หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 5:29 pm
โดย porzilla
เมื่อวานผมดูข่าวครับ ว่าปลายปี54ตลาดหลักทรัพย์ไทยจะสามารถซื้อหุ้นของสิงคโปค์และเวียดนามได้ คิดว่าจะส่งผลประทบต่อนักลงทุนรายย่อยอย่างไร เนื่องจากมีข่าวสารข้อมูลน้อยกว่านักลงทุนสถาบัน แล้วแถมเรายังไม่รู้ถึงสภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ของสิงคโปค์และเวียดนาม ที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกิจการ รายได้ และกำไร แต่อีกมุมนึงก็นับว่าเป็นโอกาสในการลงทุนเพราะมีช่องทางการลงทุนเพิ่มขึ้นให้สามารถซื้อหุ้นบริษัทนอกประเทศได้ แต่ปัญหาก็คือ....โดยส่วนตัวแล้ว ข้อมูลของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิงคโปค์และเวียดนามของผมเกือบจะเป็นศูนย์ ไม่รู้อะไรเลยว่าประเทศเค้าเศรษฐกิจเป็นแบบไหน นิยมบริโภคอะไร อะไรขายดี เทรนตอนนี้อะไรมา แฟชั่นแบบไหนมา ห้างไหนดัง การเมืองมั่นคงไหม ฯลฯ

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 5:52 pm
โดย ซุนเซ็ก
สนใจตลาดเวียดนามครับ เห็นมีหุ้น PE 3-4 เต็มตลาด
เมื่อปี 2007 VNINDEX เคยขึ้นไปถึง 1100 จุด ปัจจุบันเหลือ 400 กว่าจุด
เหมือนไทยตอนปี40 มากครับ ซึ่งปรจารย์ VI ไทยหลายคนก็ได้แจ้งเกิดในตอนนั้น
แต่ปัจจัยลบที่สุดก็คือค่าเงินด่ง ที่รัฐบาลเวียดนามประกาศลดค่าเงินมาแล้ว 4 รอบ...

เรื่องเทรนเศรษฐกิจ อย่างเวียดนามผมคิดว่าน่าจะย้อนดูจากอดีตบ้านเราได้มากพอควร

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 6:37 pm
โดย cntclub
ซุนเซ็ก เขียน:สนใจตลาดเวียดนามครับ เห็นมีหุ้น PE 3-4 เต็มตลาด
เมื่อปี 2007 VNINDEX เคยขึ้นไปถึง 1100 จุด ปัจจุบันเหลือ 400 กว่าจุด
เหมือนไทยตอนปี40 มากครับ ซึ่งปรจารย์ VI ไทยหลายคนก็ได้แจ้งเกิดในตอนนั้น
แต่ปัจจัยลบที่สุดก็คือค่าเงินด่ง ที่รัฐบาลเวียดนามประกาศลดค่าเงินมาแล้ว 4 รอบ...

เรื่องเทรนเศรษฐกิจ อย่างเวียดนามผมคิดว่าน่าจะย้อนดูจากอดีตบ้านเราได้มากพอควร
ลองอ่านข่าวกรุงเทพธุรกิจสิครับ ตอนนี้ดอกเบี้ยฝากประจำเวียดนาม 10-12% แต่หุ้นปันผล4-7% เหมือนตอนต้มยำกุ้งที่ดอกเบี้ยธนาคารมากกว่าเงินปันผล เมื่อนั้นแหละฟองสบู่ แล้วดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารจะขนาดไหนที่จะทำให้ได้กำไรจากดอกเบี้ยเงินฝาก
ส่วนสิงค์โปรผมว่าธุรกิจแข็งแกร่งหลาย บมจ. ครับพอดีมีเพื่อนอยู่

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 7:43 pm
โดย thaloengsak
ช่วงหลังปิดไฟแนนซ์ดอกเบี้ยเงินฝาก เทียบกับปันผลเป็นเช่นไรครับ

