Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

20. นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร 4,000,000 0.78 %

ที่มา ...www.set.or.th

หุ้นดี ที่ราคายังถูกครับ ปันผลงาม อนาคตเติบโตครับ เพราะกำลังขยายสนามบิน และเป็นธุรกิจ ที่ค่อนข้างผูกขาดครับ บริบัทน้ำมันใหญ่ๆเป็นผู้ถือหุ้นครับ

port ดร นิเวศน์ประมาณ 2 พันล้านบาท

ซื้อ BAFS 4 ล้านหุ้น ประมาณ 40 ล้านบาท คิดเป็น % ก็แค่

2% ของ Port

ซื้อขำๆ ด้วยอาการมีเงินสดแล้วมือคันมากกว่าครับ (จำคำพูดได้ จากงานสัมมนาแห่งหนึ่ง)

ตั้งแต่กี่บาทละคร้าบบบ

ทุนของเราไม่เท่ากัน

ผมเห็นหลายๆตัวที่ ดร.ถือส่วนใหญ่ มั่นคง ปันผล 4-5%

ไม่ต้องหวือหวาถึง 7-10 % เน้นชัว

VI Effect จริงๆ อย่างน้อยก็ทำให้คนหันมามองหุ้นตัวนี้มากขึ้น

คิดเล่นๆ ถ้าผมเป็นเจ้าของ บริษัท อยากจะกระตุ้นราคาหุ้นนี่ ให้หุ้นดร.แก 0.5% จนติดในรายชื่อ
ก็เป็นที่จับตาได้แล้ว ปล คิดเล่นๆนะครับ

มิน่าตอนออก money talk ที่ MD คุณศุภดิษฐ์มา ดร.นิเวศน์ แกถามละเอียดถึงขั้นเรื่องค่าเสื่อม
ต้องรู้ให้จริง ให้ลึก

ต้นทุนประมาณ 9 บาท เก็งจากที่แกบอกตอนงานสัมนา ถ้าแกซื้อตอนนั้น หรือแกซื้อตอน 6 บาท แล้วมาบอกว่าซื้อแล้ว ตอน 9 บาท สรุปว่าไม่รู้เท่าไหร่แน่ แต่แน่ ๆ ไม่เกิน 9 บาท

ขอตอบในฐานะที่ถือหุ้นอยู่ด้วยนะครับ

สำหรับผมเแค่รู้สึกดี... แค่นั้นล่ะมั่ง อีกอย่างก็เป็นแค่สัดส่วนเพียงเล็กน้อยของพอร์ตดร.เท่านั้นเองครับ

สรุปคือไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญอะไรสำหรับผมในการจะที่จะซื้อหรือขายหุ้นตัวนี้เลยอ่ะครับ

l'lyp=hkd;jk สงสัยจะช้ากว่าอาจารย์ ไปสามสี่ก้าว แล้วครับ

ก่อนซื้อหุ้น ก็ทำการบ้านด้วยตัวเองบ้างนะครับ เดี๋ยวเกิดซื้อราคาแพงแล้วจะ มาแล้วดอยจะได้ไม่เป็นมานั่งบนแบบjas
กันอีก...

26 Aug 2010: ยังไม่มีชื่อ ดร นิเวศน์ นะครับ

ดังนั้น ดร นิเวศน์ คงซื้อช่วง 27 Aug 2010 - 25 Mar 2011: ซึ่งอยู่ในช่วงราคา 9.20 - 11 บาท

ปัจจุบัน 6 May 2011 ราคาปิด 10.80 บาท

ผลประกอบการ 2007-2010 ค่อนข้างสม่ำเสมอ: 2000-2200 ล้านบาท
กำไร 2007-2010 ค่อนข้างสม่ำเสมอ: 430-520 ล้านบาท
ROA 2007-2010 ค่อนข้างสม่ำเสมอ: 11-13%
ROA 2007 = 21% / 2008-2010 ค่อนข้างสม่ำเสมอ: 15-16%

