Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ส่วนลดจากระแสเงินสด หรือ discounted cash flow คืออะไรครับ

มีใครพอรู้บ้าง ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ

คุณ มนตรี เขียนไว้ครับ

http://www.thaivi.com/2010/02/436/

ที่เหลือก็ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่มีน้ำใจบอกต่อครับ

มูลค่า หุ้น = – ราคา หุ้น + กระแสเงินสด ที่ได้รับจากหุ้น x อัตราการเติบ โตของผลตอบแทน ผมอยากถามว่าอย่างงี้มันเหมือน P/E forward รึเปล่าครับ

กำไรกับเงินสดไม่เหมือนกันครับ

ที่เขานิยมใช้กันคือ กระแสเงินสดอิสระของทุกปี รวมโกรทของกระแสเงินสดอิสระ นำมาทำเป็น ค่าเงินปัจจุบันแล้วหักออกด้วยปนี้สินของ บ. ครับ
ก็จะมีคำถามว่ากระแสเงินสดอิสระ (FCF) คืออะไรอีก
FCF=EBITDA-TAX-CAPEX-DELTA WC
ในการคำนวณDCF โดยที่ต้องใช้ FCF และยังต้องใช้ ต้นทุนเงินทุนของเจ้าของเงิน และค่าชดเชยความเสี่ยงตลาดหุ้น
ซึ่ง ต้นทุนเงินทุนของเจ้าของเงิน และค่าชดเชยความเสี่ยงตลาดหุ้น รวมกัน ผมว่ามีความคล้ายกับ Forward PE เป็นอย่างมาก
ค่าชดเชยความเสี่ยงตลาดหุ้น หากเอาแบบคร่าวๆในใจแต่ละคนก็ต้องไปถามว่า ได้กำไรเพิ่มอีกกี่%จากปกติถึงจะยอมมาลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงมากกว่าการซื้อพันธบัตร
ต้นทุนเงินทุนของเจ้าของเงิน อันนี้แต่ละคนก็ไม่เท่ากันบางคนกินดอกธนาคาร ต้นทุนเงินทุนก็ไม่มาก บางคนกู้มาต้นทุนเงินก็มากกว่า
Forward PE คือการคาดว่า สังคมการเงินโดยทั่วไปยอมรับและตีราคาให้ค่า พีอีในอนาคตกี่เท่าของกำไร ในความหมายก็คล้ายๆกับ ความหมายของ ค่าชดเชยความเสี่ยงตลาดหุ้น
ทั้งหมดบนความคิดพื้นฐานว่าเราได้อะไรจากการถือหุ้น และคำตอบคือได้กระแสเงินสดอิสระของ บ.นะครับ
แต่ผมกลับเห็นแย้งกว่านั้น การที่เราถือหุ้น ในบ.หากเราถือมากจนเป็น ผถห ใหญ่มีอำนาจสั่งการใช้เงินสดอิสระของบ.ได้ สิ่งที่เราได้รับก็คงเป็นกระแสเงินสดอิสระอย่างที่เขาว่ากัน
แต่หากการถือหุ้น จิ๊บๆ แบบที่เราๆถือกัน สิ่งที่เราได้รับจาก บ. หากเราถือแบบลงทุนจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่
ผมคิดว่าที่เราได้จริง คือเงินปันผล และ ท้ายที่สุดหากเราขายก็ได้ capital gain
ดังนั้น โมเดลในการคำนวณหามูลค่าหุ้นที่ผมใช้จึง ใช้เงินปันผล ร่วมกับ มูลค่าหุ้นในอนาคตที่เราถือไว้จนไปถึง
ทั้งหมดเป็นความคิดส่วนตัวผมเอง เท่าที่จะมีความรู้นะครับ
ไงก็รอพี่ๆมาช่วยเพิ่มเติมอีกทีละกัน

ผมเคยเขียนบลอกเกี่ยวกับ DCF ไว้

สนใจไปอ่านได้ครับ

http://reitertvi.wordpress.com/2011/02/ ... de-easy-1/

reiter เขียน:ผมเคยเขียนบลอกเกี่ยวกับ DCF ไว้

สนใจไปอ่านได้ครับ

http://reitertvi.wordpress.com/2011/02/ ... de-easy-1/

ผู้รู้ตัวจริงครับ
ถามพี่หน่อยครับ บ.ที่มี FCF ดีมาก แต่ชอบนำเงินที่ว่างไปกินดอก พันธบัตร ไดลูทมูลค่าหุ้นตัวเองแถม จ่ายปันผลไม่มากด้วย กรณีนี้พี่มีความเห็นอย่างไรครับ
ผมเลยมองว่า FCF ทีดีแค่ไหนหากไม่นำเงินไปทำให้โกรท และไม่จ่ายปันผลสูงๆ FCF ดีมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ พอดีเจอ บ.อย่างนี้มากับตัวเอง
นั่นเป็นความคิดผมนะครับ
ไม่ทราบพี่คิดเห็นอย่างไร ตรงจุดนี้ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเห็น ครับ

ถ้าผบห.ทำอะไรโดยไม่มีความคิดว่าเราเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ

เห็นด้วยเลยครับว่า Free cash flow ดีแค่ไหนก็น่าไม่สนใจครับ

reiter เขียน:ผมเคยเขียนบลอกเกี่ยวกับ DCF ไว้

สนใจไปอ่านได้ครับ

http://reitertvi.wordpress.com/2011/02/ ... de-easy-1/

ของพี่ reiter อันนี้ผมเคยไปอ่านแล้วครับ พี่ได้บอกข้อจำกัดของการใช้ DCF หามูลค่าปัจจุบันของหุ้นเอาไว้ แต่เคยอ่านหนังสือแปลเขาก็บอกว่าบัฟเฟตต์ก็ใช้วิธีนี้นะครับ นับเป็นไม่กี่เรื่องที่เขาเห็นตรงกับนักการเงินทั้งหลายว่าวิธี DCF นี่น่าจะใช้วัดมูลค่าหุ้นได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่รู้ว่าปู่บัฟเฟตต์ใช้วิธีนี้กับหุ้นทุกกลุ่มทุกตัวรึเปล่า หรือมีวิธีอื่นอีก

ถ้าพิจารณาจากสไตล์การลงทุนของปู่บัฟ ที่เน้นกิจการชั้นเยี่ยม ผบห.ชั้นยอด มี DCA เยอะๆ แบบนั้นก็เหมาะที่จะประเมินมูลค่าหุ้นด้วย DCF ล่ะครับ เพราะกิจการที่แกลงทุนสามารถมองเห็นกระแสเงินสดที่จะเข้ามาในอีก 10 ปีข้างหน้าได้โดยไม่ลำบาก

แต่ถ้าสไตล์การลงทุนของเรา กระจายไปยังหุ้นก้นบุหรี่ หุ้นวัฎจักร หุ้นแบบเนฟฟ์ หุ้น turn around เราก็ต้องหา valuation ที่เหมาะกับกิจการนั้นๆครับ จะมาใช้ DCF อย่างเดียวคงประเมินได้ไม่แม่นยำ

ติดตามด้วยคนนะครับ

jo7393 เขียน:ที่เขานิยมใช้กันคือ กระแสเงินสดอิสระของทุกปี รวมโกรทของกระแสเงินสดอิสระ นำมาทำเป็น ค่าเงินปัจจุบันแล้วหักออกด้วยปนี้สินของ บ. ครับ
ก็จะมีคำถามว่ากระแสเงินสดอิสระ (FCF) คืออะไรอีก
FCF=EBITDA-TAX-CAPEX-DELTA WC
ในการคำนวณDCF โดยที่ต้องใช้ FCF และยังต้องใช้ ต้นทุนเงินทุนของเจ้าของเงิน และค่าชดเชยความเสี่ยงตลาดหุ้น
ซึ่ง ต้นทุนเงินทุนของเจ้าของเงิน และค่าชดเชยความเสี่ยงตลาดหุ้น รวมกัน ผมว่ามีความคล้ายกับ Forward PE เป็นอย่างมาก
ค่าชดเชยความเสี่ยงตลาดหุ้น หากเอาแบบคร่าวๆในใจแต่ละคนก็ต้องไปถามว่า ได้กำไรเพิ่มอีกกี่%จากปกติถึงจะยอมมาลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงมากกว่าการซื้อพันธบัตร
ต้นทุนเงินทุนของเจ้าของเงิน อันนี้แต่ละคนก็ไม่เท่ากันบางคนกินดอกธนาคาร ต้นทุนเงินทุนก็ไม่มาก บางคนกู้มาต้นทุนเงินก็มากกว่า
Forward PE คือการคาดว่า สังคมการเงินโดยทั่วไปยอมรับและตีราคาให้ค่า พีอีในอนาคตกี่เท่าของกำไร ในความหมายก็คล้ายๆกับ ความหมายของ ค่าชดเชยความเสี่ยงตลาดหุ้น
ทั้งหมดบนความคิดพื้นฐานว่าเราได้อะไรจากการถือหุ้น และคำตอบคือได้กระแสเงินสดอิสระของ บ.นะครับ
แต่ผมกลับเห็นแย้งกว่านั้น การที่เราถือหุ้น ในบ.หากเราถือมากจนเป็น ผถห ใหญ่มีอำนาจสั่งการใช้เงินสดอิสระของบ.ได้ สิ่งที่เราได้รับก็คงเป็นกระแสเงินสดอิสระอย่างที่เขาว่ากัน
แต่หากการถือหุ้น จิ๊บๆ แบบที่เราๆถือกัน สิ่งที่เราได้รับจาก บ. หากเราถือแบบลงทุนจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่
ผมคิดว่าที่เราได้จริง คือเงินปันผล และ ท้ายที่สุดหากเราขายก็ได้ capital gain
ดังนั้น โมเดลในการคำนวณหามูลค่าหุ้นที่ผมใช้จึง ใช้เงินปันผล ร่วมกับ มูลค่าหุ้นในอนาคตที่เราถือไว้จนไปถึง
ทั้งหมดเป็นความคิดส่วนตัวผมเอง เท่าที่จะมีความรู้นะครับ
ไงก็รอพี่ๆมาช่วยเพิ่มเติมอีกทีละกัน

คือเรื่องที่พี่อธิบายมันเกินความสามารถของสมองน้อยๆของผมจะรับได้อ่ะครับ ถ้ายังไงเราใช้PE forward แทนได้มั้ยครับ เพราะพวก free cash flow อัตราส่วนลดกระแสเงินสด มันเข้าใจยากเหลือเกินครับ

reiter เขียน:ผมเคยเขียนบลอกเกี่ยวกับ DCF ไว้

สนใจไปอ่านได้ครับ

http://reitertvi.wordpress.com/2011/02/ ... de-easy-1/

ขอบคุณมากครับ สำหรับlink ทำให้เขาใจส่วนลดกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นมาอีกระดับหนึ่งครับ แต่เท่าที่ผมอ่านรู้สึกเนื้อหามันจะเยอะเหลือเกินครับ มีหนังสือ ที่เขาเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาแนะนำให้ไปอ่านบ้างมั้ยครับ เพื่อจะได้เข้าใจมากขึ้นครับ
ขอบคุณครับ

reiter เขียน:ผมเคยเขียนบลอกเกี่ยวกับ DCF ไว้

สนใจไปอ่านได้ครับ

http://reitertvi.wordpress.com/2011/02/ ... de-easy-1/

บล็อกพี่ reiter สุดยอดเลยครับ
ผมนั่งอ่านย้อนไปเรื่อยๆ เพลินเลยแป๊บเดียวหมดไปชั่วโมงแล้ว
ขอบคุณมากๆครับสำหรับความรู้และแนวคิดที่แบ่งปัน

jo7393 เขียน:

reiter เขียน:ผมเคยเขียนบลอกเกี่ยวกับ DCF ไว้

สนใจไปอ่านได้ครับ

http://reitertvi.wordpress.com/2011/02/ ... de-easy-1/

ผู้รู้ตัวจริงครับ
ถามพี่หน่อยครับ บ.ที่มี FCF ดีมาก แต่ชอบนำเงินที่ว่างไปกินดอก พันธบัตร ไดลูทมูลค่าหุ้นตัวเองแถม จ่ายปันผลไม่มากด้วย กรณีนี้พี่มีความเห็นอย่างไรครับ
ผมเลยมองว่า FCF ทีดีแค่ไหนหากไม่นำเงินไปทำให้โกรท และไม่จ่ายปันผลสูงๆ FCF ดีมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ พอดีเจอ บ.อย่างนี้มากับตัวเอง
นั่นเป็นความคิดผมนะครับ
ไม่ทราบพี่คิดเห็นอย่างไร ตรงจุดนี้ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเห็น ครับ

บริษัทแบบนั้นใช้ dividend discount model คงดีกว่ามั้งครับ เพราะว่า "Free Cash Flow" มันไม่ได้ Free จริงๆ

ก้อนกรวด เขียน:

jo7393 เขียน:

reiter เขียน:ผมเคยเขียนบลอกเกี่ยวกับ DCF ไว้

สนใจไปอ่านได้ครับ

http://reitertvi.wordpress.com/2011/02/ ... de-easy-1/

ผู้รู้ตัวจริงครับ
ถามพี่หน่อยครับ บ.ที่มี FCF ดีมาก แต่ชอบนำเงินที่ว่างไปกินดอก พันธบัตร ไดลูทมูลค่าหุ้นตัวเองแถม จ่ายปันผลไม่มากด้วย กรณีนี้พี่มีความเห็นอย่างไรครับ
ผมเลยมองว่า FCF ทีดีแค่ไหนหากไม่นำเงินไปทำให้โกรท และไม่จ่ายปันผลสูงๆ FCF ดีมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ พอดีเจอ บ.อย่างนี้มากับตัวเอง
นั่นเป็นความคิดผมนะครับ
ไม่ทราบพี่คิดเห็นอย่างไร ตรงจุดนี้ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเห็น ครับ

บริษัทแบบนั้นใช้ dividend discount model คงดีกว่ามั้งครับ เพราะว่า "Free Cash Flow" มันไม่ได้ Free จริงๆ

ครับ บ.ที่ว่าผมเลยใช้ Dividend dis.+Forward PE ในการหามูลค่า บ.ครับ
จริงๆแล้วอยากบอกคนที่ไม่ถนัดใช้ DCF นะครับ ว่า ใช้แบบที่เราถนัด แล้วหา บ.ให้เข้ากับแบบที่เราถนัดจะดีกว่า พวกบ.ที่อยู่นอกความถนัดของเรา ไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปเสียดายครับ ต้องรู้ว่าขอบข่ายความสามารถของเราคืออะไร และลงทุนภายในขอบข่ายความสามารถของเรา จะดีกว่าครับ