Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ภาวะตลาดหุ้นตอนนี้ นักลงทุนแบบผมไม่มีอะไรให้ทำ
มันไม่ต่าพอให้ซื้อ และไม่สูงพอให้ขาย
ดูหน้าจอไปก็เสียเวลาและเครียดเปล่าๆ
หาอะไรสนุกๆกับสมองคิดดีกว่า

สองวันนี้ผมอ่านเจอข่าวหนึ่งน่าสนใจ
เวบอเมซอนประกาศว่า ไตรมาสที่ผ่านมา
ยอดขายe-bookแซงหน้าหนังสือเป็นเล่มได้แล้ว
ยอดขายหนังสือเล่ม100เล่ม คินเดิลe-bookขายได้115เล่ม
แถมe-bookยังทำให้ยอดขายอเมซอนปีที่ผ่านมาเพิ่ม20%
Googleก็กำลังจะเข้ามาแย่งตลาดนี้กับอเมซอน
ดูเหมือนว่าe-bookกำลังจะเข่นฆ่าหนังสือเล่มให้ตายสนิท


ผมลองคิดเล่นๆดูว่าจะเกิดผลอะไรตามมา
1 ธุรกิจเครือข่ายร้านหนังสือรายใหญ่เช่น ซีเอ็ดและนายอินทร์
รวมทั้งร้านเล็กๆจะได้รับผลกระทบหรือไม่
2 ธุรกิจอุตสาหกรรมกระดาษ โรงพิมพ์ หมึกพิมพ์ ยี่ปั๊ว
สายส่งหนังสือ จะได้รับผลกระทบหรือไม่
3 จะเกิดปรากฏการณ์ฟีเวอร์ของe-book reader หรือไม่
ผมมองถึงขั้นว่า วัฒนธรรมการอ่านในโลกกำลังจะเปลี่ยนไปหรือไม่
ไม่ทราบทุกท่านมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับบทุกความเห็นทั้งเห็นด้วยและขัดแย้ง

ดีครับจะได้ตัดต้นไม้น้อยลง
ผมเห็นว่าจะกระทบต่อธุรกิจโรงพิมพ์แรงที่สุดครับ
ไม่น่าเกิน 2 ปี เข้ามาไทยแน่ ผมก็รอเหมือนกัน รอe-ink ที่เป็นจอสี

ก็คงเหมือนกับ แผ่นเสียง เทป ซีดีเพลง ถูกแทนที่ด้วยการบริโภคแบบดิจิตอลในรูปเอ็มพี3

ผลิตภัณฑ์ที่เป็น physical products คงลดกำลังการผลิตลง เหลือแต่อัลบั้มที่ควรค่าต่อการสะสม

e-book คงจะโตไปกับนวัตกรรมของแทบเล็ทที่จะบูมมากขึ้นในระยะใกล้นี้ พวกนสพ. นิตยาสาร คงต้องปรับตัวขนานใหญ่สำหรับการเปลี่ยนแปลง ผลกระทบสำหรับธุรกิจด้านนี้คงมีแน่แต่ระดับไหนผมก็คาดเดาไม่ถูกเหมือนกันครับ

พอดีเป็นคนชอบอ่านหนังสือนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่า E BOOK จะแตกต่างกับการอ่านผ่านจอคอมไหมนะครับ เลยขอแสดงความเห็นแบบหนังสือที่เป็นรูปเล่มกับผ่านหน้าจอคอมนะครับ

-เนื่องจากถ้าผมต้องการอ่านให้เข้าใจจริงๆ มักจะต้องอ่านที่เป็นรูปเล่ม ถ้ามองจอคอมนานเข้าผมจะรวมสมาธิค่อนข้างยาก ,เรื่องการพกพาคิดว่าหนังสือยังพกพาและอ่านได้ง่ายกว่าพวกอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค เช่น Ipad notebook มากครับ ,รวมไปถึงอรรถรสเล็กๆต่างๆ เช่น การเปิดหน้าการเปิดจากหน้ากระดาษทำได้เร็วกว่าสะดวกกว่าการอ่านจากคอมมากครับ ,การ Take note ก็ง่ายกว่า ,การขั้นหน้าต่างๆ

