หน้า 1 จากทั้งหมด 6
การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 6:29 pm
โดย imerlot
มุมที่1.
แนวโน้มใหญ่ในปัจจุบัน
ของ
นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
Thursday, 30 April 2009
http://www.sarut-homesite.net/%E0%B9%81 ... %E0%B8%99/
การมอง Demand Trends ถือเป็นวิธีหนึ่งที่สำคัญในการพิจารณาเลือกลงทุน วิธีมอง Demand Trends ที่ดีอย่างหนึ่งก็คือ การมองแนวโน้มใหญ่ (MegaTrend)
แนวโน้มใหญ่คือ ความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม ซึ่งส่งผลต่อความต้องการสินค้าและบริการในภาคธุรกิจ แนวโน้มใหญ่มักเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นติดต่อกันนานหลายปี ไม่ใช่แค่ชั่วคราวแล้วหายไป (อย่างนั้นจะเรียกว่าเป็น Fads หรือ Fashions) ดังนั้นการวิเคราะห์แนวโน้มใหญ่เป็นวิธีที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว แนวโน้มใหญ่ที่ผมพอจะมองเห็นในปัจจุบันมีดังนี้ (หลายอย่างเกิดขึ้นมาตั้งนานมากแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังดำเนินอยู่)
1. Aging Society ปรากฏการณ์ที่คนแก่กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อคิดเป็นร้อยละของ ประชากรทั่วโลก ทำให้สินค้าที่เน้นขายคนแก่ย่อมมี Demand ที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องในอนาคต อาทิเช่น ธุรกิจโรงพยาบาล เป็นต้น
2. Free Trade ข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่กำลังมีผลบังคับ ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ จะช่วยทำให้การค้าการลงทุนข้ามชาติมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะต้น ทุนที่ต่ำลง ส่งผลดีต่อ ธุรกิจนำเข้า ส่งออก รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทั้งหลาย
3. CyberWorld ผู้คนใช้เวลากับอินเตอร์เน็ตและมือถือ แต่ละสัปดาห์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลดีต่อธุรกิจให้บริการเน็ต เครือข่ายมือถือ ผู้นำเข้าอุปกรณ์มือถือ สินค้าไอที ธุรกิจเกมออนไลน์ ฯลฯ ในขณะที่ ธุรกิจเพลง โทรทัศน์ และธุรกิจหนังสือพิมพ์ ล้วนได้รับผลกระทบจากแนวโน้มอันนี้
4. Global Warming ภาวะโลกร้อนได้กระตุ้นให้เกิดการ ตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมไปทั่วโลก ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือก การกำจัดขยะ และการจัดการสิ่งแวดล้อม
5. Energy Constraints การที่คนยากจนในจีนและอินเดียหลายร้อยล้านคนกำลังมีฐานะที่ดีขึ้นอย่างรวด เร็ว ได้ทำให้โลกมีการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวกับทรัพยากรทั้งหลาย เช่น สำรวจน้ำมัน เหมืองแร่ ฯลฯ
6. Food Constraints ภาวะอากาศแปรปรวน ผู้คนมีฐานะดีขึ้น พื้นที่การเกษตรที่จำกัด และการเอาพืชไปใช้เป็นพลังงานทางเลือก ได้ทำให้เกิดภาวะอาหารขาดแคลน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเกษตรพลอยได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้
7. Modern Trade แนวโน้มที่ผู้คนนิยมซื้อสินค้าในห้างมากขึ้นเรื่อยๆ ซื้อของในตลาดสดน้อยลง เพราะชีวิตที่เร่งรีบ ต้องการความสะอาด เสพติดโปรโมชั่น ช่วยทำให้ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่และห้างสรรพสินค้ามีการเติบโตได้ต่อเนื่อง
ข้อดีของการลงทุนตามแนวโน้มใหญ่คือ เมื่อเศรษฐกิจโดยรวมมีปัญหาสินค้าเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบไม่ต่างกับธุรกิจ อย่างอื่น แต่เวลาทุกอย่างกลับมา พวกมันมีโอกาสมากกว่าอย่างอื่นที่จะกลับมาได้ เพราะมันมีแนวโน้มเป็นพื้นฐานที่คอยรองรับอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเลือกลงทุนจะดู Demand Trends อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดู Competitive Advantage ด้วย อย่างเช่น ในกรณีของโรงงานผลิตแก๊สโซฮอล แม้พลังงานทางเลือกจะเป็นแนวโน้มใหญ่ แต่เนื่องจากนโยบายของรัฐที่ขาดความชัดเจน และ Barrier to Entry ที่ต่ำ กลับทำให้ธุรกิจนี้ไม่ได้ดีอย่างที่คิดครับ เลือกหุ้นต้องพิจารณาทั้ง DT และ CA จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งเสียไม่ได้
แนวโน้มใหญ่ในปัจจุบัน
นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
Thursday, 30 April 2009
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 7:09 pm
โดย imerlot
ส่วนมุนที่สอง..
