หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ทางลัดสู่ความเป็นนักลงทุนแนว vi

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 9:00 pm
โดย kongkam1
ผมใช้คำว่าทางลัดเพราะผมคิดว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆครับ หากจะเป็นนักลงทุนแบบเน้นมูลค่าของกิจการ สำหรับมือไหม่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ยิ่งมีใครชักคนบอกว่าหากเราจะลงทุนในหุ้นต้องหาหุ้นที่คิดว่าจะเติบโตในอีก5ปีข้างหน้า เมื่อก่อนผมก็ท้อนะครับ ว่าผมจะหาหุ้นแบบนี้ใด้ยังไง ผมแทบจะไม่ใด้ดูงบการเงินเลย เพราะผมไม่ชอบดูเนื่องจากดูไม่รู้เรื่อง ผมเลือกหุ้นด้วยโปรแกรมของพี่ ครรณชิตครับเลือกหุ้นที่ P/Eต่ำๆ โดยไม่ต้องสนใจอะไรมาก 2เลือกหุ้นที่เราจะชื้อว่ามีหนี้สินไม่เกิน1เท่าครับ เลือกหุ้นที่มีค่า ROE 15+ และเข้าไปดูข้อมูลพื้นฐานจากเว้ปนี้ครับ http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... ntent_id=1 หลายคนอาจจะเคยดูมาแล้วในการดูหุ้นหลายๆตัว แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจในพื้นฐานของกิจการมากนัก เมื่อก่อนผมเองก็เป็นครับ คือไม่รู้เรื่อง ผมใช้วิธีดูบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวจากโปรกเกอร์ที่เว้ปนี้ครับ http://oak.nip12.com/a/index.php?board=5.0 ผมใด้ข้อมูลความเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละตัวที่ชื้อจากโปรกเกอร์เหล่านี้แหละครับ บางโปรกจะแนะนำไห้ชื้อที่ราคาต่างๆ เราไม่ต้องไปสนใจครับ สนใจแต่ความเคลื่อนไหวของกิจการในบทวิเคาะห์ก็พอครับ ส่วนใครที่คิดว่าถือหุ้นใด้ไม่นานก็ต้องขาย อันนี้ผมแนะนำไห้อ่านหนังสือแนว VI ทุกๆวันครับมันจะสะกดไห้เราลงทุนในหุ้นจริงๆไม่ใช่ลงทุนเพื่อเอาส่วนต่างของราคาครับ ผมลองมาแล้วใด้ผลดีมากครับ

Re: ทางลัดสู่ความเป็นนักลงทุนแนว vi

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 9:58 pm
โดย tuckraider
ตามบทวิเคราะห์มากๆ ระวังใจหายนะครับ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย
เดี๋ยวบอกให้ขาย แล้วก็บอกให้ถือ...ขายไปแล้วจะเอาที่ไหนมาถืออะ

ระวังนะคับ P/E ต่ำ หนี้ต่ำ ROE ดูดี แต่ใช่ว่าบริษัทจะมีอนาคตดี (อาจเป็นเหตุให้ P/E ต่ำ) ลงทุนในหุ้นจริงๆ แต่ไม่ได้ส่วนต่างราคาหรือได้แค่เงิน ก็แทบไม่คุ้มเสี่ยงคับ

คือ ผมไม่ใช่ VI แท้ๆ เพราะเน้นส่วนต่างราคาคับ

Re: ทางลัดสู่ความเป็นนักลงทุนแนว vi

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 10:00 pm
โดย tuckraider
อ้อ...ถ้าสังเกตุให้ดี เฮีย Buffet ก็เน้นส่วนต่างราคานะคับ แกบังคับบริษัทที่เข้าไปถือหุ้นไม่ให้จ่ายปันผลเลยละ

Re: ทางลัดสู่ความเป็นนักลงทุนแนว vi

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 14, 2011 7:41 pm
โดย นพพร
เอาผลลัพธ์ของทางลัดมาโชว์หน่อยครับ ผมอยากเห็นอ่ะ

Re: ทางลัดสู่ความเป็นนักลงทุนแนว vi

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 16, 2011 12:33 am
โดย picklife
kongkam1 เขียน:ผมใช้คำว่าทางลัดเพราะผมคิดว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆครับ หากจะเป็นนักลงทุนแบบเน้นมูลค่าของกิจการ สำหรับมือไหม่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ยิ่งมีใครชักคนบอกว่าหากเราจะลงทุนในหุ้นต้องหาหุ้นที่คิดว่าจะเติบโตในอีก5ปีข้างหน้า เมื่อก่อนผมก็ท้อนะครับ ว่าผมจะหาหุ้นแบบนี้ใด้ยังไง ผมแทบจะไม่ใด้ดูงบการเงินเลย เพราะผมไม่ชอบดูเนื่องจากดูไม่รู้เรื่อง ผมเลือกหุ้นด้วยโปรแกรมของพี่ ครรณชิตครับเลือกหุ้นที่ P/Eต่ำๆ โดยไม่ต้องสนใจอะไรมาก 2เลือกหุ้นที่เราจะชื้อว่ามีหนี้สินไม่เกิน1เท่าครับ เลือกหุ้นที่มีค่า ROE 15+ และเข้าไปดูข้อมูลพื้นฐานจากเว้ปนี้ครับ http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... ntent_id=1 หลายคนอาจจะเคยดูมาแล้วในการดูหุ้นหลายๆตัว แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจในพื้นฐานของกิจการมากนัก เมื่อก่อนผมเองก็เป็นครับ คือไม่รู้เรื่อง ผมใช้วิธีดูบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวจากโปรกเกอร์ที่เว้ปนี้ครับ http://oak.nip12.com/a/index.php?board=5.0 ผมใด้ข้อมูลความเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละตัวที่ชื้อจากโปรกเกอร์เหล่านี้แหละครับ บางโปรกจะแนะนำไห้ชื้อที่ราคาต่างๆ เราไม่ต้องไปสนใจครับ สนใจแต่ความเคลื่อนไหวของกิจการในบทวิเคาะห์ก็พอครับ ส่วนใครที่คิดว่าถือหุ้นใด้ไม่นานก็ต้องขาย อันนี้ผมแนะนำไห้อ่านหนังสือแนว VI ทุกๆวันครับมันจะสะกดไห้เราลงทุนในหุ้นจริงๆไม่ใช่ลงทุนเพื่อเอาส่วนต่างของราคาครับ ผมลองมาแล้วใด้ผลดีมากครับ
ขอบคุณสำหรับเวปบทวิเคราะห์ครับไม่เคยเห็นแบบนี้แปลกดี^^
ขอบคุณที่แชร์ความรู้ด้วยครับ ขอเสริมนิดหนึ่งนะครับ
1.เลือกหุ้นที่ P/Eต่ำๆ โดยไม่ต้องสนใจอะไรมากPEเปรียบเสมือนGAPกำไรกับราคา ซึ่งระยะสั้นอาจจะขึ้นลง แต่ระยาวมันจะขนานกัน นั่นหมายถึงPEคงที่ ซึ่งถ้าเรามองว่าPEคงที่ ตัวที่จะกำหนดราคาในอนาคตของหุ้นคือE ดังนั้นถ้าEลดหุ้นPEต่ำอาจจะราคาลงไปเรื่อยๆได้ หรือราคาอาจจะไม่ไปไหน ส่วนหุ้นPEสูงถ้าEเพิ่มราคาอาจจะไปเรื่อยๆไม่หยุดได้...ดังนั้นสิ่งที่ควรโฟกัสน่าจะมีสองเรื่องคือ EในอนาคตและPEที่เหมาะสม
2.เลือกหุ้นที่เราจะชื้อว่ามีหนี้สินไม่เกิน1เท่าครับโดยส่วนตัวผมคัดหุ้นจากการวิเคราะห์หุ้นเชิงปริมาณก่อน แล้วค่อยเอาเชิงคุณภาพเข้าเลือกอีกที และมองว่าDEแสดงถึงคุณภาพของหุ้นว่ากำไรอาจจะดีแต่ความเสี่ยงอาจจะมากขึ้น ดังนั้นหากเรากรองเอาDEต่ำกว่า1ออกไปเลยผมว่ามันอาจจะพลาดโอกาสได้ เช่นเจอUpside50%DE2 กับUpside10%DE0.5 จะเลือกตัวไหน? ดังนั้นอย่าเพิ่งไปรีบตัดหุ้นที่DEมากกว่า1ออกเลยครับเอาไว้ดูตอนสุดท้ายหลังจากได้Upsideแต่ละตัวมาก่อนดีกว่า
3.เลือกหุ้นที่มีค่า ROE 15+
อันนี้เห็นด้วยครับ ถ้าหุ้นโตปกติผมว่ากรองที่ROE>25ดีกว่าครับ
แต่ก็ไม่ควรFixกับROEมากนักเพราะบางครั้งอาจจะเจอหุ้นที่โตไม่ปกติแม้นปีก่อนROEแค่5แต่ถ้ามีStoryอะไรบางอย่างเข้ามากำไรโต100%ก็อาจจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจสุดๆได้เช่นกัน