Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมมองว่าโดดเด่นไม่ต่างกันเลยครับ ซื้ออ่านของแกทุกเล่มเลย (ที่มีขาย) ทั้งที่แกแปลและเขียนเอง

ขอบคุณอาจารย์นิเวศน์มากๆครับ

มากกว่า "นักเขียน" และ "นักลงทุน"...
ผมยังมองว่า...
ท่านเป็น "แรงบันดาลใจ" ให้กับพวกเราเกือบทุกคน

"วินาที...ที่อาจารย์ไพบูลย์เอ่ยชม ดร. บนเวที"
เป็นเวลาเดียวกับ ที่อาจารย์มองลงมาจากเวที และมองเห็นพวกเราทุกๆคน(ซึ่งล้วนแต่สนใจในมุมมองของ VI)
จากจุดเกือบศูนย์...ในวันที่ท่านได้เริ่มต้น จนมาถึงวันที่ "เติบใหญ่" ได้เช่นนี้
เติบใหญ่ ทั้งในพอร์ตของตัวเอง และในสังคมที่มีนักลงทุนที่มีคุณภาพมากขึ้น
พวกเราที่นั่งฟังด้วยรอยยิ้ม ,ที่นั่งกับพื้น ,ที่ยืนอุ้มลูก เพื่อฟังท่าน...มากันแบบล้นหลามแน่นห้อง
ไม่มีอะไร จะน่าภาคภูมิใจและประทับใจยิ่งกว่า "วินาทีนั้น" อีกแล้ว

Idol ของพวกเรา
Role Model ที่ดีสำหรับพวกเรา ทั้งในแง่ของการลงทุน และการใช้ชีวิต
"หุ้น , ชีวิต , ความรัก , ความอบอุ่น , ครอบครัว , ความสมถะ"
ได้ทั้ง "เงิน และ "กล่อง"
สำหรับประเทศไทยแล้ว...คนนี้ ครบถ้วนจริงๆครับ

สำหรับท่านนี้ผมยอบรับด้วยใจจริงจริงๆ สมแล้วที่เป็นระดับ ดร. คารวะสามจอก

เห็นด้วยครับ

เห็นด้วยค่ะ

ทุกทีที่ผมฟังนอกรอบกับท่าน
ผมรู้สึกว่าท่านถ่ายทอดวิธีคิดของท่านด้วย
ถ้าใครเข้าใจ จะไปคิดต่อยอดได้อีก
ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆครับ เสียสละเวลายืนเมี่อย
เป็นชั่วโมง โดยไม่ปริปากบ่นเลย
ตำนานวีไอเบอร์หนึ่งของเมืองไทยครับ

m(__.__)m

นี่แหละครับที่ผมคิดว่า "ผู้ให้อย่างแท้จริง"
ที่สำคัญดำรงตนให้เป็นแบบอย่างด้วย
ผมเองได้ ดร.นิเวศน์ เป็นแบบอย่างนี่แหละ ถึงได้มาเป็นนักลงทุนในตลาดได้

ฟังหลายๆ คนเล่าแล้วทีหลังผมจะได้ไปหาโอกาสฟังดร.นอกรอบ หลังสัมมนาประจำเดือนกับเขามั่ง เผื่อจะได้แนวคิดอะไรดีๆ กลับไปคิด เห็นด้วยครับว่าท่านเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง ไม่หวงความรู้เลย ทำให้เราประจักษ์แล้วว่าคนหวงๆ มั่งคั่งไม่จริง รวยไม่ยั่งยืน แบบดร.นี่แหละครับ ตัวอย่างของคำว่ายิ่งให้ยิ่งได้

อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกสบายใจโล่งใจอย่างมากเลย เลยอดใจไม่ไหว ต้องเขียนความรู้สึกเสียหน่อย และเห็นด้วยอย่างยิ่งกับเจ้าของกระทู้นี้ ซี้งต่างจากที่ได้อ่านกระทู้ใกล้ๆในหน้าเดียวกันนี้เมื่อหลายวันก่อนอย่างมาก ผมมีหนังสือของอาจารย์ทุกเล่มเพราะอยากมีตำราไว้อ่านทั้งที่บทความนั้นอ่านผ่านเวปแล้วก็ตาม เคยพบตัวเป็นๆ(หมายถึงใกล้ๆ)สองสามครั้งตอนไปฟังบรรยาย ก่อนท่านจะขึ้นเวที เที่ยวเดินไปเดินมาหลังห้อง(ยังไม่ถึงคิว)มีคนทักทายรุ่นเด็กกว่ามาก ท่านให้ความเป็นกันเองมากพูดคุยอย่างอารมณ์ดี เป็นผู้ใหญ่ใจดี รู้สึกประทับใจมากหลายปีมาแล้วยังไม่ลืมเลย ทั้งที่ไม่ได้พูดกับเราโดยตรง ขึ้นเวที หรือออกรายการการพูดของท่านแสดงด้วยความจริงใจ ตรงไปตรงมาดี หลายคนน่าจะสัมผัสได้ แววตาท่าทาง เรื่องการเขียนผมคิดว่ายากกว่าการพูดหลายเท่า ผมคิดว่าท่านทำได้ยอดเยี่ยมมาก อ่านง่ายเข้าใจง่าย ท่านสามารถถ่ายทอดความคิดได้เต็มที่ บางครั้งการพูดหลายคนเวลาจำกัด เขียนมาเสียยาวเชียว ผมเห็นด้วยกับกระทู้ของคุณครับ

pak เขียน:มากกว่า "นักเขียน" และ "นักลงทุน"...
ผมยังมองว่า...
ท่านเป็น "แรงบันดาลใจ" ให้กับพวกเราเกือบทุกคน

สิ่งที่สุดยอด ที่คนๆนึงพึงจะทำได้ คือการเป็น "แรงบันดาลใจ" ให้ผู้อื่นนะครับ มันยิ่งกว่าการให้เงิน ทอง หรืออะไรอีกนะ ชื่นชมดร.จริงๆครับ

แต่เรื่องการเขียนบทความ ผมสงสัยคำว่า "ว่าที่จริง" ที่ดร. ท่านใช้บ่อยๆ กับคำว่า "อันที่จริง" มันคล้ายและใช้แทนกันได้หรือเปล่านะ

ครั้งแรกที่ผมรู้จัก ดร.นิเวศน์ ก็มาจากการอ่านหนังสือครับ
ไม่ใช้ตีแตก แต่ว่าเป็น 16 กลยุทธการเล่นหุ้นครับ พอผมอ่านครบ
ทั้ง 16 คนซึ่ง 16 คนนี้จะมีทั้งบรรดา ผู้จัดการกองทุน ดังๆ และนักลงทุน
แนวปั้นหุ้นหลายคน แต่บุคคลที่ผมอ่านแล้วรู้สึก.......สดุด......กึก...และใช่เลย

ก็คือ ดร.นิเวศน์ ครับ เหมือนเห็นแสงสว่างทางปลายอุโมงของชีวิต เป็นการเปิด
มุมมองของโลกใหม่ จากโลกปัจจุบันที่ผมเข้าใจอยู่ ทั้งที่ตอนที่ผมอ่านหนังสือเล่ม
นี้ผมจะอายุ 31 ปีแล้วก็ตาม ไม่คิดว่ามีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ให้เงินทำงานแทน มีอิสระภาพ
ทางการเงิน

หลังจากนั้นผมก็ซื้อหนังสือของ ดร.ทุกเล่ม และเริ่มเข้าไปฟังสัมนาที่ตลาดหลักทรัพย์
และเป็นเหมือนโชคดี ผมไปฟังสัมนาวันแรกก็เจอ ดร.นิเวศน์ ตัวเป็นๆ ผมไปรอหลังเลิกงาน
ดร.นิเวศน์ ก็ตั้งวงให้ความรู้กับทุกๆคน และเมื่อได้ฟังสิ่งที่ท่านพูด ก็ยิ่งทำให้ศัทธาในตัวท่านมากขึ้นไปอีก แวตา ภาษา และการสื่อสาร เต็มไปด้วยบรรยากาศเหมือนสมัยเรียนหนังสือ เหมือนครูอาจารย์ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ลูกศิษฐ์ มุมมองที่เฉียบแหลม มองแบบบ้านๆ แต่ทำให้ผู้ฟังเห็นภาพที่ชัดเจน .....ไม่มีคำไหนเปรียบได้.... บอกได้แต่ว่า...ท่านเป็นบุคคที่สุดยอดเกือบทุกด้าน
ที่เคยรู้จักมา

เป็นต้นแบบของการลงทุน ..... เป็น Source Coppy ในหุ้นบางตัวเช่น HMPRO (Coppy มาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ดร.บอกว่าจะเป็น Supper Stock ตั้งแต่ตอนนั้น) AOT, CPALL, IT, Se-ed
ก็โดนผม Coppy มาหมดแล้ว ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ให้ทั้งความรู้และ สินทรัพย์ ครับ

ขอสรรเสริญอาจารย์อีก 1 เสียงครับ

ปรมาจารย์ ต้นแบบ บิดาแห่งการลงทุน แนว วีไอ ในประเทศไทย

ต้องยกให้ ดร. ครับ ผมอ่านหนังสือ และบทความ ของดร. แล้วรู้สึกทึ่งครับ

ว่าท่านสามารถ ตกผลึกความคิด แล้วกลั่นกรอง ออกมาพร้อมถ่ายทอดได้สมบูรณ์แบบมากครับ

ขอคาราวะครับ

อาจารย์ของผม ...

ขอบคุณ dr สำหรับผมคือแรงบันดาลใจ แท้ๆ

ขอบคุณ ดร. ที่สอนให้รู้ vision mission Goal และความรู้อีกมากมายของการลงทุน สำหรับผมดร.คือไอดอล

ขอบคุณมากครับ เป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราทุกคนครับ ขอบคุณมาก และอ.ไพบูลย์ด้วยครับ

pak เขียน:มากกว่า "นักเขียน" และ "นักลงทุน"...
ผมยังมองว่า...
ท่านเป็น "แรงบันดาลใจ" ให้กับพวกเราเกือบทุกคน

"วินาที...ที่อาจารย์ไพบูลย์เอ่ยชม ดร. บนเวที"
เป็นเวลาเดียวกับ ที่อาจารย์มองลงมาจากเวที และมองเห็นพวกเราทุกๆคน(ซึ่งล้วนแต่สนใจในมุมมองของ VI)
จากจุดเกือบศูนย์...ในวันที่ท่านได้เริ่มต้น จนมาถึงวันที่ "เติบใหญ่" ได้เช่นนี้
เติบใหญ่ ทั้งในพอร์ตของตัวเอง และในสังคมที่มีนักลงทุนที่มีคุณภาพมากขึ้น
พวกเราที่นั่งฟังด้วยรอยยิ้ม ,ที่นั่งกับพื้น ,ที่ยืนอุ้มลูก เพื่อฟังท่าน...มากันแบบล้นหลามแน่นห้อง
ไม่มีอะไร จะน่าภาคภูมิใจและประทับใจยิ่งกว่า "วินาทีนั้น" อีกแล้ว

Idol ของพวกเรา
Role Model ที่ดีสำหรับพวกเรา ทั้งในแง่ของการลงทุน และการใช้ชีวิต
"หุ้น , ชีวิต , ความรัก , ความอบอุ่น , ครอบครัว , ความสมถะ"
ได้ทั้ง "เงิน และ "กล่อง"
สำหรับประเทศไทยแล้ว...คนนี้ ครบถ้วนจริงๆครับ

เห็นด้วยทุกประการครับ ฟังสัมมนาวันนั้นแล้วตื้นตันแทนดร. ผมเป็นหนี้บุญคุณดร.นิเวศน์ มากมายใช้ยังไงก็ไม่หมดแน่ๆ ที่ทำงานเว็ปอยุ่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่เลยคืออยากให้คืนแก่สังคมเพื่อให้แนวทางวีไอที่ดร.เริ่มไว้เบ่งบานและสร้างฐานะและความสุขในการลงทุนให้กับคนรุ่นหลังๆต่อๆไปครับ

ขอคารวะดร.นิเวศน์ อย่างหมดหัวใจเลยครับ

ลองมองในมุมที่อาจารย์ถ่ายทอดความรู้เรื่อง VI ในกับสังคมซิครับ ทั้ง ๆที่อาจารย์ก็รู้ว่าในอนาคตคนเหล่านี้ต้องมาแย่งท่านหา "ปลาใน

บ่อ" ซึ่งอาจารย์ก็เคยปรารภอยู่เรื่อย ๆว่าเดี๋ยวนี้หาหุ้นที่ undervalue ยากเพราะมี VI เก่ง ๆเยอะ

ขอคารวะในความเสียสละ และจิตใจของท่านครับ

สิ่งที่ผมคิดว่า คุ้มที่สุดในการไปครั้งนี้ คือ มิตรภาพของ ดร.ทั้งสองที่มีต่อกันครับ วินาทีนั้น ผมรู้สึกได้เลยครับว่า มันยิ่งใหญ่กว่า ความสำเร็จในการลงทุนของท่านมากครับ

นับถือมานาน

ผมมีความเสียใจในคำตอบของผมเมื่อสองวันก่อนที่อาจารย์ไพบูลย์ได้ถามถึงนักลงทุนที่ชื่นชอบ
ผมได้ไปนึกถึงคนที่เขียนหนังสือเผยแพร่แนวคิดสองคนที่ผมปฎิบัติตามคือ
ฟิล ฟิชเชอร์ และ ปีเตอร์ ลินซ์
วันนี้ในช่วงที่กำลังอ่านหนังสือการลงทุนอยู่ คำถามนี้ลอยมาอีกครั้ง ผมนึกแว๊ปเสียใจกับการตอบเช่นนั้นออกไป
เพราะจริงๆผมไม่ได้อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ แต่ผมอ่านหนังสือแปลที่ ทั้งดร.นิเวศน์และพี่เวปแปลให้ผมอ่าน คนที่ให้ความรู้ผม และที่ผมเป็นหนี้บุญคุณจริงๆควรจะเป็นสองท่านนี้มากกว่า รวมไปถึงอาจารย์ทั้งหลายในเวปที่ผมสอบถามและขโมยอ่านเอาความรู้ที่เผยแพร่ในเวปแห่งนี้

ยังไงขอฝากแก้คำตอบ ส่งไปยังอาจารย์ไพบูลย์ด้วยนะครับว่า คนที่ผมชื่นชอบในการลงทุนขอเปลี่ยนเป็นอาจารย์นิเวศน์และพี่พรชัยครับ

มาคารวะอาจารย์ดร.นิเวศน์ด้วยคนครับ ติดตามอ่านหนังสือและบทความมาตลอด ถือว่าเป็นบุคคลที่สามารถนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตได้เลยทีเดียว หน้าตาและชื่อดาราผมมักจำไม่ค่อยได้ แต่ชื่อและหน้าตาของบรรดาเซียนที่ขึ้นไปบนเวทีวันก่อนผมจำได้หมดรวมถึงวิธีการและแนวคิดต่างๆ นอกจากหนังสือพ่อรวยสอนลูกและเงินสี่ด้าน ที่ทำให้เปลี่ยนแนวคิดแล้ว เรื่องหลักการลงทุนในหุ้นก็มีอาจารย์นี่แหละครับที่สอนให้หมด ถ้าสังเกตุตอนสัมมนาจะเห็นว่าอาจารย์พูดเรื่องอื่นไม่ค่อยเก่ง แต่ถ้าเรื่องการลงทุนแล้วละก็หาคนเที่ยบได้ยากจริงๆ

อ่านกระทู้นี้แล้วซึ้งจริงๆ ผมเชื่อว่าทุกคนก็รู้สึกเหมือนๆกัน
มีสิ่งดีๆอีกมากที่ยากจะบรรยายออกมาหมด นี่แหล่ะของจริงของแท้
ไม่ต้องโฆษณาแต่รู้สึกกันได้ด้วยใจ....

ถ้าดร.มาอ่านแกคงปลื้มและภูมิใจทั้งตัวแกเองและลูกศิษย์ทุกคน

ไม่เคยคุยกับแกเลย ได้แต่มองห่างๆเวลาเจออย่างสุดที่จะเคารพ.....

ด้วยความเคารพ
ขอแบบไม่ใช่งานแปลดีกว่าคับ
one upon wall street ออกจะไม่พริ้วสำหรับผม
แต่งานเขียนบทความผมชอบคับ

pak เขียน:มากกว่า "นักเขียน" และ "นักลงทุน"...
...
"วินาที...ที่อาจารย์ไพบูลย์เอ่ยชม ดร. บนเวที"
เป็นเวลาเดียวกับ ที่อาจารย์มองลงมาจากเวที และมองเห็นพวกเราทุกๆคน(ซึ่งล้วนแต่สนใจในมุมมองของ VI)
จากจุดเกือบศูนย์...ในวันที่ท่านได้เริ่มต้น จนมาถึงวันที่ "เติบใหญ่" ได้เช่นนี้
เติบใหญ่ ทั้งในพอร์ตของตัวเอง และในสังคมที่มีนักลงทุนที่มีคุณภาพมากขึ้น
พวกเราที่นั่งฟังด้วยรอยยิ้ม ,ที่นั่งกับพื้น ,ที่ยืนอุ้มลูก เพื่อฟังท่าน...มากันแบบล้นหลามแน่นห้อง
ไม่มีอะไร จะน่าภาคภูมิใจและประทับใจยิ่งกว่า "วินาทีนั้น" อีกแล้ว
...

วินาทีนั้น เรายืนอยู่ที่ประตูทางออกด้านบน เกิดความรู้สึกบรรยายได้ว่า...

...แลเห็นบรรยากาศในห้องประชุมค่อย ๆ เปลี่่ยนไป ขณะที่อาจารย์ไพบูลย์กล่าวอยู่นั้น ความรู้สึกตื้นตันและซาบซึ้งของผู้ฟังค่อย ๆ เอ่อล้น มวลไอของความรู้สึกนั้นรวมกันลอยตัวสูงขึ้นถึงฝ้าเพดาน แผ่ซ่านปกคลุมไปทั่วทั้งห้องประชุม แล้วล้นออกทางประตูทางออกด้านบน รู้สึกได้ถึงแรงปะทะ และความสั่นไหวของมวลไอนั้นตลอดเวลาที่อาจารย์ไพบูลย์กล่าว... ตราบถึงตอนที่ ดร.นิเวศน์ เล่าถึง ฉี่เปลี่ยนชีวิต บรรยากาศในห้องประชุมก็กลับสู่สภาวะปรกติ...

ยิ่งใหญ่ สวยงาม และน่าจดจำมากครับ..

แน่นอนที่สุด ถูกต้องที่สุด ครับ
มีหลายท่านที่เป็นอัจฉริยะ แต่มีกี่ท่าน
ที่เหมือนท่านอารจารย์ดอกเตอร์ ที่นำมาถ่ายทอดต่อสู่พวกเรา

ความมีน้ำใจของอาจารย์ หาอัจฉริยะ ท่านอื่นเปรียบเทียบได้ยากครับ

ถือเป็น ต้นแบบ ของผมครับ

pak เขียน:มากกว่า "นักเขียน" และ "นักลงทุน"...
ผมยังมองว่า...
ท่านเป็น "แรงบันดาลใจ" ให้กับพวกเราเกือบทุกคน

"วินาที...ที่อาจารย์ไพบูลย์เอ่ยชม ดร. บนเวที"
เป็นเวลาเดียวกับ ที่อาจารย์มองลงมาจากเวที และมองเห็นพวกเราทุกๆคน(ซึ่งล้วนแต่สนใจในมุมมองของ VI)
จากจุดเกือบศูนย์...ในวันที่ท่านได้เริ่มต้น จนมาถึงวันที่ "เติบใหญ่" ได้เช่นนี้
เติบใหญ่ ทั้งในพอร์ตของตัวเอง และในสังคมที่มีนักลงทุนที่มีคุณภาพมากขึ้น
พวกเราที่นั่งฟังด้วยรอยยิ้ม ,ที่นั่งกับพื้น ,ที่ยืนอุ้มลูก เพื่อฟังท่าน...มากันแบบล้นหลามแน่นห้อง
ไม่มีอะไร จะน่าภาคภูมิใจและประทับใจยิ่งกว่า "วินาทีนั้น" อีกแล้ว

Idol ของพวกเรา
Role Model ที่ดีสำหรับพวกเรา ทั้งในแง่ของการลงทุน และการใช้ชีวิต
"หุ้น , ชีวิต , ความรัก , ความอบอุ่น , ครอบครัว , ความสมถะ"
ได้ทั้ง "เงิน และ "กล่อง"
สำหรับประเทศไทยแล้ว...คนนี้ ครบถ้วนจริงๆครับ

ตอบได้โดนใจผมเลยครับ

จำได้ว่า ตอนที่ได้ฟังอาจารย์พูดครั้งแรก ทำให้คิดอยากที่จะลงทุนขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ คิดว่าการซื้อหุ้น คล้ายกับการเล่นพนันอย่างหนึ่ง แต่อาจารย์ได้ให้แนวคิดเรื่องการลงทุน ทำให้เริ่มต้นศึกษาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จากนั้น ก็ติดตามผลงานของอาจารย์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ, งานสัมมนา

ขอบคุณอาจารย์มากครับ ที่แบ่งปันความรู้ดีๆ แบบนี้ให้พวกเราทุกคน