นั้น
จดมาจากหลายๆ สัมนาที่ไปฟังมาบ้าง
หรือจดจากสื่อต่างๆ สรุปเอาเองแบบผิดๆถูกๆบ้าง
ขอเรียกว่า..
ของ somebody n nobody ก็แล้วกัน..
1. No more cheap/low labor
หมายถึง ตามนั้นเลย ค่าแรงต่ำจะสู้ไม่ได้อีกในอนาคต
เช่นเวียนนาม ลดค่าเงินหลายครั้งก็จะไม่มีผล
2. No more Cut Price/Low Margin/Even econ of scale
หมายถึง
เช่น ช่วงก่อนเคยมี มอเตอร์ไซด์ ต้นทุนต่ำราคาถูก จากจีนเข้า มาตีตลาดอยู่พักหนึ่ง ทำเอากระสำกระสาย
แต่ในที่ สุด ดีซาย แบบ Fino ก็ชนะไป (ผิดถูกต้องcheckดูเอง)
หรือ econ of scale แบบ เจ้าตลาด อย่าง nokia วันดีคืนดีตื่น มาพบว่า เรือกำลังไฟไหม้ เพราะ ท่าน SteveJOB ออกผลิตภัณฑ์ได้เป็น เลิศเหลือหลาย (ผิดถูกต้องcheckดูเอง)
3. HyperInflation/Scare Resource
ดู รายการ NHK ผู้ผลิตเหล็ก ญี่ปุ่น ต้องรวมตัวกันไปซื้อเหมืองเหล็กใน อเมริกาใต้ เพราะว่า แหล่งวัตถุดิบใหญ่ ถูกจีนซื้อหมด จีนจากส่งออกเหล็กกลายเป็นนำเข้า และสิ่งนี้ กำลังเกิดขึ้น กับ วัตถุดิบสำคัญอื่นๆอีก รวมถึงยางพารา น้ำมัน/ถ่านหิน และ ความต้องการใช้พลังงาน อย่างมหาศาลในจีน (ผิดถูกต้องcheckดูเอง)
4. Climate Changeโลกร้อน/สินค้าเกษตรราคาสูง
ซ้ำกันกับข้อ3
รถยนต์ใหม่ 14ล้านคันในจีน(ที่เพิ่งเกิดใหม่) คงจะไม่หายไปในเร็ววัน และอีกไม่นานก็อินเดีย
รถยนต์มากก็โลกร้อนมาก CO2 มาก
โลกร้อนทำให้ อากาศแปรปรวนรุนแรง ทำให้ อนาคต สินค้า พืชผลและเกษตร แทบทุกชนิด มีแต่ ขาขึ้นอย่างเดียว
เรียกว่า "Circle of Climate Change Econ"
โลกร้อนทำให้>สินค้าเกษตรราคาสูง
สินค้าเกษตรราคาสูง ทำให้> เกษตรกรมีเงินไปซื้อ รถกระบะ
เกษตรกรมีเงินไปซื้อ รถกระบะ>โรงงานผลิตรถยนต์ ยาง น้ำมัน ขายดี
โรงงานผลิตรถยนต์ ยาง น้ำมัน ขายดี> หุ้นขึ้น
หุ้นขึ้น> เงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ> demand มาก
demand มาก>สินค้าเกษตรราคาสูง
5. Go East My Friend
ตลาดwest อิ่ม ตัว ยกเว้น Innovation ใหม่ๆ
แต่เนื่องจากการผลิต เกือบทุกอย่างEast (โดยเฉพาัะรถยนต์ Eastผลิตเองใช้เอง)
Eastตามได้ทัน Learning Curve สั้นลง
ใน 10ปี คงจะเห็น จีน/เกาหลี ผลิต MRI CTscan ราคาถูก ซึ่งตอนนี้ จีน ก็ ผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูงสำเร็จแล้ว
และ จีน/อินเดีย/Asian จะเป็น SuperDemand Growth ของ 10-20ปี ข้างหน้า
(ผิดถูกต้องcheckดูเอง)
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 8:10 pm
โดย imerlot
มุมมองที่3
GLOBAL TRENDS 2030..