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 8:08 pm
โดย canuseeme
ส่ง ผลกระทบต่อ รายย่อย อย่างไร

ดี แน่นอน ครับ มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 8:38 pm
โดย ชีซี
อยากให้เกิดขึ้นจริง ๆ

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 9:38 pm
โดย dollarcostaverage
ดีต่อรายย่อยมากๆครับ แต่ปัญหาคือผมว่าคงมีคนไปลงทุนน้อยมาก เพราะ 1 ข้อมูลทุกอย่างของสิงค์โปร์เป็น ภาษาอังกฤษหมด ยกเว้นแต่โบรกเกอร์ของแต่ละที่จะแปลภาษามาให้น่าจะดีต่อรายย่อย แต่ผมคงนึงแน่นอนที่จะกระจายเงินไป สิงคโปร์ แค่คิดก็สวรรค์ละ ไม่ต้องมานั่งพะวงกับปัญหาการเมืองเมืองไทย

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 9:40 pm
โดย dollarcostaverage
ผมยอมรับได้กับ crisis ทางเศรษฐกิจ political risk มันยากที่่จะทำใจเพราะผมไม่อยากเห็นคนไทยทะเลาะกันด้วย ไม่รู้เกี่ยวป่าว 55

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 10:08 pm
โดย << New >>
ที่จริงตอนนี้ ตลาดไทยก็อนุญาติให้ไปเทรดต่างประเทศได้แล้วนะ หลายโบรกก็เปิดๆกันอยู่

ถ้าให้ไปเทรดหุ้นสิงคโปร์กับเวียดนามได้ แรกๆก้คงเงียบๆไม่ค่อยมีคนสนใจมั้ง

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 10:18 pm
โดย ปรัชญา
ถ้าลงทุนหุ้นเวียดนาม แลกเงินไปซื้อ

กำไรหุ้นพอลดค่าเงิน จากกำไรอาจจะเป็นขาดทุนกับอัตราแลกเปลี่ยนได้
น่าจะเป็นความเสี่ยงอย่างแรก

อย่างต่อมา ผู้บริหารมีจรรยาบรรณมากน้อยอย่างนักลงทุน คงต้องไปสืบเสาะค้นหา
อย่างอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงอีกเรื่องงบดุล ระบบบัญชี
การโปร่งใส ข้อมูล เปิดเผยมากน้อยเพียงใดฯ

กรณี สิงคโปร์ ค่าเงินจะมั่นคงมีเสถียรภาพมากกว่าเวียดนาม
ตามที่เคยได้สัมผัสกับ2ประเทศนี้มาบ้างครับ

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2011 10:32 pm
โดย dollarcostaverage
ต้องมานั่งคิด exchange rate อีก

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 22, 2011 9:44 am
โดย Paul VI
สำคัญที่าุดในการลงทุนต่างประเทศ

คงต้องดูเรื่องการเปลี่ยนแปลงและทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศที่จะไปลงทุนครับ :D

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 22, 2011 8:58 pm
โดย offshore-engineer
ผมอยากให้ตลาดของ ASEAN ทั้งหมดสามารถซื้อขายผ่านกันได้เลยครับ ASEAN เป็นตลาดที่ใหญ่ ประชาการเยอะ และ มีความ diversify สูง มีบริษัทดีๆเยอะพอสมควรครับ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุน

ตลาดหุ้นสิงคโปร์พัฒนาไปค่อนข้างไกลครับ เมื่อเร็วๆนี้ SGX ขอซื้อตลาดออสเตรเลียครับ (ASX) แต่เจอรัฐบาลออสเตรเลียขวางอยู่ ตอนนี้เลยมีข่าวลือว่า SGX กำลังจะเพิ่มราคาซื้อ และ ให้ที่นั่งบอร์ดกับชาวออสเตรเลียเพิ่มขึ้น

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 22, 2011 10:29 pm
โดย ArtTheOracle
ผมคิดเหมือนคุณ offshore-engineer เลยครับ

