หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ....?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2011 11:31 pm
โดย ming1714
ธุรกิจที่มีการแข่งขันกันผลิต/ขายสูง... ผมแปลเอาเองว่าคงหมายถึงสินค้าส่วนใหญ่ตามโรงงาน ...(โรงงานนรก
)
สิ่งทอ อิเลคฯ ยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า ล้วนแข่งกันผลิต แข่งกันขายทั้งสิ้น
..ลูกค้าสามารถหาสินค้าได้จากทุกที่ในโลก ด้วยคุณภาำพใกล้เคียงกัน(แต่ต้นทุนการผลิตอาจจะไม่เท่ากัน)
แบบนี้แสดงว่าธุรกิจ"โรงงาน" จะดูไม่น่าสนใจ กำไรไม่คุ้มค่าเหนื่อยหรือเปล่าครับ...
ถ้ามุมของธุรกิจยังไม่น่าสนใจ(ต้องเหนื่อยมากไป เพื่อกำไร)...แล้วในมุมของ"หุ้น"ยังจะหน้าสนใจหรือไม่ครับ
ปล.ธุรกิจ Local ที่คิดว่าน่าสนใจในตลาดหลักทรัพย์ มีตัวไหนบ้างหรือครับ...(ธุรกิจหมอนวดไม่มีแน่นอน
)
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2011 11:55 pm
โดย KGYF
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 1:00 am
โดย harikung
ธุรกิจสิ่งทอและการ์เม้นตัดทิ้งได้เลยครับ รอวันดับเต็มที ส่วนธุรกิจอื่นรอผู้รู้ท่านอื่นมาตอบแล้วกันนะครับ
ปล.บ้านผมทำโรงงานการ์เม้นจึงกล้าพูดได้ครับ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 9:10 am
โดย chukieat30
ธุรกิจการเกษตรและ อุตสาหกรรมน้ำดื่มครับ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 9:12 am
โดย chukieat30
โรงไฟฟ้า และ การประปาครับ
ธุรกิจมัดมือชก ไม่ต้องแข่งครับ มีเท่าไหร่ก้ขายได้ทั้งหมด
จึงเป็นที่มาของ โรงไฟฟ้าดับเ้ิบิ้ล-เอ โรงไฟฟ้าโซล่าร์-บางจากครับ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 9:19 am
โดย chukieat30
อีกธุรกิจที่น่ามองคือ ธุรกิจยา ที่คิดค้นเป็นคนแรกครับ
-ยารักษาโรคเอดส์
-ยารักษาโรคมะเร็ง
ถ้าลองมองย้อนตั้งแต่อดีต-ตอนนี้ ใครคิดได้ก่อนทำได้ก่อน รวยก่อนครับบ
ไม่เว้นแม้กระทั่ง หุ้น
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 9:24 am
โดย ming1714
แล้วธุรกิจโรงงานทั้งหลายที่ไทยรับจ้างผลิต(แข่งกับโรงงานทั่วโลก) ไม่น่าสนใจแล้วหรอครับ...
เคยมีการวิเคราะห์ถึง Timing ของมันมั้ยครับ... เช่น
หลังจากนี้ไปอีก 20 ปี คงเป็นธุรกิจที่เหนื่อยเปล่า...(แต่เราคงไม่ได้ถือหุ้นไว้ถึง 20 ปีหรอก) เพราะงั้นเราถือต่อได้อีกซัก 10-15 ปีน่าจะกำลังดี
ปล.แต่เวลาโลกหมุนเปลี่ยนเวียนไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน...การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้เสมอ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 10:01 am
โดย chukieat30
ming1714 เขียน:แล้วธุรกิจโรงงานทั้งหลายที่ไทยรับจ้างผลิต(แข่งกับโรงงานทั่วโลก) ไม่น่าสนใจแล้วหรอครับ...