ของ freeworldacademy.com
บทความนี้ ค้นเจอใน net น่าอ่านอย่างยิ่ง
เขาเจาะลึกทีละประเด็น
ตั้งแต่ 1.จำนวนประชากร 2. econ 3. การเมือง
4. Advances in Knowledge
http://www.freeworldacademy.com/globalleader/trends.htm
ต.ย.1
The ten most populated countries are/or will be ( In million ):
-In 2004: China (1,315), India (1,103), the European Union (470), the USA (298), Indonesia (222), Brazil (186), Pakistan (157), Russia (143), Bangladesh (141), Nigeria (131). These ten countries represent 64 % of the world's population
-In 2030: India (1,449), China (1,346), the European Union enlarged to Balkans and Turkey (605), the USA (360), Indonesia (270), Pakistan (262), Brazil (235), Nigeria (217), Bangladesh (205), Ethiopia (136). These ten countries will represent 63 % of the world's population
ต.ย.2 economic
Years---------------------------2004---------- 2030
WORLD GNI ---------------------39,305---------94,290
Population----------------------- 6,480-----------8200
World income per capita--------- 6,065---------11,500
This economic trend implies an average growth rate of 3.4% over 26 years. Compared to the population growth rate 1%, it means that the world income per capita will increase by 2.4% per year over the period.
Many people contest the compatibility of this trend with the exhausting of natural resources and notably oil ( In the 60, the Club of Rome predicted that most of the natural resources were rapidly exhausted). In spite of the present rise in oil price the CIA survey asserts that " Recent estimates indicate that 80 percent of the world's available oil still remains in the ground, as does 95 percent of the world's natural gas". Moreover, we can expect a decrease of oil prices by 2015 because natural gas usage will increase more rapidly than that of any other energy source. It means that the present high oil prices could be followed by a price collapse. Finally, in the long term ( After 2030 ), the fusion reactors would bring an inexhaustible source of energy. It will mean a drop in petrol consumption and a solution to the global warming.
color=#BF00FF]fusion reactors[/color] would bring an inexhaustible source of energy
อันนี้ เพราะก่อนเหตุการณ์ Tsunami ในญี่ปุ่น
หลัง Mar 11, 2011 มุมมองนี้ของโลก อาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 8:27 pm
โดย imerlot
มุมมอง ที่4.
http://www.dni.gov/nic/PDF_2025/2025_Gl ... Report.pdf
120หน้า เท่านั้นไว้อ่านเล่น วันไปเที่ยวทะเล
โดยเฉพาะ บทที่4 "Scarcity in the Midst of Plenty" p41(60)
http://www.dni.gov/nic/NIC_2025_project.html
From the Chairman of the National Intelligence Council
"Global Trends 2025: A Transformed World" is the fourth unclassified report prepared by the National Intelligence Council (NIC) in recent years that takes a long-term view of the future. It offers a fresh look at how key global trends might develop over the next 15 years to influence world events. Our report is not meant to be an exercise in prediction or crystal ball-gazing. Mindful that there are many possible "futures," we offer a range of possibilities and potential discontinuities, as a way of opening our minds to developments we might otherwise miss.