ความน่าสนใจของตลาดในภูมิภาคนี้ คือการรวมตัวกันของตลาดหุ้น กลายเป็นตลาดหุ้น ASEAN ไม่ใช่แค่ ASEAN top 40 ของแต่ละประเทศ

รบกวนสอบถามผู้รู้หน่อยครับ ถ้าจะซื้อหุ้นเวียดนาม ถ้าผ่านโบรกไทย มีโบรกไหนรับไหมครับ แล้วเงินขั้นต่ำเท่าไหร่

อีกวิธีที่คิดไว้คือ ไปเปิดบัญชีหลักทรัพย์ของเวียดนามเองเลย มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนกันครับ

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 22, 2011 11:23 pm
โดย getkung
porzilla เขียน:เมื่อวานผมดูข่าวครับ ว่าปลายปี54ตลาดหลักทรัพย์ไทยจะสามารถซื้อหุ้นของสิงคโปค์และเวียดนามได้ คิดว่าจะส่งผลประทบต่อนักลงทุนรายย่อยอย่างไร เนื่องจากมีข่าวสารข้อมูลน้อยกว่านักลงทุนสถาบัน แล้วแถมเรายังไม่รู้ถึงสภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ของสิงคโปค์และเวียดนาม ที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกิจการ รายได้ และกำไร แต่อีกมุมนึงก็นับว่าเป็นโอกาสในการลงทุนเพราะมีช่องทางการลงทุนเพิ่มขึ้นให้สามารถซื้อหุ้นบริษัทนอกประเทศได้ แต่ปัญหาก็คือ....โดยส่วนตัวแล้ว ข้อมูลของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิงคโปค์และเวียดนามของผมเกือบจะเป็นศูนย์ ไม่รู้อะไรเลยว่าประเทศเค้าเศรษฐกิจเป็นแบบไหน นิยมบริโภคอะไร อะไรขายดี เทรนตอนนี้อะไรมา แฟชั่นแบบไหนมา ห้างไหนดัง การเมืองมั่นคงไหม ฯลฯ
ผมคงความรู้น้อยกว่าคนอื่นครับ เลยตอบได้แค่ ถ้าผมเข้าใจธุรกิจเค้า ผมก็สนใจลงทุน แต่ถ้าผมไม่เข้าใจ ผมก็คงไม่ยุ่ง ผมยอมเสียโอกาสในการทำกำไรจากสิ่งที่ผมไม่เข้าใจครับ

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 23, 2011 11:50 pm
โดย Shinning
ผมว่าก็ไม่ส่งผลอะไรครับ เราจะมีตัวเลือกมากขึ้น
ส่วนเรื่องข่าวสาร นักลงทุนสถาบันเขาก็เป็นคนเหมือนพวกเรา
ข้อมูลข่าวสารเดี๋ยวนี้กว้างมาก สามารถใช้อินเตอร์เนตหาข้อมูลได้มากมาย

ใช้เวลาและศึกษาเหมือนเราที่เริ่มต้นลงทุนในตลาดของไทย :P

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 23, 2011 11:58 pm
โดย wiwatwcom
ได้ลงทุนในตลาดเวียดนาม ตอนซื้อ คาดการว่าเหมือนซื้อหุ้น ประเทศไทย เหมือนเมื่อปี 40 ซึ่งในไทย ไม่มีโอกาสแบบนั้นแล้ว
พอซื้อแล้วเป็นไปตามคาด เหมือนซื้อประเทศไทย เมื่อปี 40 นั้นคือ บริษัทกำลังโตต่อเนื่อง โตมากจากฐานที่ต่ำ
ผู้บริหาร จรรยบรรณ ระบบบัญชี การทำงานของพนักงาน การใส่ใจลูกค้า ความล่าช้าในระบบการทำงานก็เหมือนไทย
สรุปคือ เราได้ซื้อหุ้นเหมือเราได้ซื้อทุกอย่างที่ต้องการและไม่ต้องการ เหมือน ไทยปี 40
ซื้อตอนนี้ เหมือนจ่ายตลาด ตอน ตี1 ตี 2 (มืดมาก ไม่ค่อยเห็นอะไร ความกลัวเยอะมาก ความโลภไม่ค่อยมี ลดค่าเงินตลอด
ไม่ได้ลดครั้งเดียวเหมือนบ้านเรา เงินเฟ้อมหาศาล ดอกเบี้ยข้ามคืน 13 % เดี๋ยวค่าไฟฟ้าจะขึ้นอีก 15% เพิ่มทุนกันตลอด ปันผล 25 % ของกำไร มีแต่ข่าวร้าย แต่กองทุนต่างประเทศ เช่น Templeton Frontier Markets Fund กองทุน CITIBANG ซื้อกันเยอะมาก หากไม่มี ROOM ไว้คงซื้อบางบริษัท
หมดทั้งบริษัท รู้เพราะผมเจอหุ้นที่คิดว่าดีแล้วซื้อไม่ได้ ROOM เต็ม )