ผมมือใหม่มากนะครับ จากข้อมูลคร่าว ๆ ผมคงสรุปว่า เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอประมาณปีล่ะ 5% (ณ ราคาปัจจุบัน) แต่ว่าดูยอดขายและกำไร ก็ไม่ค่อยจะ Growth เท่าไหร่นะครับ .. แต่ไม่รู้เหมือนกันว่า อนาคต 3-5 ปีข้างหน้า ว่า ดร นิเวศน์ .. มองเห็นอะไรนะครับ (ซึ่งผมไม่ความสามารถที่จะมองเห็นในตอนนี้)

ปล. โดนส่วนตัวผมไม่คิดว่า ดร นิเวศน์ ลงเงิน 40 ล้านบาท เป็นการคันมือเท่าไหร่นะครับ เพราะส่วนใหญ่ราคาต้นทุน ที่ ดร นิเวศน์ ลงแต่ล่ะตัวใน port ก็ประมาณนี้ล่ะ 40-100 ล้าน

halfofw เขียน:26 Aug 2010: ยังไม่มีชื่อ ดร นิเวศน์ นะครับ

ดังนั้น ดร นิเวศน์ คงซื้อช่วง 27 Aug 2010 - 25 Mar 2011: ซึ่งอยู่ในช่วงราคา 9.20 - 11 บาท

ปัจจุบัน 6 May 2011 ราคาปิด 10.80 บาท

ผลประกอบการ 2007-2010 ค่อนข้างสม่ำเสมอ: 2000-2200 ล้านบาท
กำไร 2007-2010 ค่อนข้างสม่ำเสมอ: 430-520 ล้านบาท
ROA 2007-2010 ค่อนข้างสม่ำเสมอ: 11-13%
ROA 2007 = 21% / 2008-2010 ค่อนข้างสม่ำเสมอ: 15-16%

ผมมือใหม่มากนะครับ จากข้อมูลคร่าว ๆ ผมคงสรุปว่า เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอประมาณปีล่ะ 5% (ณ ราคาปัจจุบัน) แต่ว่าดูยอดขายและกำไร ก็ไม่ค่อยจะ Growth เท่าไหร่นะครับ .. แต่ไม่รู้เหมือนกันว่า อนาคต 3-5 ปีข้างหน้า ว่า ดร นิเวศน์ .. มองเห็นอะไรนะครับ (ซึ่งผมไม่ความสามารถที่จะมองเห็นในตอนนี้)

ปล. โดนส่วนตัวผมไม่คิดว่า ดร นิเวศน์ ลงเงิน 40 ล้านบาท เป็นการคันมือเท่าไหร่นะครับ เพราะส่วนใหญ่ราคาต้นทุน ที่ ดร นิเวศน์ ลงแต่ล่ะตัวใน port ก็ประมาณนี้ล่ะ 40-100 ล้าน

ผมถือตัวนี้ ผมไม่ได้ต้องการ return แค่ 5% ต่อปีอ่ะ ^_^
ปี 2008-2010 บริษัทได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบิน เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ มาโดยตลอดครับ ทำให้ ROA ดูต่ำลงมามากเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายด้าน fix cost สูง (รายได้ลด กำไรลดมากกว่า) ส่วนข้อมูลอื่นๆ ศึกษาได้จากในห้องร้อยคนร้อยหุ้นดูครับ

เป็นหุ้นตัวนึงที่ผมชอบธุรกิจเค้ามาก(เคยดูงบกับอ่านมาคร่าวๆมาเค้าทำอะไรเมื่อปีที่แล้ว) แต่ยังไม่ได้ศึกษาเพราะช่วงนี้ไปศึกษากลุ่มอื่นก่อนเพราะวางแผนโหลด56-1มาศึกษาทีละกลุ่ม แต่พึ่งมารู้วันนี้ว่าอาจารย์สอยไปแล้ว เซ็งคร้าบบบบบ กลัวVI effect ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะมีใครมาสนบริษัทนี้

ปล.การที่อาจารย์แกซื้อไม่ได้หมายความว่าหุ้นตัวนั้นจะสุดยอดหรือเป็นsuper stockอะไรนะครับ แต่ผมแค่เซ็งที่ตัวเองนั้นไม่ได้อ่านศึกษาตัวนี้ก่อนที่แกจะซื้อ กลัวVI effectอย่างเดียว แต่ผมเคยศึกษาหุ้นที่อาจารย์แกซื้อนะครับ ลองไปโหลด56-1มาอ่าน เป็นหุ้นบัตรเครดิตตัวนึง คืออยากรู้ว่าอาจารย์แกซื้อเพราะอะไร แกผมศึกษาแล้วยังไม่เห็นเหตุผลที่จะซื้อ หรือว่าผมยังไม่ถึงชั้นอาจารย์ก้อไม่รู้ : )

harikung เขียน:เป็นหุ้นตัวนึงที่ผมชอบธุรกิจเค้ามาก(เคยดูงบกับอ่านมาคร่าวๆมาเค้าทำอะไรเมื่อปีที่แล้ว) แต่ยังไม่ได้ศึกษาเพราะช่วงนี้ไปศึกษากลุ่มอื่นก่อนเพราะวางแผนโหลด56-1มาศึกษาทีละกลุ่ม แต่พึ่งมารู้วันนี้ว่าอาจารย์สอยไปแล้ว เซ็งคร้าบบบบบ กลัวVI effect ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะมีใครมาสนบริษัทนี้

ปล.การที่อาจารย์แกซื้อไม่ได้หมายความว่าหุ้นตัวนั้นจะสุดยอดหรือเป็นsuper stockอะไรนะครับ แต่ผมแค่เซ็งที่ตัวเองนั้นไม่ได้อ่านศึกษาตัวนี้ก่อนที่แกจะซื้อ กลัวVI effectอย่างเดียว แต่ผมเคยศึกษาหุ้นที่อาจารย์แกซื้อนะครับ ลองไปโหลด56-1มาอ่าน เป็นหุ้นบัตรเครดิตตัวนึง คืออยากรู้ว่าอาจารย์แกซื้อเพราะอะไร แกผมศึกษาแล้วยังไม่เห็นเหตุผลที่จะซื้อ หรือว่าผมยังไม่ถึงชั้นอาจารย์ก้อไม่รู้ : )

เหมือนผมเลยครับ ... ตัวที่จะตามแกตัวแรก คือ CPALL ตอน 8-10 บาท ไม่เข้าใจเลยไม่ซื้อแล้วเป็นไงละ...สามปีที่แล้ว ดร บอก Modern trade ตามไม่ทัน sub prime มา modern trade กลับมาแล้ว (ราคาลง ก้อยังไม่ซื้อ ) ตอนนี้เป็นไง..

แกบอกอย่าเล่นกับ ไฟ ก้อเล่น..ไฟแนนท์ อิอิ ขาดทุน 50% เข้าตำราบัฟเฟตต์ เห็นหุ้นขาดทุน 50% แล้วยังนอนหลับ .. อิอิ

ดูเทปมันนี่ทอลคที่คุยกับผูบริหารล่าสุด

Bafs ต้นทุนส่วนใหญ่เปนfixed cost ถ้ายอดเติมน้ำมันเพิ่ม กำไรจะโตกว่ายอดขายเยอะ
แคชโฟลวของbafs ดีมาก ค่าเสื่อมเปนหนึ่งในสามของค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ธุรกิจผูกขาด โตได้ตามการขยายสนามบิน แต่ใช้เงินลงทุนเพิ่มไม่มากนัก เอาแค่ค่าเสื่อมมาลงทุนก็เพียงพอแล้ว
อนาคตbafs อาจมีโอกาสให้บริการในสนามบินเพิ่มขึ้นในบางแห่งที่ปัจจุบันไม่ได้ให้บริการ
สายการบินลุกค้าหลัก(การบินไทยและแอรเอเซีย) มีการเพิ่มจำนวนเครื่องอีกหลายลำ bafs ก็โตตามจำนวนเครื่องบินและเที่ยวบินที่เพิ่ม
แนวโน้มอนาคตคนมีเงินมากขึ้น ก็อยากเดินทางแบบสบายมากขึ้น ก็นั่งเครื่องบินมากขึ้น

ประเด็นดีดีข้างต้นคงเปนเหตุจูงใจให้ ดร bafsจนเปนผู้ถือหุ้นรายใหญ่

ปล ผมมีหุ้นตัวนี้ด้วยครับ

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=47810
บทความนี้ก็น่าอ่านดีนะครับ

ผมเคยมีและขายหมดเพราะผมคิดว่าเขามีความเสี่ยง
เรื่องการสร้างท่อกรณีขยายสนามบิน