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 8:34 pm
โดย imerlot
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 8:35 pm
โดย imerlot
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 8:43 pm
โดย SunShine@Night
ขอบคุณครับ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 8:45 pm
โดย imerlot
p55(75) Water food n climate change
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 9:34 pm
โดย Paul Octopus
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่มากมาย
ผมยังจำได้สมัยเรียน MBA หนังสือชื่อ Megatrends 2000 ตีพิมพ์ในปีประมาณ 1982+ โดย John Naisbitt ซี่งเขียนขึ้นจากการทำ Research ข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเวลากว่า 10 ปี
เขาได้ทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2000+ ว่ามี 10 แนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น
หนังสือนี้เป็นหนังสือที่ขายดีสุด ตีพิมพ์กว่า 10 ล้านเล่ม หลายภาษา
ในขณะนั้น ผมบอกตามตรงว่าอ่านแล้ว "ไม่เข้าใจ และ ไม่เชื่อ มันเป็นฝันที่เราไม่อาจจินตนาการ" อาจเป็นเพราะความรู้ตอนเรียน MBA ยังแคบเกินไปก็ได้ ข้อมูลข่าวสารต้องอ่านจากหนังสือ สิ่งตีพิมพ์อย่างเดียว
วันนี้ผมอยากบอกว่า ทุกสิ่งที่หนังสือเล่มนั้นเขียนมันเป็นจริงเกือบทั้งหมด ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ 25 ปี ผมอาจร่ำรวยมากที่สุดคนหนี่งของประเทศไทย
ในตอนนี้
วันนี้ผมเฝ้าอ่านหนังสือประเภทนี้ แต่บอกได้เลยว่ามันยังดูไม่มั่นใจเหมือน John เขียน Megatrend 2000
วันหยุดสงกรานต์นี้ผมกำลังอ่านหนังสือเรื่อง Outrageous Fortunes ตีพิมพ์ปี 2011 โดย Daniel Altman ทำนาย 12 trends ที่จะเกิดขึ้น ในเวลา 10 ปีขึ้นไปนับจากนี้
มีบางเรื่องน่าสนใจที่เป็นการตกผลึกจาก trends ต่างๆที่หลายสำนักทำนายกันออกมามากมาย
ยกตัวอย่างเช่น เรื่องสิ่งแวดล้อมที่วันนี้ใครๆก็ทำนายว่ามันจะมาแรง แต่เล่มนี้เขียนไว้ ตกผลึกได้ดีว่าดังนี้
"Global warming will make rich countries cleaner and richer and poor countries dirtier and poorer"
หรือ เรื่อง Urbanization ที่ใครๆก็เขียนว่าคนจะ migrate มาอยู่ในเมือง แต่เล่มนี้ตกผลึกไว้ว่า
"A new set of lifestyle hubs will replace today's business hubs"
ถ้ามีเวลาและอ่านจบ จะเอามาเล่าให้ฟังครับ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 9:50 pm
โดย blueplanet
fusion reactors
เป็นพลังงานนิวเคลียร์แบบดวงอาทิตย์
เป็นพลังานสะอาด
ไม่เหมือนพลังงานนิวเคลียร์ที่ใช้ในปัจจุบัน
ที่อันตรายมาก
ถ้าโลกใช้ fusion reactors ได้
pollution ทุกอย่างในโลกจะหมดไป
ปัญหาโลกร้อนก็จะไม่มี
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 10:03 pm
โดย thaloengsak
ถ้าคนจำนวนคิดว่ามันจะเป็นไปในทิศทางนั้น
ทำให้มันเป็นอย่างนั้น
มันก็จะเป็นอย่างนั้น
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 10:10 pm
โดย j21
ขอบคุณมากครับ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 10:41 pm
โดย jantanee