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 12:08 am
โดย pakapong_u
แต่เช่ือว่าถ้าซื้อขายได้จริงหุ้นไทยเบฟเวอเรจ THBEV ซ่ึงไปจดทะเบียนท่ีตลาดสิงคโปร์ น่าจะทำให้คนไทยซื้อหุ้นได้จากตลาดสิงคโปร์ จากความพยายามท่ีจะเข้าตลาดหุ้นไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เม่ือต้องตอบคำถามสังคมและกระแสกดดันต่างๆ

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 19, 2012 10:22 am
โดย คนดอย
ดีครับ ผมจะได้มีโอกาสซื้อ THBEV กับเค้าบ้าง
บริษัทคนไทยแท้ๆ ขายเบียร์ให้คนไทยโด่งดังไกลไปทั่งโลก
มีบริษัทลูกดีๆ อยู่ใน THBEV มากมาย

เห้ยยยยยย เซ็งงงงงงง :cry:

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 19, 2012 12:55 pm
โดย Financeseed
สนใจครับ :D

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 19, 2012 9:12 pm
โดย birthboro
cntclub เขียน:
ซุนเซ็ก เขียน:สนใจตลาดเวียดนามครับ เห็นมีหุ้น PE 3-4 เต็มตลาด
เมื่อปี 2007 VNINDEX เคยขึ้นไปถึง 1100 จุด ปัจจุบันเหลือ 400 กว่าจุด
เหมือนไทยตอนปี40 มากครับ ซึ่งปรจารย์ VI ไทยหลายคนก็ได้แจ้งเกิดในตอนนั้น
แต่ปัจจัยลบที่สุดก็คือค่าเงินด่ง ที่รัฐบาลเวียดนามประกาศลดค่าเงินมาแล้ว 4 รอบ...

เรื่องเทรนเศรษฐกิจ อย่างเวียดนามผมคิดว่าน่าจะย้อนดูจากอดีตบ้านเราได้มากพอควร
ลองอ่านข่าวกรุงเทพธุรกิจสิครับ ตอนนี้ดอกเบี้ยฝากประจำเวียดนาม 10-12% แต่หุ้นปันผล4-7% เหมือนตอนต้มยำกุ้งที่ดอกเบี้ยธนาคารมากกว่าเงินปันผล เมื่อนั้นแหละฟองสบู่ แล้วดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารจะขนาดไหนที่จะทำให้ได้กำไรจากดอกเบี้ยเงินฝาก
ส่วนสิงค์โปรผมว่าธุรกิจแข็งแกร่งหลาย บมจ. ครับพอดีมีเพื่อนอยู่
ขอลิงค์ได้ไหมครับ :8)

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 20, 2012 5:09 am
โดย yoko
ถึงตอนนั้นที่นี่คงเปิดห้องร้อยหุ้นอาเซี่ยน
ผมจะได้ลอกหุ้น555 555

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 20, 2012 4:29 pm
โดย **fun^-^
อืม.. นี้ผ่านปลายปี 54 มาแล้ว ก็ยังซื้อไม่ได้ คงได้ปลายปีนี้มากกว่านะคะ :roll:

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 22, 2012 8:29 pm
โดย pat4310
คำแนะนำจากท่านออกพญาหงส์ทอง(https://www.facebook.com/lordofsiam) ครับ

กูจักมาเล่าราชการบ้านเมืองอีกสักครา จักพยายามสรุปให้สั้นแลกระชับ
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จักทำให้เราเป็นตลาดเดียวกันกับอีก ๑๐ ประเทศ คือมีข้อตกลงร่วมกันที่จะไม่เก็บจังกอบ โดยมี ๕ ประการ
๑.สินค้า สามารถค้าขายกันได้โดยมิเก็บจังกอบแลอากร แต่กระนั้นสยามยังมีการปกป้อง (non-tariff measures, NTMs)มิให้สินค้าเข้ามาตีตลาดทำให้มีผลกับผู้ผลิตภายในสยามเสียเปรียบ ข้อได้เปรียบของสยามได้แก่การส่งออก ยาง ข้าวโพด รถยนต์

๒. บริการ สยามน่าจักได้เปรียบเป็นอันดับ๒ รองจากสิงหปุระ งานบริการที่ได้เปรียบได้แก่ ท่องเทียว สุขภาพ ความงาม

๓. การลงทุน น่าจักเป็นข้อที่สยามแลจักเสียเปรียบมากที่สุด สิงหปุระจักได้เปรียบมากที่สุดเนื่องจากมีเงินลงทุนมาก ซ้ำ เขมร พม่ารามัญนั้น ทรัพยากรยังคงอุดม ฐานการผลิตจักย้ายจากสยามไปประเทศข้างเคียง บ่าวไพร่โรงงานจักมิมีการงานทำ

๔. เงินทุน กล่าวความง่าย ก็คือ ปัจจุบันมิสามารถซื้อหุ้นต่างประเทศได้ถ้ายังไม่เปิด Port ต่างชาติ แต่หากเป็น AEC แล้วจักสามารถซื้อหุ้นของต่างประเทศได้ ซึ่งมูลค่ารวมราคาตลาด(Market Cap.)ใหญ่มาก พวกไพร่เยี่ยงมึงไปซื้อหุ้นเน้นมูลค่า VI มาเก็บไว้ได้เลย

๕.แรงงานฝีมือ หากมึงเป็นเฉกเช่นบ่าวไพร่ไร้ทักษะมึงจักโดนเขมร แลพม่ารามัญแย่งงาน หากมึงเป็นแรงงานทักษะสูงเตรียมย้ายไปทำงานยังประเทศที่จ้างแพงกว่า เนื่องด้วยเปิดเสรีเกือบทุกอาชีพ (ก่อนหน้า กีดกันเช่น หมอ วิศวกร ฯลฯ)

**มาตรแม้นทั้งหลายทั้งปวงหากไพร่สถุลเยี่ยงมึงยังคงแต่เฝ้า "ตำราพักตร์" (Facebook) มิไปฝึกปรือภาษาของชาวบริเตน แลพวกมึงจักเสียเปรียบทุกประการที่ได้กล่าวมา

เอามาเล่าความเนื่องจากแลเห็นตามโรงเรียนแลอุดมศึกษา รู้เพียงว่า AEC คือการเอาธงชาติมาปักให้ครบ ๑๐ ประเทศ

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 22, 2012 11:03 pm
โดย miracle
ตอนนี้ผมก็ซื้อหุ้นต่างประเทศได้
โดยผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการทางด้านต่างประเทศนั้นเอง

ผมไม่ได้มองที่เวียดนาม แต่ผมมองไม่กระพริบที่ กรีซ สเปน และ อิตาลี
ภาวนาว่า ผมจะได้ถึงเวลาออกไปลงทุนในประเทศทั้งสามเสียที

