผลตอบแทนที่ได้รับเท่าไรในแต่ละทางเลือก
ถ้าใครเก่งคอมพิวเตอร์หรือมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากๆทำเป็น range ของโอกาสเกิดขึ้นดังกล่าว
แล้วมาคำนวณว่า ความคาดหวังของผลตอบแทนได้เท่าไร

ถ้าเรามีการทำการบ้านมาดี มีการวิเคราะห์ธุรกิจ อุตสหกรรม นั้นๆมาอย่างดี ผมแทบไม่เห็นข้อจำเป็นสำหรับการ Cut loss เลย
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราวิเคราะห์ผิด พื้นฐานเปลี่ยน หรือเข้าใจผิด ถึงแม้ว่าหุ้นกำลังขึ้น ผมเสนอให้ Cut ได้เลย (เรียก Cut Gain แทน )

Paul Octopus เขียน:ถ้าเรามีการทำการบ้านมาดี มีการวิเคราะห์ธุรกิจ อุตสหกรรม นั้นๆมาอย่างดี ผมแทบไม่เห็นข้อจำเป็นสำหรับการ Cut loss เลย
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราวิเคราะห์ผิด พื้นฐานเปลี่ยน หรือเข้าใจผิด ถึงแม้ว่าหุ้นกำลังขึ้น ผมเสนอให้ Cut ได้เลย (เรียก Cut Gain แทน )

I never thought of it that way......ชอบๆๆๆๆๆๆ

umbra เขียน:ถ้าจะเป็น VI จะต้องเรียนรู้วิธีการ cut loss ไหมครับ? และถ้าราคาหุ้นที่เราถือมันไม่เป็นอย่างที่เราคิด เราต้องให้เวลาถือกันกี่ปีอ่ะครับถึงจะตัดสินใจขายได้แม้จะขาดทุนก็ตาม?

เป็นviไม่ต้องเรียนรู้การcut lossลยครับตามที่พี่ๆท่านอื่นตอบมาเลยยยครับ^^

ถ้าอยากเป็นลูกผสม อยากcutlossเป็นก็สามารถทำได้แต่!!!!อย่าลืมความเป็นviในตัวนะครับ
เช่นซื้อมา10บาท FairValue15บาท
ต่อมาลงมา9บาท(-10%) คุณกลัวว่าจะไปถึง8บาท(-20%) ซึ่งถ้ามันลงไปก็OKเลยย^^
แต่ถ้ามันดันกลับขึ้นมา11บาท(+20%กว่าในวันเดียว)คุณกล้ากลับไปซื้อปะ???

1.ถ้าไม่กล้า เท่ากับคุณเล่นเกมส์พนันที่ ถ้าได้ได้10% ถ้าเสียเสีย(โอกาส)60% ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่คุ้ม^^

2.ถ้ากล้าซื้อ เคาะปุ๊บ11บาท วันต่อมาลงไป10บาท คุณจะทำอย่างไร??? cutlossอีกไหม???
2.1 ถ้าไม่คัท(กลับลำเป็นเพียวvi) คุณจะเสียค่าครู10%ซึ่งเพียวviไม่ต้องเสีย
2.2 ถ้าคัทที่10บาท...คำถามคล้ายๆเดิม...มันเด้งไป12บาท(+20%)คุณจะทำอย่างไร???

ดังนั้นถ้าคุณคิดจะเล่นรอบ!!!ก่อนเล่นต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ชัดเจนก่อน ถ้ายังตอบไม่ได้ เป็นเพียวviแหละดีแล้วครับ^^

ขอบคุณทุกๆท่านสำหรับคำแนะนำครับ ผมพอจะได้ข้อสรุปอะไรบางอย่างแล้วครับ ^^

ผมคิดว่าควรคิดถึงทิศทางลมไว้บ้างก็ดีนะครับ ถึงแม้ว่าราคาอาจลงไม่นาน แต่ถ้าแนวโน้มมันลงเยอะถอยไปตั้งหลักก่อนก็น่าจะดีครับ วิธีการหรือหลักการจงใช้อย่างมีสติ และรอบคอบ ดังนั้นเราควรมองอนาคตให้ออกครับว่ามันไปทิศทางไหน โดยเฉพาะการลงแบบหนักๆๆ ถ้าคาดการณ์ได้ก็จะทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น

คิดว่าถ้าใช้แนวทาง vi แล้วการวิเคราะห์จะมีความถูกต้อง 100% หรือจะไม่ผิดเลยหรือไม่ครับ? อีกอย่างคือ การเลือกหุ้นแบบ vi แต่ต้องถามว่าใจนี่ vi ด้วยขนาดไหนครับ? และท้ายที่สุดคิดว่าการเป็น vi คือการเลือกหุ้นอย่างเดียวหรือเปล่าครับ?

