Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ถ้าผมถามงงๆ ต้องขออภัยพี่ๆล่วงหน้าครับ
จากที่อ่านมา เห็นมีบางข้อความของบัฟเฟตกล่าวว่า เลือกหุ้นที่ชื่อฟังดูน่าเบื่อ แต่ทำกำไรได้สม่ำเสมอ
สงสัยคำว่า กำไรสม่ำเสมอ ครับ ว่ามันเป็นยังไง เพราะสังเกตุว่าใครๆก็มองหาแต่กำไรก้าวกระโดด แล้วการสะท้อนราคาในตลาดจะเป็นอย่างไร สำหรับกิจการที่กำไรไม่ก้าวกระโดด
ขอสมมุตินะครับ
บริษัท ขายเรื่อยๆ จำกัด มหาชน
สินทรัพย์ 100 บาท แบ่งเป็น 10 หุ้น หุ้นละ 10บาท
ทำกำไรได้ปีละ 10 บาท 5ปี ไม่จ่ายปันผล
ปีแรก ปีที่2 ปีที่3 ปีที่4 ปีที่5
สินทรัพย์ 100 110 120 130 140
กำไร 10 10 10 10 10

กำไรไมได้เป็นเปอร์เซ็นต่อสินทรัพย์ แต่เป็นรายได้ที่คงที่
แบบนี้ตลาดในไทย ให้ราคายังไงครับ (สมมุติตัดเรื่องอารมณ์ของตลาดออก) และธุรกิจแบบนี้ยังใช่ที่บัฟเฟต พูดถึงอยู่ไหมครับ(เฉพาะคำว่ากำไรที่สม่ำเสมอ)

เหตุที่ถามเพราะสงสัยว่า ตลาดให้ราคาหุ้นตามราคาสินทรัพย์หรือเปล่า (ผมคิดเอาเองว่าราคาตามBookValueนั้นไม่มีประโยชน์เพราะไม่มีreturnจริง)
เพราะสังเกตุเห้นว่าตลาดจะให้ราคาตาม อัตรากำไรที่เติบโต เลยทำให้ย้อนสงสัยว่า กำไรสม่ำเสมอของบัฟเฟต นั้นเป็นอย่างไรกันแน่

รบกวนพี่ๆแนะนำน้องด้วยครับ

ที่ปู่่บัพแกแนะให้หาบริษัทที่กำไรสม่ำเสมอนั้น ไม่ได้แปลว่ากำไรเท่ากันทุกปีนะครับ
มันหมายถึงการทำกำไรในแง่ที่ว่า เราค่อนข้างมั่นใจว่ากำไรมาได้ยังไง
และทำไมมันยังยังคงสร้างกำไรได้ในระยะยาว ไม่ใช่หวือหวา กำไรขึ้นลง
เรามองเรือ่งศักยภาพในการเดาอนาคตมากกว่า คือเลือกตัวที่เราค่อนข้างจะเห็นภาพ
อนาคตค่อนข้างชัดเจน

เมื่อเจอแล้ว ก็ขอให้ซื้อที่ราคาที่มี MOS

ทีนี้กลับมาเรื่องกำไร
หากเป็นดังเคสที่คุณครีมเปรี้ยวยกมาว่าทุกปีกำไร 10 ตลอด โดยไม่ปันผลเลย
บริษัทนี้ไม่น่าลงทุนครับ
เหตุผลไม่ใช่เพราะมันไม่ปันผลครับ
เหตุผลคือ มันกำไรลดลงทุกปี
เพราะหากไม่ปันผล กำไรที่เก็บไว้ ต้องสร้างกำไรต่อได้อีก
นั่นแปลว่ากำไรจะต้องเพิ่มทุกปี ทบต้นไปเรือ่ยๆ
นี่คือเหตุผลที่ เบริกไชร์ไม่ปันผล
ในเคสที่ยกมา ปรากฏว่าปันผลไม่จ่าย เก็บกำไรไปลงทุนต่อ แต่กลับได้ 10 เท่าปีก่อน
แสดงว่าศักยภาพในการทำกำไรลดลงเรื่อย ๆ ครับ

หาเล่มนี้มาอ่านดูครับ

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=15&t=39215

ผมเข้าใจว่า คุณบัฟเฟต ปีเตอร์ลินซ์ ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน ทำให้พอร์ตโตขึ้นในอัตราที่สูง
แต่จากการสังเกตุหุ้นที่ราคาปัจจุบันขึ้นมาจากราคาในอดึต "หลายๆเด้ง" กลับเป็นหุ้นในกลุ่มโตเร็ว