สิ่งที่ผมคาดไว้คือ การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐที่ตกต่ำจากการลงทุนครั้งนี้
แต่การลงทุนครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่า ประเทศในยูโรโซน ก้าวไปด้านไหน ว่า เงินยูโรอยู่ไหมละในอนาคต

ผมจึงมองตาไม่กระพริบ มันเป็นโอกาสมากกว่าไปที่เวียดนามเสียอีก

ส่วนที่ไม่มองเวียดนาม เพราะว่า
หากไม่ลอยตัวค่าเงินดง งานนี้ก็ยังไม่จบแน่นอน
:)

Re: เมื่อสามารถซื้อหุ้นสิงคโปค์และเวียดนามได้.....

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 22, 2012 11:11 pm
โดย kongkiti
pat4310 เขียน:คำแนะนำจากท่านออกพญาหงส์ทอง(https://www.facebook.com/lordofsiam) ครับ

กูจักมาเล่าราชการบ้านเมืองอีกสักครา จักพยายามสรุปให้สั้นแลกระชับ
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จักทำให้เราเป็นตลาดเดียวกันกับอีก ๑๐ ประเทศ คือมีข้อตกลงร่วมกันที่จะไม่เก็บจังกอบ โดยมี ๕ ประการ
๑.สินค้า สามารถค้าขายกันได้โดยมิเก็บจังกอบแลอากร แต่กระนั้นสยามยังมีการปกป้อง (non-tariff measures, NTMs)มิให้สินค้าเข้ามาตีตลาดทำให้มีผลกับผู้ผลิตภายในสยามเสียเปรียบ ข้อได้เปรียบของสยามได้แก่การส่งออก ยาง ข้าวโพด รถยนต์

๒. บริการ สยามน่าจักได้เปรียบเป็นอันดับ๒ รองจากสิงหปุระ งานบริการที่ได้เปรียบได้แก่ ท่องเทียว สุขภาพ ความงาม

๓. การลงทุน น่าจักเป็นข้อที่สยามแลจักเสียเปรียบมากที่สุด สิงหปุระจักได้เปรียบมากที่สุดเนื่องจากมีเงินลงทุนมาก ซ้ำ เขมร พม่ารามัญนั้น ทรัพยากรยังคงอุดม ฐานการผลิตจักย้ายจากสยามไปประเทศข้างเคียง บ่าวไพร่โรงงานจักมิมีการงานทำ

๔. เงินทุน กล่าวความง่าย ก็คือ ปัจจุบันมิสามารถซื้อหุ้นต่างประเทศได้ถ้ายังไม่เปิด Port ต่างชาติ แต่หากเป็น AEC แล้วจักสามารถซื้อหุ้นของต่างประเทศได้ ซึ่งมูลค่ารวมราคาตลาด(Market Cap.)ใหญ่มาก พวกไพร่เยี่ยงมึงไปซื้อหุ้นเน้นมูลค่า VI มาเก็บไว้ได้เลย

๕.แรงงานฝีมือ หากมึงเป็นเฉกเช่นบ่าวไพร่ไร้ทักษะมึงจักโดนเขมร แลพม่ารามัญแย่งงาน หากมึงเป็นแรงงานทักษะสูงเตรียมย้ายไปทำงานยังประเทศที่จ้างแพงกว่า เนื่องด้วยเปิดเสรีเกือบทุกอาชีพ (ก่อนหน้า กีดกันเช่น หมอ วิศวกร ฯลฯ)

**มาตรแม้นทั้งหลายทั้งปวงหากไพร่สถุลเยี่ยงมึงยังคงแต่เฝ้า "ตำราพักตร์" (Facebook) มิไปฝึกปรือภาษาของชาวบริเตน แลพวกมึงจักเสียเปรียบทุกประการที่ได้กล่าวมา

เอามาเล่าความเนื่องจากแลเห็นตามโรงเรียนแลอุดมศึกษา รู้เพียงว่า AEC คือการเอาธงชาติมาปักให้ครบ ๑๐ ประเทศ
ถูกใจยิ่งนัก :cool: :cool: :cool: