Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ถ้าเราหา DCFไม่เก่ง เราใช้ fair value ของโบรกได้มั๊ยครับ บางที่เค้าก็บอกว่าใช้ dcf มา ถ้าใช้ได้ หากเราหาหุ้นที่ต่่ำกว่า fair value 30% ก็แปลว่า เรามี mos 30% แล้วใช่มั๊ยครับ เห็นบางครั้งสมาชิกในเวปบอกว่าตัวนี้มีอัพไซด์ เท่านี้เปอร์เซ็นต์ ก็คืออัพไซด์เดียวกันกับบทวิเคราะห์ของโบรกใช่มั๊ยครับ โบรกไหนวิเคราะห์ได้น่าเชื่อถือสุดครับ และเราเข้าไปดูได้ที่เวปไหนครับ

- FV ของโบรคห้ามดูโดยเด็ดขาด
- คำนวน upside เอง ไม่ได้เอามาจากโบรคครับ
- หาได้จาก settrade ครับ
- ผมชอบ research ของ TNS, ASP, TRINITY ครับ

ข้อมูลของโบรกส่วนใหญ่ผมจะดูตัวเลขอื่นมากกว่าน่ะครับ เช่น EPS DPS ไรทำนองนี้ แล้วก็อ่านข่าวส่วนเนื้อหาน่ะครับ ถูกบ้างผิดบ้างก็ทำใจควรอ่านหลายๆโบรกครับ ส่วนเรื่องราคาก็ดูคร่าวๆครับว่ามายังไงมากกว่า เช่น PE 10 เท่า BV 5 เท่า แล้วก็จะคิดเองว่า fair price ควรเป็นเท่าไร ครับ

ปกติผมดู FV จากโบรกเกอร์พอเป็นไอเดียครับ แล้ว discount ประมาณ 10% เป็นอย่างน้อย
ถ้าทำได้คำนวณเองจะดีกว่าครับ อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ DCF ก็ได้ P/E หรือ P/BV โดยใช้ข้อมูลของโบรกเกอร์ก็ได้ครับ แต่ต้องเผื่อ MOS นิดนึง

FV ผมไม่ดูเลย เพราะวิธีที่ได้ FV มา มันแปลกประหลาดสุดๆ

ทำไมต้องใช้ sum-of-the-part
ทำไมต้อง discount cash flow ในเมื่อธุรกิจนั้น cash flow ไม่ได้มาสม่ำเสมอ

พอเมื่อมัีนไม่เป็นเหตุเป็นผลกัน ความน่าเชื่อถือก็จะถูกลดทอนลงไปอัตโนมัติ

ให้พิจารณาเฉพาะ fact เท่านั้นครับผม

ที่สำคัญ โบรกส่วนใหญ่มักจะออกบทวิเคราะห์มาตอนที่ราคาหุ้นขึ้นไปแล้ว โดยเฉพาะหุ้นร้อนๆ
พยายามหาเหตุผลการคำนวณราคา ว่าราคาปัจจุบัน "ยังถูกอยู่" ยังขึ้นไปได้อีก

ผมว่าอันตรายมาก วิเคราะห์ด้วยตัวเองน่าจะดีกว่านะครับ

เคยเจอหลายครั้งที่เอาข้อมุลมาเยอะมาก ทุกอย่างOK วิเคราะห์ก็OKเลยย แต่บรรทัดสุดท้ายให้FVคนละเรื่องที่เล่ามาเกือบ1หน้าและแนะขาย...กำ

ผมว่าพอเป็นguidelineได้ แต่ต้องเผื่อmosเยอะพอสมควร และระวังพวกหุินวัฐจักรครับ แกเล่นมองแต่upside เช่นptlมีโบรคนึงบอกราคา70กว่า แล้วตอนนีิ้เป็นไงล่ขครับ เจ็บกันไปเยอะ อีกอย่าง เหมือนพี่ข้างบนบอกเลยครับ ชอบออกบทวิเคราะตอนหุ้นวิ่งไปแล้ว

harikung เขียน:ผมว่าพอเป็นguidelineได้ แต่ต้องเผื่อmosเยอะพอสมควร และระวังพวกหุินวัฐจักรครับ แกเล่นมองแต่upside เช่นptlมีโบรคนึงบอกราคา70กว่า แล้วตอนนีิ้เป็นไงล่ขครับ เจ็บกันไปเยอะ อีกอย่าง เหมือนพี่ข้างบนบอกเลยครับ ชอบออกบทวิเคราะตอนหุ้นวิ่งไปแล้ว

บางทีหุ้นลง พื้นฐานไม่เปลี่ยน ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำไรไม่เปลี่ยน
โบรคปรับประมาณการณ์กำไรลงเฉยเลย

เหมือนหลายท่านข้างบนครับ

โบรกวิเคราะห์เอาไว้ดูข้อมูลย้อนหลัง ข้อมูลปัจจุบันในห้อง100คนค่อนข้างแน่น ส่วนeps อนาคต เราคาดเดาเองโดยใช้หลายๆข้อมูลประกอบ ได้ eps ก็จะได้ราคาหุ้นที่เราพอใจ ถูกแพงแล้วแต่คนชอบครับ
โบรกที่ชอบ-ทรินิตี้
โบรกที่ไม่อ่าน - ก็ที่ท่านharikungบอก