แต่จากหลักการทั้ง3ท่าน เท่าที่อ่าน(และหากเข้าใจไม่ผิด) มักจะเน้นไปที่ผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอ เป็นหลัก (ผมแปลเอาว่ากำไรสม่ำเสมอ)
แต่ไม่ค่อยเน้นว่าต้องเป็นหุ้น โตเร็ว อ่านๆดูเหมือนจะเน้นแค่ว่า อีก5-10ปี ก็จะต้องยังทำกำไรได้อยู่ แค่นั้น ไม่ได้มีเนื้อหาเน้นเอาว่าจะต้องโตเร็วแต่อย่างใด

เลยทำให้ผมสงสัยถึงผลตอบแทนของกิจการที่มีกำไรสม่ำเสมอ แม้จะไม่ใช่กลุ่มโตไวก็ตาม อาจจะแค่ 5-10%
ว่ากิจการแบบนี้ ให้ผลตอบแทนเป้นอย่างไรครับ

คุณ out of my mind ตอบได้ครบหมดแล้วคับ
แต่ถัาพูดแบบผมคือ ธุรกิจทค่กำไรไม่โต คือตายแล้ว เพราะ จะถูกคู่แข่งกิน กำไรสม่ำเสมอ ก็คือ สิบยี่สิบปี มันก็ยังต้องกำไร และไม่หดตัว อย่างน้อยก็ต้องโตกว่า จีดีพี

SourCreamz เขียน:ผมเข้าใจว่า คุณบัฟเฟต ปีเตอร์ลินซ์ ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน ทำให้พอร์ตโตขึ้นในอัตราที่สูง
แต่จากการสังเกตุหุ้นที่ราคาปัจจุบันขึ้นมาจากราคาในอดึต "หลายๆเด้ง" กลับเป็นหุ้นในกลุ่มโตเร็ว

แต่จากหลักการทั้ง3ท่าน เท่าที่อ่าน(และหากเข้าใจไม่ผิด) มักจะเน้นไปที่ผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอ เป็นหลัก (ผมแปลเอาว่ากำไรสม่ำเสมอ)
แต่ไม่ค่อยเน้นว่าต้องเป็นหุ้น โตเร็ว อ่านๆดูเหมือนจะเน้นแค่ว่า อีก5-10ปี ก็จะต้องยังทำกำไรได้อยู่ แค่นั้น ไม่ได้มีเนื้อหาเน้นเอาว่าจะต้องโตเร็วแต่อย่างใด

เลยทำให้ผมสงสัยถึงผลตอบแทนของกิจการที่มีกำไรสม่ำเสมอ แม้จะไม่ใช่กลุ่มโตไวก็ตาม อาจจะแค่ 5-10%
ว่ากิจการแบบนี้ ให้ผลตอบแทนเป้นอย่างไรครับ

น่าจะเป็นผลการดำเนินงานเติบโตอย่างสม่ำเสมอนะครับ ยังไงก็เติบโตเป็นหลักครับ อาจจะเข้าใจผิดเพราะ

ลินซ์ แบ่งหุ้นเป็น 6 กลุ่มชัดเจนครับ เค้าบอกอีกชัดเจนว่า พวกหุ้นบริษัทใหญ๋ๆ รายได้มั่นคง แบบ หุ้น บูลชิฟ เค้าไม่ค่อยชอบ ขึ้นซัก 30-40% โดยที่พื้นฐานกิจการไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็พิจรณาขายแล้ว เพราะมันมักไม่สามารถทำให้หวังว่าจะได้หลายๆ เด้งได้ แต่มีเอาไว้บ้าง เผื่อเวลาวิกฤตมักลงไม่มาก ( แต่ผมว่าตลาดบ้านเราวิกฤตมามันก็ลงหมด ) ส่วนหุ้นเติบโต และ หุ้นโตเร็ว ลินซ์ เขียนไว้ชัดเจนมากครับ พวกที่เป็น 10 เด้งมักจะมาจากหุ้นกลุ่มนี้ แต่ความเสี่ยงสูงเช่นกัน ผมว่าลินซ์ เขียนไว้ค่อนข้างชัดเจนนะครับ ว่าราคาหุ้นมักจะวิ่งเข้าตามผลประกอบการณ์ หากกำไรเท่าเดิม ราคาสุดท้ายก็จะวิ่งแบบธรรมดาเท่าๆ เดิม ผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้ตังค์ ส่วนกำไรเติบโต ราคาหุ้นก็จะวิ่งสูงขึ้นไปด้วย ผมว่าเคลียร์ มากครับ ว่าเค้าหมายความว่าอะไร

