Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

โดยทั่วไป vi ที่หนักแน่นและยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง
และสำคัญที่สุด คือ การที่รู้จริงในบริษัทที่ตัวเองเข้าใจอย่างถ่องแท้

แต่ทุกครั้งที่เข้าไปอ่านในร้อยคนร้อยหุ้น
เราก็จะพบว่า ตัวเราเล็กแค่ไหน เรารู้น้อยแค่ไหน หรือ
มีคำถามกับตัวเองว่า ทำไมเราช่างเหมือนไม่รู้อะไรเอาซะเลย

คือ เราเป็นได้แค่ผู้มาหาข้อมูล หรือ ผู้ที่มารับสาร
เราไม่มีทางเป็นผู้รู้จริงได้มากกว่า เพื่อนที่มาโพสต์ให้ความรู้ในบริษัทนั้น
แน่นอนเราเป็นได้แค่ผู้ตามเท่านั้น

ดังนั้น ผมจึงอยากรู้ว่า เป็นไปได้ไหมที่ผู้ตาม(ผู้ที่เข้ามาขอเสพข้อมูล และการวิเคราะห์)
จะประสพความสำเร็จอย่างยิ่งยวด หรือในระดับที่น่าพอใจ
มีตัวอย่าง สมาชิก ท่านใด ที่ไม่ใช่กูรูในหุ้นตัวนั้นแต่กลับประสพความสำเร็จอย่างยิ่งยวด
ในหุ้นนั้นๆไหมคับ เพราะดูเหมือนพอเราสนใจหุ้นตัวไหน
ตามเสพข้อมูลใน ร้อยคนร้อยหุ้น มันก็เหมือนเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นเลย
หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่คนอื่นเค้ารู้กันก่อนหน้าเราแล้ว
แล้วเราจะประสพความสำเร็จได้อย่างไร

ขอบพระคุณคับ สำหรับทุกคำชี้แนะ

ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหุ้นในแต่ละตัว ที่เข้าไปดูนักหรอกครับ

แต่จะเข้าไปดูจนกว่าจะเข้าใจในทุกมุม ที่สำคัญต่อการลงทุน ส่วนที่นอกเหนือ ถ้ารู้ก็ไม่เสียหาย

มันมีหลักในการพิจารณาไม่มาก ไม่ต้องรู้เยอะมากขนาดนั้น

1) แนวโน้ม (ส่วนใหญ่ผมดูจากรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนไทย หรือความเป็นไปของโลก)

เพื่อมองหารูปแบบของกิจการที่น่าสนใจ

2) ความคุ้มค่าในการลงทุน โดยมองจากมูลค่าซื้อทั้งกิจการว่า คุ้มไหม ถ้าได้ กระแสเงินแบบนี้ โดยต้องอิงกับข้อ 1

เพราะเราต้องแน่ใจว่า ในระยะยาวกระแสเงิน รับ ของกิจการจะเป็นอย่างนั้นตราบเท่าที่เรายังลงทุนอยู่

3) ความเสี่ยง ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ใด ที่ทำให้บริษัทมีอันตรายบ้าง มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

ซึ่ง ข้อนี้ควรให้ความสำคัญมากที่สุด โดยเป็นขั้นสุดท้ายก่อนทำการลงทุน

ผมลงทุนในหุ้นสื่อสาร ผมก็พบว่า ผมรู้น้อยกว่าคนที่อยู่ในวงการเยอะ

แต่คนในวงการกลับมองบางมุมที่ไม่สำคัญว่าสำคัญ และตัดสินใจผิดได้ เช่นสวัสดิการไม่ดี ลูกค้าบ่น

หากเรารู้ว่าอะไรเป็น Key หลัก ที่เราจำต้องรู้

Detail ปลีกย่อยหลายๆอย่าง ไม่จำเป็นต้องรู้

ผมว่า เรื่องการลงทุน ไม่ยากเกินที่จะเรียนรู้

ไม่ใช่ หมอ ก็ลงทุนโรงพยาบาลได้

**************************************************

ส่วนการเป็นผู้ตามจะสำเร็จไหม ผมว่าอยู่ที่ตามเป็นไหม

อ่านความคิดเขาแล้ว เห็นหลักคิดไหม อย่างช่วงแรกของการลงทุน ผมก็ลงทุนในเดินเรือ

ก็เรียกว่า ตาม ผู้รู้(คุณ Invisible Hand ) แต่เรารู้ว่า มุมมอง เป็นอย่างไร

เข้าใจคำว่า วัฏจักร ประเมินความเสี่ยงได้

ก็สำเร็จนะ ได้กำไร 5เท่าตัว ในเวลา 3 เดือน

จนถึงปัจจุบัน ผมยังจำไม่ได้เลย ว่า Jeshi คืออะไร

ต้นทุนOperate ต่อวันต่อเรื่ออยู่เท่าไหร่

แต่ก็สามารถบอกได้ระดับหนึ่งว่าช่วงนี้น่าลงทุนหรือไม่

ปัจจัยในที่จะต้องเอามาพิจารณาในกิจการนั้นๆ

********************************************
ผมว่าคนเราเรียนรู้ได้นะครับ

การลงทุนผมว่าก็เปรียบเหมือนสายสังคม

ไม่ยากเกินเรียน ตามไปเรี่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อย สักวันก็คงเป็นผู้นำ

ผมเป็นผู้ตามเรียนรู้ไปเรื่อยครับ ไม่ได้หวังจะเก่งอะไรกว่าใคร
ศึกษาแล้วหุ้นวิ่งขึ้นไปไม่ได้ซื้อก็ไม่เป็นไร ถือว่าเราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ
วันหน้าก็อย่าตกลงมาให้เห็นแล้วกัน

chinn เขียน:ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหุ้นในแต่ละตัว ที่เข้าไปดูนักหรอกครับ

แต่จะเข้าไปดูจนกว่าจะเข้าใจในทุกมุม ที่สำคัญต่อการลงทุน ส่วนที่นอกเหนือ ถ้ารู้ก็ไม่เสียหาย

มันมีหลักในการพิจารณาไม่มาก ไม่ต้องรู้เยอะมากขนาดนั้น

1) แนวโน้ม (ส่วนใหญ่ผมดูจากรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนไทย หรือความเป็นไปของโลก)

เพื่อมองหารูปแบบของกิจการที่น่าสนใจ

2) ความคุ้มค่าในการลงทุน โดยมองจากมูลค่าซื้อทั้งกิจการว่า คุ้มไหม ถ้าได้ กระแสเงินแบบนี้ โดยต้องอิงกับข้อ 1

เพราะเราต้องแน่ใจว่า ในระยะยาวกระแสเงิน รับ ของกิจการจะเป็นอย่างนั้นตราบเท่าที่เรายังลงทุนอยู่

3) ความเสี่ยง ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ใด ที่ทำให้บริษัทมีอันตรายบ้าง มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

ซึ่ง ข้อนี้ควรให้ความสำคัญมากที่สุด โดยเป็นขั้นสุดท้ายก่อนทำการลงทุน

ผมลงทุนในหุ้นสื่อสาร ผมก็พบว่า ผมรู้น้อยกว่าคนที่อยู่ในวงการเยอะ

แต่คนในวงการกลับมองบางมุมที่ไม่สำคัญว่าสำคัญ และตัดสินใจผิดได้ เช่นสวัสดิการไม่ดี ลูกค้าบ่น

หากเรารู้ว่าอะไรเป็น Key หลัก ที่เราจำต้องรู้

Detail ปลีกย่อยหลายๆอย่าง ไม่จำเป็นต้องรู้

ผมว่า เรื่องการลงทุน ไม่ยากเกินที่จะเรียนรู้

ไม่ใช่ หมอ ก็ลงทุนโรงพยาบาลได้

**************************************************

ส่วนการเป็นผู้ตามจะสำเร็จไหม ผมว่าอยู่ที่ตามเป็นไหม

อ่านความคิดเขาแล้ว เห็นหลักคิดไหม อย่างช่วงแรกของการลงทุน ผมก็ลงทุนในเดินเรือ

ก็เรียกว่า ตาม ผู้รู้(คุณ Invisible Hand ) แต่เรารู้ว่า มุมมอง เป็นอย่างไร

เข้าใจคำว่า วัฏจักร ประเมินความเสี่ยงได้

ก็สำเร็จนะ ได้กำไร 5เท่าตัว ในเวลา 3 เดือน

จนถึงปัจจุบัน ผมยังจำไม่ได้เลย ว่า Jeshi คืออะไร

ต้นทุนOperate ต่อวันต่อเรื่ออยู่เท่าไหร่

แต่ก็สามารถบอกได้ระดับหนึ่งว่าช่วงนี้น่าลงทุนหรือไม่

ปัจจัยในที่จะต้องเอามาพิจารณาในกิจการนั้นๆ

********************************************
ผมว่าคนเราเรียนรู้ได้นะครับ

การลงทุนผมว่าก็เปรียบเหมือนสายสังคม

ไม่ยากเกินเรียน ตามไปเรี่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อย สักวันก็คงเป็นผู้นำ

