Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หุ้นเหล็กที่ไม่มีใครสนใจ ราคานี้ถือว่าต่ำกว่าพื้นฐาน แถมยังมีกองทุนของธนาคารกรุงไทยถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 แล้วหุ้น MILL ไม่ดีตรงไหน ผู้รู้ช่วยชี้แจงหน่อยครับ

หุ้นดีอย่างไรช่วยอธิบายด้วยสิครับ
เพราะเท่าทีดู P/E (เท่า) ปี50=29.30 ปี51=6.11 ปี52=379.37 ปี53=24.59 ล่าสุด=36.18
ดูแค่นี้ผมก็หมดความสนใจแล้ว(ไม่รู้มันจะสูงไปไหน) แต่คุณ vionly เอามานำเสนอก็แสดงว่าคงมีอะไรดีที่ผมไม่รู็ช่วยชี้แนะทีครับ

vionly เขียน:...ราคานี้ถือว่าต่ำกว่าพื้นฐาน...

ถ้าเป็นของดีจริงๆ
เดี๋ยวคนอื่นก็เห็นเองแหละครับ

หาห้อง mill ไม่เจอ

โดยส่วนตัวผมไม่ได้เชื่อว่าการมีกองทุนของธนาคารถือหุ้นใหญ่ จะเป็นตัวบ่งบอกว่าหุ้นนั้นดีหรือไม่ดีนะครับ

ไม่ทราบว่ามีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่ ที่ยืนยันว่าหุ้นนี้ดีจริง

โดยส่วนตัวผมเข้าไปศึกษาดูแบบคร่าวๆจริงๆ สิ่งที่ผมคิดคือ บริษัทมีหนี้สินเยอะเกินไปหน่อยครับ

อ้าว..ไม่ใช่หุ้นนมหรอครับ ผมเข้าใจผิดมาตั้งนาน ล่อเล่นนะครับ

ถ้าทำการบ้านมาแล้ว
ให้ไปเปิดกระทู้ในห้อง value
ถ้าดีจริง
มีแนวร่วมเยอะ
เดี๋ยว mod ก็จะย้ายเข้า ห้อง ร้อยหุ้นให้เอง

กลัวจะดีไม่จริงเท่านั้นแหละ

หุ้นกลุ่มเหล็กมีหลายตัวจังเลยนะครับ ไม่รู้ว่าเขาแข็งกันตัดราคากันหรือเปล่า
รู้สึกว่าเมืองไทย จะมีแต่บริษัทปลายน้ำนะครับ บางตัวมีหนี้เยอะมาก
และบางตังยังไม่ฟื้นจากปี 2540 เลย
ไม่ทราบว่าวัฏจักรกลุ่มเหล็ก มีข้อสังเกตุอย่างไงบ้างหรอครับ

vionly เขียน:หุ้นเหล็กที่ไม่มีใครสนใจ ราคานี้ถือว่าต่ำกว่าพื้นฐาน แถมยังมีกองทุนของธนาคารกรุงไทยถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 แล้วหุ้น MILL ไม่ดีตรงไหน ผู้รู้ช่วยชี้แจงหน่อยครับ

ปัญหาคือแล้วราคาตรงนี้มันดีตรงไหนครับ ส่วนที่บอกว่าราคานี้ต่ำกว่าพื้นฐานนี่ต่ำกว่าเพราะอะไร ข้อมูลที่คุณ vionly post รายละเอียดมันน้อยมาก แทนที่จะไปดูว่าคนที่ถือหุ้นอันดับ 2 เป็นใคร ไปโหลด 56-1 มาอ่านดีกว่าครับว่ากิจการทำอะไร มีปัจจัยเสี่ยงด้านไหน แล้วแนวโน้มปีนี้จะเป็นยังไง เอาข้อมูลตรงนั้นมาอ้างอิงแล้วค่อยมานั่งถกกันว่าราคานี้ต่ำกว่าพื้นฐานมั้ยจะดีกว่ามาถามแบบนี้ครับ

อืม กระทู้นี้ไม่น่าจะอยู่ที่ห้องมือใหม่หัดลงทุนนะครับ

แน่ใจนะครับว่า Undervalue

ผมเข้าใจว่า เจ้าของกระทู้อาจจะกำลังพูดถึง Green Mill ด้วยหรือเปล่าครับ ถึงมองเรื่องว่าต่ำกว่ามูลค่า
ก็ต้องตามดูต่อไปครับว่า จะทำให้ margin ของ Mill มันสูงขึ้นได้จริงหรือเปล่า ในขณะที่ยอดขายต้องไม่ลดด้วย
แต่ถ้าโครงการ Green Mill ที่จะเปิดดำเนินการสามารถ ลด cogs ได้ ก็น่าสนใจทีเดียวครับ

สิ่งที่ผมยังไม่รู้คือ ปริมาณการส่งมอบงานในอนาคต?
ดอกเบี้ยที่ต้องค่อยๆทะยอยจ่ายแบบนี้จะกดดันกำไรในอนาคตหรือไม่ ?
ต้องผลิตซักกี่เปอร์เซ็นต์ของ capacity ถึงจะถึงจุดคุ้มทุนครับ ?