โดยส่วนตัวที่เจอ บทวิเคราะห์ของหุ้นบางตัว มีหลายโบรคแนะนำ แล้วออกบทวิเคราะห์วันเดียวกันด้วย7-10โบรค แต่ให้รายได้ กำไรสุทธิ ปันผล ต้นทุนถัวเฉลี่ย(WACC) cash flow ไม่เท่ากันเลยซักโบรค แถมไม่มีMOSเผื่อด้วย เพราะฉะนั้นแสดงว่า...สมมุติฐานที่เกิดขึ้น เป็นสมมุติฐานที่เชื่อไม่ได้

เอามาอ่านประกอบการตัดสินใจได้ครับ
เพราะอย่างน้อย ข้อมูลก็น่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง (ระดับหนึ่งเท่านั้น)

และต้องดูโบรก และคนเขียนด้วยครับ
ผมชอบ พวกที่มี CFA ครับ
พวกนี้ข้อมูลจะแน่นมากๆ

หรือ ถ้าไม่มี ก็ควรเป็นคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้นๆมานาน
และควรอ่านหลายๆที่ประกอบ

และที่สำคัญ ต้องคิดเองให้เป็น อย่าไปเชื่อเค้าซะ 100%

วิธีการคำณวณ Fair Value ที่แฟร์ที่สุดคือ

ให้ปิดราคาตลาดปัจจุบัน ทิ้งไปซะก่อน เหมือนว่าหุ้นตัวนี้ไม่ได้ list ในตลาด ไม่มีราคาตลาดให้อ้างอิง และเราก็ไม่รู้ราคาตลาดขณะนี้
แล้วใช้วิธีคำนวนมูลค่า ที่เหมาะสมกับประเภทกิจการนั้น คำนวนออกมาได้มูลค่าหุ้นที่ควรจะเปนตามความคิดของเรา
แล้วค่อยเอามาเทียบกับราคาตลาดว่ามันอยู่ในฐานะน่าลงทุนหรือไม่

บทวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ผมว่าเขาคำนวนราคาโดยอ้างอิงมาจากราคาตลาดปัจจุบัน มันจึงไม่น่าเรียกว่า fair value เพราะว่าวิธีคิดมันไม่แฟร์ เหมือนการดูเฉลยคำตอบ แล้วค่อยมาหาวิธีคิดว่า มันควรจะคิดยังไงให้ได้ใกล้คำตอบที่สุด แล้วก็เชียร์ซื้อ เชียร์ขายไปให้ตัวเองได้ค่าคอม สังเกตได้จากเวลาที่สภาพตลาดเปลี่ยนไป พื้นฐานกิจการบางที่ไม่ได้เปลี่ยน แต่ fair value ของนักวิเคาระห์กลับเปลี่ยนไปได้ตามสภาพตลาด

ผมว่าโบรกออกบทวิเคราะห์เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่ครับ
หลายครั้งที่ประเมิน FV มากเกินกว่าที่เราคำนวณได้
หลายครั้ง FV ก็ต่ำกว่าที่เราวิเคราะห์ได้ค่อยข้างมาก
ยกตัวอย่างนะครับ
สมมติ ช่วงราคาที่ประเมินได้ควรอยู่ที่ประมาณ 4-6 ราคาตลาดอยู่ที่ 5 หลายครั้งที่เจอโบรกประเมินไปถึง 8-9
ถามว่าโบรกได้ประโยชน์จากการประเมินสูงเกินไปไหม ได้ 2ต่อครับ
คนซื้อตาม โบรกได้ค่าคอม พอผลประกอบการณ์ออก ผิดจากที่โบรกประเมินโบรกก็บอกว่าได้ต่ำกว่าที่คาด แนะขาย พอคนขาย โบรกก็ได้ค่าคอมอีก
ผมโดนมากับตัวเอง สมัยหัดลงทุนใหม่ๆ วิกฤติปี40 BBL โบรกวิเคราะห์โดยให้ค่า PE ที่ควรเป็นถึง 18 เท่า
ตอนนั้นเคยถามตัวเองว่าทำไมต้อง 18 แต่ไม่รู้จะไปถามใคร ก็คิดว่า เชื่อเขา เขาต้องรู้ดีกว่าเรายังมี อัพไซค์เหลือเยอะ ลุยเลย หึหึ มือใหม่ก็เงี้ย เสียค่าเทอม
เดวนี้บทวิเคราะห์เราดูแค่แนวกทางวิเคราะห์ของเขา กับที่เป็น FACT เท่านั้นครับ บางที FACT ยังมั่วเลย ไปดูห้อง makro บทวิเคราะห์ล่าสุดสิครับ บอกว่าจะมีการขยายสาขา ลักษณะการบรรยายเหมือน เป็ฯ FACT เลย พอเชคข้อมูลจริงๆ ผบห บอกเองเลยว่ายังไม่มีการขยายสาขา