Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ในยามที่ตลาดเป็นขาลง อย่างในอดีต
หุ้นที่ผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี ราคาลงตามตลาดด้วยไหมครับ ?
หรือราคาของหุ้นเหล่านี้เป็นอย่างไร ในสภาวะตลาดขาลง

SourCreamz เขียน:ในยามที่ตลาดเป็นขาลง อย่างในอดีต
หุ้นที่ผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี ราคาลงตามตลาดด้วยไหมครับ ?
หรือราคาของหุ้นเหล่านี้เป็นอย่างไร ในสภาวะตลาดขาลง

ตอนซับพาร์ม ก็ลงทุกตัวไม่เลือกครับ
ยกเว้นพวกหุ้น1ตังค์

เหตุผลที่สงสัย เพราะว่าสังเหตุจากหนังสือของ ดร.นิเวศ ในปีที่ตลาดเป็นขาลง

แต่พอร์ตของ ดร. ยังคงมีการเติบโตเป็นบวกแม้ตลาดจะเป็นลบ (คาดว่าจะไม่ได้รวมปันผลไปด้วย)

เลยเป็นที่มาของข้อสงสัยครับ

SourCreamz เขียน:เหตุผลที่สงสัย เพราะว่าสังเหตุจากหนังสือของ ดร.นิเวศ ในปีที่ตลาดเป็นขาลง

แต่พอร์ตของ ดร. ยังคงมีการเติบโตเป็นบวกแม้ตลาดจะเป็นลบ (คาดว่าจะไม่ได้รวมปันผลไปด้วย)

เลยเป็นที่มาของข้อสงสัยครับ

ดร.เริ่มลงทุนจริงๆจังๆตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง คือเริ่มจากbuttomพอสมควรแล้ว
ส่วนซับพาร์ม CPALLปลดlockเรื่องlotusจีนพอดี จริงๆCPALLเริ่มลงเหมือนกันนะ แต่พอปลดlockพื้นฐานเปลียนพอดีจังหวะนั้นเลย

เรียกว่า เก่งไม่สู้เฮง

ก็ซื้อหุ้นนี่ครับไม่ได้ซื้อตลาด
ดังนั้น
ตลาดขึ้น แต่หุ้นเราลง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

densin เขียน:

SourCreamz เขียน:เหตุผลที่สงสัย เพราะว่าสังเหตุจากหนังสือของ ดร.นิเวศ ในปีที่ตลาดเป็นขาลง

แต่พอร์ตของ ดร. ยังคงมีการเติบโตเป็นบวกแม้ตลาดจะเป็นลบ (คาดว่าจะไม่ได้รวมปันผลไปด้วย)

เลยเป็นที่มาของข้อสงสัยครับ

ดร.เริ่มลงทุนจริงๆจังๆตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง คือเริ่มจากbuttomพอสมควรแล้ว
ส่วนซับพาร์ม CPALLปลดlockเรื่องlotusจีนพอดี จริงๆCPALLเริ่มลงเหมือนกันนะ แต่พอปลดlockพื้นฐานเปลียนพอดีจังหวะนั้นเลย

เรียกว่า เก่งไม่สู้เฮง

ไ่ม่น่าจะใช่นะคับ เคยได้ยินว่าแกเข้า ตอน 800 กว่าคับ

ตอนนั่งอี้ ผมก็นั่งอ่าน หนังสือเชิญประชุมคับ
จะเอาอย่าง buffet เหมือนกัน


ถ้าผมเข้าใจผิดขอโทษนะคับพี่เด่น แต่ผมเคยได้ยินไม่แน่ใจจากคลิป money talk หรือเปล่าจำไม่ได้ แกบอกแกไม่ได้ลงตอน bottom นะ

ปี40 ตลาด -52.7 ดร.+12.9 (set jan 788.04 - dec 372.69)
ปี41 ตลาด -4.5 ดร.+45.8 (495.23 - 355.81)
ปี43 ตลาด -44.1 ดร.+22.2 (477.57 - 269.19)
ปี47 ตลาด -13.5 ดร.-28.2 (698.9 - 656.73)
ปี49 ตลาด -4.8 ดร.+36.6 (762.63 - 679.84)

janปี96,97,98,99
1410.33 --> 788.04 --> 495.23 --> 363

ขาลงต่อเนื่องยาวนานแบบนี้ อยากรู้ว่า ถึงแม้จะผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี แต่ราคาจะไหลตามตลาดด้วยไหมครับ
หรือสามารถยืนสวนตลาดขาลงได้ ?

nut776 เขียน:


ถ้าผมเข้าใจผิดขอโทษนะคับพี่เด่น แต่ผมเคยได้ยินไม่แน่ใจจากคลิป money talk หรือเปล่าจำไม่ได้ แกบอกแกไม่ได้ลงตอน bottom นะ

ตอนซับพาร์มหุ้นCPALLลงช้าครับ มาค่อยๆเริ่มลงจาก10บาทไหลมา8บาทหรือ7บาทจำไม่ได้
จำได้ว่าเวบอื่นเชียร์หนี ห้ามรับมีด
มีVIหลายคนเข้าไปรับกันใหญ่
แต่ลงแค่ไม่กี่วัน ข่าวขายlotusก็ออกมาเลยเด้งครับ วิ่งสวนคนอื่นเลย
ถ้าไม่มีข่าวนี้ มันก็คงลงไปแล้ว

จริงๆมีอีกหลายตัวนะที่ยืนได้เพราะมีข่าวช่วย OISHIจากกการtender offer , STPIจากข่าวผลประกอบการ
ถ้ามองรายตัว ต้องมีปัจจัยใหม่รุนแรงพอ ก็จะยืนได้ในตลาดขาลงแบบแรงๆ(ที่คงไม่มีอีกแล้วมั้ง)
ถ้าเป็นพื้นฐานธรรมดาๆที่คนรู้ๆกันอยู่ก็จะยืนไม่ได้

