Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผลตอบแทนเงินปันผล+เครดิตภาษีนะครับ
เช่น

PL
SE-ED
S&P
FANCY
UVAN
WG
TVO
NPC
LST

น่าสนใจมากครับ บางตัวก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะสูงขึ้นด้วย เพราะธุรกิจกำลังขยายตัว แต่บางตัวก็กำไรค่อนข้างคงที่ครับ
เพื่อนๆมีหุ้นเหล่านี้ประดับพอร์ทกันหุ้นตก กันบ้างหรือเปล่าครับ :lol:

มี WG ตัวเดียวครับ
วันนี้อดีตหุ้นที่เคยมี Dividend งาม 1 ตัวของผมก็ทำให้ผมช้ำชอก
CPL ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 มีกำไร 1 สตางค์ต่อหุ้น ลดลงจาก 0.79 เมื่อปีที่แล้ว
ผมเลยขายทิ้งเลย ขาดทุนหนักที่สุดตั้งแต่เล่นมา

CPL มีอาการไม่ดีมาพอสมควรแล้วครับ
ไตรมาสที่แล้วหนักกว่า ขาดทุนประมาณ 17 ล้าน
ตอนนี้มีเงิน OD เืกือบๆ 300 ล้านแล้วครับ
สินค้าคงเหลือก็สูงมากกว่า 500 ล้าน!!

ผมเคยมีตัวนี้เมื่อต้นปีที่แล้วครับ ได้ปันผลดีครับ
และเครดิตภาษีได้มากด้วยครับ

ระวังปีนี้จะได้เงินปันผลน้อยกว่าปีก่อนซิครับ

tta 25 บาท q นี้ปันผล 1 บาท
tta 100 บาท q นี้ ปันผล 4 บาท
ถ้าทำได้อีกใน q หน้าจะปันผลรวม สำหรับผู้ซื้อ 4x4 = 16 % ??
นี่แค่เงินปันผลเหรอเนี่ยครับ บ้าไปแล้ว

ผมอ่านผิดครับ อิอิ งวดหกเดือน ขอโทษครับ

ของผมมี s&p กับ tvo ครับ s&p ก็ okแต่ tvoผมขาดทุนเยอะมากแต่ก็จะเก็บไว้ ส่วน cpl เหมือน Dr.T ครับขาดทุนไป 33 % เห็นงบออกมาแล้วทนไม่ได้ยอมขายทิ้งไปเลยดีกว่า ได้ปันผลมา หมื่นหนึ่งพันแต่ขาดทุนไปแสนสาม เลยกะโยกไปหาตัวที่ลงมาใกล้เคียงกันแต่มีอนาคตที่ดีกว่า

เลือกหุ้นได้น่าสนใจมาก ในนั้น ผม ไม่ มี 2 ตัวเองครับ หมายถึง มีเกือบหมดเลย

ข่าวร้ายก็คือ มี PL กับ Fancy ที่ยังกำไร นอกนั้น ขาดทุนหมดเลย ซื้อไว้สูงเกินไป ตอนนี้ เพียง แต่ จะเอาปันผล มาซื้อตัวไหนเท่านั้น เท่าที่เล็งไว้ อาจเพิ่ม ใน se-ed ก็เป็นได้

มี PL WG UVAN LST
เล็ง SE-ED และ mbk อยู่ครับ จงลงมา ๆๆๆๆๆ

มี PL WG UVAN LST
เล็ง SE-ED และ mbk อยู่ครับ จงลงมา ๆๆๆๆๆ

thank you krab.

มี อยู่ สี่ตัว ครับ

ที่ดูแล้วโอกาสได้ราคามูลหุ้นที่ดีดตัวขึ้น + ปันผลดีน่าจะเป็น

Fancy,wg ครับ

npc รอดูหน่อยดีกว่า ราคาน่าจะลงได้อีก

มีpl wg tvo se-ed
plเยอะสุด
wgรองลงมาครับ
อีก 2 ตัวกำลังสะสมครับ มีอยู่ไม่มาก

เคยมี UVAN ครับ

และถ้าเจ้ามือ ทำราคาให้อีกที
คงจะมีอีก ในเร็วๆนี้ อิอิ

ก็บอกแล้วว่าธุรกิจฟอกหนังตอนนี้ปวดหัวจะตาย
ตีกันจนปวดหัวแล้วเนี่ย
หาวัตถุดิบยังยากเลย
ตลาดก็เจอจีนแข่งด้วยอีก