เคยมีการวิเคราะห์ถึง Timing ของมันมั้ยครับ... เช่น
หลังจากนี้ไปอีก 20 ปี คงเป็นธุรกิจที่เหนื่อยเปล่า...(แต่เราคงไม่ได้ถือหุ้นไว้ถึง 20 ปีหรอก) เพราะงั้นเราถือต่อได้อีกซัก 10-15 ปีน่าจะกำลังดี
ปล.แต่เวลาโลกหมุนเปลี่ยนเวียนไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน...การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้เสมอ
คุณมิ่ง ลองมองแบบนี้ดูสิครับ ถ้าหากจะหาห่านในฝูงห่านมันย่อมจะหาง่าย
เพราะมันมีมากมาย เราไม่รู้ว่าห่านตัวไหนจะดีไม่ดี แต่โดยรวมๆๆมันแค่ห่าน
แต่ถ้าเรามองเห็นห่านทองคำในฝูงห่านได้ ก้จะมองเห็น ความแตกต่างที่ยั่งยืนครับ
กิจการที่ผลิตสินค้าประเภทเดียวกัน มีเยอะแยะมากมาย แต่จะมีสักกี่กิจการที่ดำรงความยิ่ง
ใหญ่ในการผลิตสินค้านั้นไว้ได้
เพราะธุรกิจคือ การแข่งขัน ดังนั้นผู้อ่อนแอกว่าหรือกิจการที่เป็นไดโนเสาร์ก้ต้องล้มหาย
ตายจากไป
ธูรกิจก้แบบนี้แหล่ะครับ
หากกิจการใดตัดโครงสร้าง ฝ่ายวิจัยออก บริษัทนั้นก้เตรียมพับกระเป๋าเก็บกลับบ้านได้เลยครับ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 10:33 am
โดย ming1714
chukieat30 เขียน:ming1714 เขียน:แล้วธุรกิจโรงงานทั้งหลายที่ไทยรับจ้างผลิต(แข่งกับโรงงานทั่วโลก) ไม่น่าสนใจแล้วหรอครับ...
เคยมีการวิเคราะห์ถึง Timing ของมันมั้ยครับ... เช่น
หลังจากนี้ไปอีก 20 ปี คงเป็นธุรกิจที่เหนื่อยเปล่า...(แต่เราคงไม่ได้ถือหุ้นไว้ถึง 20 ปีหรอก) เพราะงั้นเราถือต่อได้อีกซัก 10-15 ปีน่าจะกำลังดี
ปล.แต่เวลาโลกหมุนเปลี่ยนเวียนไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน...การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้เสมอ
คุณมิ่ง ลองมองแบบนี้ดูสิครับ ถ้าหากจะหาห่านในฝูงห่านมันย่อมจะหาง่าย
เพราะมันมีมากมาย เราไม่รู้ว่าห่านตัวไหนจะดีไม่ดี แต่โดยรวมๆๆมันแค่ห่าน
แต่ถ้าเรามองเห็นห่านทองคำในฝูงห่านได้ ก้จะมองเห็น ความแตกต่างที่ยั่งยืนครับ
กิจการที่ผลิตสินค้าประเภทเดียวกัน มีเยอะแยะมากมาย แต่จะมีสักกี่กิจการที่ดำรงความยิ่ง
ใหญ่ในการผลิตสินค้านั้นไว้ได้
เพราะธุรกิจคือ การแข่งขัน ดังนั้นผู้อ่อนแอกว่าหรือกิจการที่เป็นไดโนเสาร์ก้ต้องล้มหาย
ตายจากไป
ธูรกิจก้แบบนี้แหล่ะครับ
หากกิจการใดตัดโครงสร้าง ฝ่ายวิจัยออก บริษัทนั้นก้เตรียมพับกระเป๋าเก็บกลับบ้านได้เลยครับ
ขอบคุณครับ , ผมคงต้องตั้งใจหาห่านทองคำแล้วล่ะครับ ...เพราะสุดท้ายห่านทองคำคงจะไม่เหนื่อยเปล่า และห่านที่เหนื่อยเปล่าคงจะตายไป ^^"
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 10:41 am
โดย Paul Octopus
เป็นคำถามที่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะลืมมองไป
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ขยายกำลังการผลิตเสร็จ พยายามขายให้หมด แล้วก็ขยายใหม่และขายให้หมด ... วันหนี่งต้องจบ