-ที่เด็ดสุด ผมคิดว่าหนังสือคือจิตวิญญาณของนักอ่าน หากว่าในอนาคต มี EBOOK เข้ามาจริง ผมก็จะเป็น1คน ในไทยที่ยังรับข้อมูลผ่านการอ่านเป็นรูปเล่มครับ (ดูอัตตาไปหน่อยแต่เรื่องนี้ผมขอ )

สรุปในความเห็นของผม "ตีไม่แตกครับ" :lovl:

เห็นด้วยกับ พี่หมอ jek ae ครับ

ในแง่ทางด้านธุรกิจ ซึ่งบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับหนังสือโดยตรง คงต้องปรับตัวตามด้วยครับ ยิ่ง IPAD บูมซะขนาดนี้

ความชอบส่วนตัวผม เหมือนกับ คุณ murder_doll ครับ

อรรถรสในการอ่านหนังสือแบบเล่มนั้น คลาสสิค ยิ่งนัก

ไม่ว่าจะเป็น ความสบายตาในการอ่าน การได้สัมผัสรูปเล่มหนังสือ ซึ่งมีรูปแบบแตกต่างกันไป กลิ่นหมึกจางๆที่ติดที่ปลายนิ้ว เข้ากับกลิ่นหอมกาแฟยามเช้าได้ดีทีเดียว

ส่วนตัวผม คิดว่า กระทบต่อธุรกิจอุตสาหกรรมกระดาษรวมทั้งร้านหนังสือครับ ส่วนเรื่องตัวเลข คาดเดาไม่ถูกเหมือนกันครับ

หากแนวโน้มเป็นเช่นนั้นแล้วบริษัทไหนในไทยที่จะได้ประโยชน์จาก e-book บูมบ้างครับ เช่น
คนขาย IPAD ใครครับ?
คนผลิต part ของ IPAD ใครครับ?
อีกอย่าง บริษัท ที่เขียน/สร้างหนังสือ/เจ้าของลิขสิทธิ์ จะยังคงได้ผลประโยชน์เหมือนเดิม เพิ่มขึ้น หรืลดลงไหมครับ?

ในบ้านเราคงยังไม่สาารถ ฆ่า หนังสือเล่มได้ในเวลาอันใกล้นี้
แต่เชื่อว่าแย่งส่วนแบ่งได้มากพอควรโดยเฉพาะพวก นสพ นิตยสารรายปักษ์ต่างๆ ที่คนเขาไม่ต้องการสะสม
บ้านเรา แทบเลต ยังไม่เข้ามาเต็มที่หากจะวิเคราะห์อีบุค คงต้องรอสักปีหน้า ให้แทบเลตบูมตลาดให้เต็มที่ก่อนครับ

หนังสือแบบรูปเล่มคงโดนผลกระทบพอสมควร แต่ไม่ตายหรอกครับ ร้านหนังสือยังอยู่ไปอีกนาน
ผมใช้ iPAD อยู่ มันอ่านสะดวกกว่าคอมพิวเตอร์เยอะมาก เอาไว้อ่านเว็บ, Text book ที่หาซื้อไม่ได้ ดีมากเลยครับ
แต่หนังสือที่หาซื้อได้ ผมก็ยังยอมเสียเงินซื้อแบบพิมพ์มาอ่านอยู่ดี นอกจากเรื่องปวดตาแล้ว อ่านบนเครื่องมันยังไม่ได้อรรถรสอีกด้วยครับ

ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือจากต่างประเทศ เมื่อก่อนต้องเข้าร้านหนังสือ 1 เดือนอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ตั้งแต่ผมได้ Kindle มาเมื่อประมาณ 8 เดือนที่แล้ว ไม่เคยเข้าร้านหนังสือเจ้าประจำอีกเลยครับ