น่าจะมีคนที่รู้มากๆมาตอบอะครับ เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้นะครับ

[quote="financeseed"
ไม่ทราบว่าวัฏจักรกลุ่มเหล็ก มีข้อสังเกตุอย่างไงบ้างหรอครับ[/quote]

อยากรู้เหมือนกันครับ จัดสัมนาเมื่อต้นปี ก็พูด มีการใช้เหล็กมากขึ้น
ล่าสุดราคา billet
LME Official Prices, US$ per tonne for 19 April 2011




STEEL BILLET

Cash buyer 525.00
Cash seller & settlement 526.00
3-months buyer 545.00
3-months seller 550.00
15-months buyer 605.00
15-months seller 615.00

ซึ่งเมื่อ Apr 2008 เคยสูงถึงประมาณ $1200-$1300

ขอบคุณคำตอบและคำชี้แนะที่หลายหลายครับ

ส่วนที่ผมตั้งข้อสังเกตุหุ้นตัวนี้ก็

อยู่ดีๆผู้บริหารก็ซื้อเอาๆ แต่ไม่เกี่ยวกับพื้นฐานหุ้นนะครับ แต่เป็นแค่ข้อสังเกตุ จากแต่ก่อนแกขาย W ออกมาเยอะเชียว
อยู่ดีๆ ก็กลับมาซื้อหุ้นตัวเอง

คิดจะเล่นหุ้นวัฏจักรต้องซื้อตอน PE สูงๆเท่านั้น ไว้ไปขายตอน PE ต่ำๆ ดูประวัติศาสตร์ได้จาก TTA PTL

ปล. ผมมีหุ้นครับ

Dekfaifah เขียน:ผมเข้าใจว่า เจ้าของกระทู้อาจจะกำลังพูดถึง Green Mill ด้วยหรือเปล่าครับ ถึงมองเรื่องว่าต่ำกว่ามูลค่า
ก็ต้องตามดูต่อไปครับว่า จะทำให้ margin ของ Mill มันสูงขึ้นได้จริงหรือเปล่า ในขณะที่ยอดขายต้องไม่ลดด้วย
แต่ถ้าโครงการ Green Mill ที่จะเปิดดำเนินการสามารถ ลด cogs ได้ ก็น่าสนใจทีเดียวครับ

สิ่งที่ผมยังไม่รู้คือ ปริมาณการส่งมอบงานในอนาคต?
ดอกเบี้ยที่ต้องค่อยๆทะยอยจ่ายแบบนี้จะกดดันกำไรในอนาคตหรือไม่ ?
ต้องผลิตซักกี่เปอร์เซ็นต์ของ capacity ถึงจะถึงจุดคุ้มทุนครับ ?

น่าจะมีคนที่รู้มากๆมาตอบอะครับ เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้นะครับ

ผมเองก็แอบจับตาดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เห็นผู้บริหารพยายามให้ข่าวมาหลายหนแล้ว
ช่วงที่ผ่านมาราคาค่อยๆลดลงจนมีกองทุนมาทำบิ๊กลอท แต่ราคาก้ยังไหลลง
จนแตะ2บาท แล้วเริ่มกลับตัว+เจ้าของกลับมาซื้อไปราวๆ8ล้านหุ้น แถวๆ 2.10-2.20
ไม่รู้มีนัยยะอะไรรึเปล่า

ส่วนตัวโครงการ green mill เห็นว่าจะเริ่มดำเนินการได้ปลายปีนี้ เจ้าของเคยให้สัมพาทย์
ประมานถ้าเปิดดำเนินการ มาจิ้นจะสูงถึง15% ไม่รู้เชื่อได้แค่ไหน

สิ่งที่น่ากลัวสำหรับผมยกเรื่องการเพิ่มทุน ที่ผ่านมาบริษัทมีประวัติเพิ่มทุนอยู่บ่อยๆ(รบกวนผู้ถือหุ้นด้วย)
เลยไม่แน่ใจหนี้ก้ยังเยอะ กำไรก็ไม่ชัดเจน ไปร่วมหัวจมท้ายจะกลายเป็นจมคู่ป่าวไม่รู้ อิอิ