สุภาษิตจีน(จริงใช่เปล่าไม่รู้) บอกไว้ว่า ถ้าเดินไปตามถนนเรื่อยๆ วันหนี่งจะตกถนน ถ้าไม่รู้จักเลี้ยวซ้าย หรือ ขวา หรือ ลดความเร็วลงบ้าง
ดังนั้นธุรกิจใดๆก็ตามผมจะต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า มันยังอยู่ใน วงเวียนของ ผลิตเพื่อหาทางขาย หรือ ได้ข้ามวงเวียนนั้นมาแล้ว การประเมิน Value of Firm ผมจะให้มูลค่าที่แตกต่างกัน
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 11:28 am
โดย mprandy
ธุรกิจอะไรก็ต้องแข่งขันทั้งนั้นครับ ธุรกิจที่ไม่มีคนแข่ง แสดงว่าอาจเป็น monopoly หรือเป็นธุรกิจที่คนเลิกทำไปหมดแล้วจริง ๆ ซึ่งกรณีหลังผมยังหาไม่เจอเลย
อยากให้มองด้านดีของการแข่งขันบ้างนะครับ competition ในขนาดที่เหมาะสมทำให้ธุรกิจ healthy มากกว่าในระยะยาว ... ลองดู CAT Telecom กับ Thailand Post เป็นตัวอย่าง ต้นกำเนิดเดียวกัน แต่สถานการณ์ปัจจุบันคนละเรื่อง
ธุรกิจผู้เล่นมากราย แสดงว่า barrier to entry ต่ำ ... เขาแข่งขัน และยืนอยู่เป็นผู้นำได้ด้วยอะไร น่าสนใจนะครับ ...
ทิ้งไว้ให้เสวนา
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 11:29 am
โดย ducky
ในดีมีแย่ ในแย่มีดี ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นนิยามที่ถูกต้องได้ครับ เพราะสองคนยลตามช่องก็บอกไว้แล้วครับ ยิ่งเรารู้มากก็ยิ่งได้เปรียบเพราะผมพวงของการรอบรู้ในหลายๆเรื่องมันจะ process ในหัวเราเองโดยอัตโนมัติ สักคืนนึง หรือ สักปีนึง มันจะ OUTPUT ผลงานออกมาดีเอง ผมชอบชนกับปัญหาครับ เลียนแบบกระทิงแดง
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 12:23 pm
โดย กาละมัง
เห็นด้วยกับคุณ ming1714 ถ้าเราจะทำอุตสาหกรรมแข่งกับเขา
แต่เราเป็นนักลงทุน เราเลือก leader , top pick หรือ hero ครับ คือ บริษัทที่ดีน่าลงทุนที่สุด ครับ
เราไม่ได้เหนื่อย เรารอรับแต่ผลตอบแทนเท่านั้นครับ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 12:59 pm
โดย Sumotin
วิเคราะห์เป็นธุรกิจไปมันก็ไม่ได้เหมือนกันนะครับ เพราะสินค้าต่างๆสามารถไปได้ทั่วโลกอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าที่ไหนต้นทุนต่ำกว่ากันเค้าก็ไปให้ที่นั้นผลิต แต่ก็ยังมีเรื่องของคุณภาพมาเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกันไม่ได้คุณภาพก็อาจจะไม่ย้ายไป เรื่องเงินลงทุนก็เป็นอีกปัจจัย รวมทั้งค่า logistic ด้วยไม่งั้นพวกโรงงานรถ คงไม่มีเหลือผลิตใน อเมริกาเลยแล้วแหละครับ
ฉะนั้นในทุกธุรกิจมีผู้แพ้และผู้ชนะอยู่แล้ว แล้วก็ธุรกิจที่ตายในประเทศหนึ่งอาจจะเป็นธุรกิจดาวโรจน์ของอีกประเทศก็ได้ครับ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 4:50 pm
โดย ซุนเซ็ก
ทุกธุรกิจจะมีวัฏจักรของมันครับ
เริ่มต้น -> ขยายตัว -> เฟื่องฟู -> ถดถอย เป็นเช่นนี้เกือบทุกธุรกิจ
อย่างเช่นการ์เม้นที่ถดถอยในไทยไปแล้ว แต่กำลังเฟื่องฟูที่เวียดนาม, ขยายตัวที่กัมพูชา