ปล. เคยลองอ่าน e-book กับ iPad เหมือนกันครับ อ่านไม่ไหว ปวดตาครับ

murder_doll เขียน:พอดีเป็นคนชอบอ่านหนังสือนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่า E BOOK จะแตกต่างกับการอ่านผ่านจอคอมไหมนะครับ เลยขอแสดงความเห็นแบบหนังสือที่เป็นรูปเล่มกับผ่านหน้าจอคอมนะครับ

-เนื่องจากถ้าผมต้องการอ่านให้เข้าใจจริงๆ มักจะต้องอ่านที่เป็นรูปเล่ม ถ้ามองจอคอมนานเข้าผมจะรวมสมาธิค่อนข้างยาก ,เรื่องการพกพาคิดว่าหนังสือยังพกพาและอ่านได้ง่ายกว่าพวกอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค เช่น Ipad notebook มากครับ ,รวมไปถึงอรรถรสเล็กๆต่างๆ เช่น การเปิดหน้าการเปิดจากหน้ากระดาษทำได้เร็วกว่าสะดวกกว่าการอ่านจากคอมมากครับ ,การ Take note ก็ง่ายกว่า ,การขั้นหน้าต่างๆ

-ที่เด็ดสุด ผมคิดว่าหนังสือคือจิตวิญญาณของนักอ่าน หากว่าในอนาคต มี EBOOK เข้ามาจริง ผมก็จะเป็น1คน ในไทยที่ยังรับข้อมูลผ่านการอ่านเป็นรูปเล่มครับ (ดูอัตตาไปหน่อยแต่เรื่องนี้ผมขอ )

สรุปในความเห็นของผม "ตีไม่แตกครับ" :lovl:

555
ผมเพิ่งได ้ คินเดิ้ลมา ท่านลองหาข้อมูลดูละกัน

ผมว่า มันแทน กันได้ นะ
คงเหมือน ตอนเปลี่ยน กล้องฟิลม์ มากล้องดิจิ มั้ง ได้ยินมืออาชีพโวยกันตรึม ปัจจุบัน กริ๊บ

เอางี้ท่านชอบอ่าน การตูนไหม ผมถามหน่อยตอนนี้ ใครซื้ออ่าน (สมัยก่อนนี้เฝ้ารอกัน
ทุกอาทิตย์ ราคาก็แพงตามกระดาษ ช้ากว่า อีก)

ทุกอย่างจบ เมื่อมี เจ้า คินเดิ้ล ผมจะยกการตูนซัก 40 ไปเที่ยวได้ยังงัย
แต่คินเดิ้ล แคนดู แบต 1 เดือนช้าด นะครับ
(เพิ่งได่ L games มา 1000กว่าหน้า เทียบเป็น10เล่ม แล้วยังอัดได้อีกเพียบ)

ปวดตารึเปล่า ใครเห็นอีอิ้ง งงทุกคน นึกว่าป้ายติดวัสดุ(จะมาแกะกันเรื่อย)

ชอบกลิ่นหมึกซื้อมาดมได้ครับ(ขำๆนะอันนี้)

นึกถึงตอนสอบ open book แข่งกันหอบหนังสือกันเข้าห้อง

ใครขนมาเยอะแวว เอ ละ 555

ปัจจุบัน คินเดิ้ลอันเดียวจบคอรส์

ตอนนี้ผมมี e-book reader 2 เครื่อง หน้าจอ 5 นิ้ว กับ 9.7 นิ้ว e-book reader จริงๆนะครับ ไม่ใช่ tablet ที่ใช้ technology e-ink นะครับ

e-ink คือเทคโนโลยี ที่หน้าจอจะให้ความรู้สึกเหมือนจากอ่านจากกระดาษจริงๆครับ อ่านเท่าไหร่ก็ไม่ปวดตา

ข้อดีก็มีนะครับ เช่นต้องเดินทางบ่อยๆ ไม่อยากแบกหนังสือไปเยอะๆ ก็ถือ e-book reader ไปเครื่องเดียวจบครับ