Fancy ผลประกอบการออกมายังไม่ดีเลยนะครับ ไม่รู้จะประคองตัวไปได้แค่ไหน แต่ดูท่าทางจะยากเพราะปัญหาเก่าที่แก้ไม่ตกยังกดดันอยู่เยอะเหมือนกัน เช่น ต้นทุนผลิตสูงขึ้น, ปัญหาการผลิตไม่ได้มาตรฐาน, ค่าเงิน ฯ ผมก็ลุ้นๆอยู่เพราะราคาลงมาเรื่อยๆยังหาแนวรับไม่ได้เลยครับ

โอ@ เขียน:ก็บอกแล้วว่าธุรกิจฟอกหนังตอนนี้ปวดหัวจะตาย
ตีกันจนปวดหัวแล้วเนี่ย
หาวัตถุดิบยังยากเลย
ตลาดก็เจอจีนแข่งด้วยอีก

ทำไมธุรกิจฟอกหนังสัตว์ของ CWT ถึงดูดีล่ะครับ โดยเฉพาะราคา

สงสัยจะเป็นเพราะข่าวนี้ครับ





ผู้จัดการรายวัน - CWT ไตรมาสแรกปีนี้พลิกขาดทุนเป็นกำไร ผลจากความต้องการเบาะและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์เติบโตตามความต้องการของตลาดรถยนต์ที่พุ่งสูง อีกทั้งการปรับกลยุทธ์จากซัปพลายเออร์ เป็นผู้ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มรายได้ คาดปีหน้าอาจเพิ่มกำลังการผลิตหากความต้องการยังสูงต่อเนื่อง ปีนี้ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 25% หรือ 1,500 ล้านบาท

นายวีระพล ไชยธีรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 38.75 ล้านบาท พลิกจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 2.08 ล้านบาท ส่งผลให้จากที่ขาดทุนต่อหุ้นอยู่ 9 สตางค์เป็นมีกำไรต่อหุ้น 1.72 บาท

เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งเติบโตตามความต้องการของตลาด ส่งผลให้ธุรกิจเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ของบริษัทได้รับการตอบรับจากลูกค้าเพิ่มขึ้น และยังเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตดี โดยคาดว่าตลาดเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ในปีนี้จะโตประมาณ 70% ซึ่งถือ ว่าโตสูงสุดในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทที่จำหน่ายอยู่

อีกทั้งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานจากเดิมที่เป็นแค่ซัปพลายเออร์คอยป้อนผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าตามสั่ง ปัจจุบันกลายมาเป็นผู้ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวคือมีการออกแบบและพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ ทั้งด้านสีสันและการตัดเย็บให้มากขึ้นซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทได้รับการยอมรับ และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม

นอกจากนี้จากการที่ค่ายรถยนต์ฮอนด้าเข้าไปเปิดตลาดในประเทศจีน CWT ก็จะได้รับผลดีในฐานะที่เป็นพันธมิตร เนื่องจากฮอนด้าจะต้องสั่งเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ด้วย อย่างไรก็ตาม CWT ไม่ได้รับผลิตสินค้าดังกล่าวให้กับรถยนต์ค่ายนี้ทุก รุ่น คงเพราะในประเทศจีนนั้นจะรับผลิตให้เฉพาะรุ่นแอคคอร์ดและซีอาร์วีเท่านั้น เนื่องจากบริษัทได้มีการผลิต เบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์สำหรับรถรุ่นใน ไทย ทำให้บริษัทไม่ต้องยุ่งยากในการออกแบบผลิต-ภัณฑ์ใหม่

"ฮอนด้านั้นจะไปเปิดตลาดที่กวางเจาประเทศจีน เราในฐานะพันธมิตรก็ได้รับผลดีคือการผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ให้ แต่เราคงไม่รับไปทำ ให้ทุกรุ่น เพราะตลาดที่นั่นมูลค่าใหญ่จนเรารับไม่ไหว คง ต้องเลือกที่จะโต ส่วนรายได้จากตรงนั้นจะรับรู้ในปีหน้า"นายวีระพล กล่าว

ทั้งนี้ในไตรมาส 1 ปี 2547 บริษัทได้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ให้ธุรกิจยานยนต์ทั้งสิ้น 57,998 คัน ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น โดยบริษัทผลิตให้กับโตโยต้ามากสุดถึง 33,107 คัน ฮอนด้า 12,457 คัน ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2546 บริษัทผลิตให้ธุรกิจยานยนต์ทั้งสิ้น 44,065 คัน โดยเป็นโตโยต้า 17,778 คัน และฮอนด้า 11,371 คัน