แต่บางบริษัทก็ที่กำลังอยู่ในยุคเฟื่องฟูก็อาจจะขยับไปธุรกิจสายอื่นด้วย เพิ่มรอบวัฎจักรเริ่มเติบโตใหม่
อย่างเช่น APPLE ที่ผลิตคอมพิวเตอร์แล้วขยับมาทำมือถือ ทำให้เติบโตและเฟื่องฟูต่อไปอีก
ธุรกิจที่เหนื่อยมากเพื่อทำกำไรน้อย เป็นไปได้ทั้งยุคเริ่มต้นและการถดถอย ต้องย้อนดูอดีตของบริษัท
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 8:37 pm
โดย unnop.t
ถ้าเรามองที่ตัวสินค้า และคุณค่าต่อผู้บริโภคเป็นตัวตั้ง
โรงงานที่ผลิตสินค้าที่นับว่าเป็น commodity ผู้ที่อยู่รอดในท้ายที่สุดคือผู้ที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ถึงแม้สินค้าจะไม่น่าสนใจ แต่สุดท้ายมันก็ต้องมี
ใครสักคนทำ อย่างเสื้อผ้า มันไม่น่าสนใจเพราะว่าเราไม่สามารถเป็นผู้นำด้านต้นทุนต่ำอีกได้แล้ว ถ้าผู้บริโภคไม่เห็นความแตกต่างคุณค่า
ของสินค้าในสายตาผู้บริโภคคือ ราคา
ถ้าโรงงานเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณค่าหรือมูลค่าในใจผู้บริโภคสูงมาก ราคาไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าบริษัทมี barrier of entry สูง ก็จะสามารถ
สร้างผลกำไรที่ดีได้ต่อไปได้นาน ไม่เหนื่อยเท่าแบบแรก
เมืองไทยเรายังจมอยู่กับความได้เปรียบในอดีตคือ แรงงานถูก โดยที่ไม่พยายามทำอะไรได้ดีขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายจีน เวียดนาม อินเดีย
ก็มาแข่งเรื่องแรงงานถูก อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอิเลกเป็นตัวอย่างทีี่่่ดี
ถ้าผมจะลงทุนในกลุ่มโรงงานที่ค่อนข้างเป็น commodity ผมคงต้องหาผู้ชนะ (ที่มีต้นทุนต่ำที่สุด) ในอุตสาหกรรมนั้น
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 9:02 pm
โดย mameepoko
ตอนจะมาเกิดเรายังแข่งกันเลยครับ แล้วทำธุรกิจให้มีชีวิตรอดจะไม่แข่งกันบ้างได้ไง
จริงอยู่ที่ไทยเคยใช้ได้เปรียบเรื่องค่าแรงถูกแต่ตอนนี้เราก้าวข้ามจุดนั้นไปสู่สิ่งที่ล้ำหน้ากว่าคือการรวมกลุ่มทางอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนขนาดใหญ่อีกตัวคือ Logistic & Supply chain. ทำไมคนทำอุตสาหกรรมยานยนตร์ต่างมุ่งหน้ามาที่ไทย ทั้งที่ค่าแรงในบางประเทศถูกกว่าและการเมืองนิ่งกว่า เพราะการกระจุกตัวของ Auto part ทำให้ลดต้นทุนการขนส่งไปได้อย่างมีนัยยะ ทำให้ในระยะยาวแล้วคุ้มค่ากว่ามาก เป็นต้น
เพราะการแข่งขันทำให้เกิดการพัฒนา ผู้กำลังจะแพ้ก็จะเริ่มทำสงครามราคาให้อุตสาหกรรมเข้าสู่ Red ocean ซึ่งผู้เล่นที่ชาญฉลาดจะไม่โดดร่วมวง ตัวอย่างเช่น Apple, Sony ที่การลดราคามีไว้เพื่อบอกว่าของตกรุ่นแล้วเท่านั้น
ผมเดาว่า
'สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ'ของพี่มิ่งน่าจะหมายถึงคนกลุ่มหลัง ใช่ไหมครับ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 9:20 pm
โดย ming1714
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์มากเลยครับ...
กระทู้นี้เปิดสมองผมเพิ่มอีกห้องหนึ่งแล้ว..
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 10:35 am
โดย doo_meau
ชอบกระทู้นี้มากครับ ผมเป็นคนนึงที่เป็นเจ้าของกิจการค้าส่งเสื้อผ้าตั้งแต่การผลิต-ยันขาย
โดยตัวผมเองนั้นยังเปิดกิจการมาได้ไม่ถึงปีก้พบปัญหาการแข่งขันกันที่สูงมาก โดยบางพวกก็ทำเหมือนที่กล่าวกันไว้คือ แข่งกันลดราคา แข่งกันผลิต แข่งกันขาย สุดท้ายก็จะมีสินค้าส่วนหนึ่งที่เหลืออยู่จนเป็น stock ก็กลายเป็นเหนื่อยเปล่า แต่บางพวกก็เน้นการ add value ลงไปในตัวสินค้าทุกชิ้นเพื่อส่งมอบไปให้ลูกค้า พวกนี้จะผลิตน้อยกว่า แต่ไม่ค่อยมีคนมาแข่งนั้น ทำให้ทำมาเท่าไหร่ก็หมด
แต่บางพวกก็แข่งกันผลิตและลดราคา แต่ที่เค้าได้ตามมาคือความภักดีของลูกค้า และกำลังการผลิตที่ขยายใหญ่ขึ้นมาก จนสามารถเป็นผู้นำในสินค้าประเภทนั้นๆไปเลย
ที่พูดมาทั้งหมดก็เป็นการคิดของผมเองเพราะในตระกูลผมทำธุรกิจประเภทนี้เกือบทั้งนั้น โดยตัวผมเองเพิ่งจะมีโอกาสเปิดกิจการเพียงไม่ถึงปี ผมจึงอยากขอแชร์ไอเดียหน่อยครับว่า ถ้าเราเป็นผู้เล่นที่เข้ามาใหม่ มีทางใดบ้างที่เราจะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้ค้ารายเก่ามาได้ หรือทำยังไงที่ผมจะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าของตัวเองได้บ้างครับ ขอบคุณครับ
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 1:27 pm
โดย petro-expert
ผมแหละครับ ธุรกิจ ไม่คำว่ายั่งยืน มีแต่คำว่าปรับตัวอยู่สมํ่าเสมอ ในหลายด้าน เมืองไทยไม่ใหญ่ งบในการพัฒนาน้อยครับเราจึงไม่มีนวัตกรรมที่สามารถ ทำเป็น ธุรกิจที่ยั่งยืนได้ แต่ผมว่าเราสามารถปรับตัวได้ดีระดับหนึ่ง ไม่จะเป็นโรงงานหรือไม่ ไม่น่าเกี่ยว
Re: ธุรกิจที่แข่งขันกันผลิต/ขายสูง สุดท้ายก็เหนื่อยเปล่าๆ...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 1:40 pm
โดย iSpurs
อ่านเล่มนี้ หรือยังครับ..?