ไม่ได้เป็น VI เสียด้วยสิ เลยไม่รู้ว่าต้องเรียนรู้ไหม

แต่คิดว่า ถ้าหากเราตั้ง MOS ไว้แล้ว ราคาดันทะลึ่งลงมากกว่าที่เราตั้งไว้ เราทำได้ 2 ทาง คือ

1. ถ้ามองแนวโน้มตลาดแค่ผันผวน เดี๋ยวก็เดินขึ้นต่อ ก็ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยไว้เดี๋ยวมันก็กลับมาเอง

2. ถ้ามองแนวโน้มตลาดกำลังเดินลง ก็ขายไปก่อน เพื่อซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่า

กรณีเดียวครับ วิเคราะห์พื้นฐานผิด
ถ้าวิเคราะห์แล้วถูก ราคาลง ต้องอัดเพิ่ม

ลองเข้าไปอ่านดูนะ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=7778

VI สั้นๆคือ ลงทุนในหุ้นที่ราคาเหมาะสม

ส่วนวิธีการปลีกย่อยๆอื่นมันเป็นแค่แนวทางครับ

เราเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเราเองดีกว่าครับ

แต่ผมบอกได้ว่าการ Cut Loss เป็นสิ่งจำเป็นครับ
จะเห็นคุณค่ามันก็ตอนที่มันลงยาวๆ นั่นแหละครับ

ตอนนนี้ขึ้นมา 2 ปี ติดตรงไหนมันก็มารับไปหมด

ผมคิดว่าการยึดติดกับหลักการทางทฤษฏีเกินไปบางทีก็เป็นปัญหานะครับ เช่นกรณีคุณคิดว่าแนวโน้มมันลงแน่ๆ 50% เนื่องจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจซึ่งถ้าคุณยึดหลักการ VI คือวิเคราะห์พื้นฐานถ้าไม่เปลี่ยนก็ถือต่อไป แต่ถ้าคุณปล่อยหุ้นออกไปแล้วกลับมาใหม่เมื่อตลาดนิ่ง เมื่อราคากลับมาที่เดิมคุณก็ได้กำไรแล้วนะครับ แต่บางทีคุณก็ต้องมองให้ออกว่าลงลึก หรือแค่ผิวเผิน สำหรับผมลง 10% ผมก็เฉยๆนะครับ แต่ก็เสียดายบ้างเนื่องจากไม่มีเงินมาเพิ่ม แต่ถ้าผมคิดว่าแนวโน้มมันไปไม่ไหว ก็น่าจะขายออกไปแล้วรอซื้อใหม่ดีกว่า ผมคิดว่าการลงทุนก็ควรที่จะยืดหยุ่นได้บ้าง อย่ายึดติดกับทุกสิ่ง ต้องทันกับสถานการณ์ครับ

Warantact เขียน:กรณีเดียวครับ วิเคราะห์พื้นฐานผิด
ถ้าวิเคราะห์แล้วถูก ราคาลง ต้องอัดเพิ่ม

เห็นด้วยครับ

ถ้างบออก หรือมีข่าวอื่นออก ที่ทำให้สมมติฐานที่ตั้งไว้มันผิดไป ก็ขายครับ จะเรียกว่า cut loss ก็ไม่เชิง เพราะไม่แน่มันอาจจะกำไรก็ได้

ถ้าแค่ีราคาจาก Mr.Market ลดลงไป แต่เราคิดว่า upside ดีแน่ๆ ผมขายตัวอื่นที่ลงน้อยกว่ามาซื้อด้วยซ้ำไปครับ