ผมก็เพิ่งเริ่มใช้ Kindle เหมือนกัน
หลังจากใช้ไปซักพัก คิดว่า
พวก e-book reader ก็แทนหนังสือเป็นเล่ม ๆ ได้แล้วนะ
ตอนนี้ผมไม่อยากได้หนังสือเล่ม ๆ แล้ว แต่อยากได้่เป็น format Kindle มากกว่าแล้วครับ

สงสัยผมจะหัวใจกบฎชอบรูปเล่มคนเดียวซะละเนี่ย

ผมก็ชอบหนังสือเป็นเล่มครับ iPADนี่เคยเห็นแล้วคิดว่าไม่น่าจะอ่านสบาย
แต่ Kindle ยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆอ่ะครับ ไม่แน่ใจ น่าจะดีผมว่า

เหตุที่ amazon ขาย e-book ได้มากกว่า หนังสือเป็นเล่มได้
ก็เพราะ amazon ผลิตไอ้เจ้า amazon kindle ออกมานี่แหละ

ใครที่ยังไม่เคยลอง kindle ถ้าลองใช้ดูจะพบว่า มันใกล้เคียงกับหนังสือจริงๆมาก
ผมเองถ้าอ่านไปนานๆ จะลืมตัวว่า อ่านจากอุปกรณ์อิเลคทรอนิคอยู่

ส่วนในไทยผมว่าตลาด e-book เกิดยากเพราะปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์นะ

คินเดิลยังไม่มี อีบุค ภาษาไทยใช่ไหมครับ หรือมีแต่น้อยอยู่หรือเปล่าครับ ไม่เคยใช้ครับ
หากมีไฟล์ภาษาไทยมากพออยากซื้อมาลองใช้บ้างจัง

jo7393 เขียน:คินเดิลยังไม่มี อีบุค ภาษาไทยใช่ไหมครับ หรือมีแต่น้อยอยู่หรือเปล่าครับ ไม่เคยใช้ครับ
หากมีไฟล์ภาษาไทยมากพออยากซื้อมาลองใช้บ้างจัง

เราสามารถส่งไฟล์ของเราให้ทาง amazon แปลงเป็น format สำหรับ kindle ได้(เสียค่าบริการ)
แต่ kindle อ่าน pdf file ได้ครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้ว ผมมักจะแปลง file ที่ผมต้องการเป็น pdf file แล้วก็อ่านผ่าน kindle

e-book ในไทยที่ปล่อยๆกันอ่านนี่ ก็เป็น pdf file ครับ

อย่างพวก 56-1 หรืองบการเงินนี่ แต่ก่อนผม print ออกมาทีเปลืองกระดาษมาก จัดเก็บก็ยาก
แต่เดี๋ยวนี้ผมแปลงเป็น pdf แล้วเก็บเข้า kindle เลยก็สะดวกดี

สงสัยเรื่องผลกระทบต่อสายตานะค่ะ เพราะทุกวันนี้ใช้คอมฯ สายตาก็แย่ลงเรื่อยๆ จึงพยายามหลีกเลี่ยงการอ่านข้อความเยอะๆ บางครั้งก็จะพิมพ์ออกมาอ่านแทนการอ่านจากเครื่อง ไม่ทราบว่าเทคโนโลยี e link อ่านแล้วไม่ปวดตา แต่จะมีผลกระทบต่อสายตาในระยะยาวรึเปล่าค่ะ

maybe เขียน:ไม่ทราบว่าเทคโนโลยี e link อ่านแล้วไม่ปวดตา แต่จะมีผลกระทบต่อสายตาในระยะยาวรึเปล่าค่ะ

e-ink ลักษณะการทำงานคือผลักดึงเม็ดให้แสดงผล ไม่ได้มีตัวกำเนิดแสงสว่างเหมือนพวกที่ใช้จอ LCD แต่ก็ทำให้อ่านในที่มืดไม่ได้เช่นกันครับ