ใครมีข้อมูลหรือเชี่ยวชาญหุ้นกลุ่มเหล็กมาแบ่งปันข้อมูลหน่อยสิครับ

ตัวนี้ขายให้ลูกค้าในประเทศซึ่งเป็นสัดส่วนร้อยละ 97 ของยอดขายในปี 53 และอยู่ในกลุ่มก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งมีการก่อสร้างในประเทศมากขึ้นก็น่าจะทำให้ขายดีขึ้นด้วย

ส่วนโปรเจ็คกรีนมิล จะช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้เพราะว่าจะสามารถผลิตบิลเล็ตจากเศษเหล็ก (scrap) ได้เอง และเพิ่มมาร์จินในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำให้ได้มาร์จินเพิ่มขึ้น แต่ได้เท่าไหร่คงต้องติดตามดูกันต่อไป

ในระยะสั้นไตรมาส q1/54 กำไรน่าจะดีขึ้น เพราะราคาเหล็กในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ผมวัดจากดัชนีราคาเหล็กในไทยเฉลี่ย ของ MILL ค่อนข้างจะแปรผันตามดัชนีตัวนี้พอสมควร สามไตรมาสย้อนหลังจาก q2-q4 ปี 53

ไตรมาส ดัชนีเหล็กไทยเฉลี่ยรายไตรมาส ต้นทุนขาย(ล้านบาท) กำไรสุทธิ(ล้านบาท)
2/53 114.93 2519.43 44.76
3/53 111.80 2250.23 20.74
4/53 110.66 2246.48 16.7
1/54 121.07 ? ?

ส่วนเรื่องหนี้ในระยะยาวก็ถือว่าน่าเป็นห่วงอยู่ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเหล็กเป็นขาขึ้นจริงๆ ก็น่าจะชดเชยความเสี่ยงในส่วนนี้ได้ เรื่องนี้ยังเป็นกังวลอยู่ครับ

ข้อมูลอีกตัวทีน่าสนใจก็คือปริมาณส่งออกเหล็กของไทยเพิ่มขึ้น แล้ว MILL ก็มีการส่งออกด้วยซึ่งเป็นอัตราส่วนร้อยละ 3 ของยอดขายในปี 53 แต่น่าจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเพราะอัตราการส่งออกของปี 53 ไตรมาสแรกมีมูลค่า 12415.42 ล้านบาท ส่วนไตรมาสแรกของปี 54 มีมูลค่า 14054.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 13.2%

สรุปว่ามาร์จินในปีนี้น่าจะดีขึ้นนะครับ ว่าแล้วก็มารอลุ้นงบไตรมาสแรกกันดีกว่า

งานรับเหมาในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อ MILL ในระยะยาว

รับเหมาฯสดใสยาว

01 พฤษภาคม 2554 เวลา 10:58 น.

ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสดใส ยักษ์ ITD คุยมีงานในมือ 4 แสนล้านบาท “เปรมชัย” การันตีจะมีกำไรจากดำเนินงาน ด้าน PLE จ่อแจกปันผลกลางปีนี้

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เปิดเผยในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า ปีนี้คาดว่ารายได้เติบโตจากปีก่อน และผลการดำเนินงานจะมีกำไรหลังจากขาดทุนดำเนินงานต่อเนื่องมา 3 ปี คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 6% เพราะเป็นงานที่ถนัด


ประธานบริหาร ITD กล่าวว่า ปีนี้คาดว่าจะเซ็นสัญญางานใหม่ 4 แสนล้านบาท ทยอยรอรับรู้รายได้ภายใน 3-4 ปี โดยเซ็นสัญญาไปแล้ว 7.7 หมื่นล้านบาทในไตรมาสแรก ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เซ็นสัญญา 1.6 หมื่นล้านบาทและไตรมาสแรกปี 2552 ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท และไตรมาสแรกปี 2551 ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรก็ดีกว่า 3 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ งานใหม่ยังไม่นับรวมโครงการที่กำลังติดตามทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดง สายสีเขียว ทางด่วนศรีรัช และรถไฟรางคู่มูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท รวมถึงโครงการต่างประเทศมูลค่า 3 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติให้ออกหุ้นกู้อีก 1 หมื่นล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ยประมาณ 6% ต่อปี เพื่อชำระหนี้ส่วนหุ้นกู้ที่ขอไว้เดิม 1 หมื่นล้านบาท ออกไปแล้ว 7,500 ล้านบาทที่ดอกเบี้ย 5.5-6.5% ระยะเวลา 3-5 ปี ปัจจุบันสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (ดี/อี) ของบริษัทอยู่ที่ 1.7 เท่า

นายเปรมชัย กล่าวยืนยันว่า บริษัทยังไม่พิจารณาเพิ่มทุน เพราะงานที่ได้มามีกระแสเงินสดสามารถเลี้ยงตัวเองได้