ขอบคุณค่ะ น่าสนใจมากเลยค่ะ แต่ช่วงภาษาอังกฤษอ่านไม่ค่อยจะออก(=^_^=)"
ที่ญี่ปุ่น(อยู่ญี่ปุ่น)เกษตรกรมีรายได้ดีทีเดียว เช่นปลูกข้าว มีเครื่องสีเล็กๆเอง
แพ็กใส่ถุงขายปลีกเอง มีลูกค้าไปซื้อถึงที่
บ้านหลังใหญ่ๆในโตเกียวก็เป็นของอดีตชาวไร่ชาวนา ตอนนี้ขายที่ก็รวยแล้ว
หลังคาบ้านส่วนใหญ่ก็เริ่มมีโซลาร์เซลล์แล้ว
ค่าใช้จ่ายสูงมาก ประมาณห้าแสนบาท แต่ว่าช่วงรัฐสั่งตัดไฟนำไฟฟ้าไปช่วย
ผู้ประสบภัยซึนามิ บ้านนี้ไม่มีปัญหาเลย
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 6:28 am
โดย imerlot
แม้จะมีปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบ 802,200 บาร์เรล/วัน หรือลดลง 0.1 % แต่มูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 17.6% หรือคิดเป็น 733,000 ล้านบาท
GDP2009=9,081,262ล้าน
733,000ล้าน/9,081,262ล้าน =
ประมาณ8.05% ของ GDP
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=29&t=44470
ที่เิปิดประเด็น แนวโน้มใหญ่ นั้น
จะเห็นว่า
ในอนาคต เศรษฐกิจของประเทศเรา ซึ่งพึ่งพิงการนำเข้าพลังงานถีง 8% ของGDP ซึ่งต่อไปจะเป็น Scarcity(ขาดแคลน)
และถ้าเรา จะไปสู้กับ West ด้าน Fusion Technology ดูได้ในหนัง WallStreet2(ซึ่งใน100ปี อาจจะไม่เิกิดก็ได้) เราไม่มีทางตามทัน
แต่ BioFuel หรือ SolarCell Energy แบบนี้ เรามีความได้เปรียบ
จึงอยากให้ เพื่อนใน ThaiVI แบ่ง ซัก 8% ของเงินใน Port มาลงทุนในบริษัท ที่เขา เริ่มทำเรื่องนี้ ใน Scale ที่จริงจัง
เช่น ข่าวที่ว่า บมจ. บางจากลงทุน
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... 0b9de168b7
http://news.sanook.com/996194-%E0%B8%9A ... B8%A1.html
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ความร่วมมือระหว่างกระทรวงพลังงาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และบริษัท บางจากฯ ในการจัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิต เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิต หันมาปลูกปาล์มเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว จะเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง 500,000 ตันต่อปี ช่วยลดปัญหาโลกร้อน โดยจะเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน ที่ต้องการส่งเสริมให้ใช้ไบโอดีเซล B5 เกรดเดียวทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 1.8 ล้านลิตรต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านลิตรต่อปี
แบบนี้ ให้ นิ้วโป้ง 2 นิ้ว
กรุงเทพฯ 11 เม.ย.-นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ เปิดเผยว่า บางจากฯตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ จากแผนลงทุนเดิม 3-5 ปีจะลงทุน 3 โรง 120 เมกะวัตต์ วงเงินลงทุนเดิมประมาณ 15,000 ล้านบาท
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/194074.html
สรุปคือแบ่งportไว้..เริ่มวางแผนลงทุน ให้ลูกๆหลานๆ บ้าง
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 6:51 am
โดย imerlot
หลังคาบ้านส่วนใหญ่ก็เริ่มมีโซลาร์เซลล์แ ... มีปัญหาเลย
ผู้โพสต์เคยคิดเล่นว่า..