อยากถามความเห็นครับว่า ถ้าต้องการเอามาอ่าน 56-1
ซื้อ Kindle แบบ จอใหญ่ หรือ จอเล็กดีกว่ากันครับ
อยากเริ่มลองใช้มั่งครับ

ส่วนตัวคิดว่าน่าจะแยกเป็นกลุ่มๆ

อันนี้คิดว่ากระทบจะทำให้ยอดพิมพ์น้อยลง

กลุ่มข้อมูลรอบอายุสั้น + content กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ e-book
เช่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะ life style สำหรับกลุ่มเป้าหมายเดียวกับผู้ใช้ e-book

กลุ่มข้อมูลรอบอายุยาว + ใช้ข้อดีของ e-book (function) เช่น การค้นหา การจัดเก็บ
เช่น ตำราวิชาการ ความรู้

ซึ่งเป็นผลมาจากข้อดี เช่น ความสะดวก รวดเร็ว ของ e-book ที่ให้มากกว่าหรือสามารถทดแทนหนังสือได้สมบูรณ์


ในทางตรงกันข้ามหนังสืออย่าง นิยาย วรรณกรรม นั้น
การอ่านจากหนังสือจริงๆ อาจจะยังคงความมีเสน่ห์กว่าเสมอ
ผิวสัมผัสละเอียดของกระดาษ ละเมียดอารมณ์ปล่อยใจพาเพลิดเพลิน
ให้จินตนาการเติมแต่งเข้าสู่โลกของตัวอักษร...

ดูยังไง e-book วันนี้ก็ยังไม่ทดแทน

wc เขียน:อยากถามความเห็นครับว่า ถ้าต้องการเอามาอ่าน 56-1
ซื้อ Kindle แบบ จอใหญ่ หรือ จอเล็กดีกว่ากันครับ
อยากเริ่มลองใช้มั่งครับ

ถ้าเอามาอ่าน pdf เป็นหลัก ต้องจอใหญ่ 9.7" เท่านั้นครับ ถ้าจอเล็ก 6" จะอนาถมาก
เนื่องจากการขยายฟอนต์กับซูมเข้า-ออก ของ kindle ทำได้ยากมาก(หน้าจอก็ไม่ใช่ touch screen ด้วย)

murder_doll เขียน:สงสัยผมจะหัวใจกบฎชอบรูปเล่มคนเดียวซะละเนี่ย

ผมก็ชอบแบบรูปเล่มครับ และคิดว่ามันไม่ตายแน่ ๆ แต่ก็ต้องโดนแย่งส่วนแบ่งไปไม่น้อยเหมือนกันครับ ข้อดีของ e-book ไม่ขอพูดถึงละกันนะครับ น่าจะทราบกันดีแล้ว (ที่ผมชอบสุดก็ตรงพกได้หลาย ๆ เล่่มโดยน้ำหนักมันไม่เพิ่มเลย :lol: )

ข้อดีของรูปเล่มที่ e-book ไม่อาจทดแทน (ในความคิดผมนะครับ)
1.หนังสือสามารถโยน กระแทก เอาของหนักทับได้ ไม่เหมือน e-book ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้อ่านมันต้องมีการดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษ เหมาะกะพวกลุย ๆ สมบุกสมบันอย่างผม
2.ระยะเวลาในการอ่าน ถ้าอ่านจากหน้าจอผมไม่สามารถอ่านนาน ๆ ได้จะรู้สึกปวดตา แต่ถ้าเป็นหนังสือจะอ่านได้นานกว่า
3.หนังสือไม่ต้องพึ่งแบตเตอรี่ หรือไฟฟ้า
4.หนังสือมันพลิกกลับหน้าไปมาได้ง่ายกว่าในกรณีที่เราต้องการย้อนกลับไปดูรูป กราฟ หรือข้อความในหน้าก่อน ๆ เพื่อเทียบกะหน้าปัจจุบันที่เราอ่าน