นายวีระพล กล่าวถึงการขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตนั้น ในปีนี้ยังคงไม่เกิดขึ้นเนื่องจากกำลังการผลิตยังเพียงพอ โดยปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตเกือบเต็มแล้ว ซึ่งหากเพิ่มกำลังการผลิตคาดว่าน่าจะเป็นปี 48

ปัจจุบันบริษัทมี 2 โรงงานที่สร้างกำลังการผลิตได้ โดยหนังสัตว์ฟอกผลิตได้ 2 ล้านตารางฟุตต่อเดือน เฟอร์นิเจอร์หนัง 30 คอนเทนเนอร์ต่อเดือน ของเล่นสัตว์เลี้ยง 15 คอนเทนเนอร์ต่อเดือน เบาะหนังและชิ้น ส่วนหนังสำหรับรถยนต์ 2 หมื่นคันต่อเดือน

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2547 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 421 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% หรือเพิ่มขึ้น 62 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2546 หรือเพิ่มขึ้น 17% โดยในไตรมาสนี้บริษัทมี กำไรสุทธิถึง 39 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อนที่บริษัทขาดทุนสุทธิ 2 ล้านบาท ส่วนปี 2547 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตขึ้น 25-30% หรือคิดเป็นประมาณ 1,500 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังได้นำส่วนเกินมูลค่าหุ้นมาล้าง ขาดทุนสะสม จนสามารถล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 ได้ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการที่มีกำไรในปี 2547 ได้ โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัท มาจาก 4 ธุรกิจ คือ รายได้จากธุรกิจยานยนต์ คือ เบาะหนังและชิ้นส่วน หนังสำหรับรถยนต์ได้ 245 ล้านบาท คิดเป็น 58.27% ของรายได้รวม รายได้จากธุรกิจหนังสัตว์ฟอก 146 ล้านบาท คิดเป็น 34.64% ของรายได้รวม รายได้จากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ 13 ล้านบาท คิดเป็น 3.16% ของราย ได้รวมและธุรกิจของเล่นสัตว์เลี้ยงมีรายได้ 17 ล้านบาท คิดเป็น 3.93% ของรายได้รวม

"ธุรกิจยานยนต์เป็นตัวสร้างรายได้หลักให้บริษัทคาดว่าปีนี้เราคงโตขึ้นมาก โดยธุรกิจนี้คู่แข่งสำคัญในประเทศยังไม่ค่อยมี ซึ่งประเทศคู่แข่งมีเพียงอิตาลี และออสเตรเลีย เพราะสินค้าเขามีคุณภาพและสินค้าดูมีราคา ส่วนธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และของเล่นสัตว์เลี้ยงไม่เติบโตมากนักคงเป็นการรักษาระดับมากกว่า" นายวีระพล กล่าว

สำหรับปี 2546ที่ผ่านมา CWT ส่งออกสินค้า 52% ขณะที่ขายในประเทศ 48% โดยคาดว่าปีนี้ในประเทศสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 55% ผลจากยอดขายในประเทศเติบโตเร็วมาก

[/quote]

ผมว่าหุ้นบางตัว เช่น PL WG และ UVAN ซึ่งดูแล้วราคาตำกว่ามูลค่า PL ยังมีลุ้น Growth ที่ดูจะไม่หยุดง่ายๆ ถ้า GDP ยังโตกว่า 5% ส่วน WG ก็มีเงินสดให้ลุ้น UVAN ก็หนี้น้อยมากๆ ปันผลน่าจะงามที่สุดในสามตัวนี้ แต่ดูท่าราคาจะยังไม่ไปไหนในเร็ววันนี้เพราะรายใหญ่ยังไม่สน รายย่อยก็ยังไม่คายของ โดยเฉพาะ PL ผมว่ารายย่อยถือตัวนี้กันพอสมควรด้วยฝีมือการวิเคราะห์ของเหมือนสมัยก่อนตอนที่ PSL อยู่แถว 40-90 ก่อนแตกพาร์ ที่มีการกดกันน่าดูกว่าจะพาวิ่งไปที่ 50 หลังแตกพาร์ แต่เราคงไม่ได้เห็นอะไรแบบนั้นอีกแล้วมั้งปีนี้ หรือเพื่อนๆว่ามีหุ้นตัวไหนที่จะทำแบบนั้นอีกบ้าง

SPALI ราคา 2.96 ปันผล 0.50 ทำไมคิด DY ในหนังสือพิมพ์ไม่ถึง 10 % ครับ