ด้านนายเสวก ศรีสุชาต ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) กล่าวว่า ในปี 2554 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20-30% จากปี 2553 ปัจจุบันบริษัทมีงานในมืออยู่ที่ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท เป็นงานในต่างประเทศ 8,000 ล้านบาท และในประเทศ 5,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องจนถึงปี 2556

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแนวโน้มที่จะปรับลดการรับงานในต่างประเทศ จากปัจจุบันมีการรับงานในประเทศและต่างประเทศ ในสัดส่วนเท่ากัน 50% และหันมาเพิ่มงานภาครัฐมากขึ้น คาดว่าจะขึ้นมาอยู่ที่ 20-30% เพราะไม่มีความเสี่ยงเรื่องการเก็บเงิน

นอกจากนี้ ภายหลังผู้ถือหุ้นอนุมัติให้นำเงินสำรองตามกฎหมายจำนวน 60 ล้านบาท และส่วนเกินมูลค่าหุ้น 341 ล้านบาท มาล้างขาดทุนสะสมจำนวน 402 ล้านบาท คาดว่าเป็นไปได้ว่าจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปีนี้ก็ได้หลังจากหยุดจ่ายมา 2 ปี

ด้านนายสมชาย ศิริเลิศพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเท็ค คอน สตรัคชั่น (SYNTEC) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างปีนี้ยังโตดี บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 5,500 ล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิน่าจะอยู่ในระดับ 3-5% ของรายได้

“ตอนนี้มีงานในมือ 6,000-7,000 ล้านบาท และจะเข้าประมูลงานใหม่อีก 2-3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้งานถึง 9,500 ล้านบาท” นายสมชาย กล่าว

ความต้องการเหล็กของจีนในช่วงปี 2010-2015 จะเติบโต 2.6-4.6% | 04 May. 54

The China Iron & Steel Association (CISA) คาดการณ์การเติบโตของความต้องการเหล็กของจีนจะลดลงมาอยู่ที่ 2.6-4.6% ในระหว่างปี 2011-2015 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การบริโภคเหล็กดิบปรากฏ (Apparent crude steel consumption) ของจีนในปี 2010 เพิ่มขึ้น 6% y-o-y มาอยู่ที่ 600 ล้านตัน แต่ในปี 2011 นี้คาดว่าการบริโภคปรากฏจะโตแค่ 5% y-o-y มาอยู่ที่ 630 ล้านตัน ในขณะที่กำลังการผลิตเหล็กดิบของจีนสูงถึง 768 ล้านตันในปลายปี 2010

CISA กล่าวว่าเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาจีนมีกำลังการผลิตเหล็กเพิ่มสูงมาก แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเน้นการพัฒนาคุณภาพและการจัดการควบคู่ไปกับการควบคุมการผลิตและกำลังการผลิต สมาชิกของ CISA จำนวน 77 โรงงานมีกำไรรวมกัน 24,460 ล้านหยวน (3,800 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในไตรมาสแรกของปี 2011 ซึ่งคิดเป็นกำไรเฉลี่ย 2.91%

ที่มา: สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

Altair เขียน:คิดจะเล่นหุ้นวัฏจักรต้องซื้อตอน PE สูงๆเท่านั้น ไว้ไปขายตอน PE ต่ำๆ ดูประวัติศาสตร์ได้จาก TTA PTL

ปล. ผมมีหุ้นครับ

PE สูงๆ เพราะว่า Earning ต่ำ พอมันถึงจุดต่ำสุดก็กลับตัว
ทำให้ earning สูงขึ้น PE จึงต่ำลง ผมว่ามันไม่ค่อยสำคัญ เท่าการดูกำไรหรอกนะครับ

ความเห็นในด้านอุตสาหกรรมว่าการใช้เหล็กจะมากขึ้น
ผมคิดว่า มันก็ให้ผลกับหุ้นเหล็กทุกตัวรึป่าวครับ
และหุ้นเหล็กมีเยอะมากเลย ทำไมเราต้องเลือก MILL อ่ะครับ

จากที่ผมมาดู แผนภูมิ อุตสาหกรรมเหล็กที่ตลาดหลักทรัพย์ทำไว้นะครับ
เอาเฉพาะคู่แข่ง ของ MILL แล้วกัน

เหล็กเส้นข้ออ้อยและเหล็กเส้นกลม : BSBM, MILL, TSTH
เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดเย็นม ท่อเหล็กม รูปตัว C: AMC, MILL, PAP, RICH, SAM, TMT, TYM
เหล็กแปรรูป/ผลิตภัณฑ์เหล็กในลักษณะศูนย์บริการ : AMC, CSP, MAX, MILL, PERM, RICH, SSSC, TMT, TYM