ธุรกิจเครือข่ายร้านหนังสือรายใหญ่เช่น ซีเอ็ดและนายอินทร์น่าจะได้รับผลกระทบอยู่ในช่วงแรก ๆ ครับ แต่ก็ต้องปรับตัวให้ได้ในที่สุด (ตัวอย่างก็เหมือนธุรกิจเพลงในปัจจุบัน) และหนังสือเป็นเล่มก็จะไม่ตายเหมือนกับ CD เทป เพียงแต่กลุ่มผู้อ่านในรูปแบบเดิมจะลดลงไปพอสมควร
ที่กระทบสุดก็น่าจะเป็นกลุ่มโรงพิมพ์ ละก็ยี่ปั๊วส่งหนังสือนะครับ

ปล. ไม่รู้ว่า e-book จะช่วยให้คนไทยอ่านหนังสือกันมากขึ้นรึเปล่านะครับ หรือมันจะเป็นแค่เพียงการเปลี่ยนกลุ่มผู้อ่านเดิม ๆ จากรูปเล่มให้ไปอ่านในรูปแบบดิจิตอลแค่นั้น

wc เขียน:อยากถามความเห็นครับว่า ถ้าต้องการเอามาอ่าน 56-1
ซื้อ Kindle แบบ จอใหญ่ หรือ จอเล็กดีกว่ากันครับ
อยากเริ่มลองใช้มั่งครับ

ถ้าเอามาอ่าน 56-1 บางครั้งในข้อมูลนั้นจะมีพวก ตาราง พวกกราฟ

อาจแสดงผลผิดพลาดถ้าใช้ kindle นะครับ และ kindle ก็เป็นหน้าจอแบบขาวดำ

ของผมใช้ entourage edge เป็น double screen หน้าจอนึงเป็น e-ink อีกหน้าจอเป็น lcd
อ่านสบายเลย พออ่านไปหน้าไหนอยากอ่านเป็นสี ก็โยนไปอ่านในหน้า lcd อ่านจบก็กลับมาหน้าจอ e-ink ต่อ

แต่ข้อเสียคือน้ำหนักมากกว่า kindle เยอะ ถ้าถือนานๆ เหมือนถือ textbook หนาๆ เล่มนึงครับ

เหยี่ยวเดือน9 เขียน:เราสามารถส่งไฟล์ของเราให้ทาง amazon แปลงเป็น format สำหรับ kindle ได้(เสียค่าบริการ)
แต่ kindle อ่าน pdf file ได้ครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้ว ผมมักจะแปลง file ที่ผมต้องการเป็น pdf file แล้วก็อ่านผ่าน kindle

ถ้าส่งเข้า @free.kindle.com ไม่เสียเงินครับ
แต่เข้าใจว่าส่งเข้า Amazon นี่ยังไม่รองรับภาษาไทยนะ ใช้โปรแกรมแปลงเองไปก่อน =)

maybe เขียน:สงสัยเรื่องผลกระทบต่อสายตานะค่ะ เพราะทุกวันนี้ใช้คอมฯ สายตาก็แย่ลงเรื่อยๆ จึงพยายามหลีกเลี่ยงการอ่านข้อความเยอะๆ บางครั้งก็จะพิมพ์ออกมาอ่านแทนการอ่านจากเครื่อง ไม่ทราบว่าเทคโนโลยี e link อ่านแล้วไม่ปวดตา แต่จะมีผลกระทบต่อสายตาในระยะยาวรึเปล่าค่ะ

e-ink ไม่มีการส่องสว่างในตัวเอง ไม่มีการแผ่รังสี ผลกระทบเหมือนอ่านหนังสือกระดาษครับ

rayvi เขียน:ในทางตรงกันข้ามหนังสืออย่าง นิยาย วรรณกรรม นั้น
การอ่านจากหนังสือจริงๆ อาจจะยังคงความมีเสน่ห์กว่าเสมอ
ผิวสัมผัสละเอียดของกระดาษ ละเมียดอารมณ์ปล่อยใจพาเพลิดเพลิน
ให้จินตนาการเติมแต่งเข้าสู่โลกของตัวอักษร...