ขอบคุณมากคับ แต่ผมรบกวนถามนิดนึง
ว่า ทำไมหุ้นเรือตอนขึ้นไป 2 เท่าไม่ขาย 3 เท่าไม่ขาย
แต่กลับขายตอน 5 เท่า มี indicator ตัวใดบอกหรือคับ
แล้วทำอย่างไร ถึงมองได้ขาดขนาดนั้นคับ

การอ่านหนังสือการลงทุนมากๆก็สามารถช่วยได้นะครับ
เพราะการประสบความสำเร็จในการลงทุนของ
นักลงทุนระดับโลกก็เป็นในหลักการและวิธีการเดียวกัน
และบ่อยครังมักเป็นธุรกิจเดียวกันครับลองศึกษาดู

ผมก็ตาม พวกพี่ๆเค้านะครับ
อย่าง SVI ผมก็ตาม ซื้อตั้งแต่ 2.8 คราวที่จ่ายปันผลพิเศษจนยังซื้อเพิ่มล่าสุดเมื่อ 4.66 ก่อนXD ผมก็ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างที่พี่ nut776 นิยายไว้นั้นมันเมื่อไร
แต่ผมก็พอใจกับผลตอบแทนที่ได้เทียบกับความรู้ที่มี

เพราะในเมื่อ หุ้นที่ดีมีจำกัด โอกาสที่เราจะเจอหลังคนอื่นก็เป็นไปได้ทั้งนั้นนะครับ
ผมว่าขอแค่เรารู้เป้าหมายของการลงทุนในแต่ละครั้ง และรักษาวินัย ไว้ให้ได้ตลอด
ไม่ช้าก็เร็วก็จะได้ผลตอบแทนอย่างที่ต้องการไว้แหละครับ

ทุกคนประสบความสำเร็จในการลงทุนได้ครับ มันไม่จำเป็นว่าต้องมี Performance หรูหราอะไรแบบที่ว่าเคยเลือกหุ้น 10 เด้งได้ แต่แค่เราไม่ขาดทุนและมี Performance ที่เติบโตทุกปีก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ อย่าไปเปรียบเทียบกับใคร ผมคิดว่าแค่เราได้ผลตอบแทนตามที่เราวางเป้าหมายไว้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ

nut776 เขียน: แต่ทุกครั้งที่เข้าไปอ่านในร้อยคนร้อยหุ้น
เราก็จะพบว่า ตัวเราเล็กแค่ไหน เรารู้น้อยแค่ไหน

อันนี้ผมก็เป็นครับ

ตามเสพข้อมูลใน ร้อยคนร้อยหุ้น มันก็เหมือนเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นเลย
ก่อนอ่านอาจไม่รู้ และอ่านแล้วก็รู้ ผมคิดว่าตามอ่านไปเรื่อยก็จะรู้ว่าเค้าสนใจข้อมูลอะไรบ้าง ถ้าไม่เข้าใจก็ถาม สุดท้ายเราก็จะได้เรียนรู้และเก่งขึ้น

สุดท้ายผมคิดว่ามุมมองเราสำคัญมากนะครับ การที่เราเข้าไปอ่านในร้อยคนร้อยหุ้น
เห็นรู้สึกว่าเรารู้น้อย รู้สึกท้อ ผมอยากให้ปรับมุมมองว่าเรากำลังเข้ามาเจอ
ข้อมูลมากมายที่เราไม่รู้ และก็เจอคนเก่งๆที่พร้อมที่จะช่วยเหลือเราและตอบคำถามเรา
ในห้องร้อยคนร้อยหุ้น ห้องนี้จะช่วยให้เราเก่งขึ้น

ขอบคุณครับพี่ Chinn .. อ่านแล้วทำให้มีกำลังใจขึ้น ^^

chinn เขียน:ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหุ้นในแต่ละตัว ที่เข้าไปดูนักหรอกครับ

แต่จะเข้าไปดูจนกว่าจะเข้าใจในทุกมุม ที่สำคัญต่อการลงทุน ส่วนที่นอกเหนือ ถ้ารู้ก็ไม่เสียหาย

มันมีหลักในการพิจารณาไม่มาก ไม่ต้องรู้เยอะมากขนาดนั้น

1) แนวโน้ม (ส่วนใหญ่ผมดูจากรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนไทย หรือความเป็นไปของโลก)

เพื่อมองหารูปแบบของกิจการที่น่าสนใจ

2) ความคุ้มค่าในการลงทุน โดยมองจากมูลค่าซื้อทั้งกิจการว่า คุ้มไหม ถ้าได้ กระแสเงินแบบนี้ โดยต้องอิงกับข้อ 1

เพราะเราต้องแน่ใจว่า ในระยะยาวกระแสเงิน รับ ของกิจการจะเป็นอย่างนั้นตราบเท่าที่เรายังลงทุนอยู่

3) ความเสี่ยง ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ใด ที่ทำให้บริษัทมีอันตรายบ้าง มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

ซึ่ง ข้อนี้ควรให้ความสำคัญมากที่สุด โดยเป็นขั้นสุดท้ายก่อนทำการลงทุน

ผมลงทุนในหุ้นสื่อสาร ผมก็พบว่า ผมรู้น้อยกว่าคนที่อยู่ในวงการเยอะ

แต่คนในวงการกลับมองบางมุมที่ไม่สำคัญว่าสำคัญ และตัดสินใจผิดได้ เช่นสวัสดิการไม่ดี ลูกค้าบ่น

หากเรารู้ว่าอะไรเป็น Key หลัก ที่เราจำต้องรู้

Detail ปลีกย่อยหลายๆอย่าง ไม่จำเป็นต้องรู้

ผมว่า เรื่องการลงทุน ไม่ยากเกินที่จะเรียนรู้

ไม่ใช่ หมอ ก็ลงทุนโรงพยาบาลได้

**************************************************

ส่วนการเป็นผู้ตามจะสำเร็จไหม ผมว่าอยู่ที่ตามเป็นไหม

อ่านความคิดเขาแล้ว เห็นหลักคิดไหม อย่างช่วงแรกของการลงทุน ผมก็ลงทุนในเดินเรือ

ก็เรียกว่า ตาม ผู้รู้(คุณ Invisible Hand ) แต่เรารู้ว่า มุมมอง เป็นอย่างไร

เข้าใจคำว่า วัฏจักร ประเมินความเสี่ยงได้

ก็สำเร็จนะ ได้กำไร 5เท่าตัว ในเวลา 3 เดือน

จนถึงปัจจุบัน ผมยังจำไม่ได้เลย ว่า Jeshi คืออะไร

ต้นทุนOperate ต่อวันต่อเรื่ออยู่เท่าไหร่

แต่ก็สามารถบอกได้ระดับหนึ่งว่าช่วงนี้น่าลงทุนหรือไม่

ปัจจัยในที่จะต้องเอามาพิจารณาในกิจการนั้นๆ

********************************************
ผมว่าคนเราเรียนรู้ได้นะครับ

การลงทุนผมว่าก็เปรียบเหมือนสายสังคม

ไม่ยากเกินเรียน ตามไปเรี่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อย สักวันก็คงเป็นผู้นำ

พยายามจะทำให้ได้อย่างคุณชิณณ์ครับ

จำกระทู้ที่พี่หมอสามัญชนมาเขียนไว้ไหมครับ ที่บอกว่าหุ้นหลาย ๆ ตัวที่ถืออยู่ก็เพราะมีคนบอก เช่น SF ได้จาก picatos และ jas นี่ก็ได้ความรู้จากคุณชิณณ์นี่แหละ

ผมว่าที่คนส่วนใหญ่ขาดคือ เวลาในการลงทุน เรามักจะมั่นใจเมื่อมีคนเฮโลตามมาก ๆ หรือซื้อแล้วได้กำไร 20% ในสามเดือนหรืออาทิตย์ ก็อยากจะขายแล้ว (ผมก็ยังเป็นอยู่) หรือซื้อแล้วราคาตก ทำให้จิตตกไปด้วย

ความรู้ส่วนมากเท่าทันกันหมด แต่อยู่ที่ภาวะอารมย์และทัศนคติในการลงทุนมากกว่า

ถ้าตามแล้ว มาวิเคราะห์ต่อเองได้ว่ามันดีจริงหรือไม่ดีจริงจากข้อมูลต่างๆที่ได้รับ ผมก็ว่าไม่น่ามีปัญหานะครับ