เคยดูในหนัง The Day After Tomorrow (2004)
http://www.imdb.com/title/tt0319262/
สุดท้ายพอหิมะเต็ม โลก ช่วง Northern สีขาวของหิมะ ก็สะท้อนแสงอาทิตย์ออกไป โลก ก็ กลับมาสมดุล
บางแห่งเขาเลย มีแนวความคิดว่า หลังคาบ้าน ให้เลือกสีขาว ลดความร้อนได้ดี
ต.ย. ลูก(จบแล้ว) อยู่ รร บดินทร์1 ข้างๆโรงเรียนเป็นทุ่งหญ้าว่างเปล่า วันดีคืน บLPN เขาก็มาทำคอนโด
ปรากฏว่า สีที่ทาเป็นสีอ่อนๆ มันสะท้อนแสงได้ดี (ผู้โพสต์) เคยฝากไว้ใน 100หุ้นว่า ขอให้เปลี่ยนมาทาเป็นสีเขียวเข้ม
แสงมันสะท้อน เข้าไปในห้องเรียน วันไหนแดดจัด นักเรียนและครูก็จะร้อนมากๆ ไปเป็นอันเรียนกัน
ผู้โพสต์ ..จึงคิดเล่นว่า.CD annual report ที่เราได้มา มีแต่ทิ้งไป ปีหนึ่ง มีCD ทิ้งไป มาก
ฟังมาว่า ในCD เป็นทองบางๆ สะท้อนแสงได้ดี
จะเป็นอย่างไร ถ้า โรงงานผลิตกระเบื้องหลังคา เอาCD เหล่านี้ ไม่ใช้แล้ว recycle
มา ฝังอยู่ในกระเบื้องหลังคา คล้ายsolar cell แต่ เพียงเพื่อ สะท้อน ความร้อน ออกไป
หรืออย่างเรื่อง ต่อไป น้ำจะมา ท่วมเสมอกับน้ำน้อย
บ้านเรามีคนแอบนำเข้า สัตว์ที่มีโทษมามาก
แต่สัตว์ที่มีประโยชน์ แบบ ตัว บีเวอร์ beaver
http://en.wikipedia.org/wiki/Beaver
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/c ... beaver.png
เป็นนักสร้าง และดูแลฝายน้ำ..
สัตว์มีประโยชน์เช่นนี้ น่า จะทดลอง นำมาปล่อยในป่าดู เผื่อดินจะได้ ถล่มน้อยลง
อย่างแต่ก่อนเราไม่มีเคย มีต้นยาง
วันพระยารัษฎานุประดิษฐ์ บิดาต้นยางพาราต้นแรก
ปัจจุบัน ยางพารา กลายเป็นพืช เศรษฐกิจ สำคัญไป
การมองไปข้างหน้า จึงมีความสำคัญมากๆ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 7:10 am
โดย imerlot
ญี่ปุ่น(อยู่ญี่ปุ่น)เกษตรกรมีรายได้ดีทีเดียว เช่นปลูกข้าว มีเครื่องสีเล็กๆเอง
แพ็กใส่ถุงขายปลีกเอง มีลูกค้าไปซื้อถึงที่
..
เคยดูหนัง สารคดีรัฐบาลจีน เก็บโกดังสินค้าเกษตร แบบเป็น แก๊ซไนโตรเจน นัยว่า ทำให้เก็บได้ นานขึ้นเป็นปี โดยไม่ต้องแช่แข็ง
บ้านเรา ก็มีเครื่งเติมลมยางรถยนต์ ไนโตรเยน ครั้งละ50บาท
เครื่องเดียวกัน ( เช่นปลูกข้าว มีเครื่องสีเล็กๆเอง
แพ็กใส่ถุงขายปลีกเอง ) ถ้ามี คนเอาไป ดูด อากาศ ออก เติม ไนโตรเจน pack อาหาร สินค้าเกษตร ให้อยู้ นานขึ้น
ปัญหา ของเน่าเสีย อายุการเก็บสั้น ก็จะดีขึ้น..
ญี่ปุ่นเขาปกป้อง ชาวนาเขาสุดขาดใจ ไม่สน Globalizationด้วย..