ส่วน บัฟเฟต์ เองไม่เคยเขียนหนังสือเองครับ เค้าเขียนแต่จดหมายถึงผู้ถือหุ้น หนังสือส่วนใหญ่จะหยิบพฤติกรรมต่างๆ ของเค้ามาวิเคราะห์ และ สรุปเองครับ เพราะฉะนั้นต้องระวังเวลาอ่าน เพราะบัพเพ่ต์ ไม่เคยเขียนเองเลย แต่ดูเหมือน เค้าจะชอบ ซื้อหุ้นที่ กำไรดี ผบห ยอด กิจการเยี่ยม แต่มีปัญหาชั่วคราว ทำให้ตลาดตื่นกลัว เทขายหุ้น ลงไปเละเทะ เค้าจะชอบซื้อตอนนั้นมากกว่า อย่าตอนที่ซื้อ โค้ก American Express ก็ได้ตอนที่ถูกมากๆ

SourCreamz เขียน:...เห็นมีบางข้อความของบัฟเฟตกล่าวว่า เลือกหุ้นที่ชื่อฟังดูน่าเบื่อ แต่ทำกำไรได้สม่ำเสมอ...

อ่านมาจากไหนครับไม่เคยได้ยิน ?

SourCreamz เขียน:...สงสัยคำว่า กำไรสม่ำเสมอ ครับ ว่ามันเป็นยังไง เพราะสังเกตุว่าใครๆก็มองหาแต่กำไรก้าวกระโดด แล้วการสะท้อนราคาในตลาดจะเป็นอย่างไร สำหรับกิจการที่กำไรไม่ก้าวกระโดด...

ความเห็นของผมนะ
ถ้าตามในหนังสือของเจ๊แมรี่บัฟเฟต
ผมคิดว่าประเด็นนี้คือ
กิจการที่สามารถคาดการณ์กำไร
หรือเงินสดในอนาคตของกิจการได้
และมั่นใจว่ากิจการที่เราสนใจ
สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
(จากตัวอย่างที่ปู่่เคยบอกว่า...
ถ้าตลาดหุ้นต้องปิดไปหลายๆ ปี
ปู่ก็ไม่เดือดร้อน)

ส่วนประเด็นเรื่องกำไรที่จะก้าวกระโดด
ผมว่าปู่เขาน่าจะสนใจที่คุณภาพของกำไร
หรือเงินสดที่บริษัทจะสร้างให้ผู้ถือหุ้น
ในระยะยาวมากกว่าครับ

ปล.
ผมไม่ใช่ปู่ครับผมไม่ใช่ปู่ ...

SourCreamz เขียน:...เห็นมีบางข้อความของบัฟเฟตกล่าวว่า เลือกหุ้นที่ชื่อฟังดูน่าเบื่อ แต่ทำกำไรได้สม่ำเสมอ

เฉลยให้แล้วกัน
เพราะผมรู้ว่าคนที่บอก
คือ ปีเตอร์ ลินช์ ...

ขอบคุณพี่ๆมากๆครับ ผมอ่านๆแล้วก็มึนๆงงๆเอง

ถ้าผมจับใจความไม่ผิด ไม่ว่าใคร เทคนิคแบบไหน เป้าหมายก็คือ Growth ของกำไร ในท้ายที่สุด ใช่ไหมครับ

กำไรเท่าเดิมทุกปีจะไม่ไหวครับ
เพราะเงินเฟ้อจะกินกำไรเกลี้ยงครับ

จริงๆแล้วแก่นมันก็ไม่มีอะไรมากเลยครับ คิดง่ายๆคิดธรรมดาๆ
หลักก็คือ หาบริษัทที่รวยเร็วและรวยอย่างมั่นคง(หลักการง่่ายๆ แต่ต้องใช้ความรู้มากมาย)
ส่วนพวกบริษัทที่ขายของกี่ปีๆก็ได้เท่าเดิม แบบนี้มันก็ไม่รวยครับ และตลาดก็รู้จึงไม่ให้ราคา
ประเทศเราเศรษฐกิจใหญ่ขึ้น แต่ตัวเองขายของได้เท่าเดิม = แพ้แล้วครับ อาจจะเพราะอุตสาหกรรมหดตัว หรือ โดนคู่แข่งแย่งเค้กไปแล้ว

ส.สลึง เขียน:

SourCreamz เขียน:...เห็นมีบางข้อความของบัฟเฟตกล่าวว่า เลือกหุ้นที่ชื่อฟังดูน่าเบื่อ แต่ทำกำไรได้สม่ำเสมอ

เฉลยให้แล้วกัน
เพราะผมรู้ว่าคนที่บอก
คือ ปีเตอร์ ลินช์ ...

lynch พูดจริง แต่ผมคุ้นว่า buffet ก็เคยพูดนะ แต่อาจจะไม่ใช่น่าเบื่อ อาจจะไม่ใช่ชื่อ
แต่เป็นกิจการที่ดูน่าเบื่อหรือเปล่า
แต่ลินช์ ชัวร์มาก