ลองอ่านกระทู้ร้อยหุ้นCPALLตั้งแต่หน้า 50ไปเรื่อยๆมีบันทึกไว้ตรงนั้น

ผมจำเหตุการณ์ได้แม่น เพราะบอกให้สาวไปรับมีดเหมือนกัน
ยังเสียวๆอยู่เลยว่าถ้ามันไม่เด้งตอนนั้น ผมคงมี"บาดเจ็บ"

แล้วตัวอื่นๆนอกจาก cpall หล่ะครับ
cpallตัวเดียวไม่น่าจะทำให้ทั้งพอร์ตยืนบวกได้

ช่วงที่เป้นขาลง และดัชนียังคงต่ำต่อเนื่องยาวนานเกิน5ปี
ช่วงที่เป้นขาลงจะใช้หลักการ VI ยังไงครับ ถ้าไปเริ่มเล่นในปี 95 96 97 (ซึ่งไม่มีใครรู้ชัดได้แน่นอนว่าจะเป้นขาลงและลงไปถึงเท่าไหน)
ถ้าไปใช้หลักการ VI ในช่วงที่เป็นขาลง หลักการนี้จะยังใช้ได้หรือเปล่าครับ
เพราะถ้าหากใช้ได้ แสดงว่าหุ้นที่ผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี ต้องสามารถยืนหรือวิ่งสวนกระแสตลาดได้

SourCreamz เขียน:แล้วตัวอื่นๆนอกจาก cpall หล่ะครับ
cpallตัวเดียวไม่น่าจะทำให้ทั้งพอร์ตยืนบวกได้

ช่วงที่เป้นขาลง และดัชนียังคงต่ำต่อเนื่องยาวนานเกิน5ปี
ช่วงที่เป้นขาลงจะใช้หลักการ VI ยังไงครับ ถ้าไปเริ่มเล่นในปี 95 96 97 (ซึ่งไม่มีใครรู้ชัดได้แน่นอนว่าจะเป้นขาลงและลงไปถึงเท่าไหน)
ถ้าไปใช้หลักการ VI ในช่วงที่เป็นขาลง หลักการนี้จะยังใช้ได้หรือเปล่าครับ
เพราะถ้าหากใช้ได้ แสดงว่าหุ้นที่ผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี ต้องสามารถยืนหรือวิ่งสวนกระแสตลาดได้

อาจจะต้องนิยามคำว่า"ใช้ได้" ก่อนมั้งครับว่าคืออะไร
สมมติว่าท่านมีเงินเย็นๆไม่ได้ใช้แน่ๆ แล้วพอใจปันผลสัก15-20% (มีเยอะตอนซับพาร์ม)
ถือไป 5-6ปี รับปันผลไปสุดท้ายก็ได้หุ้นฟรีๆ
ถ้าถือได้แค่นี่"ถือว่าใช้ได้" วิธีVIก็คงใช้ได้

แต่ถ้าหวังว่าผลตอบแทนคิดภายในปีเดียว โดนเอาcapital gainมาคิดด้วยว่าขาดทุนไหม
ก็ต้องบอกตรงๆว่าVIคงใช้ระยะสั้นไม่ได้ทุกครั้ง
เพราะถ้าจะบอกว่า"มันต้องยืนได้" ก็คงไม่ใช่วิธีคิดของVI ที่จะไม่คาดเดาตลาด

ปล. วันก่อนเพิ่งดูพวก100หุ้น ที่ผมซื้อเก็บลืมๆไว้ตอบซับพาร์ม หลายๆตัวรับปันผลจนทุนแทบไม่เหลือแล้ว แถมโดนกระแสมาดันcapital gainอีก สบายไป

ตอน SET ลงราคาหุ้นในตลาดลงทุกตัว แม้แต่หุ้นหลายตัวที่มี EPS เพิ่มขึ้น
ราคาก็ยังลง เพียงแต่ลงเป็น % ที่น้อยกว่า SET

Radio เขียน:ตอน SET ลงราคาหุ้นในตลาดลงทุกตัว แม้แต่หุ้นหลายตัวที่มี EPS เพิ่มขึ้น
ราคาก็ยังลง เพียงแต่ลงเป็น % ที่น้อยกว่า SET

Herd mentality....its so frustrating.

ดร.ท่านก็มีวิธีการปรับพอร์ตตามวิธีของท่านครับ จำเรื่องของสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ไหมครับ ที่ท่านบอกว่าจะกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นแต่ละตัว ดังนั้นเวลาที่ราคาลงมาท่านจะปรับพอร์ตในส่วนของหุ้นที่มีสัดส่วนมากกว่าที่กำหนดไปซื้อหุ้นที่มีสัดส่วนต่ำกว่าที่กำหนดครับ แต่ก่อนอื่นท่านจะวิเคราะห์ก่อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้นกระทบต่อพื้นฐานความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ท่านถือหรือไม่? และท่านอาจจะมีการเปลี่ยนบริษัทที่ถือในขนาดนั้นก็ได้ครับ แต่โดยส่วนมากแล้วยามที่เกิดอาการตกใจหุ้นทั้งตลาดราคาก็จะตกเหมือนกันหมดล่ะครับ แต่บริษัทที่ยังสามารถทำกำไรได้ก็จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าตลาด ซึ่งก็เป็นผลให้นักลงทุนชั้นเซียนบางท่านได้กำไรในตลาดขาลงครับ