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 11:05 am
โดย unnop.t
ขอบคุณครับ ได้เปิดหูเปิดตาดี
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 11:07 am
โดย VI Wannabe
มีประโยชน์มากๆ ขอบคุณครับ
ข้อติหลักๆของ technology biofuel ตอนนี้ก็คือพลังงานที่ใช้ไปในการแปรรูป/ขนส่ง นั้นพอๆกับพลังงานที่ได้จาก bio fuel เลยครับ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 11:48 am
โดย 1154
ขอบคุณครับ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 11:52 am
โดย unnop.t
VI Wannabe เขียน:มีประโยชน์มากๆ ขอบคุณครับ
ข้อติหลักๆของ technology biofuel ตอนนี้ก็คือพลังงานที่ใช้ไปในการแปรรูป/ขนส่ง นั้นพอๆกับพลังงานที่ได้จาก bio fuel เลยครับ
เห็นด้วยครับ ในทางเศรษฐศาสตร์บอกว่า social benefit ไม่ได้เพิ่มขึ้น เหมือนกับเรา่ตอนนี้กำลัง consume resource อื่นแทนน้ำมันหรือ
แก๊ส
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 6:29 pm
โดย preecha_w
ได้แง่คิดดีครับ
ขอเสริมข้อนึงครับ คุณสุมาอี้เคยออกสัมมนาทีนึง
เกี่ยวกับ urbanization คือการอพยพของคนเมือง
ออกไปสู่ชนบทเพื่อวิถีชีวิตที่เรียบง่ายสมดุลย์
ปัจจุบันมันกลับกันแล้ว คือมีคนชนบทอพยพมาอยู่เมืองใหญ่
นับประชากรแล้ว คนเมืองมีมากกว่าคนชนบทไปแล้ว
สอดคล้องกับที่ดร.นิเวศน์ เคยบอกว่าคนทั้งโลกเหมือนกันหมด
คือส่วนใหญ่ (เกินครึ่ง) ชอบที่จะอยู่ในเมือง ถึงมีคนสูงอายุมากขึ้น
ก็คงอยากอยู่ใกล้โรงพยาบาล ชอบเดินห้าง ดูหนัง เล่นอินเตอร์เนท
สะดวกสบายดี อยู่ต่างจังหวัด อาจเจอ ไอ้เสือ ! บุก อยู่ในเมืองยังมี รปภ.ช่วยได้ครับ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 6:34 pm
โดย Financeseed
ขอบคุณครับ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 6:44 pm
โดย imerlot
ข้อติหลักๆของ technology biofuel ตอนนี้ก็คือพลังงานที่ใช้ไปในการแปรรูป/ขนส่ง นั้นพอๆกับพลังงานที่ได้จาก bio fuel เลยครับ
เคยอ่าน ..เหมือนกัน แต่ เช่น ประเทศ Brasil ก็ เป็น model ของ biofuel General1
ส่วน Biofuel Gen3 อย่างเช่น Algae นั้น ก็ต่างกันมา
ปัญหาคือ timimg กับ ถ้าเป็น Gen1 Gen2 ต้องใช้ที่ดินมหาศาลในการเพาะปลูก จะมีผลกระทบ ต่อ food price เพราะแย่งที่ดินกัน
http://en.wikipedia.org/wiki/Biofuel
http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/co ... 03907.html
"If you replaced all the diesel in the U.S. with soy biodiesel, it would take half the land mass of the U.S. to grow those soybeans," says Matt Caspari, chief executive of Aurora Biofuels, a Berkeley, Calif.-based private firm that specializes in algae oil technology. On the other hand, the Energy Department estimates that if algae fuel replaced all the petroleum fuel in the United States, it would require 15,000 square miles, which is a few thousand miles larger than Maryland.
http://www.bangkokpost.com/business/eco ... -from-2012
Jet biofuel to take flight from 2012
Output to serve 'green' European planes
* Published: 18/08/2010 at 12:00 AM
* Newspaper section: Business
Thailand will start developing biofuel for jets to meet demand from 2012, when European aviation regulations calling for green fuel in airplanes take effect, says the Alternative Energy Development and Efficiency Department.
"That means Thailand's international airports should have airplane-compatible biofuel available to serve European airlines," said Twarath Sutabutr, the deputy director-general.
"We want to become the aviation hub for Southeast Asia, and that means we'll have to have all the essential supplies to serve their requirements. Jet biofuel will absolutely be needed, so we should start developing it now."
Average annual jet fuel demand in Thailand is about 4 billion litres. To meet the demand for biofuel to mix in with jet fuel, the country should expand the area of palm oil plantations or turn to other fuel crops such as algae or sweet sorghum.