เพื่อนนักอ่านนิยายของผม (อยู่ใน thaivi ด้วยนี่แหละ) อ่านนิยายจาก kindle จบไปหลายเรื่องแล้วครับ

villa เขียน:

murder_doll เขียน:ข้อดีของรูปเล่มที่ e-book ไม่อาจทดแทน (ในความคิดผมนะครับ)
1.หนังสือสามารถโยน กระแทก เอาของหนักทับได้ ไม่เหมือน e-book ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้อ่านมันต้องมีการดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษ เหมาะกะพวกลุย ๆ สมบุกสมบันอย่างผม
2.ระยะเวลาในการอ่าน ถ้าอ่านจากหน้าจอผมไม่สามารถอ่านนาน ๆ ได้จะรู้สึกปวดตา แต่ถ้าเป็นหนังสือจะอ่านได้นานกว่า
3.หนังสือไม่ต้องพึ่งแบตเตอรี่ หรือไฟฟ้า
4.หนังสือมันพลิกกลับหน้าไปมาได้ง่ายกว่าในกรณีที่เราต้องการย้อนกลับไปดูรูป กราฟ หรือข้อความในหน้าก่อน ๆ เพื่อเทียบกะหน้าปัจจุบันที่เราอ่าน

1) ผมเห็นว่า คนรุ่นปัจจุบันคุ้นชินกับการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีพวกนี้มากแล้ว เรื่องการดูแล e-book reader นี่ไม่แตกต่างกับมือถือหรือโน้ตบุ๊กที่พกพากันอยู่เป็นประจำเลยครับ ถ้าเป็น e-ink อย่าง kindle นี่ทนทานมาก หน้าจอไม่ใช่กระจก ไม่ต้องกลัวแตก
2) คุณสมบัติทางกายภาพของ e-ink ทำให้การอ่าน kindle เหมือนการอ่านหนังสือกระดาษครับ (ไม่ปวดตา ใช้แสงสว่างจากภายนอก และง่วง...)
3) kindle ชาร์จไฟเดือนละครั้ง (นอกจากอ่านเยอะจริงๆ ที่เคยถามมาก็สัปดาห์ละครั้ง)
4) อันนี้ไม่มีข้อโต้แย้ง ต้องรอให้ตัว reader มันเก่งกว่านี้ก่อน =D (เว้นนิดตรงที่ e-book มันมี function search ที่หนังสือกระดาษทำไม่ได้)

มีเรื่องเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Kindle อีกนิดหน่อย
1 ยังมีแหล่งโหลดหนังสือฟรีอีกที่คือ Gutenberg Project
ซึ่งทั้งหมดเป็นหนังสือที่หมดลิขสิทธิ์แล้ว เราสามารถโหลดมาเป็นKindle format ทางemail แล้วมาใส่เข้าKindleทีหลังได้
2 เราสามารถโหลดโปรแกรม Kindle for PC มาinstallไว้ในเครื่อง PC
ของเราแล้วโหลดหนังสือที่เราเคยซื้อผ่าน Whispernet (3G)ของ Kindle มาไว้ใน PC เพื่อสามารถอ่านผ่านจอPC ก็ได้ เพราะบางครั้งข้อความที่ไม่ใช่ text ในเนื้อหาของหนังสือบางเล่มขยายไม่ออกจากหน้าจอ Kindle ตัวอย่างเช่นรูปหรือ
3. ผมซื้อคู่มือการใช้ Joomla ของ Barry North มาอ่านพบว่าตรงส่วนที่เป็นCSS จะขยายไม่ออก ต้องมาดูกับ PC
4. หนังสือที่ซื้อมากี่เล่มๆก็เก็บไว้ใน Kindle ที่เดียวเราอยากย้อนกลับไปอ่านเมื่อไหร่ เล่มไหน ที่ไหน ก็ได้ตลอดเวลา
5. ถนอมสายตามากๆครับ
6. หนังสือที่หมดลิขสิทธิ์แล้วก็ซื้อจาก Amazonผ่าน 3G มาเข้าKindle ของเราฟรีครับเช่น Alice in wonderland, Romeo and Juliat
7. ถ้าสามารถซื้อได้ 9 นิ้วไปเลย เพราะ PDF ไฟล์ทั่วไปอ่านได้เลย แต่ถ้าเป็นตัวจอเล็ก เราต้องขยายFont ให้ใหญ่มากๆแล้วแปลงเป็น PDF แล้วค่อยMove เข้าไปเก็บไว้ในKindleซึ่งจะมีปัญหากับพวกตาราง และพวกรูปที่มีนามสกุลย่อยๆออกไป
8. การส่งไฟล์ไปแปลงเป็น Kindle format ที่web Amazonถ้าให้เขาส่งกลับมาทาง 3G จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ถ้าไม่ต้องการจ่ายเลยให้เขาส่งมาทางอีเมล์ โดยการเข้าไปตั้ง preference ในaccount ของเราว่าเราพอใจจะจ่ายค่าส่งไฟล์กลับด้วยค่าใช้จ่ายเพียง 0.0 USD เท่านั้น ผมก็ไช้วิธีนี้ส่ง Letter to shareholder ของ Berkeshire ไปแปลงกลับมา

คิดอะไรออกจะเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ครับ

4.หนังสือมันพลิกกลับหน้าไปมาได้ง่ายกว่าในกรณีที่เราต้องการย้อนกลับไปดู รูป กราฟ หรือข้อความในหน้าก่อน ๆ เพื่อเทียบกะหน้าปัจจุบันที่เราอ่าน

ถ้า Ebook OK ในเรื่องนี้ล่ะก็ หนังสืออะไรที่มี E-book ผมคงไม่ซื้อหนังสือกระดาษอ่านแน่ๆ ครับ

พอดีเป็นคอนิยายสืบสวน การพลิกกลับไปดูเงื่อนงำต่างๆ กลับไปกลับมาจำ้เป็นมากครับ สำหรับการอ่านนิยายแนวนี้ :lol:

คิดไม่ถึงเลยว่าเฉพาะคนมาตอบกระทู้นี้จะมีkindleเกือบสิบเครื่อง
ผมว่าเจ้าจองอเมซอนนี่เป็นอัจฉริยะทางธุรกิจพอๆดกับสตีฟ จ็อบส์เลย
kindleนี่เป็นแฟรนไชส์ในฝันเลยนะครับ
hardwareก็ผูกขาด
softwareก็ผูกขาด
power of repurchaseก็มหาศาล
แถมซื้อแล้วต้องrefillไปตลอด
ไม่มีสินค้าทดแทนหรือคู่แข่งที่ไกล้เคียง
จะมีธุรกิจอะไรดีกว่านี้อีก
ผมว่าพวกเราน่าจะหุ้นเงินกันไปวื้อหุ้นอเมซอนนะครับ
ไม่ทราบp/eแพงมากไหม

อีกอย่างผมว่าธุรกิจไทยปรับตัวช้ามาก
ตอนนี้นิตยสารวารสารต่างประเทสเป็นe-bookกันหมดแล้ว
ของไทยยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลย
แล้วแบบนี้จะไปแข่งขันกับต่างชาติได้อย่างไร
น่าเป็นห่วงนะครับ

ภาพปลากรอบ สำหรับท่านที่ยังไม่เคยได้ลอง E book ครับ

ไม่เหมือน I Pad ตรง E ink ไม่มีแสงออกมาจากจอ ความรู้สบายตาและง่วง...ZZ เหมือนกันเวลาอ่านนานๆ
ส่วนพวก tablet อย่าง I Pad เป็น LED จะง่วงยาก ส่วนมากจะปวดตา หรือตึงสะบัก+ต้นคอเพราะเครียดมากกว่า เหมือนเวลาดู LCD หรือ LED นานๆ
เพราะมันก็เหมือนเราจ้องหลอดไฟฟลูโอเรสเซ็นท์ตามบ้านที่ความสว่างน้อยลงมาหน่อย อยู่ตลอดเวลา ครับ