So far, the output of crude palm oil for biodiesel production is balanced and remains sufficient for the government's policy of replacing B3, a mix of 3% biofuel and high-speed diesel, with the higher biofuel content B5 next January.
"If we also need to serve the aviation industry, then the crude palm oil we have now won't be enough, so we're considering what we can prepare for the market change," said Dr Twarath.
He said that at present there were two organisations spearheading fuel crop development - the department itself and the energy conglomerate PTT Group.
The department has provided financial support to universities for research into making biofuel from algae and sweet sorghum. PTT has its own research and development department and a laboratory for aviation biofuel.
Biofuel from algae may be the best choice since suitable areas for palm tree plantation are limited.
"Instead of trying to get more palm oil, the country should throw its efforts into research into new fuel crops," said Dr Twarath.
He said in the short term, the government would expand oil palm plantations and other biofuel sources in areas of low-yield crops like longans and lychees.
"Since we see a surplus of those fruits each year along with very low prices, we may be better off turning them into something more valuable instead of making them suffer the same problems each year," added Dr Twarath.
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 7:14 pm
โดย imerlot
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 16, 2011 8:37 pm
โดย jo7393
ตามมาฟังครับ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 17, 2011 7:48 pm
โดย b4solid
ได้ความรู้มากมาย
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 17, 2011 8:48 pm
โดย imerlot
ดูเหมือน เวปฝากรูปจะ ล่ม
โดยเฉพาะ บทที่4 "Scarcity in the Midst of Plenty" p41(60)
Image
เอาใหม่
อันนี้ เป็นคำพูกสรุป อนาคตได้ดีใน ไม่กี่คำ
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 17, 2011 8:56 pm
โดย imerlot
Image1
รูปข้างบนมาลงใหม่
อันนี้ เป็น บทสรุปที่ดี เกี่ยวกับ พลังงาน กับ เวลา
ทำนอง ว่า เราต้อง หาพลังงาน อันใหม่ ให้ทัน ก่อนที่ พลังงาน อันเก่าจะหมดไปหรือแพงเกินไป
ซึ่ง biofeul gen ปัจจุบัน(แพงเกินไป)..(แถมกินเนื้อที่มากเกินไป) High Growth Algae =Promising
Image2
Image3
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 17, 2011 9:09 pm
โดย imerlot
ส่วนอันสุดท้ายนี้สำคัญที่สุด
เราคงไม่ต้องเก่ง Porter 5 Forces Model ก็คงรู้ ว่า Hydrogen หรือ Fusion Age นั้นประเทศเราตามยังไงก็ไม่ทัน
แต่ ถ้า แข่งกันด้านการเกษตรละก็
แรงงานภาคเกษตรกร ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ แหล่งน้ำ เราสู้เขาได้ ไม่งั้นเรา จะ ส่งออกข้าวอันดับ1 หรือ
ถ้าหากว่า เราใส่ 20เกียร์ วันนี้ ไปวิจัย biofuel gen3 เช่น oilgae อย่าง chart
ผู้โพสต์ว่า ลูกหลานเรา จะได้เห็น GDP 1 Trillion US เพราะ แทนที่ เราจะเป็น net import of energy ที่ 8% GDP จะได้
เป็น NET export of energy ซักที
เช่น ปี 2012 ที่ EURO เขาบังคับว่า เครื่องบิน ผ่านที่เขา ต้องใช้ น้ำมัน ผสม biofuel นั้น
ถามว่า ประเทศเป็น hub การบิน อย่างสิงค์โปรค์ เขาจะเอาเนื้อที่ ที่ไหน ไปปลูก ปาล์มน้ำมัน เขาก็ต้องนำเข้า
และถ้า ผลผลิต Micro Algae 15000 gallor(4 ลิตร)/เอเคอร์ มากกว่า ปาล์มน้ำมันที่635 gallon/เอเคอร์ ถึง
15000/635=23.6X
ไปคิดต่อ..ดูเอง
ว่า
ถ้าชาวนา รวย ตลาดหุ้นจะรวยขนาดไหน
Re: การมองแนวโน้มใหญ่ ..หลายๆมุม
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 17, 2011 9:11 pm
โดย imerlot